“เขื่อน ภัทรดนัย” นักบำบัดจิต ผุดโปรเจกต์จุดพักใจ 3- 4 ปี ให้ปรึกษา ระบายฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ลั่นไม่ได้สร้างเพื่อฮีลใจตัวเอง แต่ทำให้เติบโตในฐานะมนุษย์ บวช 15 วันเพราะชีวิตคือการศึกษา
ผุดโปรเจกต์จุดพักใจ ให้คนที่ไม่มีที่ระบาย ได้มาระบายออกกับตัวเอง รับฟังปัญหา เพราะเข้าใจว่าสังคมทุกวันนี้มันเคร่งเครียดเหลือเกิน โดย “เขื่อน ภัทรดนัย เสตสุวรรณ” หรือ “หมวยเขื่อน” ได้เผยในพิธีเปิดงาน Soul Connect Fest 2023 มหกรรมพบเพื่อนใจ เผยวิธีดังกล่าวไม่ใช่การฮีลใจตัวเอง มีจิตตกบ้าง แต่มีเส้นให้ตัวเองชัด ถ้ายังช่วยตัวเองไม่ได้ ก็คงไม่สามารถช่วยคนอื่นไม่ได้
“ตอนนี้ปัญหาที่เจอเยอะมากที่สุดเลย คือเราขออนุญาตคนอื่นที่จะรู้สึก เอ๊ะเราเป็นซึมเศร้าพอหรือยังนะ ที่จะไปหาหมอ เรื่องนี้มันใหญ่พอหรือเปล่า ที่จะต้องปรึกษาคนอื่น หรือว่าเราเรียกร้องความสนใจมากไปหรือเปล่า ทุกคนกังวลว่าความรู้สึกของตัวเอง มันมากเกินไป เขื่อนอยากจะดึงกลับมาเลยว่า รู้สึกเท่ากับรู้สึก ถ้ารู้สึกแล้ว ไม่ต้องไปเช็กกับใครนะครับ ว่ามากหรือน้อยไปหรือเปล่า ถ้ารู้สึกเท่ากับรู้สึก ขอความช่วยเหลือได้เลยครับ ตอนนี้ทุกคนมัวแต่กลัว ว่าถ้ามันน้อยเกินไป จะไปเป็นภาระคนอื่น ไม่อยากไปลำบากใจคนอื่น ถ้ามันกระทบเราแล้ว เท่ากับมันกระทบเราแล้ว มนุษย์ทุกคนมีประสบการณ์ชีวิตไม่เหมือนกันครับ ถ้ารู้สึกแล้ว ขอความช่วยเหลือได้เลยครับ มันง่ายแค่นั้นเลย
จริงๆ จุดเริ่มต้นที่ทำเรามาทำจุดพักใจ ให้คำปรึกษาคนอื่น โปรเจกต์นี้ เขื่อนทำเรื่องสุขภาพจิต แล้วก็นั่งฟังคนฟรีมาประมาณ 3-4 ปีแล้ว แต่เพิ่งกลับมาทำที่เมืองไทยล่าสุด แต่ก่อนทำที่อังกฤษ จริงๆ แล้วเขื่อนเชื่อว่าเรื่องสุขภาพจิต เป็นเรื่องที่ต้องพูดถึงได้ ไม่น่าอาย และฟรีครับ เขื่อนก็เลยมาทำโปรเจกต์จุดพักใจ ก็คือไปที่ต่างๆ แล้วก็ตั้งป้าย ใครอยากเข้ามาคุยกับเขื่อน ก็เข้ามาได้เลย เขื่อนมีข้อสัญญากับคนที่มาปรึกษา ว่าไม่สามารถแชร์เรื่องที่ปรึกษาได้ แต่อยากจะบอกเลยว่า 1 พันคน 1 พันเรื่อง เพราะฉะนั้นไม่มีการตัดสินเลยว่า เรื่องนี้เล็กเกินไป หรือเรื่องไหนหนักเกินไป”
รับจิตตกบ้าง แต่มีเส้นให้ตัวเองชัด ถ้ายังช่วยตัวเองไม่ได้ ก็คงไม่สามารถช่วยคนอื่นไม่ได้
“มีบ้าง แต่ว่าหลุดไปน้อยครับ เพราะเขื่อนเป็นคนที่ มีเส้นขอบเขตในชีวิตค่อนข้างชัด อย่างเช่นวันนี้เขื่อนฟังเคสใคร หรือฟังจุดพักใจได้ 10 คน ฟังวันจันทร์ได้ ไม่ได้แปลว่าวันอังคาร พุธ พฤหัสบดี ได้ วันนี้เขื่อนช่วยได้ 8 คน 8 ชั่วโมง แต่อีกวันหนึ่งเขื่อนไม่ไหว เขื่อนก็มีเส้นขอบเขต ว่าเขื่อนไม่ได้ไม่รัก ไม่ได้ไม่อยากทำนะ แต่ถ้าวันนี้เขื่อนยังช่วยตัวเองไม่ได้ เขื่อนก็ช่วยคนอื่นไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องกลับมาที่ว่า เรามีเส้นขอบเขตในชีวิตในการปฏิเสธคนได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเรายังใส่หน้ากากออกซิเจนให้ตัวเองไม่ได้ เราก็ไม่สามารถใส่ให้คนอื่นได้ครับ ช่วยตัวเองก่อน แล้วค่อยช่วยคนอื่นต่อครับ
เขื่อนว่าสุดท้ายแล้วเวลาเราฟังคนอื่น เราฟังที่เขาเป็นเขา ถ้าเรามัวแต่ฟังแล้วไปแบกต่อ เราต้องการหาคำตอบให้เขา แปลว่าเราไม่ได้ฟังเขาแล้ว เราจะฟังเขา เพื่อที่จะหาคำตอบ ให้เรารู้สึกดีที่สุด แล้วเขื่อนรู้สึกว่าอย่างนั้น เราจะแบกของเขาเยอะ เพราะเรามัวแต่นั่งคิด ว่าเอ๊ะ จะตอบยังไง จะทำยังไงดี เราฟังแล้วเราอยู่ร่วมกับเขาไปเลยครับ พออย่างนั้นแล้วเราก็วาง รับรู้แต่ไม่รับทราบ”
ไม่ได้ฮีลตัวเอง แต่ทำให้เข้าใจ เติบโตในฐานะมนุษย์
“สำหรับเขื่อนการรับฟังคนอื่น ไม่ได้ฮีลตัวเองไปในตัว แต่เป็นการเติบโตไปให้ตัว ทำให้เราเข้าใจขึ้น ว่าสุดท้ายแล้วมนุษย์มีหลากหลายรูปแบบ สำหรับเขื่อนการทำจุดพักใจ ไม่ได้ฮีลใจตัวเอง แต่ทำให้ตัวเองโตในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง แล้วก็นักจิตบำบัดครับ
สุขภาพจิตมีทุกที่ครับ ทุกประเทศ ทุกเชื้อชาติ อยู่ที่ว่าประเทศไหนจะเปิดรับมากน้อยแค่ไหน อย่างที่เห็นที่เมืองไทยตอนนี้เราก็ค่อยๆ แล้ว น้องๆ เริ่มสนใจมากขึ้น ส่วนเจนเนอเรชั่นที่โต ก็เริ่มเปิดรับเรื่องสุขภาพจิตมากขึ้น แล้วเราก็ต้องผลักดันกันต่อไปนะ ดีขึ้นไม่ได้แปลกว่าดีแล้ว”
จัดการความเศร้าด้วยการเขียน นอนตักแม่ ต้องหาวิธีของตัวเองไม่เจอ
“ของเขื่อนคือเขียน รู้สึกอะไรเขียนออกมาเลย ถ้าคุณแม่อยู่ที่บ้าน ไปนอนตักคุณแม่ อะไรคือยกตัวอย่างนะครับ ว่าสุดท้ายแล้วการฮีลใจ หรือวิธีคลายเครียดของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ถ้าของใครคือการไปหาของอร่อยๆ ทานก็ทำเลย ของใครคือการไปเที่ยวก็ทำเลย ของใครคือการอยู่บ้านก็ทำเลยครับ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือเรารู้ว่าวิธีฮีลใจของเราเป็นแบบไหน และต้องทำยังไง การฮีลใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราจะ Copy Paste ไม่ได้ หาของตัวเองให้เจอ ถ้าเจอจะไม่มีใครเอาจากเราไปได้เลยครับ”
บวช 15 วันเพราะชีวิตคือการศึกษา
“ก็อยากศึกษาเพิ่มเติมครับ เขื่อนรู้สึกว่าชีวิตคือการศึกษา แล้วก็เรียนรู้ ตอนบวชเราก็รู้สึกว่าถึงเวลาที่อยากจะศึกษาเพิ่ม ก็ตัดสินใจบวชเลย 15 วัน ก็ได้อะไรเพิ่มเยอะมากเลยครับ เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่เรารู้สึกว่า เข้าไปแล้วได้ไตร่ตรองอะไรเพิ่มขึ้นเยอะเลย ได้ฟังเสียงตัวเองมากขึ้น อะไรหลายๆ อย่างที่เรากดไว้ ก็เด้งขึ้นมา ก็ได้ใช้ความคิดกับความรู้สึกตัวเองมากขึ้น”
พร้อมมากคอนเสิร์ตกามิกาเซ่ ยังรวมตัวเคโอติกได้แค่ 3 คน
“เราพร้อมมาก แต่ตอนนี้เรารอคิวทุกคนมาซ้อมเต้น ซ้อมร้องกันอยู่นะครับ (หัวเราะ) รวมตัวกันยากมาก แต่ได้เจอพี่โทโมะ กับพี่ป๊อปปี้บ่อยครับ เดี๋ยวเร็วๆ นี้จะซิงเกิ้ลกับพี่ๆ คือจริงๆ เรา 3 คนสนิทกันอยู่แล้ว ถ้าเกิดไม่ทำกิจกรรมหรือคอนเทนต์ด้วยกัน ก็จะนัดกินข้าวเดือนละ 2-3 ครั้งอยู่แล้ว เราก็เลยรู้สึกว่าอยากสร้างครีเอทีฟสเปซ จริงๆ ก็คือการฮีลใจของพวกเรา 3 คนนั้นแหละครับ ก็จะออกมาในรูปแบบเพลง แต่ไม่ได้แปลว่าเคโอติกเหลือ 3 คนนะครับ แต่ทุกคนมีหน้าที่แตกต่างกันออกไป ถ้ารวมตัวกันได้ 5 คนครบ ก็จะยินดีมาก แต่ตอนนี้ได้ 3 คน เราก็ไปกัน 3 คนก่อน แต่ว่าคอนเสิร์ตขึ้น 5 คนนะครับ แต่ไม่แต่อาจจะเหลือ 4 เพราะเขื่อนไปอยู่กับพี่โฟร์ เป็นโฟร์-เขื่อน (หัวเราะ)”
