ฟังมาว่าใครก็ตามที่ดันเข้าไปแสดงความคิดเห็นกับประเด็นเพลง ‘คนจนมีสิทธิ์ไหมคะ’ จะโดนทัวร์ลงภายในพริบตาเดียว
งั้นเอาเป็นว่าขอให้มากันเยอะๆ เลยครับ ถกเถียงกันโดยไม่เจ็บตอ นิ้วปวดนิดหน่อยกระชุ่มกระชวยดีนักแล
บ่ายวานนี้นั่งคุยกันอยู่ 3 – 4 คน จู่ๆ น้องผู้หญิงคนเดียวในวงถามผู้เขียนว่าเคยฟังเพลงคนจนมีสิทธิ์ไหมคะหรือยัง ตอบว่าไม่เคยฟัง เห็นแค่ข่าว ‘ป๋อ – ณัฐวุฒิ’ แว่บๆ ทางจอโน๊ตบุ๊ค
ว่าแล้วน้องผู้หญิงก็เปิดให้ฟังจากมือถือ พร้อมเล่าที่มาที่ไปของประเด็นร้อนตอนนี้เป็นฉากหลังประกอบ
ฟังจบลงก็หึๆ ไม่ได้เอ่ยอ้างอะไร เพียงคิดในใจว่าต้องอธิบายความรู้สึกนึกคิดของตัวเองผ่านวงแคบๆ สักวง
ซึ่งนั่นก็คือคอลัมน์เล็กๆ เชยๆ ที่ใครสักคนสองคนอาจบังเอิญพลัดหลงเข้ามาอ่าน
ผู้เขียนมีเพื่อนพ้องน้องพี่อยู่หลายวง ทั้งวงเพื่อนบ้านเกิด เพื่อนโรงเรียนมัธยมปลาย เพื่อนสื่อมวลชน เพื่อนนักอ่าน นักเขียน
บางวงสนทนากันด้วยความสุภาพเรียบร้อย แต่ไม่ถึงขนาดคุณ – ผม ขณะที่บางวงสารพัดสัตว์ยั้วเยี้ย ลามปามไปถึงอวัยวะที่เข้าใจกันว่าเป็นของสงวนทั้งเพศชายเพศหญิง
ติ๊ต่างว่า สมมติว่าถ้าผู้เขียน หรือใครสักคนเอาเหี้ยห่าสารพัดสัตว์ไปพ่นพล่อยๆ กับวงหนึ่งซึ่งไม่เคยเอ่ยอ้างถึงแม้แต่ครั้งเดียว
หรือตรงกันข้าม ดันพูดคุยอีกแบบกับเพื่อนที่คำก็...คำก็....ด้วยประโยคไม่หลุดคำผรุสวาทออกมาเลย
บรรยากาศมันไม่ออกไปทางแสนดีศรีตำบลไปหน่อยมั๊บอ่ะมรึง?
-ตัดจบมาตรงคำหยาบโลนซึ่งประเด็นหนึ่งของเพลงต้นเหตุน่าจะอยู่ตรงคำร้องตรงๆ ซึ่งตรงกันข้ามกับสองแง่สองง่าม
พวกที่คุ้นเคยกับหมอลำซิ่งยืนยันว่าคำร้องตรงๆ เช่นนี้ หมอลำซิ่งเขาร้องกันมานมนานกาเล
ส่วนตัวผู้เขียนเองไม่ใช่คนอีสาน ไม่คุ้นหูคุ้นตากับลำซิ่ง แต่คุ้นเคยกับลิเก ลำตัด เพลงฉ่อย เพลงอีแซว เท่าที่ได้ดูได้ฟัง ร้อยทั้งร้อยเขาจะอ้อมครับ ไม่ตรงเป๊ะอย่างเพลงคนจนมีสิทธิ์ไหมคะ
ฉะนั้นเมื่อได้ฟังเพลงคนจนมีสิทธิ์ไหมคะ จึงโพล่งขึ้นในความรู้สึกเหมือนตอนเห็นผู้แทนหญิงของพรรคก้าวไกลใส่เสื้อที่พยายามอธิบายว่าคิด วิเคราะห์ แยกแยะ แต่พออ่าน มันเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งมันเป็นคนละเรื่องเดียวกัน
อธิบายง่ายๆ ในความคิดของผู้เขียน คำตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อม เราพูดในวงหนึ่งได้ กับคนหนึ่งได้ แต่กับอีกวง อีกคน อีกกาลเทศะหนึ่งไม่สมควร
คล้ายๆ กับคลิปพระไปซื้อบริการทางเพศแล้วถกเถียงกับ ‘แม่ค้า’
ถ้าเป็นเรื่องจริง สังคมไทยจะถกเถียงกันอย่างไร?!?
พระก็พูดถูกของท่าน (ฮา)