“นัส” หย่า “โชค รถแห่” ประกาศคนสวยจะไม่โสดตลอดไป

“นัส จุฑารัตน์” อดีตเมีย “โชค รถแห่” เปิดใจหลังหย่า โดนนอกใจเป็น 10 ครั้ง ให้อภัยตามง้อแต่โชคหนี ตัดสินใจโพสต์ลากไส้จนโชคโมโหขอหย่า ไม่เอาเงินค่าเลี้ยงดู เผยเป็นคนสวยคงไม่โสดตลอดไป

หย่าขาดกันไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับสาว “นัส จุฑารัตน์”กับอดีตสามี “โชค รถแห่” หรือ “โชค โชคมงคล”หลังออกมาโพสต์แฉยับ ว่าถูกนอกใจหลายครั้ง แต่ก็ให้อภัยมาตลอด สัญญาจะปรับปรุงตัวแต่ทำไม่ได้ พอโวยกลับมาแจ้งจับ หาว่าทำชีวิตพัง โดยล่าสุดวันนี้ (1 ต.ค.) มีโอกาสเจอกับสาวนัส เจ้าตัวก็ได้เปิดใจหลังหย่า ว่าจริงๆ รับนิสัยโชคได้หมด แต่เรื่องนอกใจรับนี่ไม่ได้ ตลอดเวลา 2 ปี เช็กโทรศัพท์จับได้เป็น 10 ครั้ง จนครั้งสุดท้ายเช็ก GPS ได้ว่าไปเข้าโรงแรม เลยตามไปเคลียร์ไปง้อ แต่เจอขับรถหนีและปิดโทรศัพท์ เลยตัดสินใจลาขาดโพสต์เดือด ทำฝ่ายชายโมโหไปแจ้งความจับ และกลับบ้านมาชวนหย่าต่อหน้าลูก

“เริ่มจากความระแวงของเราเป็นอันดับแรก เราก็เช็ก GPS เขา แล้วมันไปหยุดอยู่ที่โรงแรม เราก็เลยโทร.ให้น้องที่โคราชไปดูให้ ปรากฎว่าก็อยู่จริงๆ เราก็ขับรถตามไปจากกรุงเทพฯ ระหว่างทางเราก็โทร.หาเขา แต่เขาไม่รับเลย ปิดเครื่องด้วย ก็ผิดสังเกตแล้ว คือปกติเราอยู่ด้วยกันตลอด แต่ช่วงนี้แค่มีปัญหากันนิดหน่อย ก็เลยแยกกันอยู่ก่อนแป๊บหนึ่ง แต่ยังติดต่อกัน แค่คุยกันน้อยลง ก่อนจะเกิดเรื่องเราแยกกันอยู่ได้ประมาณ 4 วันค่ะ "

"ซึ่งกับตัวเขา เราก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้กันเลย เพราะเขาก็เลือกที่จะไม่คุยกับหนูเลย เขาขับรถหนีเลย พอเขารู้ว่าเราให้น้องไปดู ขับเร็วมากจนน้องตามไม่ทัน หนูก็เลยไปรอเขาที่บ้าน เป็นบ้านเขาที่โคราช แล้วก็โทร.หา แต่เขาก็ปิดเครื่อง แต่มันจะมีช่วงจังหวะที่เปิดเครื่อง เราก็โทร.ว่ากลับมานะ กลับมาเริ่มต้นใหม่ เรื่องนั้นไม่เป็นไร ไม่โกรธ เดี๋ยวจะลืมให้ก็ได้ แต่กลับมาเริ่มใหม่กัน กับมาใช้ชีวิตครอบครัวด้วยกัน อะไรที่พ่อชอบเขาจะไม่ห้ามแล้ว เช่นแต่งรถ เดี๋ยวจะให้แต่งแบบเสรีเลย แต่เขาบอกไม่กลับ ยังไงก็ไม่กลับ แต่ที่นั้นเธอจะอยู่ก็ได้นะ 2-3 วันเธออยู่ได้เลย แต่เขาไม่กลับ จะไปเที่ยวเขาค้อกับเพื่อน”

ร้องไห้หนัก รู้สึกเหมือนตัวเองด้อยค่า
“วินาทีนั้นเรารู้สึกด้อยค่าตัวเองมาก ใจหัก ที่เสียใจไปกว่านั้นคือเขาปิดเครื่องเลย ติดต่อไม่ได้เกือบ 2 ชั่วโมง แล้วที่นั่นไม่ใช่บ้านเรา เราแค่อยากให้เขากลับมาคุยกับเราสักนิดหน่อยก็ได้ แต่เขาเลือกที่จะไม่คุยเลย เราก็ร้องไห้ แล้วก็กลับกรุงเทพฯ ถามว่าร้องไห้หนักไหม ถ้าหลังกล้องหนูสะบักสะบอมอยู่แล้ว แต่แค่ไม่เคยมาร้องหน้ากล้อง ไลฟ์ก็ไม่เคยร้องไห้ ทุกคนไม่เคยมีใครได้เห็นหนู แต่ถ้าเป็นคนที่อยู่ด้วยกันจะรู้ตอนนี้น้ำหนักลงเยอะมาก เยอะกว่าตอนที่ไม่เคยมีลูกอีก”

ตั้งสติก่อนโพสต์ ตัดสินใจแบบไม่ใช่อารมณ์
“เรื่องนี้มันค่อนข้างหนัก เพราะเรามีลูกด้วยกันด้วย ถึงแม้เวลา 2 ปีกว่ามันจะไม่ได้เยอะมาก แต่เราผ่านอะไรด้วยกันมาตั้งเยอะ ทำไมเขาถึงไม่เลือกเรา เราแค่เสียใจตรงนี้ ทำไปเขาเลือกความสุขเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้เอง"

"วันนั้นเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เขาไปร้านอาหารที่ติดกับโรงแรม แล้วก็มีผู้หญิงเยอะๆ ซึ่งเราก็ยอมมองข้ามและบอกให้เขากลับมา แต่เขาไม่กลับมา เราก็ขับรถกลับกรุงเทพฯ เลย ตอนกำลังจะถึงบ้านเราก็โพสต์เลย นั่งตั้งสติมาว่าจะไม่โพสต์เพราะอารมณ์ ถ้าโพสต์แล้วต้องตัดสินใจแล้วว่าโอเค ไม่เอาแล้ว ก็คิดหน้าคิดหลังแล้ว เพื่อนก็เตือนว่าคิดดีๆ นะ ดึงสติตลอด แต่เราก็ไม่เป็นไร ตัดสินใจแล้ว ทั้งหมดไม่ใช่อารมณ์ค่ะ มันรู้สึกว่าเขากล้าทำได้ยังไง ในขณะที่เราแยกกันเพื่อทบทวน แต่ไปสร้างเรื่องเพิ่มเข้ามาอีก”

หน้าลูกลอยมา ทำไมต้องพาชีวิตมาเจออะไรแบบนี้ อยู่กับความระแวง เพราะจับได้ทุกครั้งที่เช็กโทรศัพท์
“หน้าลูกลอยมาตั้งแต่หนูขับรถไปแล้วนะ เหยียบ 180 เลยวันนั้น แล้วก็สงสารตัวเองมาก มาทำไมถึงใช้ชีวิตแบบไม่มีความสุขเลย พาชีวิตมาเจอกับอะไร ทำไมเราไม่หาเงิน ใช้ชีวิตให้มีความสุขอยู่กับครอบครัว แต่เพราะเรามีคู่ชีวิตที่ไม่เป็นที่สบายใจ 1 ปีหลังไม่เคยหลับเต็มตื่นเลย ระแวงตลอด เพราะมันมีตลอดจริงๆ เราเช็กโทรศัพท์ ทุกครั้งที่เข้าไปดูโทรศัพท์เขา จะภาวนาว่าขออย่าให้เราเจออะไรนะ แต่ก็เจอทุกครั้ง น้อยครั้งมากที่จะไม่เจอ คือเขาก็คิดว่าเขาลบแล้ว แต่มันก็ไม่หมด หนูมีวิธีดูในแบบของหนู และทุกครั้งหนูจับได้ เขาก็จะแอดวานส์ขึ้นอีกหนึ่งเวล จะเก่งขึ้นเรื่อยๆ ในการปกปิดซุกซ่อน เหมือนเราไปทำให้เขาเก่ง เราก็เลยจับยาก แต่เคสที่ส่งมาบอกเรายังไม่มี”

จับได้เป็น 10 ครั้ง สัญญาจะไม่ทำอีกแต่ก็วนลูป
“ทุกครั้งที่จับได้คือด่าก่อน คุยก่อน ทำแบบนี้เพราะอะไร ทำไมต้องทำแบบนี้ มันมีความสุขจริงๆ เหรอ ทำไมถึงไม่หยุด มีครอบครัว มีลูกแล้วนะ ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ทำงาน ก็แฮปปี้แล้วไม่ใช่เหรอ ซึ่งเขาก็ให้คำสัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้ว จะเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง แล้วก็จะดีขึ้นประมาณ 2 อาทิตย์ 1 เดือน แล้วก็มีอีก วนลูปเป็นรำวงสามช่า เดินหน้า 3 ก้าว ถอยหลัง 2 ก้าว อยู่อย่างนี้ตลอด เจอมาเรื่อยๆ เกือบ 10 ครั้ง แต่เป็น 3 ครั้งใหญ่ กับครั้งเล็กๆ 5-6 ครั้ง”

ไม่โทษผู้หญิง แต่โทษสามีตัวเอง ที่พยายามดึงคนเข้ามา ไม่รู้มีนอกกายไหม แต่มีคุยกระจุกกระจิกตลอด
“ไอ้พวกครั้งเล็กๆ ต้องบอกก่อนว่าเราไม่เคยโทษผู้หญิงคนอื่น คนแรกที่โทษคือสามีของเรา เพราะเขาคือคนที่พยายามจะดึงคนอื่นเข้ามา แล้วเราก็เห็นถึงความพยายามของเขา เหมือนบริหารเสน่ห์ เปิดตัวให้เขารู้ ถ้าเราเป็นผู้หญิงแล้วถูกทำแบบนี้ เราจะรู้ว่าผู้ชายมีใจ ซึ่งเขาจะทำประมาณนี้แหละ คือเราก็ไม่โง่ไง ต่อให้เขาจะพูดว่าไม่ได้คิดอะไร ทักไปเฉยๆ แต่ผู้หญิงเขาไม่ได้คิดแบบนั้น ซึ่งถ้าเราโดนทักแบบนั้น เราก็ไม่ได้คิดแบบนั้นเหมือนกัน”

ไม่รู้มีนอกกายไหม แต่มีคุยกระจุกกระจิกตลอด
“ถามว่าแค่คุยปกติ แต่ไม่มีนอกกายใช่ไหม นัทไม่กล้าพูดเลย เพราะเราอยู่ด้วยกัน 2 ปี มันก็มีวันที่แยกบ้าน ไม่รู้ไปไหนทำอะไรในช่วงเวลาที่เราทะเลาะกันแล้วปิดเครื่อง คือไม่รู้เลยในบางส่วนนะ แต่ช่วงเวลาที่เขาอยู่กับเรา เขาอาจจะไม่ได้ไปทำอะไรจริงๆ แต่แอบกระจุกกระจิกมีเรื่อยๆ ก็ยังพอปล่อยผ่านได้ แต่อันไหนเห็นถึงเจตนาที่ไม่ดีมากๆ ก็จะรู้สึกว่าอันนี้ไม่ใช่แล้ว นัสไม่อยากทำให้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ครั้งนี้นัสถึงตัดสินใจ ถ้าทนอีกครั้งก็ต้องมีอีกไม่มีทางจบ”

ทุ่มเทให้มากที่สุดตั้งแต่มีแฟนมา แต่ได้รับการตอบแทนแบบนี้
“เราไม่คิดจะปลง เพราะเราก็คิดว่าเราสวยนะ ทำไมเราต้องมาทนกับอะไรแบบนี้ด้วย เราก็หาเงินเองได้ ถ้าเราสมมติว่าเราทำอะไรยังไม่ดี มันจะเป็นอีกแบบหนึ่ง แต่นี่เราทำทุกอย่างดีที่สุด ดูแลเขาอย่างดี อาจจะมีทะเลาะ บ่น แต่ก็บ่นเพราะอยากให้เขาเป็นคนที่ดีขึ้น แต่ว่าในความรู้สึกที่หนูทุ่มเทกับเขา มันดีมากตั้งแต่มีแฟนมา เขาได้รับเยอะที่สุดเลย แล้วทำไมเขาถึงทำแบบนี้กับเรา อันนี้คือสิ่งที่เสียใจ มันไม่ควรค่าแก่การได้รับการตอบรับแบบนี้”

เผย “โชค” ไปแจ้งความ ในวันที่กลับจากเขาค้อ โมโหบอกว่าทำให้ชีวิตพัง และชวนไปหย่า
“เช้าวันที่เขามา น่าจะไปแจ้งความก่อน แล้วค่อยขับรถมากรุงเทพฯ ตอนนั้นประมาณบ่ายโมง นัสกำลังจะพาลูกไปฉีดวัคซีน เขาขับรถมาจอดหน้าบ้าน แล้วก็ลงมาด้วยสีหน้าฉุนเฉียว ตึงเครียดเลย ก็คิดว่าจะมาสับแน่ๆ ที่เรารู้ว่าเขาไปแจ้งความ เพราะเฟซบุ๊ก มีคนบอก เหมือนเขาโพสต์แล้วทัวร์ลงเขา เขาเลยลบโพสต์ไป เราก็เลยโพสต์ให้"

"จริงๆ ถ้าเขาคุยกับหนูต้้งแต่คืนนั้น มันอาจจะจบ วันนั้นพอเขาจอดรถ ก็เข้ามาถามว่าสะใจแล้วใช่ไหม ชีวิตเขาพังแล้วนะ แล้วเขาก็ชวนหนูไปหย่าเลย เหมือนว่าเราเป็นคนทำให้ชีวิตเขาพัง เพราะโพสต์นั้น แต่ในความรู้สึกนัส มันคือสิ่งที่คุณทำให้เราเสียใจ จังหวะนั้นที่เราโพสต์ไป เราไม่สนใจอะไรแล้ว เลิกก็คือเลิก หย่าก็คือหย่า เพราะเขาไม่ได้เซฟความรู้สึกเราแม้แต่นิดเดียว อย่างที่คนรักกันมันควรจะเป็น เหมือนเป็นคนอื่นไปเลยสิ่งที่เขาพูดอะ”

ไม่ได้เสียใจที่โดนขอหย่า แต่เสียใจที่มาเสียงดังต่อหน้าลูก
“หนูเสียใจที่เขามาพูดต่อหน้าลูก มาเสียงดังต่อหน้าลูก ตอนที่หนูกำลังอุ้มลูกอยู่มากกว่า มีอะไรค่อยมาคุยส่วนตัวทีหลังก็ได้ ต้องรู้ว่ามันสมควรไหม แต่สุดท้ายเขาก็บอกว่าไม่น่าพูดคำนั้นเลย เขาเสียใจที่ เขาขอเราหย่า เขาไม่คิดว่านัสจะไปหย่าจริงๆ เพราะหนูง้อเขาตลอด (เขาให้สัมภาษณ์ไม่เหมือนกับที่เราพูดเลย?) ก็ต้องคุยกันต่อหน้าเลย ว่าความจริงคืออะไร นัสง้อเขาแล้ว แต่วันนั้นเขาน่าจะโมโหนัสเพราะเรื่องโพสต์นั้นแหละ ส่วนเขาถอนแจ้งความไหม ไม่ทราบตรงนั้นเลย ไม่ได้ตามข่าวเลย”

ไปหย่าแบบไม่คุย ไม่มองหน้า และขอให้ยกบ้านให้ลูกตามข้อตกลง
“ตอนไปหย่านัสไม่คุยกับเขาเลย ไม่มองหน้าเขาด้วย หนูก็เซ็นเอกสาร เรื่องข้อตกลงคือเขายอมยกบ้านหลังนี้ให้ ยกให้ด้วยความไม่เต็มใจ เพราะเราเคยเซ็นกันหลังจากจดทะเบียนสมรส ว่าถ้าใครนอกใจจะต้องยกให้เป็นของอีกฝ่ายโดนชอบธรรม แล้วอีกอย่างบ้านหลังนี้ไม่ใช่แค่เงินเราสองคน เป็นเงินแม่หนูอีกล้านกว่าบาท และเงินส่วนตัวหนูด้วย เป็นเงินของเราประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ อีก 40 เปอร์เซ็นต์คือเงินหนูและเงินแม่หนู เลยบอกว่าขอบ้านหลังจากนี้ไว้ให้ลูกแล้วกัน แต่เขาก็ได้ไปเยอะมาก หลายอย่างมาก ทั้งเงินขายที่แม่เขา นาฬิกา ของแบรนด์เนม มอไซค์อีก เขาไม่ได้ไปตัวเปล่าค่ะ ถ้าเขาเก็บเงินจะเหลือเงินเยอะ แต่เขาไม่ได้เก็บเลย เขาทำรถหมด”

รับตอนนี้ยังเสียใจ แต่ยังรักไม่ขอไม่ตอบ โกรธ และผิดหวังกับสิ่งที่ “โชค” ทำมาก
“เสียใจอยู่แล้ว อยู่ด้วยกันทุกวัน แล้วอยู่ๆ ก็ห่างกันไปเลย แต่ถามว่ายังรักเขาอยู่ไหม อันนี้ไม่ตอบดีกว่า มันไม่รู้ว่าต้องรู้สึกยังไงดี มันเจ็บกับสิ่งที่เขาทำ โกรธ เสียใจ และผิดหวัง รู้สึกว่าเลือกผิดก็แค่เลือกใหม่ แต่พอเลือกใหม่ก็เลือกผิดอีก เพราะ 33 แล้ว ไม่ได้อยากเริ่มต้นใหม่กับใครบ่อยๆ อยู่แล้ว กับเขาเราปรับจูนกันมาเยอะมากแล้ว จนเหนื่อยแล้ว อีกอย่างเรานิสัยเหมือนกัน พออยู่ด้วยกันมันก็เกิดการต่อต้าน กูก็เก่ง มึงก็เก่ง มันจะเป็นฟีลประมาณนี้”

ภูมิหลังมีตังค์อยู่แล้ว ไม่ได้มาเกาะ ถ้ากลับไปดีกันจะโกนหัว
“นัสมีทุกอย่างอยู่แล้วค่ะ บ้านหลังนั้นนัสซื้อเอง รถ 3 คันก็ของนัสหมด รถอัลพาร์ดนัทมีมาก่อนคบเขา แต่คนจะมองว่าเป็นรถโชค ทรัพย์สินที่มีร่วมกันคือบ้านหลังนี้อย่างเดียว เขามีนิสัยเจ้าชู้มาก แต่นัสคิดว่าจะหยุดเขาได้ แต่ตอนนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้"

"ตอนหย่าคิดว่าเป็นอารมณ์ช่วงวูบทั้งสองคน แต่พอเซ็นไปแล้วทุกอย่างมันต้องจบ เพราะคนรู้ทั่วประเทศ แล้วอีกอย่างหนูพูดไปแล้วด้วย ว่าถ้าคืนดีกันโกนหัว เพื่อนก็รอโกนอยู่ (หัวเราะ) แต่ไม่คืนดีค่ะ แค่ทำหน้าที่พ่อกับแม่ แต่หลังหย่าก็ยังไม่ได้คุยเป็นกิจลักษณะ เพราะนัสยังไม่พร้อม ก็ขอเหลือแค่หน้าที่พ่อกับแม่ ซึ่งเขาก็ถาม ก็คิดถึงลูก ให้ถ่ายรูปลูกส่งให้หน่อย ถามว่าเป็นการหาเรื่องคุยหรือเปล่า ก็ไม่ทราบเหมือนกัน เขาอาจจะคิดถึงลูกจริงๆ ก็ได้ (หัวเราะ)”

ยินดีกับ “โชค” มีค่ายใหม่แล้ว ส่วนตัวเองมีคนมาจีบเยอะมาก แต่ขอโฟกัสที่งานกับลูกก่อน
“ยินดีกับเขาค่ะ ก็ขอให้เขาใช้ชีวิตอย่างมีสติแล้วกัน นัสก็เดินหน้าต่อ แต่งงมาก มีคนมาจีบ มาขอเลี้ยงลูกเยอะเลย เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ บอกว่าขอเป็นเมียได้ไหม เสียดาย เราก็บอกอะไรเนี่ย หนูยังไม่พร้อมคุยอะไรตอนนี้ค่ะ แล้วก็วางสายแบบเสียมารยาทสุดสุดๆ เลย"

"แล้วที่โพสต์คือไม่ได้คิดจะอวดอะไรเลย ว่าเลิกกันฉันก็มีคนเข้ามา แค่โพสต์เฉยๆ ว่าอย่าเพิ่งจีบนะ กูยังไม่พร้อม อินบ๊อกซ์สนั่นมาก แต่นัสก็ไม่อ่านเลย เห็นแล้วผ่านอย่างเดียว ขอทำงานโฟกัสลูก และขออยู่กับเพื่อนหน่อย เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา ทุ่มเทกับงานกับครอบครัวเกินไป คอมเมนต์ตอนนี้ก็มีควบคู่กันไป คนสมน้ำหน้านัสก็เยอะนะ แต่คนให้กำลังใจก็เยอะมาก”

พิสูจน์ตัวเองตลอด หลังคนพูดว่า “โชค” จะพังเพราะเมีย ตอนนี้ไม่เอาค่าเลี้ยงดูลูกสักบาท ให้เก็บไว้รับผิดชอบตัวเอง
“จริงๆ ตรงนี้นัสพิสูจน์ตัวเองตลอดเลยนะ ว่าตั้งแต่เขามีนัส ชีวิตเขาดีขึ้นแค่ไหน ซึ่งตัวเขาเองก็บอกว่าชีวิตเขาตอนนี้ดีที่สุดแล้ว ถ้าไม่มีนัส เขาไม่มีทางเก็บเงินได้เยอะขนาดนี้ จริงๆ แล้วบ้านหลังนี้จะเป็นบ้านของเราทั้งสองคนไปตลอดชีวิตเลย ถ้าเราไม่เลิกกัน แต่ ณ วันนี้เราแยกกันไปซะก่อน มันก็ควรจะเป็นของลูกถูกแล้ว"

"อีกอย่างเขาไม่ต้องมารับภาระเรื่องของลูกเลยสักบาทเดียว นัสเชื่อว่านัสสามารถดูแลลูกตัวเองได้ แล้วก็ไม่อยากให้มาพูดว่าทำไมเข้าโรงเรียนแพงจัง ทำไมหาหมอแพงจัง ทำไมต้องดีขนาดนี้ คือถ้ามันเป็นของนัสเอง นัสสามารถจ่ายได้เต็มที่เลย นัสอยากให้ลูกเข้ารร.ดี ใช้แพง มันคือเรื่องของนัส แต่ถ้าไปเบิกเขา รู้เลยว่าจะได้ยินคำพูดพวกนี้ แล้วก็คิดว่าให้เขาหาเงินใช้แค่ตัวเขาเองก็พอ รับผิดชอบตัวเองก็พอ ไม่ต้องมารับผิดชอบในส่วนของนัสกับลูก”

นิสัยอื่นรับได้หมด แต่เรื่องนอกใจไม่ได้จริงๆ
“ต้องบอกว่าเรื่องอื่นเรารับได้หมดเลยค่ะ จะดื้อ จะไม่ฟัง เราสามารถคุยกัน ยืดหยุ่นกันภายในครอบครัวได้ แต่ความนอกใจมันเป็นอะไรที่รับไม่ได้ แล้วนัสรู้สึกว่าเราไม่มีความจำเป็นต้องทน นัสมีศักดิ์ศรี เวลาโดนทำอะไรแบบนี้ นัสรู้สึกว่าทำไมไม่ให้เกียรติกูเลยวะ ทำไมถึงให้คนอื่นดูกูโง่จังเลย คนเห็นเขากับผู้หญิงคนอื่น เขาก็ต้องคิดแล้ว ว่าแล้วเมียมันล่ะ คนที่น่าอายก็คือนัสถูกไหม แต่ถ้าวันหนึ่งเราใจอ่อนกลับไปคืนดี ถ้าสมมติเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ต้องรับผลที่ตามมา แต่ ณ วันนี้ไม่ใจอ่อน มันค่อนข้างแย่ค่ะ”

ชีวิตหลังจากนี้ยังไม่คิดไกล แต่จะหาเงินให้เยอะที่สุดเพื่อดูแลลูกให้ดี ไม่กีดกันพ่อลูก มาเจอได้
“ไม่ได้คิดไกลมากค่ะ ขายของทุกวัน ลูกก็โตขึ้นทุกวัน ยังไงก็ต้องหาเงินให้เยอะที่สุดแหละ เพราะว่าเด็กคนหนึ่งก็ต้องดูแลเขาให้ดี เขามาด้วยความรัก นัสก็จะดูแลเขาให้ดีที่สุด อยู่กับลูกก็มองหน้าลูก นี่แหละคือพลัง ถามว่าท้อไหม ที่อยู่ในบ้านที่มีความทรงจำ ที่เคยอยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูกครบ นัสรู้สึกท้อกับความรู้สึกตัวเองมากกว่า ที่ต้องต่อสู้ให้มันไปต่อให้ได้ มันมีความทรงจำที่เราอยู่ด้วยกันทุกวัน แต่นัสต้องไปต่อ มันไม่มีช้อยส์ ถ้าวันหนึ่งลูกถาม เราก็จะตอบความเป็นจริงเลยค่ะ ไม่โกหกลูกอยู่แล้ว ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพ่อแม่ ลูกมีพ่อแม่ครบสมบูรณ์นะ แค่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ถ้าพ่อลูกเขาอยากเจอกันเราก็ไม่กีดกันค่ะ เพราะยังไงเขาก็เป็นพ่อ ตอนแรกไม่อยากให้เจอเลยแหละ แต่คิดเขาเป็นพ่อ เขามีสิทธิ์จะเจอลูกได้”

เข็ดความรัก แต่คงไม่โสดไปตลอดเพราะเป็นคนสวย
“เข็ดค่ะ เข็ดเลย แต่ก็คงไม่โสดไปตลอดหรอก ก็สวยอะเนาะ (ยิ้ม) แต่ตอนนี้ยังเข็ดอยู่ ก็ยังใช้ชีวิตกับเพื่อน ทำงาน อยู่กับลูกก่อน”

ดีใจกับ “โชค” ที่กำลังมีอนาคตใหม่ อยากฝากให้ใช้ให้มีสติ ถ้าผิดซ้ำๆ โอกาสดีอาจจะไม่ได้มีบ่อยๆ
“อันดับแรกคือดีใจด้วย ที่กำลังจะมีอนาคตที่ดี สองคือใช้ชีวิตให้มีสติหน่อย เพราะว่าการที่ผิดแล้วไม่แก้ไข แล้วก็ผิดซ้ำๆ พอมันหลายๆ ครั้งเข้า อาจจะไม่ได้รับโอกาสที่ดีบ่อยๆ อยากให้เขามีสติมากกว่านี่แค่น้้นเองค่ะ ถามว่าให้ 3 คำกับเขาได้ไหม ก็ไม่กล้าพูดเลยอะ กลัวเดี๋ยวเป็นไวรัลเอาไปเม้าธ์อีก ต้องโดนแน่เลยถ้าพูดไป ไม่พูดดีกว่า (หัวเราะ)”