"หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ" ไม่เชื่อ "ครูกายแก้ว" เป็นอาจารย์พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ท้าหาหลักฐานมาโชว์ สืบให้ตายก็ไม่มี
กำลังมาแรงเลยทีเดียว สำหรับกระแส “ครูกายแก้ว” หรือ “พ่อใหญ่ บรมครูผู้เรืองเวทย์” ที่สายมูแห่กันไปไหว้ ที่โรงแรมเดอะบาซาร์ รัชดาภเษก โดยเชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ช่วยดลบันดาลให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ค้าขายรุ่งเรือง แต่ในอีกมุมมองหนึ่ง หลายคนก็มีความตะขิดตะขวงใจ เพราะที่มาก็ไม่แน่ชัด และรูปลักษณ์ที่ดูน่ากลัว แถมตอนทำพิธีบวงสรวงเบิกเนตร ก็มีฟ้าฝน ลมพัดแรงฝนตกจนบายศรีของบวงสรวงคว่ำ ซึ่งผู้ที่ทำงานด้านพิธีกรรมจะรู้ดีว่า หากทำพิธีที่ไหนแล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้คือลางไม่ดีอาเพศ
ซึ่งล่าสุด “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” ก็ได้พูดถึงประเด็นนี้เช่นกัน ในรายการ ทูตสื่อข่าว เทปเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ว่าไม่ได้ลบหลู่ แต่อยากให้ศึกษาให้ถ่องแท้ดีๆ ก่อนจะไปไหว้ เพราะแนวความคิดตรงไหน สืบให้ตายก็ไม่มีเรื่องครูกายแก้ว ใครอยากนับถือบูชาก็แล้วแต่ แต่เกิดมาเป็นมนุษย์ทั้งที เสียดาย เสียเวลาไปไหว้อะไร กลับไปบ้านไหว้พ่อไว้แม่ ไหว้ผู้มีพระคุณดีกว่าไหม
“ฮิตแต่ละอย่าง ใครจะเชื่อแล้วแต่ เราไม่มีหน้าที่ไปขัดความเชื่อใคร แต่ว่าอาจจะอยากให้ศึกษาให้ถ่องแท้ดีๆ ก่อน การที่เราจะไปไหว้ใครสักคนหนึ่ง เหมือนเรากำลังน้อมตัวลงไป บอกว่าสิ่งๆ นั้นอยู่สูงกว่าเรา อย่างงี้เนาะ (ผายมือไปที่พระพุทธรูป) ผมรู้สึกไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะไหว้ ผมกราบได้เต็มที่ว่านี่คือสิ่งที่เราเทิดทูนเอาไว้ ใครไม่เทิดทูนแล้วแต่ แต่ไม่น่าจะเลวร้ายอะ มันมีแต่เรื่องราวดีๆ ก็โอเค”
“ครูกายแก้วคือใคร บอกว่าเป็นอาจารย์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เอามาจากไหนวะ ไม่มี อันนี้พูดกันตามข้อเท็จจริงก่อนนะ ใครจะเถียงว่าเอาหลักฐานมา ก็มันไม่มีอะ ในภาพศิลาจารึกทั้งหลายแหล่ ก็ไม่ใช่ ไม่ใช่คือไม่ใช่ ที่เป็นรูปลักษณ์เหมือนมีปีกก็ไม่ใช่ เขาถือพัด ถือเป็นแส้ ก็เป็นพราหมณ์คนหนึ่งก็ว่ากันไป ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ผมก็ไม่รู้เอามาจากไหนกัน ถ้าจะว่าผมด้อยข้อมูลก็แล้วแต่ แต่มันไม่ใช่”
“ย้อนกลับไปถ้าคุณเป็นนักโบราณคดีที่แท้จริง หรือเป็นนักประวัติศาสตร์ที่แท้ทรู ลองไปสืบค้นดูว่าพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นับถืออะไรก่อน เอาแบบมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์นะ ไม่ใช่เมกขึ้นมาเองนะ ตั้งแต่ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นก็ได้ พระเจ้าชัยวรมันที่ 5 นับถือใคร สมัยนั้นยังเป็นพุทธศาสนาอยู่นะ พอหมดพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แล้ว พระเจ้าชัยวรมันที่ 8 เนี่ย พระพุทธศาสนาถูกทำลาย ก็ว่ากันไป”
“แต่หลักฐานที่ค้นพบเขา บอกว่าพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นับถืออยู่ 2 เรื่อง หนึ่งคือปรัชญาปารมิตา เป็นสูตรมหายาน พระแม่มารดา พระพุทธเจ้าก็ว่าไป นี่คือสิ่งที่หลักฐานค้นไปเจอ สองคือพระไภษัชยคุรุ พระพุทธเจ้า เป็นพระประธานวัดพระบาทน้ำพุ หรือที่เรากันเรียกว่า พระหมอยา พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นับถือมากๆ และในสมัยนั้นมีคุรุหรือครูบาอาจารย์ ที่สืบได้ว่ามีตัวตนจริงๆ และเป็นที่เคารพนับถือ แต่สมัยพระเจ้าวรมันที่ 5 ซึ่งหลักๆ ก็เป็นพุทธมหายานทั้งหมด แต่ไม่มีเรื่องครูกายแก้ว คือสืบให้ตายยังไงก็ไม่มี ส่วนที่เป็นภาพถือพัดถือแส้ ซึ่งไม่ใช่ปีกนะ ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย ตามนั้น (หัวเราะ)”
“แนวความคิดตรงไหนก็ตาม มันไม่ได้มีเรื่องการ์กอยล์ หรือครูกายแก้ว มันไม่มี ใครอยากสืบหาค้นคว้าอะไร ก็ลองไปถามอาจารย์แถวศิลปากร ไม่รู้สิ ลองไปถามนักวรรณคดี นักประวัติศาสตร์ ว่าในรูปที่บอกว่าเป็นหินสลักสมัยพระเจ้าวรมัน เป็นครูกายแก้ว มันไม่มี ให้ตายยังไงก็ไม่มี ที่บอกพระภิกษุไปเจออะไรสักอย่าง ก็ไม่มี เรื่องนี้ไม่เคยมีปรากฎอยู่ แต่ไม่เป็นไร คนไทยน่ารัก เราเอาหมด ใครบอกว่าอะไรดีเอาหมด บอกว่าอันนี้ไหว้แล้วได้อะไรเอาหมด มีจริงหรือเปล่าไม่รู้ คนบอกไม่มีก็จะไหว้ ไม่ใช่ก็จะไหว้”
“ผมไม่ได้ลบหลู่ ใครอยากนับถือบูชาก็แล้วแต่ ลองคิดดูแล้วกัน ว่าในฐานะเกิดมาเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ให้ตายเถอะ ชีวิตมันจะดีมันจะเลวก็ตาม คุณไหว้อะไรวะ เสียเวลาไปไหว้ กลับไปบ้านไหว้พ่อไว้แม่ดีกว่าไหม ไปไหว้ผู้มีพระคุณดีกว่าไหม ระลึกถึงผู้มีพระคุณ ถ้าอยากไหว้ใครสักคนหนึ่ง ที่เขาทำคุณงามความดี ไม่ใช่ผู้มีฤทธิ์อะไรก็ไม่รู้ เสกเปรี้ยงๆ ได้ ทำไมไม่เอาคุณงามความดีไปพัฒนาฝึกฝน เป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐได้จากการฝึกฝน มนุษย์ไม่ได้เกิดมาแล้วประเสริฐเลย มนุษย์เกิดมาดูแลตัวเองยังไม่ได้เลย ต้องให้พ่อกับแม่ดูแล สัตว์เขายังดูแลตัวเองได้ เราเนี่ย 3 ขวบยังทำอะไรไม่เป็นเลย ต้องให้พ่อแม่ดูแล แต่มนุษย์ประเสริฐได้จากการฝึกฝน ศึกษา เรียนรู้ แต่ก็ช่วยศึกษาให้ถูกหน่อย การไหว้อะไรแบบนี้ เกิดมาเป็นมนุษย์ทั้งที เสียดาย”