xs
xsm
sm
md
lg

“หนิง” น้ำตาคลอ “จิน” ขอให้เซ็นหย่า โกรธฝ่ายชายผิดข้อตกลง (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“หนิง” น้ำตาคลอ "จิน" ขอให้เซ็นใบหย่า กระดาษแผ่นเดียว แลกกับกระดาษอีกแผ่น เพื่อลูก ทำดีที่สุดแล้วปล่อย ฝ่ายชายให้เป็นอิสระ เตรียมย้ายออกจากบ้านจิน เดินหน้าฟ้องบุคคลที่ 3 ต่อ เพราะชีวิตพังทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด



หลังจากที่ “จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ”อดีตสามี “หนิง ปณิตา” ได้ออกรายการทางช่องยูทิวบ์ของพี่ชายคนสนิทอย่าง “เป๊ก สัณณ์ชัย เองตระกูล” แล้วเผยถึงอดีตภรรยาว่า รู้สึกผิด เลิกกันแล้วก็ไม่ควรมีคนอื่น ก็ทำเอาหนิงต้องออกมาโพสต์ฟาดทันทีว่า คำว่าเลิกแล้วไม่ควรมีคนอื่น ใช้คำนี้ผิดหรือเปล่า พร้อมขอให้ทำตามสัญญาที่รับปากไว้เพื่อลูก ก่อนจะไปเผยในรายการแฉว่า ได้ตกลงเซ็นใบหย่าไปเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดวันนี้ (24 ก.ย.) ได้เจอหนิง ในงานเปิดตัว ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร OZY DTX คลอโรฟิลล์ พลัส เจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยถึงสภาพจิตใจตอนนี้ ด้วยอาการเสียงสั่นน้ำตาคลอ โอดชีวิตพังทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด

“สภาพจิตใจตอนนี้ก็ดีนะคะ อย่างที่เห็นทำงานทุกวัน พยายามตั้งสติ ทำทุกอย่างให้ดีในทุกๆ วัน แล้วก็เชื่อว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ถามว่าเราทำโปรเจ็กต์เยอะมาก มีอะไรมากวนใจไหม จริงๆ มันก็คงเป็นความรู้สึกของหนิงเองแหละ แล้วมันก็เป็นสิ่งที่ยังไงมันก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเจอค่ะ”

ชัดเจนว่าหย่ากันแล้ว ตกลงว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีก
“ใช่ค่ะ ตามนั้น (เป็นข้อตกลงว่าจะไม่พูดเรื่องนี้กัน?) จริงๆ ตามที่หนิงสัมภาษณ์ไปว่า..(นิ่ง) หนิงขอนุญาตใช้คำนี้ดีกว่า หนิงว่ามันน่าจะ…มันเป็นข้อตกลงกันนั่นแหละ เรียกได้ว่ากระดาษแผ่นหนึ่ง แลกกับกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง เพื่อให้จินเป็นอิสระ”

วันที่เห็น “จิน” พูดในรายการ มีหลายล้านความรู้สึกในใจ ไม่คิดว่าจะพูดทั้งที่ตกลงกันแล้ว
“ณ วันนั้นมันก็คือหลายล้านความรู้สึกที่มันอยู่ในใจ จะปฏิเสธว่าไม่โกรธก็คงไม่ใช่ มันเยอะแยะมากมายที่หลายๆ คำถามจากคนที่รักและเป็นห่วงเรา ถามเข้ามาเยอะแยะมากมาย มันก็หลายๆ สิ่งที่อยู่ในใจแล้วก็อยากจะอธิบาย อยากจะพูดไปแต่มันก็ไม่มีความจำเป็น มันเป็นความรู้สึกที่จะว่าแย่มันก็คงเป็นแบบนั้น (คิดไหมว่าเขาหลุดพูดออกมาทั้งๆ ที่ตกลงกันแล้ว?) ไม่ได้คิดค่ะ”

“จิน” เป็นฝ่ายขอให้เซ็นใบหย่า ยื้อแล้วแต่ไม่สำเร็จ ก็ต้องปล่อย
“ก็อย่างที่หนิงบอกไป ด้วยปัญหาทั้งหมดทุกครั้งที่หนิงเจอสื่อ หนิงก็จะขอเวลาทุกคนว่าหนิงยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดให้ใคร หนิงขออนุญาตใช้เวลาในการเคลียร์หลังบ้านก่อน หนิงจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด แต่มันก็ไม่ได้ จนมันยื้อกันจนถึงที่สุดแล้ว เมื่อมันไม่ได้ก็ต้องปล่อย (เขาขอให้ไปเซ็นใบหย่า?) ใช่ค่ะ ณ วันนั้นหนิงคิดแค่ว่าในมุมของคนที่เป็นแม่ การปล่อยให้จินมีอิสระน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวหนิงแล้วก็ลูก (ตอนที่เขามาบอกเรื่องนั้น?) อย่างที่บอกว่าพยายามยื้อ แต่ยื้อแล้วไม่สำเร็จก็ต้องปล่อย”

กังวลเรื่องลูกเป็นหลัก
“ก็ค่อนข้างประมาณหนึ่งค่ะ แต่เราก็เรียนรู้จากประสบการณ์หลายๆ อย่าง พอเวลามีปัญหาหลายๆ อย่างเกิดขึ้น เราก็จะพยายามสอนลูกเราว่าทุกๆ ปัญหาไม่ใช่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ แล้วเราก็พยายามทำปัญหาตรงนี้ที่มันดูเป็นปัญหาใหญ่มาก ให้มันกลายเป็นเรื่องเล็กๆ เราสร้างความสุขในทุกๆ วันให้ลูก แล้วให้มองว่าทุกๆ ปัญหาที่ผ่านมาเข้ามามันเป็นเรื่องเล็ก แล้วเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป เพราะทุกคนก็เจอเหมือนกัน เราโชคดีที่เจอหลายปัญหาก่อนคนอื่น แปลว่าโตขึ้นไปเราก็จะแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าคนอื่น ก็จะสอนลูกแบบนี้”

ข้อตกลงนอกเหนือจากนี้ ขอเป็นเรื่องภายในครอบค รัว แต่ย้ำขอให้ “จิน” ทำตามข้อเสนอ
“จริงๆ ในส่วนตรงนั้น ขออนุญาตให้เป็นเรื่องภายในนะคะว่ามันคืออะไร แต่อย่างที่หนิงบอกว่า ก็ย้ำคำเดิมคือกระดาษใบหนึ่งหนิงก็มอบให้ แลกกับกระดาษใบหนึ่งที่เป็นข้อเสนอของทางจินเอง ก็ขอว่าให้ทำตามกระดาษใบนั้น ที่เป็นข้อเสนอของทางจินเอง ที่หนิงพูดแล้วว่าตัวหนิงเองไม่เคยเรียกร้องอะไร”

เป็นข้อตกลงที่ดีที่สุดสำหรับ “น้องณิริน” ไม่ใช่ตัวเอง ลูกมีความสุขตัวเองก็มีความสุข
“ในเรื่องขอข้อตกลงหนิงขออนุญาตจริงๆ ว่า ขอให้มันเป็นเรื่องภายในครอบครัวหนิงเนอะ เอาจริงๆ วันนี้พี่ๆ ถามหนิง ทุกคนมีคำถาม หนิงเชื่อว่าคนที่ดูก็มีคำถาม หนิงก็อยากจะบอกให้หมดไป แต่สิ่งที่หนิงไม่พูดนี่คือสิ่งที่หนิงทำดีที่สุดแล้ว เพราะอย่างที่บอกค่ะว่าข้อตกลงนั้นก็คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับณิริน ไม่มีอะไรสำหรับหนิงเลย ณ วันนี้ เรียกร้องทุกอย่างก็เพื่อลูกเท่านั้น และยอมที่จะเซ็นกระดาษใบนั้นให้ ก็เพื่อให้ลูกได้ใช้ชีวิตที่มีความสุข แล้วตัวหนิงเองก็จะได้ใช้ชีวิตที่มูฟออนต่อไปให้มีความสุข หนิงมีความสุขลูกหนิงก็จะมีความสุข”

ข้อตกลงที่ยอมรับไม่ได้ก็มี แต่ก็ยอมไปเพื่อให้มันจบแบบไม่คาราคาซัง
“บางครั้งการที่เรายอมรับอะไรไม่ได้ ถ้าเรายอมเพื่อให้มันจบ มันก็เป็นเรื่องราวที่จะได้รีบๆ จบ ไม่คาราคาซัง แล้วหนิงจะได้เดินหน้าต่อไป ซึ่งจริงๆ มันจบไปแล้วไง นึกออกไหม จบไปหลายเดือนแล้ว หนิงพยายามคอนโทรลสื่อ คอนโทรลทุกอย่างให้มันจบไปสวยๆ แล้ว หนิงไม่คิดว่าเรื่องมันจะกลับมาอีกจากการที่ไม่ทำตามข้อตกลงแค่นั้นเอง ซึ่งหนิงก็อึดอัดใจมากๆ จริงๆ ที่ผ่านมาหนิงก็ขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่บางวันงานอีเวนต์ทุกคนไปตั้งกล้องรอแล้วหนิงก็หนี ทุกคนไม่ได้ข่าว โทร.มาก็ไม่ได้รับ แต่หนิงก็พยายามอธิบายให้ทุกคนฟัง ทุกคนก็เข้าใจ และเข้าใจว่า วันนี้ที่ทุกคนมาที่นี่เพราะข่าวมันเกิดขึ้นมาแล้ว แล้วหนิงก็จำเป็นที่จะต้องตอบ”

ข้อตกลงในการหย่า เป็นข้อตกลงตามกฎหมาย
“อันนั้นเป็นพวกข้อตกลงต่างๆ ในการจดทะเบียนหย่ามันเป็นข้อตกลงตามกฎหมายแล้วค่ะ”

การหย่าครั้งนี้เรียกว่าออกมาตัวเปล่า
“ก็อย่างที่บอกค่ะ ทุกสิ่งทำให้ดีที่สุดสำหรับลูก ตัวหนิงเองวันนี้หนิงก็เดินหน้าทำงาน ทำธุรกิจพยายามสร้างความมั่นคงให้ตัวเอง พยายามทำทุกอย่างที่ทำได้ ชีวิตคนเรามันมีขึ้นก็มีลง เดี๋ยวมันก็ดีเอง”

วันนี้ไม่เป็นไปตามข้อตกลง ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะต้องทำยังไงต่อ
“ยังคิดไม่ออกเลยค่ะ ยังไม่ได้คิดอะไรไปถึงตรงนั้นค่ะ”

มีแพลนจะออกจากบ้านในอนาคต พร้อมทำในสิ่งที่รับปากไว้
"มันคงเป็นแพลนอนาคตค่ะ แต่ว่าอันนี้หนิงขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดละกันค่ะ เพราะหนิงรับปากอะไรไว้ คนอย่างหนิงถ้าพูดว่าหนิงจะทำ หนิงก็จะทำ อะไรถ้าหนิงทำไม่ได้หนิงจะไม่พูดออกมาจากปากหนิงเลย ฉะนั้นหนิงอยากจะตอบพี่ๆ ทุกคนให้มันเคลียร์ไปเลย แต่ว่ามันคือสิ่งที่หนิงรับปากไปแล้ว มันไม่ได้หมายความว่าอีกคนหนึ่งไม่ทำตามข้อตกลงแล้ว หนิงก็จะไม่ทำตามข้อตกลงด้วย ถ้ามันเป็นแบบนั้นเรื่องราวมันก็จะบานปลายและไม่จบค่ะ"

หลัง “จิน” ไปออกรายการ ก็ยังไม่ได้คุยกันเลย ส่วนตัวรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะไป เพราะได้รับการติดต่อมาเหมือนกัน
“ไม่ได้คุยค่ะ (ตอนเขาไปอัดรายการเราไม่รู้?) ทราบค่ะ จริงๆ โดยตัวหนิงเองก็พอจะทราบคร่าวๆ ว่าเทปนี้ คือจริงๆ แล้วติดต่อหนิงแล้วอย่างที่หนิงบอก อะไรถ้ามันเป็นคอนเทนต์เรื่องพวกนี้ ทุกคนจะรู้ดีว่าหนิงจะไม่รับเลย ขนาดหนิงไม่รับไม่สัมภาษณ์เลย หนิงแทบจะหนีด้วยความเกรงใจทุกคนมากๆ หนิงยังโดนด่าเลย ว่าหนิงพูดมากพูดเยอะ ทั้งๆ ที่นี่มันน้อยที่สุดแล้วค่ะ”

ก่อนที่จะถ่ายรายการเราค่อนข้างมั่นใจ ว่าเขาจะไม่พูดเรื่องนี้
“ใช่ค่ะ”

ได้คุย “ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล” เรื่องนี้ อีกฝ่ายทราบแล้วว่า รู้สึกไม่ดีกับคอนเทนต์ดังกล่าว
"ได้คุยค่ะ พี่ธัญญ่าทราบค่ะว่า หนิงรู้สึกตกใจและรู้สึกไม่ดี มันอาจจะมองเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มันไม่ได้เล็กไงคะ เพราะพอมันเป็นเรื่องออกมา คือเรื่องมันจบไปแล้ว จบสวยๆ ไปแล้ว ไม่มีใครมาสนใจหนิงเรื่องนี้แล้ว หนิงเดินทางทำงานแล้ว แต่พอมันออกมาปุ๊บ มันก็กลับเข้ามาอยู่ในวังวนเดิมๆ อีกค่ะ”

มูฟออนแล้ว แต่ต้องเสียใจอีกรอบ เลิกกังวล อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
“ค่ะ ถามเรายังกังวลเรื่องอะไรอีกไหม อะไรจะเกิดก็เกิดค่ะ (เสียงสั่น)”

บอกตัวเองต้องเข้มแข็ง เพราะมีคนให้ดูแลเยอะ
“หนิงต้องเข้มแข็งค่ะ เพราะชีวิตหนิงมันไม่ได้มีแค่ตัวหนิงเองแค่คนเดียว วันนี้หนิงมีลูก หนิงมีคุณแม่ที่หนิงต้องดูแลอยู่ หนิงยังมีลูกๆ หนิงในวงการบันเทิง ที่วันนี้วงการบันเทิงเองก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่มีอะไรแน่นอน ทุกคนยังไม่มีความมั่นคง หนิงยังมีทีมงานของหนิงอีก ลูกน้องหนิงอีก ที่แต่ละคนก็ยังต้องทำมาหากิน หนิงยังมีบริษัทที่ต้องดูแลคนอีกหลายๆ คน ดังนั้นหนิงต้องเข้มแข็งค่ะ แล้วเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป แล้วก็ส่งกำลังใจดีๆ แบบนี้ให้กับทุกคนคนเผชิญปัญหา หนิงเชื่อว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เช้าแล้วค่ะ”

คดีฟ้องบุคคลที่ 3 ยังเดินหน้าต่อ ชีวิตพังทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด
“อันนั้นมันเป็นส่วนของกฎหมายนะคะ หนิงก็หวังว่าหนิงจะได้รับความยุติธรรมตามสมควร ที่หนิงควรจะได้รับ หนิงไม่ได้ทำอะไรผิดเลยค่ะ แต่ตอนนี้ชีวิตหนิงพังมากเลยค่ะ”

เสียงสั่นถ้ามีอะไรเข้ามาอีก ก็จะไม่หนีแล้ว
“ไม่หนีแล้วค่ะ พร้อมเผชิญแบบนี้ของหนิงในวันนี้ ช้าๆ ค่อยๆ ไม่ต้องรีบ (ในการตอบคำถาม เราต้องเข้มแข็งขนาดไหน?) หนิงได้อยู่ค่ะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปค่ะ (เสียงสั่น) เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าแล้วค่ะ”

“เหนื่อยได้ค่ะ คนเราทุกคนโกรธได้ เหนื่อยได้ แต่ว่าทั้งหมดทั้งมวลเวลาโกรธ เวลาเหนื่อย ก็พยายามช้าๆ เพราะถ้ามันโกรธ แล้วมันเหนื่อย แล้วมันจัดการทุกอย่างตอนที่เราโกรธและเราเหนื่อยเลย มันก็จะเป็นเคมีทำลายล้าง เคมีการต่อสู้ แต่วันนี้หนิงไม่มีความจำเป็นต้องต่อสู้อะไรอีกแล้ว สิ่งที่หนิงต้องต่อสู้เรื่องเดียวก็คือทำทุกอย่างให้ดีที่สุด สำหรับลูกหนิง นั่นคือหัวใจของหนิง คือทุกสิ่งทุกอย่างของหนิงค่ะ”

“น้องณิริน” เป็นกำลังใจที่ดีมาก อยากให้ทุกคนชมน้องว่าเป็นเด็กดี
“น้องกอดทุกวัน น้องน่ารักมาก น้องพยายามเป็นเด็กที่ดี ก็ฝากว่าถ้าใครเจอน้อง ก็ชื่นชมน้องหน่อยเนาะ ให้กำลังใจน้องหน่อย เพราะนาทีนี้น้องก็คงต้องการกำลังใจว่าเขาเป็นเด็กดีนะ ทุกคนเห็นเขาเป็นเด็กดีนะ เมื่อเขาเป็นเด็กดีแล้ว เด็กดีก็ควรได้รับคำชม”

“โคตรโชคดีเลย (เสียงสั่น) ไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนี้ บนความโชคร้าย สิ่งที่โชคดีที่สุดคือลูกดีที่สุด แล้วกก็ภาวนาขอพร ว่าให้เขาเป็นเด็กที่ดีแบบนี้ แล้วก็ประสบความสำเร็จ แข็งแรง มีความสุขในทุกๆ วัน”









กำลังโหลดความคิดเห็น