“แพรวา ณิชาภัทร” ฟาดชาวเน็ตชอบคอมเมนต์ด่า บอกวิพากษ์วิจารณ์ได้ไม่ติด แต่ถ้าด่ามาด่ากลับไม่โกง มีคิดอยากฟ้องแต่มันช้าไม่ทันใจ เล่าสัมภาษณ์เรื่องรักล่าสุด โดนไล่กลับมาประเมินนิสัยตัวเอง ตอนนี้ฮีลใจได้แล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ พร้อมมีรักใหม่แต่ยังไม่มีใครเข้ามา น้อบรับกลับมาโสดแล้วแซบ
หลังสาว “แพรวา ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์” ได้ออกมาเปิดใจว่าเลิกรากับแฟนหนุ่มนอกวงการมาได้สักพักแล้ว แถมยังยกให้เป็นรักที่เจ็บหนักที่สุดในชีวิต ล่าสุดวันนี้ (24 ส.ค.) ได้เจอสาวแพรวา ในงานเปิดตัวเกม Age Of Khagan ก็เลยขออัปเดตสภาพจิตใจกันสักหน่อย ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่า ฮีลตัวเองกลับมาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว พร้อมเล่าว่าที่ให้สัมภาษณ์ไปคราวก่อน มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ บอกให้กลับมาประเมินนิสัยตัวเองด้วย
“ตอนนี้ฮีลใจตัวเองแล้ว ฮีลร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ กลับมาแข็งแกร่งแล้วค่ะ ตอนนี้ขอเรื่องงานแล้วค่ะ ขอให้งานเข้ามาเยอะๆ เลิกขอความรักแล้วค่ะ ถามว่าตอนนี้เข็ดเลยไหม ก็ใช่ หนูคิดว่าอย่าให้ความรักเป็นเรื่องของเทพเลย เขาลำบาก เราก็สู้ด้วยตัวเองดีกว่าหลังจากนี้”
ใครไปไหว้ตามรอยมาแล้วสำเร็จ ช่วยบอกหน่อย ส่วนตัวเองคงต้องกลับไปบอกอีกรอบ ว่าเลิกกันแล้ว
“ก็ถ้าสำเร็จยังไงบอกหน่อยอยากรู้ (หัวเราะ) ส่วนตัวหนูก็ยังไปนะ เราก็ไปไหว้ปกติ ก็คงต้องไปแหละ ไปบอกว่าแม่คะ หนูเลิกกับเขาแล้วนะ (หัวเราะ) ก็ไปบอกแม่หน่อย อาจจะต้องไป”
เผยไม่มีการง้อ เพราะคุยกันหลายรอบแล้ว
“ไม่หรอก เพราะมันเกิดจากการคุยกัน มันคุยกันหลายรอบแล้ว ก็เลยจบแบบโอเค เคลียร์ทั้งคู่ ถามว่าทำไมดูรวดเร็ว นั่นนะสิ หนูก็งงเหมือนกัน ครั้งที่แล้วที่หนูให้สัมภาษณ์ไป หนูเห็นชาวเน็ตมาคอมเมนต์ว่า หนูต้องประเมินนิสัยตัวเอง หนูก็บอกว่า อ้าว ลองมาเป็นเพื่อนไหม หนูก็อยากรู้เหมือนกันว่านิสัยเราเป็นยังไง แต่ถามว่าเขาว่าเราแบบนี้ แล้วเรารู้สึกยังไง ก็รู้สึกว่าไม่เป็นไร เขาไม่ได้รู้จักเรา”
ความสัมพันธ์ไปต่อไม่ได้ เพราะมองอนาคตไม่เหมือนกัน
“มันเป็นเรื่องของการมองอนาคตค่ะ พอยิ่งโตเราจะยิ่งมองเรื่องอนาคตสำคัญ เพราะถ้าสมมติเราคบกันไป แต่เรามองกันคนละทางเลย มันค่อนข้างยาก เพราะฉะนั้นถ้ายังฝืนคบต่อไปแล้วเรามองกันคนละทางมันจะยิ่งห่างกันออกไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งเราอาจจะเลิกกันแบบเกลียดกัน เลยรู้สึกว่างั้นก็เก็บความรู้สึกดีๆ ไว้ อย่าให้มันถึงวันนั้นเลย ถามว่าลองปรับกันหรือยัง มันก็ปรับมาเรื่อยๆ คือพยายามฝืนกันทั้งคู่ ต่างคนต่างหลับตาคนละข้าง จนวันหนึ่งมันรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว”
ไม่ขอลงดีเทล ว่ามองคนละทางในเรื่องอะไร
“หนูขอไม่ลงดีเทล แต่มันค่อนข้างสวนทางมาก”
รักครั้งนี้สอนให้กลับมารักตัวเอง และได้เรียนรู้หลายอย่าง
“สำหรับหนูสอนให้กลับมารักตัวเองแหละ แล้วก็สอนให้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง เมื่อก่อนหนูคิดว่าการเลิกกัน เขาไปมีคนอื่นมันเจ็บที่สุดแล้ว หรือว่าเราเข้ากันไม่ได้คือเจ็บที่สุดแล้ว แต่ตอนนี้คือเราเข้ากันได้แต่เรามองอนาคตไม่เหมือนกัน เจ็บยิ่งกว่า ก็เลยรู้ว่าบทเรียนความรักมันมีหลายรูปแบบ แล้วมันมีการเจ็บได้หลายเลเวล จริงๆ ทุกความรักมันเจ็บตลอด มันก็เลยรู้ว่า อ๋อ มันเจ็บได้มากกว่าที่เราคิดไว้อีก จริงๆ ก็เข็ดนะ (หัวเราะ) ก็รู้สึกว่าอยู่คนเดียวก็ไม่ต้องเจ็บอะไรเนาะ อย่างมากสะดุดบันได เตะโต๊ะอะไรอย่างนี้มันก็น่าจะโอเค”
ไม่ทันได้เปิดตัวจริงจังก็จบกันแล้ว
“ใช่ แต่จริงๆ ก็ไม่ได้กะจะเปิดตัวเป็นทางการอยู่ดี (หัวเราะ)”
ไม่กลัวที่จะเปิดตัวรักครั้งใหม่ เพราะถ้าด่ามาก็ด่ากลับ
“ถ้าโดยส่วนตัวหนู หนูไม่รู้สึกค่ะ เพราะว่าพอเราคบกันมันเป็นเรื่องของคนสองคน พอพี่ๆ สื่อมาสัมภาษณ์หนูก็ตอบตามความจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าเขาจะมาวิพากษ์วิจารณ์มันก็เป็นเรื่องของเขา แต่ถ้าเขาไม่ได้รู้ว่าเรื่องจริงแล้ว ระหว่างหนูกับแฟนหนูที่เลิกกันไป มันเกิดอะไรขึ้นจริงๆ หนูก็รู้สึกว่าก็มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ แต่ถ้าด่ามา ก็ต้องยอมรับว่าหนูก็มีสิทธิ์ด่ากลับเหมือนกัน เพราะว่าเราคือคนเหมือนกัน อาชีพศิลปิน นักร้อง ดารา ก็คือคนเหมือนกัน คือหนึ่งอาชีพ เพราะฉะนั้นด่ามา เรามีสิทธิ์ด่ากลับ แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์ เราก็โอเค ก็ไม่เป็นไร ปล่อยได้”
เคยเข้าไปด่ากลับมาแล้วในติ๊กต๊อก
“ในติ๊กต๊อกค่ะ หนูไม่รู้ว่ามีแอ็กเคานต์ข่าวไหนบ้าง หนูเคยไปด่ากลับอยู่ (หัวเราะ) เขาคอมเมนต์ด่า หนูก็เลยเอาแอ็กเคานต์ติ๊กต๊อกหนู ไปเมนต์ด่ากลับเหมือนกัน ถามว่าเขาว่าหนูว่าเรื่องอะไร หนูจำไม่ได้ค่ะ แต่เวลาเขาใช้คำพูดไหน หนูจะใช้คำพูดเดิมกลับไปเหมือนกัน”
ด่ามาด่ากลับไม่โกง เพราะจะฟ้องก็ไม่ทันใจ
“ใช่ ตอนแรกกะว่าจะฟ้อง แต่ว่ามันช้าไป มันไม่ทันใจ ไม่กลัวเขาว่าเราแรงเลย เขาแรงกับเราก่อน ทำไมเราต้องเป็นสนามอารมณ์ให้เขาด้วย พ่อแม่เราก็รักเราเหมือนกัน ทำไมต้องมาด่าเราด้วย”
ถ้ามีคนที่ใช่เข้ามาก็พร้อมเปิดใจ แต่ตอนนี้ยังไม่มี
“สำหรับหนู ตอนนี้หนูไม่ได้เจ็บ ไม่ได้อะไรแล้ว แต่ก็แค่มันไม่มีคนเข้ามา (หัวเราะ) ก็ถ้าใครเข้ามาแล้วมันใช่ ก็คงจะเปิดใจค่ะ แต่ตอนนี้มันยังไม่ได้มีคนเข้ามา”
นอกจากไม่ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็เลิกถามหมอดูเรื่องรักเหมือนกัน
“ตอนนี้หาหมอดู คือถามอย่างเดียวว่าจะเจ็บป่วยไหม จะถูกหวยไหม จะมีเงินก่อนใหญ่ไหม จะถามไปเรื่องอื่น จะไม่ถามความรัก ความรักเป็นเรื่องรองแล้ว ซึ่งหมอดูไม่ค่อยทักเรื่องความรักค่ะ มีแต่เราแหละที่ชอบไปถาม อยากรู้
ไม่เคยถามต้องทำตัวยังไงถึงจะคบได้นาน เพราะแบบนั้นมันคงเหนื่อยและฝืนตัวเอง
“ไม่เลย ไม่ถามเลย เรารู้สึกว่าถ้าเราอยากมีแฟน ขนาดที่เราต้องเปลี่ยนตัวเอง หรือปฏิบัติตัวแบบตั้งใจมากๆ มันคงจะเหนื่อยเรา มันก็จะฝืนเรา เราก็รอเวลาที่เหมาะสมดีกว่า”
รอบนี้ “พลัสเตอร์ ภัทร์นิธิ ศรันย์วัฒนกุล” เพื่อนสนิท ก็ปลอบหนักเหมือนเดิม
“ก็หนักอยู่เหมือนกัน จริงๆ เพื่อนหลายๆ คนเลย เดือนนี้ก็รู้สึกว่าหนักเหมือนกัน เพราะว่าประมาณกลางเดือนเริ่มคิดแล้วว่า เงินเดือนเพื่อนหลายคนใกล้หมดแล้ว รวมถึงตัวเราด้วย เพราะวิธีปลอบของเพื่อนคือไปเที่ยวกัน ไปเที่ยวไหนก็ได้ ไปก่อน คือหนูว่าหนูดีขึ้น ต้องขอบคุณเขานะ หนูโตขึ้นเยอะมาก หนูกลับมารักตัวเองเยอะขึ้นมาก นอนเร็วขึ้น ตื่นมาออกกำลังกาย ทั้งที่ไม่เคยทำได้ ดูแลตัวเองมากขึ้นค่ะ (เซ็กซี่เพิ่มขึ้นด้วยไหม?) ไม่ขนาดนั้นค่ะ”
น้อยใจรูปใส่บิกินีสีเขียวคนกดไลก์เยอะกว่าลงงาน
“คนกดไลก์เยอะมาก หนูงงมาก เวลาหนูโพสต์งาน คนไม่เคยไลก์เยอะขนาดนี้เลย น้อยใจ อาจเพราะไม่ค่อยเห็นเราในลุคนี้ เพราะมันไม่ได้ไปไหน หนูทำงาน”
น้อบรับคำชมโสดแล้วแซบ
“ก็ได้ แล้วแต่ ถ้าทุกคนอยากจะมอบ ชุดนั้นคือหนูถ่ายไว้ แล้วรู้สึกว่าวันนี้ไม่มีรูปลงเลย เรามีรูปนี้อยู่นิ ลงดีกว่า รีวิวชุดว่ายน้ำด้วย เราก็ลง”
ไม่ลงรูปเรียกแขก บอกถ้าจะมาต้องมาด้วยรูปธรรมดาบ้าง
“พอแล้ว ถ้าแขกจะมา มันต้องมาด้วยรูปธรรมดาบ้าง”
ไม่มีใคร DM มาจีบ มีแต่ร้านชุดว่ายน้ำทักมา
“ไม่มี มีแต่ร้านชุดว่ายน้ำทักมา”
คงไม่มีแซบกว่านี้แล้ว เดี๋ยวพ่อแม่จะโทร.มา
“ไม่มีแล้วค่ะ แค่นั้นลิมิตสุดๆ แล้ว มากกว่านี้พ่อกับแม่จะโทร.มาแล้ว (หัวเราะ)”