“ดิว อริสรา” เปิดตัวธุรกิจแบรนด์เด็กที่สร้างเพื่ออนาคตลูก รับสามีอยากได้ลูกสาวเพิ่มอีก ยังไม่มีลิมิต ปล่อยตามธรรมชาติ แต่ไม่ได้พร้อมปั๊มขนาดนั้น แฮปปี้ชนะคดี “เบล บุษยา” สู้กลับในเวย์คนมีมันสมอง ชี้วงโคจรไม่น่ากลับมาเจอกันแล้ว คงเป็นคนแรกและคนสุดท้าย
เปิดตัวธุรกิจแบรนด์เด็กเพื่ออนาคตของลูก สำหรับ “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” ที่วันนี้ถือฤกษ์ดี 9 เดือน 9 เปิดผลิตภัณฑ์ แบรนด์ “เบเบย์ รูว เบบี้ แคร์” ซึ่งเจ้าตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์เอง ณ ลาน PARC PARAGON ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งเป็นการตอบคำถามแฮชแท็กก่อนหน้านี้ #แม่ไม่ยอม ว่าไม่ได้มีดรามาใดๆ โดยดิวได้เปิดใจพร้อมสามี “เซบาสเตียน ลี” รวมทั้งอุ้มลูกชาย “น้องไซลาส” มาร่วมงานด้วย
ดิว : “จริงๆ #แม่ไม่ยอม ไม่ใช่มีดรามาอะไรนะ คือเหมือนกับว่าแม่จะไม่ยอม ให้ลูกต้องเจอมลภาวะ หรือไม่กล้าออกจากบ้าน”
เซบาสเตียน : “ความสำเร็จในครั้งนี้ ผมไม่ได้ช่วยอะไรมากเลย ทุกอย่างดิวเขาทำด้วยตัวเอง อยากให้ทุกคนชื่นชอบ และอยากให้ทุกอย่างประสบความสำเร็จ เพราะดิวใช้เวลากับตรงนี้เยอะมาก”
ชม “น้องไซลาส” เล่นโฆษณาให้คุณแม่ ทำงานเก่งกว่าแม่
ดิว : “นางก็เล่นได้เห็นไหมล่ะ เขาไม่งอแงเลยสักนิด ทำงานเก่งกว่าแม่ แม่แต่งหน้าอยู่ แต่นางไปถ่ายแล้ว ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ใช้เวลาถ่ายทำ 2 วันเต็มๆ ค่ะ ก็ราบรื่นผ่านไปได้ด้วยดี แบรนด์นี้เราก็ทำให้เขา อยากให้มันเริ่มด้วยดีและจบด้วยดี”
มีลูกเพิ่มอีกไหม ให้รอดู รับอยากได้ลูกสาว แต่ไม่พร้อมปั๊ม
เซบาสเตียน : “เดี๋ยวรอดูครับ”
ดิว : “ส่วนเราก็ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป เดี๋ยวรอดูค่ะ”
เซบบาสเตียน : “ผมอยากได้ลูกไม่หนึ่งคน ก็สามคนครับ ก็อาจจะแค่คนนี้เลย หรือไม่ก็ไปให้สุดครับ”
ดิว : “แต่คำถามนี้เราต้องกลับไปคุยกันก่อน (หัวเราะ)”
เซบาสเตียน : “อยากได้ลูกสาวครับ เยส!”
ดิว : “อยากได้ลูกสาวมาก เราก็ไม่มีลิมิตเลยว่าจะรอถึงอายุเท่าไหร่ เพราะเราก็ปล่อยธรรมชาติ ถ้ามีก็มี มาก็มา แต่ก็ไม่ได้พร้อมปั๊มขนาดนั้นค่ะ”
พร้อมเผยกรณีชนะคดีแพ่งและอาญา หลังฟ้องหมิ่นประมาท “เบล บุษยา ตั้งภากรณ์” ภายหลังถูกอีกฝ่ายโพสต์พาดพิงในอินสตาแกรม ลั่นทุกอย่างจบแล้ว ขอสู้ในเวย์ของตนที่มีมันสมอง
“จบหมดแล้วค่ะ จบในแบบที่เราพอใจ แฮปปี้ โดยที่เราไม่ต้องไปศาลเลยสักครั้ง ก็ค่อนข้างแฮปปี้ ดิวรู้อยู่แล้วว่าตอนจบจะเป็นแบบไหน แต่ไม่ได้เรียกว่าโล่งอกหรอก เพราะดิวเชื่อว่าคนที่… จะพูดยังไงดี คือดิวรู้อยู่แล้วว่าปลายทางมันเป็นยังไง แล้วในระหว่างทางที่ซัปเฟอร์ มันไม่ใช่เรา ดังนั้นมันก็เป็นเรื่องที่ใครทำอะไรก็ต้องไปรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ ดังนั้นเราก็ลอยตัวเหนืออากาศ เป็นฟีลนั้น คือถ้าไม่มั่นใจไม่ฟ้องแน่นอน
ถามว่าใช้เวลานาน ใช่เปล่า คือดิวไม่ได้นับเลย แต่พอมันจบแล้ว มันก็เป็นโหมดที่แบบว่า โอเค ก็ตามนั้น จะเห็นว่าดิวค่อนข้างชิลกับเคสนี้ เพราะดิวเชื่อว่าการที่คนทุกคนต้องไปศาล รายงานตัว หรือต้องมานั่งพูดอะไรอย่างนี้ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี ดิวว่ามันไม่แฮปปี้อยู่แล้ว ดังนั้นก็คือใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้นค่ะ”
บอกเป็นกรณีศึกษา หากโดนอะไรไม่แฟร์ในชีวิต ให้ออกมาสู้กลับในเวย์ของคนที่มีมันสมองดีกว่า
“ตอนแรกเราไม่ได้ทำเรื่องค่าตอบแทนอยู่แล้ว แล้วต่อให้เราได้ค่าตอบแทนมา เราก็บริจาคหมดทุกบาททุกสตางค์ ไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นเราก็อะไรก็ได้ เราแฮปปี้อยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้เขาก็ชดใช้แล้วค่ะ ถ้าใครเห็นในข่าวก็จะเห็นว่าเราเอาไปทำบุญตลอดอยู่แล้ว
ถามว่าเป็นการพิสูจน์ว่าเราเป็นฝ่ายโดนกระทำมาตลอด คือเราโตขึ้น เราก็รู้สึกว่าการที่ต้องมานั่งทำอะไรผ่านสื่อโซเชียล มันต้องค่อนข้างมีสตินิดหนึ่ง มันไม่ใช่ยุคก่อนแล้ว ที่อยากทำอะไรก็ทำ เป็นเกรียนคีย์บอร์ด เราก็เรียกว่าเป็นกรณีศึกษาให้กับใครที่โดนอะไรที่มันไม่แฟร์ในชีวิต เราก็ออกมาสู้กลับ ในเวย์ของคนที่มีมันสมองมากกว่า”
วงโคจรคงไม่ได้อยู่ร่วมกันหรือกลับมาเจอกันแล้ว
“ไลฟ์สไตล์เราไม่ตรงกันอยู่แล้วค่ะ เราเป็นคุณแม่ เราท่องเที่ยวต่างประเทศ ดิวคิดว่าวงโคจรเราน่าจะไม่ได้อยู่ร่วมกัน หรือว่ากลับมาเจอกัน ก็มีคนเชียร์เยอะ แล้วก็อยากรอดูผลของกรรม ว่ามันจะทำหน้าที่ยังไง ก็ดีใจและขอบคุณ ที่ทุกคนให้กำลังใจเรา พอมันมาวันนี้แล้ว เราก็ไม่ได้โล่ง ไม่ได้รู้สึกอะไร มันเห็นๆ เข้าใจเปล่า (หัวเราะ) มันไม่ต้องพูดเยอะ เรื่องมันก็ตามที่เห็น”
ความเป็นแม่ทำให้ใจเย็น รวมทั้งเห็นค่าในชีวิตตัวเอง ไม่คุ้มก็ไม่แลก
“ก็ด้วย จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ความเป็นแม่หรอก ดิวว่ามันเหมือนเราเห็นค่าในชีวิตของเรามากขึ้น เห็นค่าในเวลาของเรามากขึ้น ว่าอะไรที่มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระ เรามีอะไรต้องทำอีกเยอะ ที่มันมีค่ามากกว่านี้ และเกิดประโยชน์ เกิดผลดีกับคนรอบข้างมากกว่านี้ ถ้ามันคุ้มดิวแลกนะ แต่ด้วยว่ามันไม่คุ้ม มันห่างเยอะก็ไม่รู้จะแลกทำไม”
คาดว่าเป็นคนแรกและคนสุดท้าย
“เราไม่มี แต่เขาไม่รู้ เคสอื่นๆ ก็ไม่มีแล้ว ดิวไม่ค่อยโดนใครทำอะไรแบบนี้สักเท่าไหร่นะ แล้วต่อให้คนมาคอมเมนต์ในไอจีดิว ก็ไม่มีใครเมนต์ไม่ดี ก็เพิ่งเจอคนแรก แล้วก็คาดว่าน่าจะเป็นคนสุดท้ายแล้ว เพราะว่าเราก็ได้โต้ตอบกลับ แล้วคนก็เห็นแล้วไง ว่าในเวย์ของ #แม่ไม่ยอม เป็นยังไง”
แฮปปี้ผอมลง เน็ตไอดอลภาคพื้นทะเลคัมแบ็กแล้ว
“ค่ะ พอเราผอมลงแล้ว เราก็สักนิด ไม่ได้ขนาดทวงบัลลังก์หรอก เราชอบ มันก็เป็นเราเนอะ กับรูปร่างตัวเองตอนนี้ ก็ไม่ได้พอใจหรือไม่พอใจ รูปร่างแบบไหนก็ไปในบริบทแบบนั้น รูปร่างอวบๆ หน่อย ก็แต่งตัวแบบเป็นคุณแม่ที่น่ารัก ส่งลูกเข้าโรงเรียน (หัวเราะ) พอว่างก็ขอใส่ชุดว่ายน้ำกลับไปเป็นเน็ตไอดอลภาคพื้นทะเล ง่ายๆ สบายๆ ค่ะ ถามว่าจะกลับไปเหมือนตอนไม่มีลูกไหม เป็นตัวของตัวเองมาโดยตลอด แล้วก็เชื่อว่าสามีก็คงเข้าใจ แค่เขารักก็พอ แคร์สิ่งที่อยู่ตรงหน้าค่ะ”
ย้ำสามีรักเรา
“เขารักเรา เขาไม่ได้ชอบเรานะ เขารักเรา ส่วนจะมีลูกเพิ่มไหม ดิวว่าทุกอย่างมันต้องใช้เวลา แล้วเราก็อยากเต็มที่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นไซลาสหรือว่าอะไร ในด้านการงานของเราด้วย จริงๆ แล้วดิวว่าคุณเซบเขาพร้อมแล้วแหละ แต่เราก็ยังมีหลายๆ อย่างที่เราอยากทำให้เต็มที่อยู่ ดังนั้นก็ให้มันเป็นเรื่องของเวลาไป”
ไม่ทำแฝด ขอเน้นธรรมชาติ
“ไม่ๆ เอาธรรมชาติ ก็รอทุกอย่างลงตัวก่อน ส่วนอยู่ไทยนานไหม ไปๆ มาๆ ตลอด เอาจริงๆ ปีนี้อยู่ไทยไม่ถึง 3 เดือนเลย ก็ไปเที่ยวด้วยอะไรด้วย ด้วยลูกเรายังเล็ก ยังมีเวลาใช้เวลากับเขาอยู่ก็ไป แต่ไซลาสก็จะเรียนที่ไทยก่อนสักพัก แล้วเราก็มีแพลนอะไรคิดไว้ให้กับเขา แต่ดิวก็ไปๆ มาๆ นี่แหละค่ะ”