“แอน จักรพงษ์” ย้ำชัด แค่เลื่อนวันนัดชำระหนี้ ไม่ได้หนีหาย บอกที่เกิดเหตุการณ์นี้เพราะกระแสเศรษฐกิจเงินเฟ้อจากทั่วโลก กระทบถึงกันไปหมด ทั้งๆ ที่ตนเตรียมการไว้หมดแล้ว แต่ก็เป็นเหตุการณ์ไม่คาดคิด ยืนยันผู้ถือหุ้นได้เงินจนครบแน่นอน และช่วงระหว่างนี้ก็จะได้ดอกเบี้ยไปด้วย พร้อมชวนนักลงทุนที่เก่งๆ มาร่วมทำงานด้วย มั่นใจจะรวยไปด้วยกัน
หลังจากกรณีที่มีข่าวว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ของนักธุรกิจสาวข้ามเพศหมื่นล้าน “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็นโกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าจ่ายหนี้หุ้นกู้ 609 ล้านไม่ทันตามกำหนด จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในตลาดนักลงทุน จากนั้นเจ้าตัวก็ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า จากยอดหนี้ทั้งหมดดังกล่าว ตนขอชำระหนี้เบื้องต้น 156.6 ล้านบาท ในวันที่ 1 ก.ย. 66 ส่วนจำนวนที่เหลือ ผู้ถือหุ้นทุกคนจะได้รับดอกเบี้ยไปจนกว่าจะได้เงินต้นคงค้างจนครบภายในปีนี้
ล่าสุดในเวลา 13.00 น. วันนี้ (1 ก.ย. 66) แอน จักรพงษ์ ได้ออกมาตั้งโต๊ะไลฟ์สดแถลงข่าวอีกครั้งทางช่อง JKN 18 , JKN-CNBC , JKN Dramax และ ช่องทางออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นการชำระหุ้นกู้ (บอนด์) ชุดที่ 2/2563 ในชื่อ JKN239A ที่ยังมีกระแสวิจารณ์ไม่จบ
“แอนทำงานมา 25 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่ต้องมีการปรับการรับชำระ คือเราอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ไปไหน ความรับผิดชอบเต็มตัว วันนี้ชำระแล้ว 156 ล้านบาท ก็ต้องขอบอกอย่างเป็นทางการอีกครั้งว่า ทางบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ขอเลื่อนการปรับรับชำระหนี้ไปจากกรอบเวลาเดิม โดยทางบริษัทปัจจุบันมีเงินสดพร้อมที่จะชำระได้เลย 156.6 ล้านบาท ในวันที่ 1 ก.ย. 66 ก็คือวันนี้ ส่วนจำนวนเงินส่วนที่เหลือ ทุกท่านจะได้รับดอกเบี้ยจนกว่าจะได้รับเงินต้นครบทั้งหมด โดยตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ คือ บริษัท เอเชีย พลัส เซ็คเคียวริตี้ จะเป็นผู้ติดต่อผู้ถือหุ้นกลับไป ภายในวันที่ 11 ก.ย. 66 จะแจ้งแผนผ่านตัวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ในวันที่ 27 ก.ย. 66 ซึ่งเรามั่นใจว่าแผนที่เราเสนอ จะเป็นไปในทางที่ยอมรับของผู้ถือหุ้นกู้ได้”
เผยสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ เพราะผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก
“สาเหตุคือ เรามีธุรกิจครอบจักรวาล มีบริษัทอยู่ในหลายประเทศ ตอนนี้การเติบโตของบริษัทหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์มีอยู่หมื่นกว่าล้าน แต่พอเข้าต้นปีมาเจอภาวะเงินเฟ้อไปทั่วโลก มีเอฟเฟกต์ไปทั่วโลก รวมถึงไทยด้วย ทำให้ตลาดหุ้นแย่มาก รวมถึงการจัดตั้งรัฐบาลที่เลือกตั้งผ่านไปแล้วกว่า 3 เดือน แต่เพิ่งได้จัดตั้งรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนถอนหุ้นออกไปเยอะ ตอนนี้ตลาดหุ้นเพิ่งเริ่มกลับมา
ปัญหาที่เจเคเอ็นเจอก็ไม่ต่างจากทุกคน ทุกๆ ไตรมาสเราไม่เคยพลาดการจ่ายดอกเบี้ย 25 ปีที่ผ่านมา หนี้เก่าของเจ้าของเก่ายังไม่ทันเคลียร์ แล้วพอเราเคลียร์ไม่ทัน เจ้าหนี้เหล่านั้นกลับมาลงที่เราก็มี ทั้งๆ ที่เรายังไม่ทันทำงาน ก็ขอความเข้าใจว่ามารับแทนตรงนี้ให้ก็ดีแล้ว ไม่งั้นหนี้ในอดีตของบริษัทเหล่านั้นจะทำเสียและทิ้งไปเลย ซึ่งเรามารับต่อ และการลงทุนเป็นหลักหลายร้อยล้านถึงพันกว่าล้าน ในส่วนของยูนิเวิร์สก็พันกว่าล้าน แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา เราต้องไปทำความรู้จักกับต้นฉบับที่นิวยอร์กและไปคุยกับลูกค้าทั่วโลก มีตัวเลขกำไรออกมาทุกคนก็ดีใจ แต่เราก็มีเงินสดที่ต้องจ่ายออกทุกวัน ลงทุนทุกวันเช่นกัน”
บอกตอนนี้หยุดการลงทุนเพิ่มทุกอย่าง ขอนักลงทุนที่มีความพร้อมเข้ามาลงทุนร่วมกัน
“ตอนนี้แอนหยุดลงทุนเพิ่มแล้ว เพราะเรามีครบทุกอย่างแล้ว ธุรกิจทุกอย่างต้องดำเนินการด้วยเงินสด เพราะประเทศไทยไม่มีคริปโต ไม่มีอย่างอื่น แต่พอเราดำเนินการธุรกิจด้วยเงินสดที่เป็นสกุลเงิน US เราได้รับเป็นเงินบอนด์ (หุ้นกู้) เงินบาท แต่ถ้าบอนด์กับธนาคารสะดุดขึ้นมา นั่นคือประเด็นที่เกิดขึ้นกับเรา ก็คือ Sources of Funds (แหล่งที่มาของเงินทุน) ไม่มีให้ แล้วนักธุรกิจจะทำยังไง ซึ่งก็อยากจะบอกว่าธนาคารทั้งหลายมาคุยกันเถอะ เพราะทรัพย์สินที่เรามีอยู่เป็นหมื่นล้าน เอามาจัดการเป็นเงินออกมาเถอะ ทำให้ผู้ถือหุ้นทั้งหลายได้ชื่นใจ
แอนสร้างทุกอย่างมาด้วยตัวเอง ด้วยความมุมานะ บากบั่น เพราะไม่ได้มีคนอื่นที่มาช่วย แต่ก็ทำจนมามีทรัพย์สินมากมายขนาดนี้ กลายเป็นธุรกิจที่ออกไปทั่วโลก จนเมื่อเช้านี้ EXIM BANK ก็ติดต่อมา และยังมีอีกหลายๆ ธนาคารเริ่มติดต่อเข้ามา มีนักลงทุนจากทั่วโลกติดต่อมาเยอะมากที่อยากจะเป็นพาร์ตเนอร์กับเรา ขอให้นักลงทุนทุกท่านที่มีความเชี่ยวชาญในด้านไหนๆ ก็ตาม มาคุยกัน มาร่วมลงทุนด้วยกัน รวยไปด้วยกัน”
ยืนยันตนไม่ได้หนีหายไปไหน ขอให้ทุกคนมั่นใจได้
“วันนี้เป็นแค่การปรับวันรับชำระ ก็ตื่นเต้นกันใหญ่ ฉันไม่ได้หนีไปไหน บ้านฉันก็อยู่ที่นี่ ตึกฉัน บริษัทฉัน จะให้หนีไปไหน ธุรกิจทุกอย่างอยู่ตรงนี้ เราต้องรับผิดชอบทุกอย่าง มีดอกเบี้ยให้อีก บอกเลยว่าเหตุการณ์นี้ถ้าไม่เกิดขึ้นก็คงผิดปกติ แต่พอมันเกิดแอนก็กล้าออกมาพูด บอกเลยว่าถ้าชำระต่อ การเดินทางต่อจากนี้จะเหนื่อย แต่ถ้าเราเห็นแล้วว่าธนาคาร เงินบอนด์ดีขึ้น เราก็จะไม่ทำให้เกิดเรื่องนี้ เรากล้าพูดเลย เพราะฉะนั้นมั่นใจเราได้ เพราะเรามีเงินสดที่ไหลเวียน มีบุคลากรที่แข็งแกร่ง มีธุรกิจมากมายพร้อมรองรับ ถ้าใครเก่งด้านไหน สนใจอยากจะมาร่วมลงทุนกัน ขอให้เก่งจริง และเดินเข้ามาคุยกัน ไฟแนนซ์เราพร้อมที่จะเดินไปอยู่แล้ว หุ้นกู้ตัวอื่นๆ ยังปกติ จะมีแค่ตัวนี้เท่านั้น
เงินสดที่มีอยู่มีเป็นหลักหลายร้อยล้านอยู่แล้ว ต้องมีเพื่อดำเนินธุรกิจ แต่ต้องมีเข้ามาเสริม ซึ่งวิกฤตมากกว่านี้เราก็ผ่านมาแล้ว แต่ครั้งนี้ก็เป็นเหตุการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิด เพราะเราเพิ่งประกาศให้มีการซื้อหุ้นกู้ตัวนี้ไป และถ้าผู้ถือหุ้นอยากจะซื้อหุ้นต่อก็ได้เลย นี่คือการแสดงออกถึงความจริงใจ ซึ่งถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ก็ชำระไปหมดเรียบร้อย เพราะมันคือการวางแผนที่มีอยู่แล้ว แต่ถ้ามีนักลงทุนที่เข้ามาแล้วบอกว่าจะให้กู้ แต่จะต้องยึดบริษัท ให้เซ็นเอาชื่อบริษัทค้ำลอยๆ ไว้ เราคงทำไม่ได้ ฉะนั้นเราก็ต้องมารีเซ็ตระบบกันใหม่ เหตุการณ์ครั้งนี้สอนให้เรารู้ว่า การลงทุนต้องระยะยาวกับการทำงานในระดับโลกแบบนี้ ต้องหาพาร์ตเนอร์ที่ดี ใครที่สนใจอยากจะลงทุน เดินเข้ามาได้เลย เราจะไปจักรวาลร่วมกันค่ะ”