ผู้ว่าฯ นครพนมประกาศวาระจังหวัดสุดยิ่งใหญ่ พร้อมร่วมลงนาม MOU 28 หน่วยงานภาคีเครือข่ายเข้มแข็ง ต้นแบบของการขับเคลื่อนเชิงรุกการพัฒนาระบบสนับสนุนคุณภาพการเรียนรู้ และคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนในจังหวัดนครพนม ภายใต้โครงการ “นครพนมโมเดล”
ภาคีเครือข่ายในจังหวัดนครพนม ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการจัดการศึกษาและการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาทั้งในชุมชนและในกระบวนการยุติธรรมมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี พ.ศ 2564 - 2566 และในปี พ.ศ 2567 เป็นต้นไป จังหวัดนครพนมจะร่วมกันขับเคลื่อนและดำเนินการในเชิงรุก กับภารกิจหลัก 3 ประเด็นใหญ่ คือ 1.การเชื่อมฐานข้อมูลเด็กและเยาวชนในระดับจังหวัด 2.การพัฒนาหลักสูตรและแผนการจัดการเรียนรู้ ซึ่งดำเนินการ 2 หลักสูตร คือหลักสูตร 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ และหลักสูตรจิตศึกษา (ปัญญาภายใน) และ 3.พัฒนากลไกค้นหา พัฒนา ส่งต่อ เด็กและเยาวชนนอกระบบในระดับตําบล รวมถึงการขยายเครือข่ายความร่วมมือทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
ซึ่งเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ที่่ผ่านมา เวลา 08.30 น. - 13.00 น. ณ ห้องยามดี A โรงแรมเวลาดี จังหวัดนครพนม ภาคีเครือข่าย 28 หน่วยงานที่เข้าร่วมลงนามใน MOU ร่วมด้วยภาคีเครือข่ายที่สนับสนุนการดำเนินการได้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยจังหวัดนครพนม พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนเชิงรุกงานด้านเด็กและเยาวชน ทั้งเด็กนอกระบบและเด็กในระบบ และเด็กในสถานพินิจฯ ตามสโลแกน “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เด็กและเยาวชนทุกคนต้องได้รับการพัฒนา” โดย ‘นายวันชัย จันทร์พร' ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานในการนำประกาศวาระจังหวัด พร้อมร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการพัฒนาระบบสนับสนุนคุณภาพการเรียนรู้ และคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนในจังหวัดนครพนม
โดย 28 หน่วยงานที่ร่วมลงนามใน MOU ได้แก่ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครพนม, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2, สำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดนครพนม, สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดนครพนม, สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 41 นครพนม, สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม, ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครพนม, กองกำกับการตำรวจตะเวนชายแดนที่ 23, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดนครพนม, เรือนจำกลางนครพนม, บ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดนครพนม, สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดนครพนม, เทศบาลเมืองนครพนม 16. องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม, สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนม, คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยนครพนม, คณะเกษตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนครพนม, คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม, สำนักงานสถิติจังหวัดนครพนม, หอการค้า จังหวัดนครพนม, สำนักงานเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดนครพนม, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม, สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม และตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม
และหน่วยงานภาคีเครือข่ายอื่น ๆ ที่ร่วมสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการ ได้แก่ องค์การบริการส่วนตำบลพิมาน อำเภอนาแก, องค์การบริการส่วนตำบลโนนตาล อำเภอท่าอุเทน, โรงเรียนบ้านน้ำก่ำ (สิทธิผลนุกูล), โรงเรียนนาแกพิทยาคม, โรงเรียนชุมชนบ้านคำพอกท่าดอกแก้ว, วิทยาลัยเทคนิคบ้านแพง, ศูนย์การเรียนซี วาย เอฟ, คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยนครพนม, คณะเกษตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนครพนม และ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม และภายในงานประกาศวาระจังหวัด ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการ “ศิลปะสัมผัสใจ” ผลงานศิลปะของเยาวชนนอกระบบในตำบลพิมาน อ.นาแก และตำบลโนนตาล อ.ท่าอุเทน จังหวัดนครพนม รวมถึงผลงานจากเยาวชนที่อยูในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครพนม กว่า 150 ผลงาน ร่วมด้วยการแสดงนิทรรศการนวัตกรรมด้านการศึกษาจากตัวแทนโรงเรียนต้นแบบ โดยมีโรงเรียนธารน้ำใจ และวิทยาลัยเทคนิคบ้านแพง และนิทรรศการโรงเรียนมือถือ นวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อการพัฒนารูปแบบการเรียนของเด็กและเยาวชน ในการตอบโจทย์บริบทของผู้เรียนทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต โดย นางรินทิพย์ วารี รองศึกษาธิการจังหวัดนครพนมเป็นผู้กล่าวรายงานถึง “การก้าวต่อไปของนครพนมโมเดล” และ นายธันญ์สุธี ภัคธารีรัตน์ ศึกษาธิการจังหวัดนครพนม เป็นผู้กล่าวรายงานถึงที่มาและความสำคัญของบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การพัฒนาระบบสนับสนุนคุณภาพการเรียนรู้ และคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนในจังหวัดนครพนม (นครพนมโมเดล) ในครั้งนี้ต่อ นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ประธานในพิธี
ผู้ว่าฯ นครพนม ได้กล่าวเปิดพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) นครพนมโมเดล โดยมีใจความสำคัญในการรู้สึกยินดีต่อพลังความร่วมมือของภาคีเครอข่ายนครพนมที่เข้มแข็ง และเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาเด็กและเยาวชนในจังหวัด “กระผมมีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จังหวัดนครพนมเล็งเห็นความสำคัญถึงปัญหาเด็กหลุดออกจากการศึกษาที่ส่งผลกระทบมาจากสถานการณ์ โรคระบาดโควิด 19 ซึ่งทำให้เกิดความยากจนฉับพลัน และการเรียนออนไลน์ที่ทำให้นักเรียนขาดช่วงในการเรียนต่อเนื่อง การจัดทำโครงการนครพนมโมเดลเพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้และคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน จึงเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันทำงานเชิงบูรณาการ ดูแลช่วยเหลือตั้งแต่เด็กเสี่ยงออกกลางคันในโรงเรียน, เด็กนอกระบบการศึกษา, เด็กตกหล่นในตำบล และเด็กในกระบวนการยุติธรรม ด้วยกลไกการค้นหา พัฒนา ส่งต่อ ตั้งแต่ความร่วมมือในระดับท้องถิ่นท้องที่ สถานศึกษา และมหาวิทยาลัย”
“นอกจากนี้ เรื่องที่จะเป็นประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนอย่างมหาศาล หากทุกหน่วยงานสามารถเชื่อมโยง ฐานข้อมูลเด็กและเยาวชนในระดับจังหวัดร่วมกัน เพื่อกำหนดแผนการจัดการศึกษาของจังหวัด ตั้งแต่เรื่องหลักสูตร และรูปแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมสอดคล้องกับเด็กทุกกลุ่ม เด็กชาติพันธุ์ เด็กในเมือง เด็กยากจนพิเศษ เด็กในสถาน พินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นต้น จังหวัดนครพนมก็จะสามารถช่วยเหลือเด็กและเยาวชนทุกกลุ่มได้อย่าง เป็นระบบและยั่งยืน ดั่งเป้าหมายร่วมกันที่ว่าเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เด็กทุกคนต้องได้รับการพัฒนา และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมเป็นพลังในการขับเคลื่อนงานเชิงบูรณาการร่วมกัน จนเห็นผลงานเชิงประจักษ์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา และยังคงขยายเครือข่ายหน่วยงานมาช่วยกันพัฒนาอนาคตของชาติ จนเกิดเป็นพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) นครพนมโมเดล ทั้งสิ้น 28 หน่วยงานกันในวันนี้”
‘นครพนมโมเดล’ โดยจังหวัดนครพนม เราจะก้าวต่อไป “จะไม่มีเด็กคนไหนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เด็กและเยาวชนทุกคนต้องได้รับการพัฒนา”