“โบว์ เมลดา” ภูมิใจ จากบอกอ้วนแล้วทำให้บ้านแคบ กลายเป็นไวรัล ได้งานพรีเซ็นเตอร์ ไม่ตั้งใจเป็นเจ้าแม่มีม แฮปปี้ทำงานกับ “อาเล็ก ธีรเดช” ที่ต่างประเทศ บอกศีลเสมอกัน ชวนกันปัง พากันไปหาความเจริญ เป็นความน่ารักและสดใสของกันและกัน
พูดผ่านสื่อหลังถูกแซะว่าอ้วน ด้วยประโยคเด็ด “อ้วนแล้วทำให้บ้านแคบลงไหม” สู่การได้งานพรีเซ็นเตอร์ และเปิดตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรก ของโครงการหมู่บ้าน ศุภาลัย ‘STANDARD ดี QUALITY เดียวกัน’ ณ ลานแฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน งานนี้ “โบว์ เมลดา สุศรี” เผยว่าตอนพูดไม่ได้คิดอะไร ไม่ตั้งใจเป็นเจ้าแม่มีม
“จากคำสัมภาษณ์วันนั้น ก็ได้พรีเซนเตอร์เลย คนเรียกเจ้าแม่มีม ก็สาธุ (ยกมือไหว้) ตอนนั้นที่พูดไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ดีใจที่คำพูดของเราทำให้คุณลูกค้าสนใจ เอาจริงๆ ทุกวันก็ไม่ได้คิดว่าเราจะสร้างมีมหรืออะไร ไม่คิดว่าจะเป็นมีม แต่ด้วยมันเป็นความเรา มันก็เลยส่งผลให้เราเป็นแบบนั้น”
ควงกันไปทำงานที่ต่างประเทศ บอก “อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ” เป็นความน่ารักและสดใส
“เป็นทริปการทำงานที่เขาเชิญเราไปร่วมงานที่นิวยอร์กแฟชั่นวีก ไปเที่ยวก่อน 2-3 วัน ได้ไปนอนหลับให้เต็มอิ่ม เต็มปอดแล้วค่อยทำงาน เพราะนั่งเครื่องบินก็ 1 วันแล้ว ก็ถือโอกาสนอนให้เต็มอิ่มจะได้พร้อมทำงาน เป็นงานคู่แรกๆ เลยมั้งที่มีโอกาสได้ไปทำงานที่ต่างประเทศด้วยกัน คนแซวว่าเหมือนพรีเวดดิ้ง อย่าพูดวางยากันเยอะ เดี๋ยวเอ๊ะมันลงเอย อะไรยังไง คนก็แซวกันค่อนข้างเยอะว่ารูปน่ารัก เหมือนเลย ใช่หรือเปล่า ไม่ใช่หรือเปล่า ยังค่ะ อีกนาน คือเรารู้อยู่แล้วว่าคู่เราน่ารัก มันน่าแตะ มันน่า…เออ ชมช่างภาพก็ส่วนนึง คู่เราก็ส่วนใหญ่ น่ารัก เขาคือความสดใส เติมเต็มวันที่อับจน
วันเกิดเขาก็ให้เป็นคลิป ก็ทำให้ทุกปี พยายามเก็บความน่ารักของอาเล็กมาให้ หลายๆ คนจะมองว่าเขาดูหยิ่งบ้าง ดูเป็นหนุ่มตี๋นิ่งๆ คีฟคูล แต่จริงๆ แล้วเขาไม่หยิ่ง เขาแค่ตาชั้นเดียว บางทีเขาก็สายตาสั้นไง ก็มองไม่ค่อยเห็นบ้าง มองด้านข้างไม่เห็น เป็นปกติของคนใส่แว่น คนใส่แว่นจะเห็นแค่หน้าตรง ข้างๆ จะเบลอๆ นิดนึง เราก็ให้คนได้เห็นเขาในมุมน่ารัก ๆนิดนึง แซวนะพี่เล็ก”
ของขวัญขอเก็บเป็นความลับ
“มีแต่ขออุบไว้ก่อน เป็นความลับ เป็นเครื่องประดับชนิดนึงที่เขาชอบ แหวน ถามว่าเป็นแหวนแทนใจไหม ก็พูดไป ไม่ได้เป็นแหวนแทนใจ เป็นแหวนที่ให้ในวันเกิด เพราะรู้ว่าเขาชอบ ใส่นิ้วไหนได้ก็ใส่ เพราะ 3 นิ้วพี่เขาเท่ากัน เขาจะเลือกใส่นิ้วไหนก็แล้วแต่ เขาก็น่าจะรู้แหละว่าโบว์จะให้อะไร เพราะโบว์ชอบพวกจิวเวลรี่ จะให้อาหารเขาก็น่าจะหาได้ดีกว่าเรา เขาก็พยายามใส่แหละ พยายามไม่ลืม นางก็บอกมันเข้ากับวงอื่นของเขา ทั้งๆ ที่เราดูแล้วก็ไม่ได้เข้า(หัวเราะ) ก็เอาใจนิดนึง ช่วงแรกๆ”
ส่วนอีกฝ่ายบอกตนเป็นความสดใสในชีวิตเขา มันก็ใช่อยู่แล้ว
“มันก็ใช่อยู่แล้วแหละ เรามันเป็นคนสดใสน่ารัก พี่เบล (ราณี แคมเปน) ก็มาแซว ขอบคุณพี่เบล เมื่อไหร่พี่เบลจะมี น้องจะได้แซวกลับบ้าง”
ศีลเสมอกันทุกเรื่อง
“ศีลเสมอกัน หลังๆ เริ่มทันกันทุกอย่าง ก่อนหน้านี้พี่เล็กจะไม่ค่อยทันโบว์ เดี๋ยวนี้เริ่มไม่ห้าม เริ่มส่งเสริม จนรู้สึก เฮ้ย! มันเสมอกันเกินไปแล้ว ต้องมีคนใดคนนึงคอยดึงบ้าง ก็คงเป็นเราที่ต้องดึง ช่วงนี้สิ่งที่เติมเต็มกันเป็นพิเศษน่าจะเป็นงานคู่ รู้สึกว่าแฮปปี้ที่ได้ทำงานด้วยกันมากขึ้น มันสนุกเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ต่างคนต่างสบายใจที่มีคนที่ไว้ใจได้ทั้งคู่ ว่าโอเคถ้ามันเกิดอะไรขึ้น ณ ตรงนั้นเขาจะช่วย เริ่มไม่สวย ลิปติดฟันเขาก็จะบอกให้ ตอนนี้จริงๆ มีงานคู่ติดต่อเข้ามาค่อนข้างเยอะ แต่คิวงานของเราเองก็เยอะมากๆ เหมือนกัน ก็ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะที่เวลาเช็กคิวมาแล้วมันไม่ได้ อยากไปจริงๆ ค่ะทุกคน”
แฮปปี้เป็นปีที่พากันปัง พากันไปหาความเจริญ
“ต้องไปเช็กดวงบ้างแล้ว น่าจะพากันไปในทางที่ดีกันมากขึ้น พากันไปหาความเจริญๆ คู่เราก็เป็นอย่างนั้นแหละ สาธุ งานแรกที่ทำด้วยกัน คือเกร็งกันทั้งคู่ มันไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง กลัวจะมากไป น้อยไป ถ้าน้อยไปก็กลัวเขาจะคิดว่าเราไม่ได้คุยกันแล้วหรือเปล่า ก็พยายามจะทำตัวปกติแบบที่เป็นเรา ชวนกันทำอะไรที่มันสนุกๆ ถ้าอะไรที่มันรู้สึกแปลกๆ แล้วก็จะเตือนกัน อย่างที่ไปนิวยอร์กก็คอยดูแลกัน พี่ไม่ถนัดทางนี้เดี๋ยวหนูช่วย ท่าโพสต์ คุยกับคนอื่น แต่ถ้าเรื่องคุยเจรจากับทางต่างประเทศพี่เล็กเขาชิลอยู่แล้ว มีแต่เราที่จะแบบ แปลว่าอะไร โอ้ พูดเร็วมาก เยส… แต๊งกิ้ว… ดีค่ะ ทำงานด้วยกัน มันสนุก เหมือนเราได้อยู่กับเพื่อนสนิท มีอะไรก็เม้าธ์”
อยู่กันสองคนไม่ตีกัน
“ไม่มีค่ะ อยู่ด้วยกันสองคนไม่เคยทะเลาะกัน แต่ถ้าอยู่กันหลายคน ทะเลาะ เอาเรื่องของคนอื่นมาทะเลาะกันเอง สนุกดี”