ผู้เสียหายไม่เอากลับ! กระเช้าดอกไม้ขอขมาจาก “แก้ม” ร้านลูกไก่ทอง-ปังชา ร่ำไห้ครวญบ้าเรื่องลิขสิทธิ์ จนกลับมาทำร้ายตัวเอง

“แก้ม” เจ้าของร้านลูกไก่ทองและปังชา เผชิญหน้า 3 ผู้เสียหาย เผยร่ำไห้จนไม่มีน้ำตาแล้ว ยกสิ่งศักดิ์มาอ้างพูดความจริง ขอโทษทุกคน ยันไม่เคยคิดจะเอาเงินจริงๆ แต่เป็นเพราะบ้าเรื่องลิขสิทธิ์ จนกลับมาทำร้ายตัวเอง ยันรูปวาดมาจากตัวเอง แต่ได้รับแรงบันดาลใจจากปฏิทินรีเจนซี่ ก่อนหอบกระเช้าขอขมาผู้เสียหาย สุดท้ายไม่มีใครเอากลับสักคน

กรณีดรามา ร้านลูกไก่ทองและปังชา ได้ไปจดลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้า ก่อนยื่นโนติสร้านปังชา จ.เชียงราย ขู่จะเรียกค่าเสียหาย 102 ล้าน คิดค่าปรับวันละหมื่น อีกร้านคือ “ทางช้างเผือก” ที่จ.สงขลา โดนขู่จะเรียกเงิน 7 แสน จนทำเอาร้านต่างๆ แตกตื่น กลายเป็นทัวร์ไปลงร้านลูกไก่ทองเอง

รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 1 ก.ย. 66 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้สัมภาษณ์ แก้ม เจ้าของร้านลูกไก่ทอง , นิว เจ้าของร้านปังชา จ.เชียงราย, แตงกวา เจ้าของร้านทางช้างเผือก จ.สงขลา, นุ๊ก - มายด์ เจ้าของร้านและหุ้นส่วนตั้งใจชง  , อรรณพ บุญสว่าง ทนายความคุณแก้ม เจ้าของร้านลูกไก่ทอง , ทักษอร สมบูรณ์ทรัพย์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมายกรมทรัพย์สินทางปัญญา

คุณโดนโนติสไปเท่าไหร่?
นิว : 102 ล้านครับ

โนติสเหมือนใบเตือนจากสำนักงานกฎหมาย ที่เขาส่งไปว่าคุณห้ามทำแบบนี้ๆ ห้ามละเมิดแบบนี้ ไม่งั้นต้องจ่ายเงินเท่านี้ๆ คุณโดนยังไง?
นิว : บอกว่าผมใช้ชื่อร้านว่าปังชา แล้วมีเมนูน้ำแข็งใสชื่อว่าปังชาในร้าน เรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาท หากเพิกเฉยจะปรับวันละหมื่น เพิกเฉยคือไม่เอาป้ายออกจะปรับวันละหมื่น ผมโดนตั้งแต่ 21 ก.ค.

คุณเอาลงเลยมั้ย?
นิว : ผมมีสองร้านครับ ร้านนึงหลังได้โนติส 2-3 วัน ผมก็ทำการเปลี่ยนชื่อ เหลือร้านนึงที่ยังไม่ได้เปลี่ยนครับ

คุณเปิดร้านมากี่ปีแล้ว?
นิว : ปลายปี 64 ครับ ประมาณสองปี

ทำไมใช้ชื่อนี้?
นิว : ตอนแรกที่เปิดร้าน เมนูแรกที่ขายคือขนมปังปิ้ง แล้วก็น้ำชา ก็เลยเรียกว่าปังชา แล้วก็มีปังเย็น เป็นน้ำปั่นราดบนขนมปัง ตัวนี้เหมือนปังเย็นขอหวย มีเลขข้างบน

ที่น่าสนใจ คำว่าชาไทย 49 บาท นั่นแสดงว่าลักษณะที่คุณขาย มีน้ำแข็งใส ชาไทยราดด้วย?
นิว : ใช่ครับ มีนมชมพู โกโก้ ชาไทย มีนมสด

พอเขาแจ้งมา ความเดือดร้อนของคุณเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
นิว : หลังจากได้รับ ก็นอนไม่หลับเลยครับ

จะเลิกกับเมีย?
นิว : ผมกลัวว่าสุดท้ายถ้าโดนฟ้องล้มละลาย ไม่อยากให้ครอบครัวมาเกี่ยวด้วย

ก็เลยจะหย่ากับเมียซะ?
นิว : ใช่ครับ ให้เราโดนคนเดียว

มีอะไรก็จะได้ขอรับหน้าคนเดียว แล้วยังไงต่อ?
นิว : หลังจากเริ่มเป็นข่าว ยังไม่ได้หย่าครับ ตอนแรกมีแผนจะหย่า ก็เกือบไปแล้วครับ

คุณได้ติดต่อกลับไปหาเขามั้ย?
นิว : ไม่ได้ติดต่อครับ ลองสอบถามทนาย ทนายอยู่ระหว่างศึกษาว่าเราผิดหรือเราถูกยังไง ก็เลยไม่ได้ติดต่อไป

ที่ปรึกษาทางกฎหมายคุณติดต่อไปทางไหน?
นิว : ตอนเริ่มๆ เป็นทนายที่อยู่ที่เชียงราย เขาขอดูข้อกฎหมายเพราะมันเป็นเฉพาะทาง ซึ่งทางโน้นจะยังไม่ค่อยมีเรื่องแบบนี้ เลยไม่ชำนาญ

จากนั้นพูดคุยกับทางคุณโลมา เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย และส่งทนายมาให้ วันนี้สบายใจขึ้นมั้ย?
นิว : สบายใจขึ้นครับ เดี๋ยวเรื่องกฎหมายพี่โลมาจะจัดการเองครับ

โดน 102 ล้าน เขาบอกถ้าไม่ทำ เขาจะปรับ หรือจะปรับเลย?
นิว : ถ้าเพิกเฉยจะนับไปอีกวันละหมื่นๆ

นี่ฟ้องเหนือจดใต้ “แตงกวา” อยู่สงขลา โดนยังไง?
แตงกวา : ของแตงกวาจะมีคำว่าปังชาอยู่ในกล่องไฟหน้าร้าน ซึ่งไม่ได้เป็นชื่อร้าน ไม่ได้เป็นป้ายร้านด้วย เพราะร้านชื่อทางช้างเผือก ปังชาสำหรับเรา เรามองว่าเป็นคำย่อให้มันสั้นๆ คือขนมปังกับชาไทย เพราะมีเมนูนี้ แต่ในเมนูเราไม่ได้ใช้คำนี้ เราใช้คำว่าขนมปังชาไทย

มีขนมปัง ชาไทย แล้วมีท็อปปิ้ง ไม่ได้เป็นน้ำแข็งใส ไม่ได้ใช้จานเหมือนเขาด้วย ถ้วยก็ไม่มี มีแค่ป้ายเท่านั้นเอง โดนเท่าไหร่?
แตงกวา : จุดเดียว 7 แสนค่ะ

พอได้รับตกใจมั้ย?
แตงกวา : ตกใจค่ะ จริงๆ กวาเพิ่งเปิดได้ไม่ถึงเดือน แล้วได้โนติสมา เปิดวันที่ 8 ก.ค. วันที่ 27 เอกสารมาเลยค่ะ

ไม่ถึง 20 วัน แล้วเปลี่ยนป้ายออกมั้ย?
แตงกวา : ก็ลอกสติ๊กเกอร์ปังชาออกค่ะ เหลือแค่นมสด ขนมปังปิ้งค่ะ

เราได้แจ้งเขามั้ยว่าเราดึงออกแล้ว?
แตงกวา : ในเอกสารถ้าเราไม่ติดต่อกลับไป หรือโทรกลับใน 7 วัน เขาจะปรับวันละ 1 หมื่นบาทเพิ่มเติมจาก 7 แสน เราก็ทำจดหมายตอบกลับไป เขาให้เราทำจดหมายไปขอโทษ และขอโทษผ่านสื่อ แต่ก่อนขอโทษให้ส่งจดหมายไปให้เขาตรวจทานก่อน แต่ในจดหมายที่เราส่งไป เราไม่ทันได้ขอโทษนะคะ เราแค่ชี้แจงว่าเราไม่มีเจตนาลอกเลียนแบบแค่นั้น

เขามีการตอบกลับมามั้ย?
แตงกวา : ไม่มีค่ะ ก็เงียบไป ไม่มีการตอบกลับ ไม่มีการโทรมา

คุณนุ๊กโดนอะไร?
นุ๊ก : วัสดุที่อยู่ตรงหน้าค่ะ ของนุ๊กเขาส่งโนติสมาวันที่ 28 เม.ย.ตามจดหมายนะคะ แล้วบอกว่าให้รบกวนเอาผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะแบบนี้ออกให้หมด รวมถึงรูปภาพที่เป็นแบบนี้ลบทิ้งทุกอย่าง

เขาเห็นว่าอันนี้เหมือนวัสดุของเขา เขาเลยบอกว่าถ้วยนี้ใช้ไม่ได้ พอใส่น้ำแข็งใส ก็โดนเลย โดนตั้งแต่ตอนไหน?
นุ๊ก : 28 เม.ย. นุ๊กเพิ่งรีโนเวตร้าน เพราะปิดไปช่วงโควิด เพิ่งมารีโนเวตช่วยก.พ. แล้วก็โดนเลย โดนเม.ย.

คุณโดน 2 ล้าน เนื่องจากใช้วัสดุแบบนี้ซึ่งเขาไปจดแจ้งไว้ว่าของเขาเป็นออริจินัล เป็นเครื่องหมายการค้าของเขา แต่ของเขาสี่เหลี่ยมทองๆ ของคุณสามเหลี่ยม แต่พอใส่น้ำแข็งใสลงไป ตั้งชื่อว่าอะไร?
นุ๊ก : ปังหนาว

มีคำว่าปังชาอยู่ในร้านมั้ย?
นุ๊ก : ไม่มีค่ะ

มีแค่ถ้วยนี้ ที่เขาบอกว่าเหมือนของเขา ถ้วยนี้ซื้อมาจากไหน?
นุ๊ก : จตุจักรค่ะ ซื้อมาน่าจะเกือบ 10 ปีแล้ว มันนานมากจนจำไม่ได้แล้วค่ะ

มายด์ : ประมาณ 8-9 ปีที่แล้ว เราปิดช่วงโควิด และรีโนเวตเดือนก.พ. เราก็ใช้วัสดุเดิมที่เรายังใช้ได้อยู่ค่ะ

จากนั้นคุณทำยังไง?
นุ๊ก : พอโดนปุ๊บเราก็งงว่าจากไหน ด้วยความสงสัยก็โทรหาตามเบอร์ที่ทนายบอกว่าให้ติดต่อได้ เราโทรไป เขาก็แจ้งว่ามันเหมือนร้านเขา ทำให้คนเข้าใจผิดว่าร้านเขามาอยู่ตรงนี้ด้วย ให้เอาวัสดุที่ใช้เหมือนเขาเอาออกไปให้หมดเลย รวมถึงภาพที่คุณโพสต์ลบทิ้งให้หมดแล้วส่งจดหมายมา ว่าคุณได้ทำตามที่เราคุยตามจดหมาย และจะไม่มีการเรียกร้อง 2 ล้าน

ทำมั้ย?
นุ๊ก : ทำค่ะ เพราะตกใจ

มายด์ : พอเราโดนจดหมาย เราก็ปรึกษาผู้ที่รู้กฎหมายว่าจะทำยังไงดี แต่เขาก็ไม่ได้แม่นยำเรื่องสิทธิบัตรหรือการออกแบบลวดลายต่างๆ เราก็เลยตกลงกันว่าโอเค งั้นเราตัดปัญหาดีกว่า เพราะเราเป็นร้านเล็กๆ เราไม่อยากมีปัญหา อีกวันเราก็ไปซื้อใหม่หมดเลย

จนมีข่าวนี้ออกมา เราคิดว่าเราควรออกมาทวงสิทธิ์บ้าง?
นุ๊ก : ไม่ ตอนแรกจะโพสต์แบบขำๆ ว่าฉันโดนมาแล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นกระแส ทำให้เราได้มาอยู่ตรงโหนกระแส

มายด์ : ตอนที่ออกข่าว เรายังคุยกันอยู่ในร้านว่าเอ๊ะ แล้วแบบนี้ร้านเราจะใช้คำว่าปังชาได้หรือเปล่า มันคล้ายคลึงกันเรื่องรูปร่าง

ตอนนี้ไก่ทองประกาศเลยว่าเขาไม่เกี่ยว?
อรรณพ : ไม่เกี่ยว

เขาตัดหางปล่อยวัดหรือยังไง?
อรรณพ : ก็ต้องชัดเจนว่าคนละส่วนกัน

ตอนนี้ทัวร์ไปลงที่ไก่ทองด้วย ซวยเลย?
อรรณพ : ครับ เลยต้องออกมาชี้แจงนี่แหละครับ

วันนี้คุณแก้มต้องการให้เชิญผู้เสียหายทุกคนมาในรายการเพื่อขอโทษ แต่อยู่ดีๆ แกไม่สบายซะงั้น ส่งคุณทนายมาแทน คุณทนายว่าไง?
อรรณพ : ก็ต้องยอมรับว่ามีการออกจดหมายเตือนหรือโนติสไปจริง ก็ต้องแสดงความเสียใจและขอโทษ สิ่งที่สื่อสารออกไป มันไปทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าทางบริษัทไปห้ามไม่ให้ผู้หนึ่งผู้ใดประกอบอาชีพหนึ่งอาชีพใดซ้กันไปซ้ำกันมา ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เข้าใจกันผิด เพราะเราเองได้รับความคุ้มครอง ตามแนวทางกฎหมาย เรื่องพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า ซึ่งเราจดจำแนก จำพวก เกี่ยวกับอาหาร จำพวกของหวาน ชานม นม หรือไอศกรีม เกี่ยวกับบริการ ทำนองนั้น ดังนั้นเมื่อมีกิจการในลักษณะที่ใช้ชื่อว่ามีการบริการ ในชนิดจำพวกเดียวกัน เราจึงจำเป็นต้องมีการเตือนกันว่า มีเจตนาที่จะทำให้เหมือนหรือซ้ำหรือคล้ายกับของเรา จนผู้อื่นหรือคนทั่วไปเข้าใจผิดว่าเป็นร้านนึงของเราหรือเปล่า ดังนั้นการเดินตามกฎหมายเราจำเป็นต้องเดินไปตามความคุ้มครองที่กฎหมายมี แต่ว่าการสื่อสารจนมีปัญหาลุกลามว่าจะไปตัดทางทำมาหากินผู้หนึ่งผู้ใดไม่ได้ จะขายน้ำแข็งใสไม่ได้ จริงๆ กฎหมายไม่ได้มุ่งหมายขนาดนั้น

มันมีคนพูดว่า โอ้โห โคตรใจดำเลย เข้าใจว่าต้องการเตือน แต่เขามองว่าพอเตือนแบบนี้เหมือนเชิงบังคับ ข่มขู่ ถ้าไม่เลิกใช้
โดนนะ แล้วเขาต้องทำยังไง เพราะคำว่าปังชา มันน่าจะเป็นคำสามัญ แล้วอยู่ๆ ไปท้วงติงเขาได้ยังไง?
อรรณพ : จริงๆ แล้วที่เราจดได้ เพราะเราไม่ได้สื่อในลักษณะที่ให้เห็นเฉพาะว่าปังชาต้องเป็นขนมปัง และชานม ชาเย็นอะไรแบบนั้น แต่ปังชาในความหมายของเราอ้างอิงจดได้ มันไม่มีความหมาย มันคือปังชา ซึ่งไม่ได้มีความหมายบ่งชี้ในสินค้าชนิดหนึ่งชนิดใด ลักษณะต้องเป็นขนมปังและชา ปังชาอาจเป็นเสียงกระแทกดังปังแล้วตัวชาทั้งตัวก็เกิดขึ้นไปแล้ว ผมต้องยืนยันว่าคำว่าปังชาที่อยู่ในเครื่องหมายการค้าของเรา ในกิจการของเรา ในสิ่งที่บริษัทจดและได้รับมา มันก็ถูกคุ้มครองโดยกฎหมาย และผมเองก็ยืนยันว่าอยากให้ทุกคนมีเครื่องหมายการค้าของตัวเองในสินค้าของตัวเอง และมีการพัฒนาแบรนด์และต่อยอดแบรนด์

คำว่าปังชาไม่ได้เป็นคำสามัญเหรอ?
อรรณพ : ในเจตนาที่เราไปจด เราไม่มีคำว่าขนมปัง จดไม่ได้ แต่ปังชาจดได้ เพราะมีการยื่นคำขอไว้นานแล้ว ตอนแรกต้องสละสิทธิ์ว่าทุกคนใช้ได้ จนวันนึงเราใช้จนเป็นที่แพร่หลาย ด้วยแบรนด์นี้ ด้วยการให้บริการ ด้วยสินค้านี้ ถูกใช้จนแพร่หลาย

คุณไปจดปังชา ฉะนั้นคุณจะบอกว่าคนอื่นใช้คำนี้ไม่ได้เลยเหรอ?
อรรณพ : ถ้าเจตนาให้ผู้คนสับสนว่าเป็นกิจการเดียวกัน ไม่ได้ครับ อันนี้กฎหมายพื้นฐาน

อย่างเขาเปิดร้านปังชา ทำให้สับสนยังไง?
อรรณพ : ก็ชื่อซ้ำครับ เราจดชื่อปังชา แล้วมาตรา 4 บอกว่าถ้าเป็นลักษณะรูปร่าง รูปทรง วัสดุ เสียง หรือหลายๆ อย่างที่ออกเสียงแบบนี้ ก็อยู่ที่การตีความ ที่เราต้องออกหนังสือ

อย่างนี้เขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง ร้านเขาขายขนมปังกับชาเฉยๆ อย่างร้านทางช้างเผือก แค่นี้ก็ไม่ได้เหรอ?
อรรณพ : มันเป็นเหตุให้เราต้องคุยกัน

แต่คุณส่งโนติสไปเลย เขาต้องเสียขวัญ?
อรรณพ : ตรงนั้นผมเสียใจและต้องขอโทษจริงๆ ทางบริษัทก็รู้สึกเสียใจ แต่ด้วยความคุ้มครองตามกฎหมายเราก็ต้องเดินตามกฎหมายจริงๆ ว่าถ้าเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิด อันนี้เราเสียใจ เราขอโทษ

อันนี้คือพลาดจริงๆ?
อรรณพ : เป็นการสื่อสารที่ไม่สมควรทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม ต้องยอมรับ

เคลียร์นะ ร้านนี้ยอมรับว่าผิด?
อรรณพ : ยอมรับครับ

แล้วร้านนี้ล่ะ ร้านปังชาเชียงราย?
อรรณพ : อันนี้ก็ยอมรับถ้าทำให้เกิดความไม่สบายใจ แต่เราต้องคุยกันว่าถ้าเขาไม่ได้มีเจตนาทำให้บุคคลสับสน ทำธุรกิจต่อไปครับ

มุมข้อกฎหมาย คุณส่งโนติสไปเฉยๆ ได้มั้ย ว่าขออนุญาตนะ เราได้จดสิทธิบัตรเอาไว้ ขอให้ติดต่อกลับมาหาเราก่อน ไม่ต้องใส่ตัวเงิน แบบนี้เขาอาจไปคุยกันได้ แต่อันนี้เหมือนถ้ายังใช้อยู่ คุณโดน 102 ล้านนะ เขาก็กลัวไง?
อรรณพ : จดหมายฉบับต้นๆ มันไม่ได้มีเนื้อความรุนแรงขนาดนั้น มันไปหลายฉบับแล้ว

ไปหลายฉบับมั้ย?
นิว : ไม่มีครับ

อรรณพ : ไม่เป็นไรครับ ผมก็น้อมรับเรื่องปัญหา ถ้าคุณยืนยันว่าไม่มี แต่ผมยืนยันว่าเคยมีไปก่อน แล้วบางทีบางรายอาจไม่ได้มาออก เราก็มีการโทร ถ้าเราสามารถติดต่อได้

ฝั่งน้องนุ๊กน้องมายด์ ทำไมถ้วยแบบนี้ถึงไม่ได้?
อรรณพ : ถ้วยนี้เป็นอีกเรื่องนึงครับ เมื่อกี้เราคุยกันเรื่องเครื่องหมายการค้า ถ้วยเป็นเรื่องสิทธิบัตรการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ รูปแบบผลิตภัณฑ์ มันคนละเรื่อง

เป็นคนคิดค้นขึ้นมา หมายถึงยังไง?
อรรณพ : ออกแบบผลิตภัณฑ์ ออกแบบภาชนะนี่แหละ

ของคุณสี่มุม แต่นี่มันสาม?
อรรณพ : การคุ้มครองสิทธิบัตร ถ้ามีลักษณะอันหนึ่งอันใดซึ่งทำให้มองแล้วคล้ายว่าเป็นการเลียนแบบ ไม่ได้ครับ

ขนาดนั้นเลยเหรอ?
อรรณพ : เดี๋ยวต้องให้ทางกรมชี้แจง

ผมว่านี่เป็นช่องว่างทางกฎหมาย กรมทรัพย์สินทางปัญหาต้องพิจารณาเลยนะ ไม่อย่างนั้นมันทำให้ประชาชนคนไทยที่เขาทำมาหากินยากไร้ กลายเป็นคนมีสิทธิ์ในการคิดได้ก่อน ไปจดก่อน มันพูดลำบาก?
อรรณพ : การบังคับใช้กฎหมายมันลำบากใจครับ จริงๆ แล้ววันนี้ผมไม่ได้อยากมาพูดเรื่องกฎหมาย ไม่ได้อยากใช้กฎหมาย อยากให้ความเป็นคนคุยกัน แต่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องพูดกันว่าเมื่อกฎหมายวางแนวทางไว้แบบนี้ และเราอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน เราก็ต้องเชื้อเชิญให้ไปช่วยกันจดในแบรนด์คุณกันเอง

ดูถ้วยที่เขาขาย นี่บอกว่าคิดค้นนะ แล้วดูถ้วยที่คนอื่นเขาขาย เขาก็มี คนไทยก็ซื้อมาเหมือนกัน ไปคิดค้นยังไงเหมือนกันขนาดนี้ ทำยังไง คนอื่นเขาก็มีนะ จะบอกว่าคิดค้นเองก็ไม่น่าใช้ เพราะมีคนอื่นทำ ทนายมองยังไง?
อรรณพ : ผมมองว่าในการตีความเขามีข้อความว่าคล้ายกันจนทำให้สับสนในความเป็นเจ้าของและแหล่งกำเนิดของผลิตภัณฑ์ มันมีความคล้ายครับ

ผมยังมองไม่ออกเลย สายตาคนมองก็รู้ว่าไม่เหมือน แต่เราอนุมานว่ามันคล้ายก็ได้?
อรรณพ : เราก็ต้องโปรเทคในสิ่งที่เราได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย แต่อย่างที่เรียน ถ้าทำให้สังคมเกิดความวุ่นวายว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ผมเองก็ต้องน้อมรับในสิ่งที่หน่วยงานราชการเขาชี้แจงเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าจะดื้อ

กรมทรัพย์สินทางปัญญา ตกลงเรื่องนี้มันยังไง?
ทักษอร : จริงๆ เรื่องปังชา มีทรัพย์สินทางปัญญาหลายตัวมากที่เกี่ยวข้อง เอาให้ง่ายที่สุด คือเครื่องหมายการค้าคือตัวที่เอาไปแปะที่ตัวสินค้าและบริการ เพื่อบอกว่าอันนี้เป็นของๆ ใคร ใครเป็นคนผลิต ใครเป็นเจ้าของ โดยหลักตัวเครื่องหมายการค้าเองต้องไม่มีคำหรือข้อความที่เป็นคำอธิบายตัวสินค้านั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นการอธิบายว่าสินค้าที่ติดอยู่คือสินค้าอะไร หรือคุณสมบัติแบบไหน ใช้แล้วสวย ใช้แล้วขาว หรืออธิบายว่าผู้ใช้งานต้องเป็นใคร อะไรก็ตามที่เป็นการอธิบายถึงตัวสินค้าและบริการ เขาเรียกว่าคำที่เล็งถึงสินค้าและบริการ คำนั้นต้องสละออกจากเครื่องหมายการค้า เพราะคนอื่นที่เขาขายของอย่างอื่นเดียวกัน เขาก็ต้องมีสิทธิ์ในการอธิบายคำนี้เช่นเดียวกัน การที่เครื่องหมายการค้าหนึ่งเครื่องหมาย มีการจดในภาพรวม เราให้ความคุ้มครองเป๊ะๆ แบบนั้นเลย ไม่สามารถดึงส่วนใดส่วนหนึ่งออกมาอ้างสิทธิ์ได้ ต้องไปทั้งรูปและคำที่ประกอบอยู่ด้วยกัน ผลของการสละสิทธิ์คำใดคำหนึ่ง ยกตัวอย่างปังชา หมายความว่าเขาไม่สามารถหวงปังชาไว้แต่เพียงผู้เดียว จริงๆ ในมุมคำว่าปังชา ทางกรมเองไม่ได้มองว่าเป็นคำสามัญ เพราะเราไม่ได้ดูว่าคนจดมีเจตนายังไงด้วยนะ เราดูว่าผู้บริโภคเห็นแล้วเข้าใจว่ายังไง เราคิดว่าเราเป็นผู้บริโภค เห็นคำนี้แล้วมองแบบไหน เรามองปุ๊บเราก็นึกถึงคำว่าขนมปังบวกชา แล้วสินค้าที่เขาขายในร้านเป็นน้ำแข็งใสแล้วใส่ชาไทย เราก็มองว่ามันเป็นคำที่เล็งถึงสินค้าและบริการ เราเลยให้เขาสละออก

จะบอกว่าคำว่าปังชาไม่มีความหมายในตอนแรก?
ทักษอร : ปังชาคือขนมปังบวกชา แต่โดยปังชาของมันเอง มันไม่มีความหมาย แต่เวลาเราดู เราไม่ได้ดูแบบนั้น เราดูเอาส่วนใดส่วนหนึ่งของคำที่มีความหมายมาประกอบกันแล้วคนอ่านแล้วเข้าใจถึงสินค้า คำนี้ต้องสละเช่นเดียวกัน สังเกตว่าในส่วนเครื่องหมายการค้าที่เขาจดได้ คำขอทั้งหมดมี 9 คำขอ ทุกคำขอมีการสละคำว่าปังชา หรือไม่ก็สละแต่คำว่าชา และคำอื่นๆ ที่อธิบายทั่วไป เช่นคำว่าชาดังไกลระดับโลก เป็นคำอธิบายทั่วไป หรือเดอะเบสต์ ไทย ที ก็เป็นคำอธิบายทั่วไป เราให้สละหมดเลย แต่คำขอที่เป็นประเด็นและคนสงสัยมากที่สุด คือคำขอหมายเลข 7 เขาไม่ได้สละคำว่าปังชา ก่อนหน้านั้นเคยยื่นมาแล้วในปี 61 คือสละสิทธิ์คำว่าปังชาด้านบน จุดแตกต่างคือเขายื่นมาใหม่ในปี 65 เขามีการบอกว่าเขามีการนำสืบเพิ่มเติมว่าเขาได้ใช้เครื่องหมายการค้าแบบนี้ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน พอสมควรเลย มีเอกสารหลักฐานมาให้เราเยอะเลย เพื่อบอกว่าผู้บริโภคเห็นโลโก้ตัวนี้ เขาไม่ได้นึกถึงปังชาที่เป็นเมนูขนมหรือของที่เขาขาย เห็นแล้วใครๆ ก็รู้ว่านี่คือเครื่องหมายการค้าของลูกไก่ทอง ตามกฎหมายแล้ว มาตรา 7 วรรค 3 ก็จะเขียนไว้ว่าถ้าเครื่องหมายการค้าสามารถนำสืบได้ว่ามีการใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานพอสมควร ก็สามารถรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแบบนี้ได้โดยไม่ต้องสละสิทธิ์คำว่าปังชา แต่ผลของการรับจดเครื่องหมายการค้าภาพรวมก็ต้องดูเช่นกัน สิ่งที่เขาคือคำว่าปังชา บวกตัว G ที่เป็นเหมือนรูปไก่ และข้างล่างเขียนว่าเดอะเบสต์ ไทย ที เขาต้องไปทั้งหมด

แยกคำไม่ได้?
ทักษอร : ใช่ค่ะ เขาไม่สามารถดึงเฉพาะคำว่าปังชาออกไปใช้ได้ ครั้งนี้ไม่สละสิทธิ์ไม่ได้หมายถึงคุณมีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว มันเลยอาจเป็นความคลาดเคลื่อนของเจ้าของ ที่เขาเข้าใจด้วยตัวเองว่าทุกครั้งสละสิทธิ์หมดเลย แต่คราวนี้ไม่ได้สละสิทธิ์ เขาเลยคิดเอาว่าเขาคงได้คำว่าปังชา แต่จริงๆ ตอนเราจดทะเบียน เราอธิบายทุกครั้งกับผู้ประกอบการว่าเขาได้ไปแบบไหน ย้ำเสมอว่าเวลาจดเครื่องหมายการค้าได้ยังไง ขอให้ใช้แบบนั้น ไม่มีการดึงส่วนใดส่วนหนึ่งออกไปอ้างสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว

เพราะฉะนั้นยืนยันว่าปังชา ใช้ได้?
ทักษอร : ปังชาโดดๆ ใช้ได้ ขอแค่อย่ามาวางประกบตัว G ในลักษณะแบบนี้ หรือเครื่องหมายการค้าอื่นที่เขาได้ในภาพรวมค่ะ

ยืนยันชัดเจนจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ถ้าปังชาโดดๆ pang cha คำนี้ใช้ได้ ปังชา ใช้ได้ อันนี้ยืนยันชัดเจน แต่เจ้าของร้านเข้าใจคลาดเคลื่อนไปเอง เพราะคิดว่าจดอันนี้แล้วเขาไม่ได้สละ ก็เลยคิดว่าปังชาเป็นของเขา ก็เลยมีการไปยื่นโนติส ถือว่าไม่ถูก?
ทักษอร : ไม่ถูก เพราะถือว่าเขาไม่ได้ใช้สิทธิ์ตามเครื่องหมายที่เราให้ไป

เพราะถ้าเกิดเขาใช้มีไก่ด้วย เดอะเบสต์ด้วย อันนี้ไม่ได้?
ทักษอร : ใช่ค่ะ และต้องใช้กับสินค้าหรือบริการที่เหมือนกันด้วยนะคะ เขาจดกับร้านอาหาร เข้าใจว่าขนมปังหรือไอศกรีม ถ้าเป็นสินค้าหรือบริการในกลุ่มนี้ ก็ใช้โลโก้ มีคำว่าปังชาประกบ หรือมีตัวอะไรหน้าตาคล้ายไก่ ทำให้ผู้บริโภคเห็นแล้วสับสนหลงผิด ผู้บริโภคเห็นแล้วงงๆ เข้าผิดร้าน เราดูความสับสนหลงผิดของผู้บริโภคด้วยค่ะ

แต่เขาจดตัวไก่ไว้ด้วยมั้ย?
ทักษอร : ตัว G อย่างเดียวจริงๆ จดได้ เพราะตัว G เป็นประดิษฐ์แล้ว ถ้า G เฉยๆ ไม่ได้

ถ้าเหมือน G ตัวนี้ กับ G ของเกษร ใครเลียนแบบใคร?
ทักษอร : ตัว G เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ การที่เขาประดิษฐ์หางประดิษฐ์การวนอะไรทั้งหมดคือเขาประดิษฐ์แล้ว เขาได้ไปแบบเป๊ะๆ แบบที่เขาจด

เอาคำว่าปังชา pang cha ใช้ได้เลยเต็มที่ เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากทางร้านเอง ไม่โดนแล้ว แฮปปี้มั้ย?
นิว : แฮปปี้ครับ

ยอมรับนะ?
อรรณพ : ต้องยอมรับสิครับ เราปกป้องตามสิทธิ์เรา ที่เราเข้าใจว่าถูกละเมิด แต่เมื่อมีการเคลียร์กันแล้ว ชี้กันแล้ว ต้องจบ ผู้บริหารเองก็จบมาหลายวันแล้วว่ายินยอมให้ใช้

ก่อนจบ ก็เกือบจบชีวิตแล้ว?
อรรณพ : ต้องยอมรับว่าความผิดพลาด ผิดก็ยอมรับ แก้ไข แก้ปัญหา และเคลียร์กับทางกรม

ถ้าไปต้องไปทั้งก้อน นั่นหมายความว่าคุณจะฟ้องเขาได้ ร้านอื่นต้องเอากลมๆ เป็นไข่ไปแปะตราแบบนี้ นั่นคือคุณผิด ใช้ไม่ได้ แต่ถ้าแยกคำว่าปังชาออกมา กรมทรัพย์สินทางปัญญาบอกว่าคุณอย่าเข้าใจผิด คำนี้ที่ให้คุณไป ที่จดได้ เพราะเราให้คุณทั้งก้อนแบบนี้ไป จะแยกคำออกมาไม่ได้ ฉะนั้นถ้าชาวบ้านเอาคำว่าปังชา ภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษไปใช้ก็ได้ ไม่ผิดอะไร แต่ถ้าเอาทั้งก้อนไปนี่คือผิดแน่นอน หรือตัว G ที่เป็นกุ๊กไก่ ถ้าคุณเอาไปปรับ ไม่ใช่กุ๊กไก่ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าปรับเป็นกุ๊กไก่แบบนี้?
ทักษอร : ต้องมานั่งดูอีกทีว่าละเมิดหรือไม่ละเมิด

เกษรวิลเลจเขาน่าจะมาก่อนทางนี้ด้วย ถือว่าคล้ายมั้ย?
ทักษอร : มันต้องเทียบสินค้าและบริการที่จดด้วยค่ะ เกษรเป็นการคุ้มครองประเภทห้างสรรพสินค้า อันนี้เป็นขนมหรือบริการร้านอาหาร บางทีอาจไม่ได้คาบเกี่ยวกัน ก็อาจไม่ได้เอามาดูชนเทียบกันว่ามันเหมือนมั้ย

ทนายมีอะไรคัดค้านมั้ย?
อรรณพ : ไม่ครับ ทุกอย่างขอให้สังคมเข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง ก็ต้องให้ชัดเจนครับ มันก็สร้างความสบายใจให้กับฝ่ายเราด้วย

ทักษอร : เรื่องนี้จริงๆ ไม่ใช่เคสที่ง่ายที่จะนำสืบได้ อย่างเครื่องหมายการค้าอย่างโออิชิ รสดี เบสท์ฟู้ด ทำไมเขาจดได้ เพราะเขาให้เงื่อนไขว่าถ้าคุณใช้เวลาต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน จนคนรู้ว่านี่คือเครื่องหมายการค้า คุณจดได้ แต่ต้องเป๊ะๆ นะคะ ต้องเขียนอย่างนั้นเป๊ะเลย จะกลับหัวกลับหาง เปลี่ยนสี เอาอะไรอื่นๆ มาประกอบไม่ได้ แต่อย่างปังชาที่จดได้ ตอนเขายื่น เขายื่นว่าเขาใช้แบบนี้ ไม่ได้ยื่นว่าใช้คำว่าปังชาเฉยๆ ฉะนั้นสิ่งที่กรมให้ไม่มีทางที่จะให้เฉพาะคำว่าปังชาเฉยๆ เพราะเขาบอกว่าเขาใช้แบบเป็นวงกลมแบบนี้มา

เหมือนกรณีน้ำมันองุ่น?
ทักษอร : องุ่นจริงๆ มันเป็นคำทั่วไป คำสามัญเลย ชื่อของผลไม้อย่างนึง ถ้าไม่ใช่กับผลไม้ก็ใช้ได้ เหมือนแอปเปิ้ล ทำไมมือถือถึงใช้ได้ น้ำมันองุ่นก็คนละเรื่องเลย เพราะฉะนั้นเขาถึงได้จดได้ อย่างปังชาถ้าใช้กับยางรถยนต์อาจไม่ต้องสละแล้ว เพราะไม่เกี่ยวกัน อันนี้เป็นต้น ถ้าน้ำมันอันอื่นใช้คำว่าองุ่นเหมือนกัน อันนี้แน่นอน ไม่ต้องสืบเลย มันละเมิดแน่นอน เพราะเครื่องหมายการค้าเป็นชื่อองุ่นเพื่อทำน้ำมันพืช แล้วเราดูสินค้าที่ใกล้เคียงกันด้วย อย่างเช่น น้ำมันเครื่องกับน้ำมันรถ อาจเป็นของเหลวเหมือนกัน ก็มีโอกาสที่จะทำให้มองว่าสับสนหลงผิดเช่นเดียวกันได้ค่ะ

ทนาย มีคนบอกว่าอยากให้ทนายช่วยถอนคำพูดว่ายินยอมให้ด้วยค่ะ?
อรรณพ : จริงๆ คำว่าถอนหรือไม่ถอน เราปรับความเข้าใจตรงกันก่อนดีกว่าว่าเรามาเพื่อทำความเข้าใจกัน ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจละเมิดเรา

อาจใช้คำว่ายินยอมไม่ได้ เพราะตามกฎเขาใช้ได้อยู่แล้ว?
อรรณพ : โอเคครับ ตกลงตามนั้นครับ เราอยากเคลียร์เรื่องนี้ให้เข้าใจตรงกันทั้งสังคม คำว่าปังชาทุกคนมีสิทธิ์ใช้ เพราะไม่ได้สื่อถึงสิ่งที่เราละเมิดกัน

ทั้งหมดเรียกว่าถ้วย เป็นภาชนะเอาไว้ใส่น้ำแข็งใส การที่เราไปจด เขาเรียกว่า?
ทักษอร : สิทธิบัตรออกแบบผลิตภัณฑ์ค่ะ

ร้านตั้งใจชงบอกว่าของเธอใช้สามเหลี่ยม ของเขาใช้สี่เหลี่ยม เขาบอกว่าเขาคิดมาเอง แบบนี้ใช้ไม่ได้เหรอ?
ทักษอร : เงื่อนไขสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ ต้องเป็นแบบผลิตภัณฑ์ใหม่คือไม่เคยปรากฏมาก่อน ณ วันที่เขายื่นคำขอ และสิทธิ์ที่ได้ คือเราให้สิทธิ์คุณแค่ไหน คุณมีสิทธิ์แบบนั้นเป๊ะๆ อย่างกรณีถ้วยไอศกรีมที่เขาจดเอาไว้ มันเป็นรูปทรงตรงปลายสี่เหลี่ยม ขาตรงๆ ลงมา ฉะนั้นอันนี้เป็นสามเหลี่ยม แต่เขาเป็นสี่เหลี่ยม ถ้าแบบนี้มันต่างกัน

แสดงว่าใช้ได้?
อรรณพ : อยากให้อธิบายคำว่าคล้ายกันจนเกิดความสับสน

ทักษอร : เหมือนกันในสาระสำคัญ เหมือนกันเป๊ะ แต่ส่วนรายละเอียดประกอบอาจต่างกัน ยกตัวอย่างถ้าเป็นตัวชามด้านบน สี่เหลี่ยมเหมือนกันเลย องศาพอๆ กันเลย ลักษณะการจีบใกล้เคียงกันมาก แต่ขาต่าง อย่างนั้นอาจมองว่าคล้ายจนเป็นการเลียนแบบ แต่ต้องเหมือนกันจริงๆ แต่อย่างนี้มันไม่เหมือนกันตั้งแต่ตัวปากแล้ว ถาดรับไดร์ไอซ์ก็ไม่มี ส่วนของขา อันนี้ม้วนเข้า ของเขาม้วนออก อาจมองเป็นรายละเอียดได้ มันหลายจุดมาก ที่มีความแตกต่าง ไม่เหมือนหรือคล้าย

ถ้าใครไปหาซื้อถ้วยพวกนี้มาขาย ถ้าโดนลูกไก่ทองหรือปังชาไปเรียกร้องว่าไม่ได้ ทางฝั่งทักษอรบอกว่าก็สามารถเอาไปเปรียบเทียบได้เลยว่าเหมือนมั้ย?
ทักษอร : โนติสที่ดีต้องเคลมว่าตัวเองเป็นเจ้าของสิทธิ์ยังไง แต่เรื่องรูปแบบการส่งโนติสไม่มีมาตรฐานทางกฎหมาย มีแต่ดุมาก ดุน้อย ดุปานกลาง เฟรนด์ลี่ เข้าใจว่าแบบที่ส่งไปเรียกว่าดุ พอได้โนติสไปให้เอามาดูเทียบกันว่าเหมือนมั้ย อย่างทางคุณนุ๊กก็บอกว่าไม่เหมือน พี่หนุ่มดูก็บอกว่าไม่เหมือน จริงๆ เวลาเราดูว่าเหมือนไม่เหมือน เราก็ใช้ดุลยพินิจสามัญแบบนี้แหละ เพราะเวลาไปถึงศาล ศาลก็ทำเหมือนอยู่ในท้องตลาดทั่วไป ดูว่ามันคล้ายหรือเจตนาหรือไม่ เบื้องต้นเทียบก่อน ถ้าไม่สบายใจโทรมาปรึกษากรมได้ ตอนนี้ผู้บริหารก็มีความกังวล กรมโทรไปหาทุกเจ้า ยกเว้นน้องแตงกวา เพราะกลัวว่าจะกังวลว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า สุดท้ายถ้ามันสุ่มเสี่ยงจริงๆ เราก็มีกระบวนการระงับข้อพิพาท มาคุยกันได้ เราเชิญสองฝ่ายมาพูดคุยกัน เราอาจจบโดยสันติ โดยไม่ต้องเสียค่าอะไร

ถือว่าใช้ได้ จบ?
อรรณพ : ก็เป็นเรื่องที่สังคมต้องทราบ ตามนั้น

ถือว่าผิดพลาดเหมือนกัน?
อรรณพ : เราปกป้องสิทธิ์ตามที่เราเข้าใจว่าเราถูกละเมิด แต่การคุยกัน ก็จะเห็นว่าเราไม่ได้ฟ้อง เราเป็นโนติส เมื่อคุยกันแล้วเกิดความสบายใจ เรามีข้อยุติ เราก็ไม่ได้ฟ้องกันจริงๆ เมื่อกรมออกมาบอกว่าเมื่อมีข้อพิพาทเช่นที่ว่านี้ ไม่ว่ากับแบรนด์อื่น หรือผลิตภัณฑ์สิทธิบัตรเช่นนี้ หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด กรมเป็นเจ้าภาพ ผมว่าทุกอย่างก็ชัดเจนตามนี้ เมื่อคนกลางบอกว่าไม่ได้มีจุดคล้าย สองฝ่ายต้องยอมรับ ไม่งั้นบ้านเมืองไม่สงบสุข เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องพากันไปขึ้นศาล แล้วมันได้อะไรขึ้นมา

เราก็น่าจะไปตรวจสอบก่อนยื่น?
อรรณพ : เรื่องนี้ผิดก็ไม่โทษใคร ก็ต้องยอมรับและแก้ไข

อดีตผมโดนคำว่ามอนสเตอร์ ตั้งแต่ปี 58 ผมโดนคำว่า monster เขาไปจดทั้งกระบิแบบนี้เลยนะ ผมเองก็เป็นไอซ์ มอนสเตอร์ ผมก็โดนโนติสยื่นฟ้องเหมือนกัน มอนสเตอร์ของเขาลักษณะเดียวกันเลย เพราะเป็นโลโก้เขาที่ทำขึ้นมา วันนึงผมถูกฟ้อง เขาบอกว่าเขาใช้มาก่อน แต่วันนี้เขาปิดไปแล้ว ผมก็ให้เขาไปซื้อสิทธิ์คำนี้มา แล้วคนอื่นจะเอาไปใช้ก็ได้ เราไม่เคยไปว่าอะไรใคร อยากให้มองกันแบบนี้?
อรรณพ : ผมก็มองในลักษณะเช่นว่าการมีเครื่องหมายการค้า ส่งเสริมอัตลักษณ์ บ่งชี้ความเป็นตัวคุณ ทุกคนควรมี ทุกคนควรเดินตามกรอบ ไม่ได้บอกว่าเป็นของใครแล้วเกิดปัญหา แล้วให้จบไป ผมคิดว่าการพัฒนาสินค้าและบริการทุกคนควรเดินตามเครื่องหมายการค้ากันทุกคนครับ

เรื่องภาพ เปรียบเทียบปฏิทินรีเจนซี่ ข้างขวาเป็นภาพลายเส้นปังชา ทนายอยากตอบเองหรือให้คุณแก้มมาตอบ?
อรรณพ : ภาพนี้มาจากการนำภาพคุณแก้มไปวาดเป็นภาพวาด

กรณีแบบนี้ร้านเล็กๆ กลับไปฟ้องคุณได้มั้ย?
อรรณพ : จริงๆ เราใช้สิทธิ์ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า ที่เราอ้างว่าเราถูกละเมิด ดังนั้นเจตนาเราก็สุจริตครับ

คุณโลมา ที่ปรึกษาทางกฎหมาย เอาไง เขาสามารถฟ้องกลับได้มั้ย?
โลมา : กำลังรวบรวมฎีกาและดูในหลายๆ มาตรา เราก็ปรึกษาทนายหลายท่าน ที่บริษัทมีทนายเกือบ 10 ท่าน ถนัดในด้านต่างๆ เมื่อคุณทนายบอกว่าคิดว่าใช้สิทธิ์โดยสุจริต ทางเราก็เชื่อว่าเราก็มีสิทธิ์ใช้สิทธิ์โดยสุจริตเหมือนกัน กรณีที่เราคิดว่าเราถูกละเมิด หรือถูกใช้สิทธิ์โดยไม่สุจริต จริงๆ วันนี้ทั้งหมดที่มาอยากเห็นว่ามีความจริงใจแค่ไหนในการขอโทษหรือเยียวยา ทั้งเชียงราย และสงขลา แต่ถ้ามาแบบนี้ ถ้ารู้สึกว่าไม่จริงใจเพียงพอ เราก็อาจต้องใช้สิทธิ์ของเราเหมือนกัน ต่างคนต่างใช้สิทธิ์ ให้ศาลตัดสิน

คุณแก้ม เจ้าของร้านลูกไก่ทองและปังชา ออกจากรพ.มารายการ?
แก้ม : (ยกมือไหว้) ด้วยบารมีแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย พ่อขุนเม็งราย พี่ไม่โกหก ด้วยบารมีองค์หลวงปู่ทวด ที่พี่ก็ไปไหว้พระ พี่ขออโหสิกรรม ขอโทษ ในสิ่งที่พี่ทำ โดยพี่เอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พี่นับถือและไหว้มาโดยตลอด พี่ไม่ได้เฟก พ่อขุนเม็งราย องค์พระโพธิสัตว์ พระแม่กวนอิม ถ้าท่านฟังอยู่ ลูกขออภัย ขอขมา (เสียงสั่นเครือ) กับน้องๆ ที่นี่ ทั้งทางใต้ สงขลา หากความผิดพลาดที่พี่ทำ ด้วยความตั้งใจในการสร้างแบรนด์ สร้างแบรนด์เพื่อประเทศไทย ไม่ใช่เพื่อตัวเองคนเดียว แล้วทำให้น้องๆ มีความทุกข์ ทำให้พี่มีความทุกข์ พี่ขอรับผิดเพียงคนเดียว 

ไม่มีอะไรจะกล่าวมากไปกว่านี้ค่ะ แล้วสิ่งที่พี่ทำทั้งหมด ไม่ได้ต้องการทำร้ายคนรวยหรือคนจน พี่ทำงานมาด้วยเงิน 8 พันตั้งแต่เริ่มต้น พี่อยากสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน ให้คุณค่ากับการออกแบบเครื่องหมายการค้า (ร้องไห้) พี่เชื่อมั่นในแบรนด์ที่มาจากภูมิปัญญาที่ใครหลายๆ คนมองข้าม วันที่พี่ไปจดสิทธิบัตรทกอย่าง พี่มองแค่ว่าวันนึงต่างชาติต้องเอาชาไทยของเราไป เหมือนต้มยำกุ้ง พี่ทำตั้งแต่ปี 57 ไปเสิร์จดูที่กรมได้ค่ะ มีข้อมูลของแก้มทั้งหมด ด้วยความศรัทธา ไม่ได้จะเอาไปแกล้งน้องๆ 

แต่พี่รู้ว่าทุกคนต้องมีเครื่องหมายการค้าของตนเอง งั้นพี่จะทำธุรกิจได้อย่างไร ไม่ว่าจะร้านกาแฟถุง กาแฟชาชัก บ้านพี่ก็โตกับคุณยายที่ทำชาขายแค่ 15 บาท ยายทำน้ำตาลสด พี่มองตั้งแต่วันนั้นว่าจะทำยังไงให้คุณค่าเครื่องดื่มไทยมีคุณค่า พี่พูดจากใจจริงที่สุด วันนึงมีโอกาสได้แต่งงาน แฟนทำอาหาร ก็คิดว่ามันมาถูกทางแล้ว ก็เลยทำทุกอย่างเพื่อจดแบรนด์ เพื่อจะได้เป็นแบบอย่าง การจดสิทธิบัตรเป็นการเรียนรู้จากต่างประเทศทั้งนั้น แต่ไม่ได้ทำมาเพื่อทำร้ายใคร การจดลิขสิทธิ์ถึงวันนี้พี่โดนก็ขอให้เป็นแบบอย่าง ลิขสิทธิ์สำคัญทุกอย่าง ถ้าวันนี้จะโดนทุกอย่างก็ขอให้เป็นบทเรียนในความผิดของพี่ (ร้องไห้) 

แต่ขอให้ทุกคนเห็นความสำคัญของสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า (ร้องไห้) ที่วันนี้ถ้วยของพี่ที่ขึ้นอยู่ในเพจที่ต่างชาติเอาไป แต่วันนี้ทุกคนบอกว่าพี่ก็อปปี้มา ด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย (ร้องไห้) และคุณต๊อบบอกแก้มเองการจดสิทธิบัตรกว่าจะได้มา มันต้องออกแบบจากภูมิปัญญา การที่เจ้าหน้าที่เซ็น คุณต้องให้ค่าเจ้าหน้าที่เซ็นด้วย แสดงว่าเขาตรวจสอบทุกอย่างหมดแล้ว ดังนั้นวันนี้ที่พี่มา อยากขอโทษน้องๆ แต่พี่ขอเรียกร้องสิทธิ์ของประเทศไทย ถ้วยทองเหลืองตัวนั้นทุกคนใช้ได้เลยค่ะ ให้คนไทยใช้ทั้งหมด 

แต่สิ่งหนึ่งที่เมื่อกี้ออกข่าวแล้วแก้มช้ำมาก ร้องไห้จนไม่มีน้ำตามา 3 วันแล้ว คือถ้วยใบนั้นเป็นงานทองเหลืองของไทย ที่กว่าคนไทยจะตีมันได้ หล่อมันได้ พี่เห็น พี่ไปโรงงานที่จตุจักร แล้วก็บอกว่าต้องผลิตแบบนี้นะพี่ ต้องยกขอบแบบนี้นะ ต้องมีขาสิ ทุกอย่างออกแบบจากแก้มเองจริงๆ แม้แต่ถ้วยกลมๆ แก้มดึงมาจากถ้วยน้ำพริกของพี่อุ๊ที่อยู่ในร้านนั้น แล้วเอามาตัดต่อ เชื่อมต่อ แก้มคุยกับทีมช่าง คุยทุกอย่าง แก้มก็มั่นใจว่ามาจากภูมิปัญญา พี่ไม่สามารถทำธุรกิจมาจากการก็อปปี้ แล้ววันนี้สิ่งที่เห็นขึ้นบนเว็บถ้วยใบนั้นถูกไปอยู่กับคนต่างชาติแล้ว

ตอนแรกผมคิดว่าคุณจะไม่มาแล้ว?
แก้ม : มาค่ะ แก้มต้องเข้มแข้ง ตอนนี้แก้มต้องเป็นผู้หญิงเข้มแข็ง เพราะแก้มมีลูกน้องอีกหลายคน (ปิดหน้าร้องไห้) แก้มไม่เข้าใจเลยว่าสิ่งที่แก้มทำไปทั้งหมดคือการทำลายน้องๆ พี่ขอโทษทุกคนจริงๆ (ร้องไห้)
 
ตกลงเรื่องรูปคุณไปเลียนแบบรีเจนซี่เขามาหรือเปล่า?
แก้ม : ขอถามพี่ๆ ทุกคนที่อยู่ในออนไลน์ (ร้องไห้) โลโก้ปังชาพี่คิดว่ารูปนี้เป็นรูปใครคะ

ก็เป็นรูปลายเส้น มองไม่ออกหรอก?
แก้ม : มองว่าเป็นรูปที่ก็อปมาใช่มั้ยคะ แก้มจ้างน้องออกแบบวาดภาพค่ะ จ้างบริษัทค่ะ ซึ่งแก้มบอกว่าแก้มชอบแบบที่เป็นลวดลายไทย ให้น้องหางานหัตกรรมหญิงไทยมา ซึ่งวันนั้นน้องหาแบบกันมา อาจเป็นแบบอันนี้ ซึ่ง ณ ตอนนั้นเราไม่รู้ แต่ลวดลายที่วาดเป็นแบบหญิงไทยที่พี่ชอบ เป็นชุดไทย หรือแบบบ่งบอกความเป็นไทย คล้ายๆ รีเจนซี่เลยก็ได้

น้องคนนั้นไปวาดแบบนี้เหรอ?
แก้ม : อันนี้หนูไม่ทราบค่ะ

ขวามือของคุณเปล่า?
อรรณพ : ขวามือของร้าน

มันเหมือนกันมาก แม้แต่ที่เสียบดอกรัก มันแทบก็อปออกมาเลย แต่คุณแก้มยืนยันว่าจ้างน้องคนนึงให้ออกแบบ?
แก้ม : ใช่ค่ะ ให้ออกแบบภาพลายหญิงไทย ให้สวยๆ ให้บ่งบอกถึงความเป็นไทย

ให้เหมือนรีเจนซี่?
แก้ม : แก้มบอกว่าแก้มชอบแบบแนวความเป็นไทย คล้ายรีเจนซี่ คอนเซ็ปต์ ไม่ใช่ก็อปปี้ค่ะ

อรรณพ : เราอ้างอิงว่าอยากได้คอนเซ็ปต์ในลักษณะเช่นนั้น เราไม่มีเจตนาจะก็อป

ภาพคุณแก้มที่ถ่ายมา แล้วเอาไปวาด?
แก้ม : ใช่ ที่แก้มถามกลับว่าภาพนี้มาจากไหน เราเห็นแล้วจากโซเชียล เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ทุกคนมีสิทธิ์คอมเมนต์ได้ แต่ตั้งใจจะมาพูดเอง ซึ่งรูปนี้ก็มาจากรูปแก้ม คนวาดก็วาดตามรูปแก้ม

การที่คุณพูดพอจะเก็ต คุณบอกให้ลูกน้องบอกว่าอยากได้ความเป็นไทยคล้ายรีเจนซี่?
แก้ม : ตอนที่บรีฟ บอกว่าความเป็นไทยแล้วสง่า น้องเขาถามว่าไทยแบบไหน ไทยมีตั้งหลายแบบ

อรรณพ : เป็นการสื่อสารให้เข้าใจแบบบ้านๆ ในห้องประชุม สิ่งที่สื่อสารว่าอยากได้

แก้ม : ไม่ได้บอกว่าไปเลียนแบบ

คุณบอกคนที่คุณจ้างขอความเป็นไทยคล้ายรีเจนซี่ แต่เขาเอารีเจนซี่มาเป็นต้นแบบ แล้วทำให้รูปคุณออกมาเป็นแบบนี้ คนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากไง คุณต้องไปเรียกเงินมันคืนมา เพราะกลายเป็นว่าต้นแบบคือรีเจนซี่?
แก้ม : มันมีคลิปที่แก้มไปถ่ายวิดีโอ วันที่แก้มถ่ายชุดนี้ แก้มมีถ่ายงาน มีการถ่ายตักขนม มันมาจากตรงนี้ เหมือนตักน้ำ ตักขนมถ่ายวิดีโอ ทำพรีเซนเทชั่น แล้วพี่ก็บรีฟไป

คุณยืนยันว่าไม่ได้ไปเลียนแบบใคร แต่เรฟเฟอร์เรนซ์ก็ไม่ได้ผิดอะไร ถูกมั้ย?
อรรณพ : ใช่

แก้ม : เป็นแรงบันดาลใจ ว่าเวลาเราพรีเซ็นต์งาน เอาไทยแบบไหน ไทยโบราณ ไม่ได้ก็อปเลยค่ะ

อรรณพ : เราเป็นแบรนด์ไทย เจตนาเราเป็นแบบนั้น ทุกวันนี้พอคนมองว่าผิดพลาดสักคนแล้วที่เหลือผิดหมด มองเป็นลบหมด ไม่ต้องทำอะไรแล้วคุณหนุ่ม ความผิดพลาดยอมรับแก้ไข แต่ไม่ใช่ผิดทุกอย่าง

แก้ม : จริงๆ ก่อนได้อันนี้ วันนั้นเป็นวันลอยกระทง แก้มไปลอยกระทงที่ไอคอนสยาม มีรูปมีหลักฐาน รูปที่แก้มนั่งลอยกระทง แล้วจับกระทง มันก็เกิดไอเดียค่ะ เราก็คิดว่าท่านี้ก็ดีนะ แค่นั้น

วันนี้คุณอยากบอกอะไรพวกเขาบ้าง?
แก้ม : ขอโทษก่อนนะคะ กราบขอโทษจริงๆ จริงๆ แล้วตอนแรกแก้มอยากไปหาคุณตั้งแต่ตอนแรก แก้มให้คุณต๊อบติดต่อไปก่อนประกาศอีก ให้แก้มเคลียร์กับน้องโนติสก่อนนะ ที่เชียงราย คุณต๊อบบอกว่ามีเบอร์ แก้มอยากคุยก่อนมีเรื่องแบบนี้อีก แต่ไม่มีโอกาส จากนั้นได้ติดต่อพี่หนุ่มหลายช่องทาง แก้มกราบขอโทษจริงๆ ที่วันนั้นทำให้พี่นอนไม่หลับ เพราะวันนี้แก้มก็นอนไม่หลับเหมือนกัน ไม่รู้จะพูดอะไร (ร้องไห้) คือแก้มผิดพลาด แก้มไม่เคยคิดทำร้ายพี่ พี่อยากให้แก้มทำยังไงพี่บอก ด้วยความจริงใจ (ยกมือไหว้)

จะช่วยเขาทุกอย่าง?
แก้ม : (พยักหน้า)

คุณอยากบอกอะไรเขา?
นิว : อยากจะถาม สมมติว่าไม่มีข่าวนี้เกิดขึ้น สมมติผมรับโนติสนั้นมาแล้ว ผมก็นำเงิน 102 ล้านไปจ่ายคุณ คุณจะรับเงินผมมั้ย

แก้ม : ไม่รับค่ะ ไม่รับเลยสักบาทค่ะ ด้วยสัจจะ ไม่เคยคิดรับเงินตั้งแต่โนติสเลย พี่จะเชื่อแก้มมั้ย ไม่เคยคิดรับ แก้มหาได้ แต่สิ่งที่ส่งโนติสเป็นเรื่องที่แก้มมองแค่เรื่องภูมิปัญญา การค้าเป็นอย่างนี้ แก้มมองน้อยไปหน่อย แก้มสาบาน พี่ไม่ต้องเชื่อแก้มก็ได้ ดูแก้มนานๆ ถ้าให้โอกาส แต่รู้สึกผิดที่เรื่องเป็นถึงขนาดพี่นอนไม่หลับแก้มคิดน้อยเกินไป จนวันนี้แก้มรู้สึกว่ามันใหญ่หลวงมาก แก้มนอนไม่หลับ ไม่ใช่แค่แก้ม ทุกคนพี่น้อง แล้วแก้มก็ป่วยจริงๆ

ถ้าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้น แก้มจะยื่นโนติสไปทุกร้านที่ใช้คำว่าปังชามั้ย?
แก้ม : ไม่ทุกร้านค่ะ

ทำไมต้องเป็นร้านนี้ ใครไปเห็นแล้วมาบอก?
แก้ม : ไม่เป็นไรค่ะ ความผิดทั้งหมดขอให้แก้มรับไว้คนเดียวค่ะพี่หนุ่ม

อยากบอกอะไรแตงกวา?
แก้ม : พี่ขอโทษจริงๆ พี่ไม่ได้คิดเอาเงินแม้แต่บาทเดียว ตอนนี้สิ่งที่พี่สามารถช่วยอะไรได้ ช่วยแรงบันดาลใจได้ หรืออะไรก็ได้ น้องบอกพี่ในความที่พี่ผิดพลาด พี่ไม่ได้อยากรังแกร้านเล็กๆ นี่เป็นความผิดของพี่โดยตรง ขอโทษ (ยกมือไหว้)

แตงกวา : โนติสที่ส่งมา มาจากทีมทนาย มีการรีเช็กหรือตรวจทานจากพี่มั้ย หรือจดหมายเป็นคำสั่งจากพี่เอง

แก้ม : ได้มาดูด้วยกันค่ะ

แตงกวา : ตัวเลขเอามาจากไหนคะ 7 แสน หรือ 102 ล้าน

แก้ม : ตัวเลขมองเรื่องสิทธิบัตร แบรนดิ้งอย่างเดียว การวิเคราะห์ที่มาจากสิ่งที่พี่เห็นจากต่างประเทศ อันนี้คือความผิดพลาด

แตงกวา : มีหลักการในการตั้งตัวเลขมั้ยคะ

แก้ม : หลักการในการตั้งตัวเลขพี่ไม่ได้ลงรายละเอียดลึกแบบนั้นค่ะ หลักๆ คืออย่างที่แก้มบอก มีการแจกแจกตัวเลข แต่ไม่อยากพูดรายการตรงนี้ สิ่งที่ตั้งใจตรงนั้นไม่ได้มองว่าเป็นสิ่งที่เราคิดจะเอาเลย

น้องโดนเรียก 7 แสนเขาก็เสียใจ ไปไม่ถูกเหมือนกัน เพิ่งเปิดร้าน เขาก็เครียด อีกท่าน คุณนุ๊กโดนไปเดือนเม.ย. อยากบอกอะไรมั้ย?
แก้ม : พี่ขอโทษจริงๆ ในสิ่งที่พี่ทำ (ยกมือไหว้)

นุ๊ก : นุ๊กรู้สึกว่าแบรนด์และแวลู่ของคุณแก้มสูงมากๆ แล้ว คุณแก้มมองไงว่าการที่ร้านนุ๊กมีแบบนี้แล้วจะทำให้คุณแก้มเสียหายยังไงคะ ถึงได้ส่งจดหมายมา

แก้ม : เวลาเราดู เราดูในมุมเรื่องเอกสาร สิทธิบัตรที่เรามี ซึ่งในประเทศไทย มีมุมนี้ในการให้ความรู้น้อย แต่สิ่งที่กระทบคือบางท่านทานแล้วปังชาหรือเปล่า พี่ตอบคำถามที่ลูกค้าถาม แค่นั้นเอง แต่ไม่ได้กระทบแบบนั้น แต่หลักๆ เกิดจากพี่วิเคราะห์เรื่องแบรนด์ เรื่องสิทธิบัตรที่เราให้คุณค่า ถ้าน้องถามกลับว่ามันทำให้น้องขายไม่ได้ พี่ก็ต้องขอโทษจริงๆ

มายด์ : อยากทราบที่พี่แก้มบอกว่าจะยื่นโนติส ต้องมีการพูดคุยกันก่อน ทำไมใส่เรื่องตัวเงินเข้ามาเลย ทำไมไม่พูดคุยกันก่อน เพราะแต่ละร้านค่อนข้างเป็นร้านเล็ก แต่แบรนด์พี่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักแล้ว ทำไมไม่มีการคุยกันก่อน

แก้ม : อันนี้เป็นความผิดของทางบริษัทเองค่ะ เจตนาอาจดูฟังแล้วไม่ขึ้นเท่าไหร่ แต่ตอนใบมาแล้วคุยกัน ทางด้านกฎหมายบอกว่าต้องใส่ตัวเลข ตัวเลขตัวนั้นก็ใส่อิงจากเอกสิทธิ์ทางนี้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับยอดขายอะไรเลย ดังนั้นเราอาจรู้น้อยไปว่ามันต้องใส่ตัวเลข แต่เขาถามแล้วว่าเจตนามีปรับมั้ย ไม่เคยคิดเลยค่ะ พี่มองจากสิทธิบัตร และภูมิปัญญา ที่แก้มให้ค่ามากๆ แต่ถ้ามันกระทบเพราะแก้มคิดน้อยเกินไป เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่มากค่ะ

มายด์ : ถ้าไม่เป็นข่าว มันจะเป็นยังไงต่อ ถ้าในความเป็นจริง

แก้ม : ตั้งแต่ส่งน้องไป เรามีปรับมั้ยคะ

มายด์ : เราก็เปลี่ยนเลย เพราะเราตกใจ

ถ้าเกิดส่งโนติสไปแล้ว แล้วเขายังใช้อยู่จะทำยังไงกับเขา?
แก้ม : ทุกวันนี้ที่ยื่นโนติสไปพี่ไม่เคยปรับเลย

ถ้าเขาไม่เอาออก ยังใช้ถ้วยนี้ต่อ จะฟ้องจริงมั้ย?
แก้ม : ไม่ค่ะ แค่ระงับให้เกิดการพูดุคุย

อรรณพ : พูดตอนนี้ก็อาจไม่มีคนเชื่อ

แก้ม : ตอนนี้หายใจยังผิด ขอแค่มาขอโทษน้องๆ พี่ๆ ทุกคน จังหวัดน้องๆ ทุกคน รายละเอียดไม่อยากคุยเลยนะ อยากมาขอโทษ แต่เรื่องฟ้องถึงศาลไม่มีทางค่ะ ไม่มีทางเกิดขึ้นเลย

ถ้าเขาจะฟ้องคุณบ้าง?
แก้ม : ยอมรับในสิ่งที่น้องตัดสินใจค่ะ

มีอะไรอยากเยียวยา ชดใช้ ชดเชยมั้ย?
แก้ม : ให้น้องบอกมาค่ะ นอกจากชดเชยแล้ว สำหรับพี่ พี่ยินดี ขอพูดด้วยความจริง ที่เขียนมากันว่าทำลายร้านเล็ก พี่บอกเลยพี่มาทำปังชาเพราะต้องการผลักดันให้ชาไทยมีคุณค่าและเป็นแบบอย่าง พี่ถึงบ้าเรื่องลิขสิทธิ์ สิทธิบัตรอะไรที่มันกลับมาทำร้ายตัวพี่เอง (ร้องไห้)

ต้องเลิกบ้าได้แล้ว?
แก้ม : วันนี้น้องไม่เห็นค่าของมัน จริงๆ สิทธิบัตรมันมีค่ามากนะ มันกี่อย่างของประเทศไทยแล้วที่ถูกออกไป

ตอนนี้คนไทยรู้ว่าสิทธิบัตรเป็นเรื่องสำคัญ แต่ประเด็นคือเหมือนดาบสองคมเหมือนกัน คมนึงมีคุณค่ามากสำหรับคนที่จด แต่อีกมุมเป็นดาบที่ไปฟันคนลำบากยากเข็น เราเองต้องแยกแยะก่อนเวลาไปยื่นโนติสใคร เขาลำบากมั้ย บางทีร้านแบบนี้ก็ไม่ใช่คู่แข่งของเรา เขาทำมาหากิน หาเงินเข้าบ้านเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย แต่ถ้ามีอีกร้านเปิดมาเหมือนร้านลูกไก่ทอง เราก็เข้าใจได้ เหมือนกัน เขาฟ้องพี่เรื่องมอนสเตอร์ ก็ซื้อแม่-เลย ใครจะใช้ก็ไม่ฟ้องกัน แต่ถ้าวันนึงมีคนมาเปิดเหมือนไอซ์มอนสเตอร์ก็อีกเรื่องนึง บริบทต้องพลิกแพลง นี่ด้วยความเป็นห่วงเลยต้องบอก?
แก้ม : ยินดีค่ะ เป็นเรื่องที่เราอาจอยู่ในกลุ่มที่เริ่มต้นธุรกิจมาแบบน้องๆ เราเห็น เราเริ่มต้นมาตั้งแต่ 8 พันบาท ถึงแม้ครอบครัวมีแต่เราอยากสร้าง เรามองว่าวันนึงไม่ให้ต่างชาติเอาของเราไป เราอาจคิดแบบนี้มากกว่า

แตงกวา : ถ้ามองเรื่องการเห็นค่าการจดลิขสิทธิ์ ตัวกวาเองก็ใส่ใจเรื่องนี้ ตัวกวาเองเคยทำธุรกิจตัวอื่นมาก่อน ก็จดลิขสิทธิ์มาเหมือนกัน แต่ไม่ได้ไปโฟกัสร้านอื่นๆ ตอนนั้นร้านเคยได้ออกรายการเหมือนกัน เราก็ภูมิใจในแบรนด์ของเราเหมือนกัน

ทุกคนเข้าใจอย่างที่คุณแก้มเข้าใจ?
แก้ม : หนูเข้าใจ หนูขอโทษจริงๆ ถ้าน้องจะให้เยียวยา ก็บอกได้ แต่ถ้าพี่จะช่วยเหลืออะไรได้ ในการสร้างร้าน พัฒนาแบรนด์ พี่จะเอาภูมิปัญญาที่พี่รู้และเอามาทำลายตัวเองในวันนี้ ก็ให้มาถามพี่ได้ค่ะ ให้พี่ไปช่วย อยากทำอะไรเพิ่มเติม ให้พี่ช่วยสอนอาหาร สอนภูมิปัญญาที่พี่มีให้น้องก็ได้ เพื่อเป็นการชดเชยและปั้นไปด้วยกัน ถ้าจะฟ้องแก้มแก้มก็ยินดีค่ะ

ทักษอร : ในฐานะคนกลาง เราเห็นผู้ประกอบการมาเยอะ ทั้งหมดเกิดจากความรัก อย่างคุณแก้มปั้นแบรนด์ตัวเองมา เขาก็รักของเขา แต่การใช้สิทธิ์มันอาจจะเกินไป วันนี้คิดว่าทุกท่านรู้แล้วแหละว่าสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาให้ได้แค่ไหน อาจต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้สิทธิ์ตัวเองไปบังคับใครด้วยเช่นกัน

คุณเตรียมอะไรมา?
แก้ม : ดอกไม้ค่ะ (มอบดอกไม้ให้ทุกคน)

ภายหลังจบรายการ พบว่าผู้เสียหายทั้งหมดไม่มีใครเอากระเช้าดอกไม้กลับไปด้วยสักราย ซึ่งทำให้โลกออนไลน์วิจารณ์กันสนั่น