“มอร์ฟีน รัชรินทร์” PD. มิสแกรนด์กรุงเทพฯ-สระบุรี รับกดดันในการถือสิทธิ 2 ที่ เพราะความคาดหวังจากแฟนนางงามคงมีเยอะ แต่ย้ำว่าตนไม่คิดแข่งกับใคร เพราะตำแหน่ง Best PD. ตนก็ได้มาแล้ว ขอยกให้คนอื่นบ้าง ยอมรับเซอร์ไพรส์กับเวที “มิสแกรนด์พะเยา” เชื่อคงต้องมีการโดนเปรียบเทียบ แต่การเล่นใหญ่สำหรับตนไม่เคยคิดจะแข่งกับใคร แต่ตั้งเป้าอยากชาเลนจ์ตัวเอง จะไม่ต้องเสียดายกับสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ เผยสิ่งที่ทำไม่ได้กำไร แต่มีคนร่วมสนับสนุนแล้ว 12 ล้าน
เรียกว่าปีที่แล้วเวทีมิสแกรนด์สระบุรีของ PD. สาว “มอร์ฟีน รัชรินทร์ อุดเมืองคํา” ผู้อำนวยการกองประกวดมิสแกรนด์กรุงเทพฯ-สระบุรี 2024 ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากกับการจัดใหญ่อลังการ ซึ่งล่าสุดปีนี้เจ้าตัวกลับมาอีกครั้งและยิ่งใหญ่กว่าเดิม นอกจากจะต่อสัญญากับสระบุรีเหมือนเดิมแล้ว ยังถือสิทธิเวทีมิสแกรนด์กรุงเทพมหานครเพิ่มอีกด้วย ซึ่งสาวมอร์ฟีน เผยถึงเรื่องนี้ในงานกองประกวดมิสแกรนด์กรุงเทพมหานคร และ สระบุรี 2024 จัดกิจกรรมการบริจาคอาหารให้กับคนไร้บ้าน บริเวณใต้เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า โดยมี “นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯ กทม. และ “นายศานนท์ หวังสร้างบุญ” รองผู้ว่าฯ กทม. ร่วมทำกิจกรรมด้วย
“จริงๆ แล้วแพลนนี้เป็นกิจกรรมนอกเหนือจากแพลนของเรา เพราะจริงๆ แล้ววันนี้เราจะต้องไปอยู่ที่วันเดอร์แลนด์ เพื่อไปเล่นสวนสนุกกัน ไปเดินป่ากัน แต่พอทางผู้ว่าฯ แจ้งมาว่าท่านต้องการร่วมกิจกรรมกับทางมิสแกรนด์กรุงเทพฯ เราก็เลยปรับแพลนนิดหน่อย ในการแบ่งกลุ่มของมิสแกรนด์กรุงเทพมหานครวิ่งมาจากสระบุรีเลยนะคะวันนี้ เพื่อมาร่วมกิจกรรมนี้ เพื่อจะได้เป็นส่วนนึงในการแก้ไขอย่างบูรณาการด้วย เราตั้งใจที่จะมาช่วยเหลือตรงนี้จริงๆ ไม่ใช่มาแค่ฉาบฉวย
ถามว่าพอได้ 2 ลิขสิทธิ์กรุงเทพฯ-สระบุรีจะจัดแบ่งแยกความสำคัญยังไง จริงๆ เรามองปัญหาเป็น 2 ส่วน กรุงเทพมหานครค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องของการท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เราปรึกษากับทางทีมจังหวัดกรุงเทพมหานคร คือเขาอยากให้เราเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่จะพูดถึงเรื่องของปัญหาที่เขาใส่ใจอยู่ตอนนี้เป็นอ้นดับ 1 ก็คือปัญหาของคนไร้บ้าน ในฐานะที่เรามาประกวดในนามกรุงเทพมหานคร เราไม่อยากจะใช้แค่ชื่อเพื่อที่จะเดินบนเวทีสวยๆ แต่เราคิดว่าเราอยากเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้รู้สึกว่าเราได้ร่วมแก้ไขปัญหาจริงๆ และเราเป็นส่วนหนึ่งของกรุงเทพมหานครจริงๆ ที่มาแก้ในเรื่องของปัญหา และใส่ใจเรื่องสิ่งที่จะช่วยพัฒนาสังคม เราไม่ได้อยู่แค่การทำธุรกิจ แต่เราสนใจเรื่องของสังคมด้วยค่ะ”
เป้าหมายอยากขยายฐานกลุ่มแฟนนางงามให้กว้างขึ้น
“กดดันในเรื่องที่ว่าแฟนนางงามน่าจะมีความคาดหวังจากผลงานที่ผ่านมา และความที่เราเป็นเมืองหลวง แต่คิดว่าจากสเกลที่ทำอยู่เดิม คิดว่าน่าจะเพียงพอกับการเป็นเมืองหลวงอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นบอสคงไม่มอบหมายให้ เพราะต้องแจ้งว่าเราได้ลิขสิทธิ์มาโดยที่เราไม่ต้องไปบิดแข่งกับใคร ทางบอสให้ฟีนโดยตรงเลย คือฟีนยื่นความจำนงค์ไปว่าฟินสนใจที่จะดูแลตรงนี้ และตั้งใจจะทำให้เต็มที่ บอสก็มอบให้เลยโดยที่ไม่ต้องไปบิดแข่งกับใคร แต่มีข้อแม้ที่ว่าต้องจัดงานแยกกัน และต้องให้เกียรติเมืองหลวงต้องโดดเด่นกว่า
แต่มันก็ไม่ได้ใหญ่กว่าปีที่แล้วนะคะ ก็พอๆ กัน แต่ความครีเอทีฟและความใส่ใจรายละเอียด ด้วยความที่เรามีประสบการณ์จากปีที่แล้ว เราก็จะรู้ว่าตอนนี้เราจะทำอะไรได้บ้างให้มันน่าสนใจขึ้นกว่าเดิม ก็จะเห็นได้ตั้งแต่รอบออดิชั่นว่าเราทำให้มันแตกต่างและเป็นกระแสสังคม ทำให้รู้สึกว่าสนุกมากขึ้น ก็เลยคิดว่าปีนี้จะเน้นความครีเอท ผลลัพธ์ที่ได้กลับมา ปีที่แล้วต้องพูดตรงๆ ว่าเป็นเรื่องโปรไฟล์ของตัวเอง ทำให้ปีนี้มีผู้สนับสนุนมากขึ้น และปีนี้เราได้ทำอะไรสนุกๆ มากขึ้น ปีนี้สิ่งที่จะทำก็คือเราจะทำให้มันแตกต่าง และต้องการจะโกยผู้ชมที่อยู่นอกเหนือจากกลุ่มแฟนนางงามเข้ามาด้วย ทำให้สัมผัสง่าย เข้าถึงง่าย ขยายกลุ่มตลาดมากขึ้น”
เล่นใหญ่จัดหนัก แค่ต้องการสนองความต้องการตัวเอง ไม่ได้อยากแข่งกับใคร
“ถามว่าแค่การประกวดระดับจังหวัด แต่ทำไมถึงเล่นใหญ่ระดับประเทศขนาดนี้ จริงๆ คือฟินไม่ได้คิดว่ามันเป็นจังหวัด อำเภอ หรือประเทศนะ เพียงแต่เรามีโอกาสครั้งนึงที่มายืนอยู่ตรงนี้ คนที่เป็นแฟนนางงาม ถ้ามีโอกาสครั้งนึงก็อยากจะทำให้มันดีที่สุด และเราก็ไม่รู้ปีหน้าจะเจอเรื่องราวหรือปัจจัยอะไรที่ทำให้เราต้องเบนเข็มไปทางอื่นหรือเปล่า ก็เลยตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด เพื่อที่วันนึงจะไม่เสียดายถ้าวันนึงเรามองย้อนกลับมาและรู้สึกว่าเต็มที่แล้ว ทำดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว ถามว่าเราแข่งกับอะไร ก็น่าจะตอบสนองความต้องการของตัวเองด้วย กับการที่ถ้าเรามีโอกาสสักครั้งนึงจะทำให้มันเป็นแบบไหน และแข่งว่าคนอื่นเขาแฮปปี้กับผลงานของเราไหม
ทุกๆ ครั้งที่ฟีนจัดงาน ฟีนจะกลับไปย้อนดูว่าใครพูดกันยังไงบ้างเกี่ยวกับงานของเรา ไม่ได้ซีเรียสเลยว่าคนจะมองเรายังไง แต่ซีเรียสว่าผลงานเราดีพอหรือยัง เราไม่ได้ต้องการมาเอาชนะเพื่อเอา Best PD เพราะมันได้แล้ว อีกอย่างเรามองว่าคนที่ตั้งใจทำงาน น่าจะมีโอกาสที่จะได้รับมัน ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสของคนอื่นแล้วในปีนี้ แต่วันนี้เรามาทำตรงนี้เพื่ออยากให้มันดีที่สุดในชาเลนจ์ของตัวเอง ในมาตรฐานของตัวเองที่จะไปได้ขนาดไหน”
เซอร์ไพรส์เวที “มิสแกรนด์พะเยา” เล่นใหญ่ จน “บอสณวัฒน์” ยังปวดหัว
“จริงๆ จุดมุ่งหมายไม่เหมือนกัน จุดมุ่งหมายที่เราตั้งธงไว้สำหรับการทำนางงามคือการเสิร์ฟอาหารที่แฟนนางงามชอบ ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้นมาก่อน แต่ในส่วนของเขาก็จะเป็นในรูปแบบของเขา อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้คิดว่าปีนี้จะมาเอารางวัลอะไร แต่เราทำตามฝันที่เราอยากทำ และอยากร่วมเป็นส่วนหนี่งในการทำเพื่อสังคมบ้าง แต่ถามว่าแข่งไหม ก็แข่งค่ะ ในเรื่องของแฟนนางงามจะต้องเปรียบเทียบ แต่มันไม่ใช่เป้าหมายของเราที่จะเอาชนะใคร เพราะเป้าหมายของเราอยู่ที่ตัวเราเอง
แต่วันนั้นที่เราไปร่วมงานก็ยอมรับว่าเซอร์ไพรส์นะ วันนั้นนั่งข้างบอส บอสก็บอกว่าเราไม่ต้องซีเรียสนะ เพราะตอนนี้บอสเครียดมาก (ยิ้ม) คือมันเกินสเกลของจังหวัดไปเยอะ โดยที่เราก็ไม่คิดว่าเราจะไปเกินขนาดนั้น เรามองตัวเองนะ ไม่ได้คิดว่าจะต้องยิ่งใหญ่กว่าใคร แต่เรารู้ตัวเองว่าเราทำได้แค่ไหน เราก็แค่ทำให้ดีที่สุดในมาตรฐานของตัวเองก็พอ บอสก็บอกว่าผมก็นั่งไม่ติดเก้าอี้แล้วนะ (หัวเราะ) บอสพูดแบบนี้จริงๆ เขาบอกว่านี่มันยิ่งใหญ่ แต่อย่างที่เคยได้ยินจากบอส คือบอสจะไม่จ้างศิลปินอยู่แล้ว เพราะเขาคิดว่าจะทำให้คนเบี่ยงเบนความสนใจไปหาศิลปิน เราต้องการให้นางงามเป็นหลัก เพราะฉะนั้นตรงนี้น่าจะทำอะไรบอสไม่ได้ เพราะโปรดักชั่นบอสก็ที่หนึ่งอยู่แล้ว
แต่ถามว่าทำอะไรเราได้ไหม เราพูดอย่างนี้ว่าทำไมคนจัดระดับจังหวัดจะต้องไปมองหาศิลปิน ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเราไม่ได้เป็นที่สนใจของคนทั่วไป เราเป็นแค่ระดับจังหวัด ซึ่งคนมองว่าจังหวัดแล้วไง ไม่เคยดูด้วยซ้ำ ไปดูประเทศเลยทีเดียว ก็เลยทำให้ทีม PD. ส่วนใหญ่จะต้องหาศิลปินเข้ามา เพื่อจะหาคนมาดู ดึงคนมาสนใจ แต่ถ้าวันนี้เราทำให้รู้สึกว่ามันอิมแพคในตัวของเราเอง บางทีไม่ต้องพึ่งศิลปินก็ได้ เพราะตัวนางงามเราก็เป็นที่รู้จักพอสมควรอยู่แล้ว บางทีนางงามมีคนติดตามมากกว่าศิลปินบางคนด้วยซ้ำ”
บอกจะไม่ใช้ศิลปินมาเพื่อบังแสงนางงาม
“จริงๆ เราก็ใช้ศิลปินมาดึงการตลาดเหมือนกันนะ ต้องยอมรับว่าเราต้องการให้กลุ่มคนที่ติดตามมากขึ้น เราก็ใช้ศิลปิน แต่เราจะไม่ให้ศิลปินมาบดบังแสงนางงาม อย่างปีที่แล้วไม่ว่าจะเป็นกรู๊ฟไรเดอร์ส หรือคุณโต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร เราจะเอามาเสริมให้นางงามดูเด่นขึ้น เอามาร่วมกิจกรรมกับนางงาม เพื่อเอาคนที่สนใจมารู้จักกับนางงามมากขึ้น”
สำหรับปีนี้เราก็ประกาศไปแล้วว่ามีศิลปินใครบ้าง เรียบร้อยแล้วค่ะ ของเรามาแน่ค่ะ และมีการชำระมัดจำแล้วเรียบร้อย คอนเฟิร์มรูปว่าศิลปินให้ใช้รูปไหนเรียบร้อย (หัวเราะ) ในวันที่ 15 รอบมิสแกรนด์กรุงเทพมหานคร โจทย์เป็นความหรูหรา ลักชูรี่ ก็จะใช้ศิลปินที่รู้สึกว่าเข้ากับธีมของเรา ก็คือคุณตู่ ภพธร ส่วนรอบของกรุงเทพมหานคร เราตีโจทย์เป็นความสนุกสนาน ความตื่นเต้นน่าสนใจ ก็จะเป็นวงเพอร์เซส (PERSES) ซึ่งเป็นวงวัยรุ่นที่กำลังมาแรงตอนนี้ และมีเพอร์ฟอร์แมนซ์ในการเต้นที่เทียบเท่าวงเกาหลีเลย ก็อยากจะสนับสนุน T-POP”
ไม่คิดจะจัดงานใหญ่เพื่อแข่งกับใคร แค่ชนะเป้าหมายตัวเองก็พอแล้ว
“ถามว่าพอเห็นเขาจัดสเกลใหญ่แล้ว เราจะปรับของเราให้ใหญ่ขึ้นไหม ก็ไม่นะ เราตั้งธงไว้ตรงไหนก็คงเท่านั้น แต่ไม่ทำให้แฟนนางงามผิดหวังในมาตรฐานของเราก็พอ เพราะเราต้องรู้ตัวว่าเราเป็นได้แค่ไหน เราก็ไปแค่นั้น พูดตรงๆ ว่าเหตุผลที่มา จุดประสงค์ เป้าหมายมันต้องไปด้วยกัน ไม่มีเหตุผลเพื่อจะเอาชนะใคร ซึ่งวันนี้ถ้ามันครบแล้วเราก็พอใจแล้วค่ะ เสียงตอบรับจากแฟนๆ นางงามกับทุกงานของเรา เราว่าหลายๆ คนก็มีการเปรียบเทียบเรากับเวทีระดับประเทศ ก็มองว่าถ้าคนพูดถึงเราในมุมนั้น ก็แสดงว่าเรามีมาตรฐานมากพอที่จะไปเปรียบเทียบกับทีมระดับประเทศ
ฉะนั้นวันนี้เราก็มองว่าได้ปรับมาตรฐานของเวทีระดับจังหวัดแล้ว เรานำเสนอมาตรฐานใหม่ในการประกวดระดับจังหวัด เพื่อซัปพอร์ตวงการนางงามจริงๆ ดูแลเรื่องดีไซเนอร์ ผู้อยู่เบื้องหลัง มีรางวัลสำหรับพี่เลี้ยง การดูแลสังคม ซึ่งเราก็มองทุกด้านที่ซัปพอร์ตเกี่ยวกับวงการนางงามจริงๆ และการขยายฐานคนดู คิดว่าน่าจะตอบโจทย์แล้วกับสิ่งที่ทำมาในปีนี้ ก็ไม่มีอะไรจะต้องเสียดายแล้ว เหลือแต่ไฟนอลทำให้มันดีที่สุด และพอได้คนมงฯ แล้ว จะทำยังไงให้เขาดังที่สุด ป๊อปที่สุด มีงานมากที่สุด”
ไม่คิดหาคนเทียบ “อิงฟ้า” เพราะ 10 ปีจะมีสักคน แต่ก็จะดันคนที่ได้มงฯ ให้ดีที่สุด
“เมื่อกี้ฟังเขาพูดเกี่ยวกับคนไร้บ้าน อันนี้ได้ใจเลยนะ คือทุกคนมีคุณค่าของตัวเองในรูปแบบที่ต่างไป ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้ดังเท่าอิงฟ้า แล้วเราจะไม่มีคุณค่า ทุกคนก็มีคุณค่าของตัวเอง เพราะฉะนั้นเราจะดึงคุณค่าของคนๆ นั้นที่เราได้มา ไปพัฒนาศักยภาพให้เขาไกลที่สุด นี่คือการตั้งธง พูดตรงๆ ว่าถ้าเราต้องการเป็นอิงฟ้า คนอย่างอิงฟ้า 10 ปีจะมีสักคน เราก็จะไปให้ไกลที่สุดแหละ แต่ต้องโดนการเปรียบเทียบ อันนี้ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเอง เราจะไม่ด้อยค่าใครเลย แต่ในวันไฟนอลของเราจะมีอิงฟ้า วราหะมาเป็นกรรมการพิเศษแน่นอนค่ะ และที่คอนเฟิร์มไปก็จะมีคุณโก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยาค่ะ
แต่ถ้าถามว่าที่ทำมาทั้งหมดได้กำไรไหม ไม่ได้ค่ะ (หัวเราะ) แต่ปีที่แล้วสิ่งที่เราได้ก็คือโปรไฟล์ที่มันยิ่งใหญ่มาก ที่เงินใช้ไม่ได้เลยนะ เงินซื้อไม่ได้เลย ไม่ว่าจะทำรอบต่อไป มีคนพร้อมเอาเงินมาสนับสนุน ปีนี้มีคนสนับสนุนแล้ว 12 ล้าน ซึ่งใช้เกินไปแล้วเรียบร้อย เกินสเกลความเป็นจังหวัดไปแล้ว แต่ ณ ปัจจุบันก็จะเห็นว่าหลายๆ จังหวัดก็เกิน 10 ล้านกันเยอะ ก็แค่รู้สึกว่าโปรไฟล์ที่คนบอกว่าเราพูดแล้วไม่หาร พูดจริงทำจริง ทำได้จริงในทุกคำที่พูดและยิ่งใหญ่ เป็นโปรไฟล์ที่เงินซื้อไม่ได้ ส่วนปีนี้เราก็จะต่อยอด วันนี้เราอาจจะไม่ได้เงินจากการประกวด แต่อาจจะได้จากศิลปินสักคนที่จะไปต่อยอดให้เราได้”
เผยเหตุที่เปลี่ยนใจเซ็นสัญญากับสระบุรีต่อ ถึงจะขาดทุน เพราะโปรไฟล์เป็นสิ่งที่ซื้อด้วยเงินไม่ได้
“ที่เปลี่ยนใจมาต่อสัญญากับสระบุรี เพราะจริงๆ ในปีที่แล้วทำให้เรารู้สึกว่าสระบุรีเป็นจังหวัดที่หาสปอนเซอร์ยาก อีกปีนึงถ้าไปในแนวทางเดิมเราก็อาจจะเหนื่อย เรื่องการตลาดยอมรับว่าเหนื่อย คู่ค้าโอเคซัปพอร์ตเรา แต่ในส่วนของจังหวัดก็เหนื่อยหน่อย เพราะไม่ใช่จังหวัดใหญ่ ถ้าเราได้อีกจังหวัดนึงที่มันยิ่งใหญ่และทำให้เราอิมแพคมากขึ้นในการที่จะมีผู้สนใจหรือการหาสปอนเซอร์ก็เป็นเรื่องที่ดี ทำให้เราต่อยอดได้ และสามีก็สนับสนุน สามีเป็นคนเซ็นต่อลิขสิทธิ์ โดยที่ไม่บอกเราด้วย (หัวเราะ) ก็เลยคิดว่าถ้าครอบครัวให้การสนับสนุน ก็ไม่ทำให้เราเหนื่อยกับการที่ต้องลงทุนมากเกินไป ก็น่าจะต่อกับการเก็บดอกออกผลที่เราตั้งใจในปีที่แล้ว
ปีที่บอกเลยว่าขาดทุนค่ะ ขาดทุนเยอะมาก แต่ถ้ามองถึงเรื่องโปรไฟล์ เราได้กำไรมาก มีผู้ติดตามเราเพิ่มขึ้นจากการดูไลฟ์สด คนขึ้นหลักพัน จากปกติพันกว่าขึ้นเป็นสามพัน เราได้รายได้จากการขายของ เงินมันย้อนไปอีกทางนึงกลับมาหาตัวเราเอง และไม่ว่าตอนนี้เราทำอะไรก็มีคนสนับสนุน ซึ่งนี่แหละคือโปรไฟล์ที่เราได้จากปีที่แล้ว และคนเชื่อมั่นในตัวเรา ถามว่าถ้าเราทำได้ขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ซื้อลิขสิทธิ์เวทีนางงามมาทำเอง เรามองว่าการที่จะสั่งสมชื่อเสียงมิสแกรนด์มาได้ขนาดนี้ พี่ณวัฒน์ใช้เวลา 10 ปีนะคะ แล้วเราเพิ่งมาปีเดียว จะกล้าดียังไงที่จะขึ้นไปแบบนั้น คือกว่าจะไปถึงขนาดนั้นเขาต้องทุ่มเทแค่ไหน เสียสละมากแค่ไหน เราก็รู้ว่าแรกๆ มิสแกรนด์ก็สู้มาก เราก็เลยคิดว่าเขาปูทางและมอบชื่อเสียงให้เราไปสานต่อดีแล้ว
แต่เรื่องจะต่อยอดเอ็นเตอร์เทนเมนต์เนี่ย อันนี้ขออุบเป็นความลับก่อน แต่คิดไว้แล้วเรียบร้อย อาจจะเป็นเรื่องของการจัดคอนเสิร์ต อาจจะเป็นเรื่องของการต่อยอดหาศิลปินเพิ่มเติมเกี่ยวกับต่างประเทศด้วย อันนี้คือสิ่งที่คิดไว้ตั้งแต่แรกของปีนี้ ตั้งธงเป็น T-POP ก่อนที่พี่ณวัฒน์จะพูดแล้วว่าเราจะหาศิลปิน พอเราประกาศออดิชั่นศิลปินไป พี่ณวัฒน์ก็ออกมาพูดวันต่อมาว่าเราต้องการ T-POP ก็เลยตอบโจทย์สิ่งที่เราจะทำอยู่แล้ว ก็ได้ต่อยอดกัน”