ปรากฏการณ์ Barbie ยังคงแรง และไม่มีวี่แววว่าจะแผ่วปลายลงด้วยซ้ำ
ไม่น่าเชื่อว่าตุ๊กตาเด็กเล่นของผู้หญิง จะกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกแบบนี้ได้
Barbie เปิดตัวอย่างงดงาม ด้วยตัวเลขรายได้ที่สูงถึง 162 ล้านเหรียญ พร้อมกับที่ยึดครองอันดับที่ 1 บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ ได้นานติดต่อกันถึง 4 สัปดาห์
แหละ....ตัวเลขล่าสุด ที่ยืนยันความสำเร็จระดับอภิมหามหึมาภาพยนตร์ของ Barbie ก็คือรายได้จากทั่วโลกที่กวาดไปแล้วถึง....
1,191 ล้านเหรียญ จากทุนบวกค่าการตลาดประมาณ 220 ล้านเหรียญ !!
โดยรายได้เฉพาะในสหรัฐ ได้ไปถึง 531 ล้านเหรียญ และนอกสหรัฐฯ ได้ไปที่ 660 ล้านเหรียญ
ตอนนี้ถือว่าเป็นตัวเลขรายได้สูงสุดอันดับ 2 ของ Warner Bros แซงหน้า Aquaman (2018) ที่ปิดตัวเลขไว้ที่ 1,148 ล้านเหรียญ และมีโอกาสสูงมากที่จะแซงหน้าแชมป์รายได้อันดับ 1 อย่าง Harry Potter and the Deathly Hallows – Part 2 ที่ทำตัวเลขไว้ที่ 1,342 ล้านเหรียญ
แต่โอกาสที่ว่า ก็อาจจะต้องรอลุ้นอีกทีในสัปดาห์หน้า ที่จะต้องปะทะกับคู่แข่งคนสำคัญ อย่าง Blue Beetle ภาพยนตร์ล่าสุดในจักรวาล DC ซึ่งเป็นผลงานของ Warner Bros. เช่นเดียวกัน รวมถึงภาพยนตร์คอมเมดี้เรท R อย่าง Stray ของ Universal ที่อาจจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ Barbie พลาดจากตำแหน่งแชมป์ได้
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่า หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญ ที่ผลักดันให้ Barbie ก้าวไปสู่ความสำเร็จระดับโลกนั้น ก็มาจากกลยุทธ์ทางการตลาดของ Warner Bros. นั่นเอง ที่ทำให้ผู้คนให้ความสนใจภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างชนิดที่เรียกกันว่าอย่างบ้าคลั่ง แม้ในคนที่ว่างเว้นจากการเข้าไปชมภาพยนตร์ในโรงมานาน หรือแม้กระทั่งคนที่ไมได้หลงใหลคลั่งไคล้ในตุ๊กตา Barbie แต่ก็โดนแรงดึงดูดจากกลยุทธ์ทางการตลาด ที่ทำให้ต้องเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้
โดยมีรายงานว่า เว็บไซต์ Quorum ได้ทำการสำรวจผู้ชม Barbie ในสหรัฐฯ จำนวน 1,800 คน ผลปรากฏว่า 11% เป็นผู้ที่ไม่เคยเข้าชมภาพยนตร์เลยตั้งแต่เกิดวิกฤติ Covid-19 ขณะที่อีก 11% จำไม่ได้ว่าชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายเมื่อไร
ขณะที่ยังต้องรอลุ้นตัวเลขรายได้ว่าจะสามารถแซงหน้าพ่อมดน้อย Harry Potter ไปได้หรือไม่ ? อย่างไร ? นั้น ยังมีอีกหนึ่งตำแหน่งที่ไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย เพราะได้รับการจดบันทึกไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือ.....
เป็นภาพยนตร์ของผู้กำกับหญิงที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล จากฝีมือของ เกรต้า เกอร์วิก (Greta Gerwig) แซงหน้าอดีตแชมป์ อย่าง Wonder Woman ของผู้กำกับ แพตตี้ เจนกินส์ ที่ทำตัวเลขไว้ได้ที่ 821 ล้านเหรียญ
และยังหมายรวมถึงการเป็นผู้กำกับหญิงคนแรกที่ทำหนังทำเงินเกินพันล้านอีกด้วย !!
อีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่ถือว่าเป็นฟันเฟืองหลักในความสำเร็จระดับเอกอุของภาพยนตร์ Barbie ก็หนีไม่พ้น
มาร์โกต์ ร็อบบี้ (Margot Robbie) ที่ควบทั้งตำแหน่งนักแสดงนำ และผู้อำนวยการสร้าง
โดยภาพยนตร์ Barbie เป็นผลงานการสร้างของบริษัท LuckyChap Entertainment ซึ่งเป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์ที่เธอและสามี ทอม แอ็กเคอร์ลีย์ (Tom Ackerley) ร่วมกันก่อตั้งกันขึ้นมาตั้งแต่ปี 2014
มาร์โกต์ ร็อบบี้ ได้ค่าตัวเบื้องต้นประมาณ 19 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 674 ล้านบาท แต่ยังมีการเซ็นสัญญาแนบท้ายต่อกับทาง Warner Bros. ว่าเธอจะได้รับส่วนแบ่งจากกำไรในกรณีที่ภาพยนตร์ Barbie สามารถทำรายได้ผ่านหลักพันล้านเหรียญ
นั่นหมายถึงว่า ตอนนี้สัญญามีผลบังคับใช้แล้วทันที ตามตัวเลขรายได้ที่ทะลุไปแตะที่ตัวเลขเกือบ 1,200 ล้านเหรียญ จึงมีการคาดเดากันว่า เธอน่าจะมีรายได้จากค่าตัว รวมกับได้โบนัสก้อนโตจาก Warner Bros. ไม่ต่ำกว่า 78 ล้านเหรียญ !!
ความสำเร็จของ Barbie เรียกว่าเป็นการพลิกชีวิตทางการแสดงของ มาร์โกต์ ร็อบบี้ ให้กลับมาฉายแสงได้อีกครั้ง หลังจากที่เคยล้มเหลวจากภาพยนตร์ 2 เรื่องติดกันในปีที่ผ่านมา อย่าง Amsterdam และ Babylon และมีผลงานประเดิมต้นปีด้วย Asteroid City แต่ก็ไม่ได้โกยรายได้มากเท่าไรนัก เพราะไม่ใช่หนังกระแสที่ผู้ชมให้ความสนใจ
Barbie จึงไม่ได้เป็นเพียงภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จ เพราะกวาดรายได้ถล่มทลายเท่านั้น แต่ยังเป็นการก้างย่างครั้งสำคัญ ที่ทำให้นักแสดง อย่าง มาร์โกต์ ร็อบบี้ กลับมายืนผงาดอยู่ในระดับหัวแถวได้อย่างสง่างาม
ผู้จัดการ 360 องศาสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 19- 25 สิงหาคม 2566