หลังจากที่ลือกันสนั่นว่า BlackPink ไม่ต่อสัญญาครบทั้งวง โดยมีเพียง “โรเซ่” เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังอยู่กับ YG Entertainment ส่งผลให้หุ้นของค่าย YG ร่วงลงอย่างหนัก จนลือกันว่าทางค่ายเตรียมความพร้อมส่งเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ “Baby Monster” หวังกู้วิกฤติให้บริษัท
หลังจากสื่อเกาหลีรายงานว่า จีซู, เจนนี่ และ ลิซ่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะย้ายค่ายไปอยู่สังกัดอื่น ก็ส่งผลให้หุ้นของ YG Entertainment ร่วงลงทันทีมากกว่า 15% ภายในวันเดียว นับเป็นการตอกย้ำคุณค่าและมูลค่าของ BlackPink ว่ามีความสำคัญต่อค่าย YG อย่างมหาศาล
ด้วยเหตุนี้เอง ดูเหมือนทาง YG Ent. จะเตรียมการไว้ล่วงหน้า จึงสร้างเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่อย่าง Baby Monster เพื่อหวังเป็นช่องทางใหม่ที่จะทำให้ค่ายเดินหน้าต่อไปได้
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์เกาหลีเมื่อวันที่ 21 ก.ย. เผยให้เห็นว่าราคาหุ้นของ YG Entertainment ลดลงเหลือ 69,200 KRW ( 1873.62 บาท ) ต่อหุ้น ซึ่งลดลงอย่างมาก 13.28% จากวันก่อนหน้าที่ราคาหุ้นอยู่ที่ 79,800 KRW (2160.62 บาท ) ต่อหุ้น สิ่งนี้ได้กวาดล้างมูลค่าตลาดของ YG ไปประมาณ 3,622 ล้านบาทในวันเดียว และนี่คือระดับต่ำสุดที่หุ้นมีการซื้อขายในรอบเกือบ 5 เดือน
อย่างไรก็ตามการเจรจาระหว่าง BlackPink กับ YG Entertainment ยังไม่ได้ข้อสรุปเป็นอันสิ้นสุด ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจึงส่งผลต่อความกังวลของผู้ถือหุ้นมากยิ่งขึ้น ทางด้าน YG Ent. เองจึงมุ่งเน้นไปที่การเดบิวต์ของ Baby Monster ที่ตอนนี้กำลังเตรียมการกันอย่างระมัดระวัง
Baby Monster นับได้ว่าเป็นเกิร์ลกรุ๊ปลำดับที่ 3 ต่อจากค่าย YG Ent. และเป็นเกิร์ลกรุ๊ปแรกในรอบ 7 ปีหลังจากที่ BlackPink เดบิวต์ โดยคราวนี้จะแตกต่างจากที่ผ่านมา ไม่ใช่วงเกิร์ลกรุ๊ป 4 คนแบบ 2NE1 และ BlackPink อีกต่อไป แต่คราวนี้มาด้วยกันถึง 7 คนจากหลากหลายเชื้อชาติ โดยมีชาวไทยถึง 2 คนคือ แพร ภริตา บุญภักดีทวียศ และ ชิกิต้า ริรชา พรเดชาพิพัฒน์
อย่างไรก็ตาม Baby Monster นับได้ว่าเป็นที่สนใจต่อตลาดเคป็อปอยู่ไม่นาน เพราะยังไม่ทันเดบิวต์ กระแสของเกิร์ลกรุ๊ปวงนี้ก็เป็นที่สนใจ แม้แต่ใน YouTube ก็มีผู้กดติดตามมากถึง 3 ล้าน ด้านเพลงก่อนเดบิวต์อย่าง “Dream” มิวสิควิดีโอก็มีผู้เข้าชมมากถึง 500 ล้านวิว ซึ่งเป็นการยืนยันได้ว่าแฟนเพลงทั่วโลกต่างคาดหวังและจับตามองเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่นี้เป็นอย่างมาก
การเดบิวต์ของ Baby Monster ยังคงอยู่ภายใต้การดูแลของ ยางฮยอนซอก โดยกำหนดการที่แน่นอนในการเดบิวต์ยังไม่ได้รับการยืนยันแต่อย่างใด จากที่เคยประกาศว่าจะเดบิวต์เดือน ก.ย. 2023 ก็ดูท่าว่าจะถูกเลื่อนออกไป เนื่องจาก YG มีมาตรฐานเรื่องความสมบูรณ์แบบในระดับที่สูงมาก เมื่อไม่พร้อมก็จะเลื่อนกำหนดการออกไปเรื่อยๆ ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับหลายๆวงที่มาจากค่ายนี้
เพื่อให้ YG บรรลุการเติบโตแบบยั่งยืน การต่อสัญญาของ BLACKPINK ถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่ความสำเร็จของ Baby Monster เกิร์ลกรุ๊ปรุ่นต่อไปนั้นก็มีความสำคัญอย่างยิ่งไม่แพ้กัน อย่างไรก็ตาม YG Ent. ได้แสดงให้โลกได้เห็นแล้วว่าทางค่ายมีความสามารถในการค้นพบเพชรและเจียระไนผลิตไอดอลเค-ป็อประดับโลกที่มีคุณภาพและประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น Big Bang, 2NE1 หรือ BlackPink
อย่างไรก็ตาม วงที่ถูกตั้งความหวังไว้สูงมากจากแฟนเพลงเคป็อปทั่วโลกอย่าง Baby Monster จะสามารถโด่งดังระดับท็อปสตาร์เป็นเบอร์ต้นๆของโลกได้เหมือนรุ่นพี่ BlackPink และกู้วิกฤตให้กับค่าย YG Entertainment ได้หรือไม่? คงต้องจับตามองกันต่อไป