xs
xsm
sm
md
lg

สถานีเจ้อเจียง โดนวิจารณ์เละ หลังมีคลิปเสียง “โคโค่ ลี” แฉเบื้องหลังการทำงานก่อนโดนขุดประวัติทีมรายการเกือบพาดาราไปตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังจากที่ “โคโค่ ลี” เสียชีวิตลง เรื่องราวของเธอยังคงถูกพูดถึงต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่เจ้าตัวตัดสินใจลาโลกเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ขณะอายุ 48 ปี โดยล่าสุดได้มีการนำคลิปที่เธอระบุว่าตนเองโดนบูลลี่จากผู้กำกับรายการเพลงชื่อดังที่ทำให้เธอรู้สึกอับอาย จากคลิปดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตพากันขุดวีรกรรมของทีมงานรายการต่างๆจากสถานีโทรทัศน์เจ้อเจียงว่ามีหลายครั้งที่ทำให้ศิลปินดาราที่ไปร่วมรายการมีทั้งเกือบตายและเสียชีวิต

โดยคลิปของ โคโค่ ลี ถูกพูดถึงอย่างมากไปทั่วโซเชียลมีเดียจีนเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยเป็นคลิปเบื้องหลังรายการ Sing! China ซึ่งเธอรับหน้าที่เป็นเมนเทอร์ของรายการ

การถ่ายทำดังกล่าวคาดว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ย. 2022 เป็นเหตุการณ์ที่มีคนบันทึกภาพขณะ โคโค่ ลี แสดงความไม่พอใจออกมาเมื่อลูกทีมของเธอถูกคัดออก ทั้งๆที่มีคะแนนมากกว่าผู้เข้าแข่งขันรายอื่น ในเวลานั้นเธอได้ระเบิดอารมณ์ออกมาว่า

“ตาบอดเหรอ! ทุกคนกำลังดูอยู่นะ! ช่วยบอกกฏของการแข่งขันรายการนี้ให้ฟังหน่อย ทำไมคนที่ได้คะแนน 73 ถึงได้รับโอกาสรอบสอง ขณะที่คนที่ได้ 88.3 คะแนนถึงไม่ได้รับโอกาสนั้น? ผู้กำกับข่วยมาอธิบายที นี่มันยุติธรรมเหรอ? ถึงคุณจะไม่พูด แต่ทุกคนเขารู้”

ส่วนคลิปเสียงที่เชื่อว่าเป็นเสียงของ โคโค่ ลี และคาดว่ามาจากเหตุการณ์เดียวกันที่ถูกปล่อยออกมาล่าสุดได้ระบุถึงรายละเอียดเหตุการณ์ที่ผู้ช่วยผู้กำกับ 2 คนของรายการมาลากตัวเธอออกไป

“ผู้ช่วยบอกว่าฉันต้องออกไปเดี๋ยวนี้ หรือจะให้เรียก รปภ. พูดแบบนี้กับคนที่ทำงานในวงการมานาน 28 ปีเหรอ ฉันไม่เคยได้ยินใครพูดแบบนี้กับฉันมาก่อน

ผู้ช่วยผู้กำกับมาดึงฉัน ตอนนั้นฉันหลับตาอยู่เพราะกำลังร้องไห้ แต่สัมผัสได้ว่าเธอพยายามจับฉัน เธอดึงที่ชุดฉัน เพื่อจะพาฉันออกไปจากเวที”

โคโค่ ลี ได้เผยต่อไปด้วยว่าเธอถูกบังคับให้เขียนโพสต์ Weibo แสดงความไม่พอใจ เพื่อที่ทางรายการจะได้แก้ไขกติกาให้ลูกทีมของเธอกลับมาแข่งอีกได้

“พวกเขาขู่ฉันว่า จะให้ลูกทีมฉันมีโอกาสได้รางวัลที่ 5 ได้กลับมาขึ้นร้องเพลงบนเวทีอีกครั้ง โดยที่ฉันต้องเขียนโพสต์ใน Weibo มิเช่นนั้นเขาจะไม่มีโอกาสได้กลับมาอีก

แน่นอนว่าฉันต้องปกป้องลูกทีม ฉันรู้ว่าทีมงานจำต้องเปลี่ยนกฏ แต่ทำไมฉันต้องสนองต่อความผิดที่พวกเขาทำด้วย แต่สุดท้ายฉันก็เขียนเพื่อให้ลูกทีมของฉันได้มีโอกาสกลับมา ให้ทุกคนได้เห็นว่าเขามีความสามารถแค่ไหน และคุ้มค่าแค่ไหนที่จะอยู่บนเวทีนี้ต่อไป แม้ว่าฉันต้องทนทุกข์กับการปฏิบัติต่อกันแบบไม่ยุติธรรมและจำต้องเขียนโพสต์”


นอกจากนั้นเธอยังหวนระลึกถึงเทปสุดท้ายเมื่อวันที่ 14ต.ค. 2022โดยระบุว่า

“ใช่ค่ะฉันกลับไปถ่ายรายการ Sing! chinaถึงขนาดไม่ห่วงชีวิตตัวเองเลยคุณหมอของฉันคือผู้ขอร้องว่าอย่าไปเลยเพราะมะเร็งเต้านมของฉันมันเหมือนระเบิดเวลาที่รอการปะทุเข้าใจไหมคะ?ฉันไม่ได้สนใจพวกนี้เลยเพราะว่าฉันแค่ชอบรายการนี้และรู้สึกได้ว่าเยาวชนเหล่านี้เขามาพร้อมกับความมุ่งมั่นตั้งใจและรักในดนตรีภาษาทั่วไปของเราก็คือความรักที่เรามีต่อดนตรี

ฉันไม่เป็นอะไรหากต้องเสียสละตนเองแต่ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะเต็มไปด้วยคนที่เลวๆแล้วทำให้ฉันได้รับผลกระทบเพียงเพราะฉันพูดความจริงและความจริงคือพวกเขามีปัญหากับกฏของการแข่งขัน”

พร้อมกันนั้นเธอยังระบุว่าเธอไม่ทราบรายได้หรือค่าตัวที่แน่นอนจากการถ่ายรายการครั้งนี้

“ฉันไม่สนเรื่องนั้นเพราะฉันรู้สึกว่านี่คือรายการที่ดีฉันได้ค่าตัวเท่าไหร่ฉันไม่สนมันไม่ใช่เพราะเงินฉันทำเพราะว่าเป็นรายการนี้และทำเพราะผู้เข้าแข่งขันเหล่านี้”

ในการซ้อมไม่กี่วันก่อนวันถ่ายทำจริงโคโค่ลีได้แจ้งกับทางลูกทีมของเธอว่าเธอยืนเองไม่ได้นานดังนั้นเขาต้องคอยยืนประกบอยู่ข้างเธอบนเวทีขณะร้องเพลงเธอไม่ต้องการทั้งไม้ค้ำหรือรถเข็นเพราะไม่อยากให้ผู้ชมเห็นว่าเธอป่วยซึ่งเธอระบุว่าได้มีการแจ้งทีมงานรวมถึงโปรดิวเซอร์และผู้กำกับแล้วโดยนำผลเอ็กซเรย์มาเป็นหลักฐานยืนยันซึ่งพวกเขาก็ยินดีจะทำตามที่เธอร้องขอ

“แต่พอถึงตอนที่ถ่ายทำจริงคุณรู้อะไรไหม?เขานำลูกทีมไปยืนไกลๆเขายืนอยู่อีกฟากเลยไม่ใช่ยืนใกล้ๆฉันฉันไม่สามารถยืนตัวตรงได้ฉันยืนไม่ไหวฉันใส่รองเท้าส้นสูง 7นิ้วเพื่อให้ดูสวยสำหรับรายการแถมยังซื้อเสื้อผ้าด้วยเงินฉันเองเพื่อรายการนี้โดยเฉพาะ”

ขณะถ่ายทำเธอมีอาการปวดและอุณหภูมิร่างกายต่ำลงเธอรู้สึกหนาวมากจนชา

“มีใครนึกถึงฉันไหม?เป็นนักร้องมา 28ปีฉันโดนทำให้ขายหน้าบนเวทีมันคือความอับอายโดนรังแกนึกถึงความรู้สึกฉันกันบ้างไหม?ปล่อยให้ฉันทรมานแบบนี้ได้ยังไง?พระเจ้านี่มันอะไรกัน”

นอกจากนั้นเธอยังระบุว่าเธอฝืนร่างกายตนเองไปถ่ายทำรายกายแต่เมื่อได้ดูรอบไฟนอลออนแอร์กลับเหมือนไม่มีเธออยู่ในรายการเลย

“ราวกับว่าฉันไม่ได้ไปถ่ายทำซีนของฉันถูกตัดออกหมดความพยายามและทุ่มเทอย่างหนักทั้งหมดหายไปเลยมันเหมือนฉันคือคนที่ไม่พยายามอะไรเลย”

หลังจากที่ชาวเน็ตพากันวิจารณ์คลิปเสียงครั้งนี้ส่งให้ Sing! chinaต้องออกมาเคลื่อนไหวโดยระบุว่า

“ในฐานะเมนเทอร์ของ Sing! China 2022โคโค่ลีได้พยายามอย่างเต็มที่แม้ว่าจะมีการสื่อสารที่ไม่ตรงกันและขาดความเข้าใจบ้างขณะถ่ายทำแต่ก็ได้มีการพูดคุยกันและเพื่อเคารพต่อผู้วายชนม์ทางเราจะไม่ขอพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกและจะขอจดจำความทุ่มเทของเธอที่มีให้กับรายการนี้แทนเราหวังว่าเธอจะได้หลับอย่างสงบสุข”

คลิปเสียงที่เกิดขึ้นส่งให้ชาวเน็ตจีนพากันขุดวีรกรรมทีมงานรายการต่างๆที่พาดาราแทบเอาชีวิตไม่รอด

ในทั้ง Weiboและ Douyinโซเชียลมีเดียจีนต่างพากันรวบรวมเคสต่างๆที่เกิดจากสถานีโทรทัศน์เจ้อเจียงที่มองว่ามีการจัดการแย่และทำให้ศิลปินดาราที่ไปร่วมรายการต้องเสี่ยงชีวิตจนเกือบตายกันหลายครั้ง


อุบัติเหตุทางน้ำของ จ้าวลี่อิง เมื่อปี 2014

จ้าวลี่อิงได้เข้าร่วมตอนที่ 12ของรายการ Keep Runningที่รีเมคมาจาก Running Manของเกาหลีใต้ซึ่งเป็นซีซันแรกเมื่อปี 2014

โดยเวลานั้นมีการแข่งขันมวยปล้ำเพื่อผลักฝ่ายตรงข้ามลงน้ำจ้าวลี่อิงได้แจ้งกับทีมงานแล้วว่าเธอว่ายน้ำไม่เป็นแต่เธอก็ถูกผลักตกน้ำในช่วงท้ายของเกมขณะที่ฝ่ายตรงข้ามกำลังดีใจทางจ้าวลี่อิงที่ตกน้ำก็กำลังกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดโดยไม่มีใครช่วยเหลือโชคดีที่เธอตั้งสติได้และกลับมาทรงตัวยืนได้ทันเห็นได้ว่าระดับน้ำอยู่ที่ระดับอกเธอเท่านั้นแต่เพราะความตกใจจึงทำให้เธอเกือบตายน้ำตื้น


การกระโดดร่มของ ฟ่าน หว่อง ในปี 2015

ฟ่าน หว่องเป็นดาราอีกคนที่เกือบเสียชีวิตจากการอัดรายการโดยเวลานั้นเธอไปร่วมรายการเรียลิตี้โชว์ Go to Loveพร้อมกับคริสโตเฟอร์ลีสามีของเธอ

ในตอนแรกฟ่านกับคริสโตเฟอร์ถูกเลือกให้ต้องไปกระโดดร่มโดยมีจุดนัดพบกันที่ชายหาดบนเกาะไห่หนาน

ขณะที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ฟ่านแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเธอไม่อยากกระโดดพร้อมตะโกนว่า “ฉันไม่อยากโดดแล้ว!”

แต่ครูฝึกที่พาเธอกระโดดก็พาเธอกระโดดออกจากเครื่องโดยตอนแรกทุกอย่างทำท่าเป็นไปได้ด้วยดีอย่างไรก็ตามเมื่อทั้งคู่ใกล้จะถึงพื้นก็ได้รับการแจ้งเตือนจากผู้เชี่ยวชาญว่าลมแรงเกินไปต้องเปลี่ยนจุดลงเป็นในทะเลแทน

คริสโตเฟอร์คือผู้ที่ลงถึงทะเลก่อนและได้รับการช่วยเหลือจากเรือกู้ภัยขณะที่ฟ่านลงถึงทะเลทีหลังพร้อมกับครูฝึกแต่เมื่อถึงน้ำร่มได้ลงมาปกคลุมร่างของเธอแบบเต็มๆ

สถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวทำเอาวุ่นวายกันยกใหญ่โดยคริสโตเฟอร์รีบกระโดดลงจากเรือไปช่วยเหลือภรรยาทันทีหลังจากที่ช่วยเหลือทั้งคู่สำเร็จฟ่านมีอาการตื่นตระหนกและหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด

คริสโตเฟอร์ได้เผยว่า “ผมไม่เคยเห็นภรรยาผมกลัวขนาดนี้มาก่อนเธอกลัวจนหัวหด”

ฟ่านได้ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านการให้สัมภาษณ์ทางนิตยสารเมื่อปี 2016โดยระบุว่าตนเองสำลักน้ำทะเลเข้าไปเยอะมากตอนที่เธอดิ่งลงไปในทะเลและเธอเกือบหมดสติซึ่งเรือกู้ภัยก็เกือบล่มเช่นกันทำให้นับตั้งแต่นั้นเธอกลัวเรือและทะเลไปเลย

“ก่อนจะเริ่มการถ่ายทำรายการทีมงานแจ้งเราว่ามันเป็นรายการวาไรตี้โชว์แบบโรแมนติกเอ็กซ์ตรีมฉันกับสามีแค่ไปร่วมรายการและเล่นเกมทำกิจกรรมอะไรนิดหน่อย”

ในปี 2017เธอยืนยันว่าตนเองยังมีอาการกลัวกับการเดินทางทางทะเลและทางเรืออยู่บ้างแต่เนื่องจากมีลูกชายเธอจุงจำเป็นต้องก้าวผ่านความกลัวเพื่อที่จะได้พาลูกไปทำกิจกรรมครอบครัวได้ซึ่งเธอต้องอาศัยความกล้าในการนั่งเรือยอชออกไปเที่ยวกับลูกชายและครอบครัว


จางเจีย หมดสติหน้าฟาดกับเก้าอี้เมื่อปี 2018

จางเจียนักร้องหนุ่มชาวจีนระหว่างบันทึกรายการวาไรตี้ Ace vs Aceวันที่ 6มี.ค. 2018หลังจากที่ร่างกายมีอ็อกซิเจนไม่เพียงพอระหว่างที่ต้องเล่นเกมเป่าลูกปิงปองลงไปในหลอดแก้ว

ในเวลานั้นร่างของเขาร่วงลงกับพื้นพร้อมกับที่ใบหน้าเขาฟาดเข้ากับเก้าอี้จนเกิดเป็นรอยฟกช้ำ

ตามรายงานระบุว่าก่อนเริ่มเกมจางเจียบอกกับทีมงานว่าเกมมันอันตรายนิดหน่อยแต่เพื่อไม่ให้รบกวนการถ่ายทำเขาจึงยินดีที่จะทำตามซึ่งการเข้าร่วมรายการครั้งนี้นับเป็นการออกสื่อครั้งแรกหลังจากที่เขาเป็นคุณพ่อลูกแฝดในเดือนก.พ.

ซึ่งทางทีมงานรายการได้รีบออกมาระบุว่าได้มีการทำซีทีสแกนจางเจียหลังเกิดอุบัติเหตุทันทีและขอโทษเขาเป็นที่เรียบร้อยโดยยอมรับว่าได้มีการซ้อมก่อนถ่ายทำแล้วแต่ไม่คิดว่าการถ่ายทำตอนดึกจะส่งผลกระทบต่อผู้เข้าร่วมรายการขนาดนี้


ก็อดฟรีย์เกาเสียชีวิตปี 2019

หลังจากที่ต้นสังกัดของก็อดฟรีย์เกานักแสดง-นายแบบหนุ่มชาวไต้หวัน -แคนาดาออกมายืนยันข่าวการเสียขีวิตของเขาเมื่อวันที่27พ.ย. 2019ทำเอาวงการบันเทิงเอเชียต่างช็อคไปตามๆกัน

ตามรายงานระบุว่านักแสดงหนุ่มวัย 35ปีได้ร่วมถ่ายทำรายการ Chase Meในข่วงกลางดึกขณะที่ต้องทำภารกิจแต่เขาได้ล้มลงขณะกำลังวิ่ง

เขาถูกนำตัวส่งรพ.ทันทีก่อนจะได้รับการประกาศว่าเสียขีวิตทางสถานีโทรทัศน์เจ้อเจียงที่ออกอากาศรายการดังกล่าวก็ได้ยืนยันข่าวการเสียชีวิตของเขาเช่นกันว่าเกิดจากหัวใจวายเฉียบพลัน

ทางอีเลเน่จงนักแสดงสาวที่ออกจากรายการหลังผ่านไปแค่ 2ตอนได้เผยทาง Weiboว่ารายการดังกล่าว “เหนื่อยมาก”จริงๆ

ซึ่งเธอเผยว่าหลังจบการถ่ายทำรายการดังกล่าวเธอถึงขั้นต้องขอพักร่างกายนานถึงครึ่งเดือน

ทางด้านวิลเลียมเฉินที่ร่วมรายการถึง 9ตอนได้ระบุว่ารายการนั้น “ยากมากๆ”

“เมื่อไหร่ที่เราเสร็จการถ่ายทำในแต่ละวันและกลับโรงแรมมันประมาณ 6 - 7โมงเช้าผมมักพูดเสมอว่าผมชอบออกกำลังกายแต่ไม่เคยหนักขนาดนี้ไม่เคยต้องวิ่งยาวนานจนถึงเช้าขนาดนี้”

ในเวลานั้นสถานีโทรทัศน์เจ้อเจียงถูกบอยคอตต์อย่างหนักและผู้กำกับรายการต้องออกมาขอโทษครอบครัวก็อดฟรีย์เกาและผู้ชมพร้อมกับยกเลิกรายการดังกล่าวทันที


จางซินเฉิงแขนหักในปี 2023

จางซินเฉิงเป็นสมาขิกของรายการวาไรตี้ Our Innซึ่งต้องไปใช้ชีวิตในชนบทร่วมกับคนดังคนอื่นอีก 6คนพร้อมกับเปิดโรงแรมในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเจ้อเจียง

ในระหว่างที่เขาต้องเล่นเกมงัดข้อกับผู้ร่วมรายการเขาก็ถึงขั้นแขนด้านบนหักทางรายการได้ออกมากล่าวขอโทษทันทีส่งให้ชาวเน็ตเข้ามาต่อว่ามากมายโดยระบุว่า

“ขนาดรายการช้าๆที่ไม่ได้แข่งขันความไวอะไรมากยังไร้ซึ่งความรอบคอบเรื่องความปลอดภัยของศิลปินขนาดนี้แล้วจะมั่นใจเรื่องความปลอดภัยอื่นๆของผู้ร่วมรายการทุกคนได้ยังไง”

จากเหตุการณ์ดังกล่าวจางซินเฉิงต้องดามเหล็กขนาด 20ซม.เข้าไปที่แขนและมีแผลเป็นขนาดใหญ่อย่างเห็นได้ชัดที่แขนด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น