xs
xsm
sm
md
lg

“มีน พีรวิชญ์” แฮปปี้ แกรนด์โอเพนนิ่งคบ “ดรีม” รับคิดใช้ชีวิตร่วมกัน แต่ยังไม่พร้อมแต่งตอนนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“มีน พีรวิชญ์” แฮปปี้เปิดตัวคบ “ดรีม” อย่างเป็นทางการ บอกชีวิตต้องบาลานซ์ ตอนนี้ก็พยายามทำให้ทุกคนสบายใจมากที่สุด เผยยังไม่มีแพลนแต่งเร็วๆ นี้ เพราะยังอยากทำงาน สร้างชีวิตให้เติบโต ต่อจะไปพัฒนาไปแบบไหนก็ค่อยว่ากัน พร้อมบอกเตรียมพาคุณพ่อคุณแม่มาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ เพราะมีแววว่าจะต้องปิดธุรกิจร้านเกมที่ซบเซาลงเรื่อยๆ

เพิ่งโชว์ซีนหวานไปในงานมีตแอนด์กรี๊ดของ 3 สาว “ก้อย-นัตตี้-ดรีม” ไปเมื่อวาน สำหรับนักแสดงหนุ่ม “มีน พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร”ที่ไปเป็นแขกรับเชิญโชว์เดี่ยวเปียโนให้ในซีนของหวานใจก็คือสาว ดรีม อภิชญา พานิชตระกูล นั่นเอง ซึ่งหนุ่มมีนก็เผยว่า เหมือนเป็นการแกรนด์โอเพนนิ่งเหมือนกัน เพราะปกติไม่ค่อยลงรูปคู่ในโซเชียลสักเท่าไหร่

“ก็ดีครับ เพลงเดียวเอง แต่ว่าซ้อมนานมากเลย (หัวเราะ) เล่นเปียโนครับ จริงๆ ก็ไม่ได้เซียนขนาดนั้น แต่เราก็อยากทำให้โชว์มันดี ก็ฝึกซ้อมหลายรอบอยู่ ตอนแรกดรีมมาชวนว่าไปเป็นแขกรับเชิญให้หน่อย เราก็ไป เขาบอกเป็นครั้งแรกและจะเป็นครั้งเดียวหรือเปล่าก็ไม่รู้ เราก็เลยโอเค ต้องไปแหละ ก็ไม่รู้จะโชว์อะไร แต่คิดไปคิดมาเราก็มีสิ่งที่ชอบเล่นเวลาอยู่บ้าน ก็คือเล่นเปียโน แต่ก็ไม่ได้จริงจัง ก็เลยต้องมาฝึก เขาก็เอาครูมาฝึกให้ผมเลย ฝึกเปียโน ฝึกร้องเพลงจนออกมาเป็นโชว์แบบเมื่อวาน

ก็เขินนะ และคนดูก็เยอะด้วย เป็นพันคน ก็เขิน กังวลด้วย บอกเลยว่ารอบซ้อมคือยิ้มไม่ออกเลย กังวลกับเปียโนมากๆ แต่พอรอบจริงก็ปล่อยๆ ก็คิดว่าทำออกมาได้โอเคแหละ เหมือนซีนเปิดตัวเหรอ ใช่ครับ เป็นคนไม่ค่อยลงรูปในโซเชียลเท่าไหร่ ก็แกรนด์เลย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรครับ แค่อยากทำโชว์ให้ดีที่สุด ถ้าทุกคนชื่นชอบ สนุกกับโชว์ มันก็ดี เขาก็จ่ายค่าตัวปกติ แต่ตอนแรกผมจะไม่เอา แต่เขาบอกว่าขอจ่าย เพราะกลัวเราไม่ไปซ้อม ก็ถือว่าจ้างครับ เป็นการบังคับว่าต้องมา (หัวเราะ)”
 
บอกยังไม่พร้อมแต่งงานเร็วๆ นี้ ขอทำงาน พัฒนาชีวิตตัวเองกันไปก่อน
“ยังไม่ได้คิดเลยครับ คือตอนนี้เป็นช่วงพัฒนาชีวิตแหละ อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนความสัมพันธ์ก็คงต้องโตตามวัยไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่ได้มองถึงอะไรขนาดนั้น เพิ่งจะ 25 เอง ใจเย็นนะทุกคน ยังไม่ได้คิดเลยครับ ตอนนี้ก็มองถึงเรื่องการงานมากกว่า ทั้งตัวผมและดรีมก็มองในพาร์ตการโตขึ้นในแง่ของการทำงานก่อน เขาก็มีไลน์ผลิตภัณฑ์ ไลน์รายการใหม่อีกเยอะแยะ แต่เราก็มีพาร์ตที่ใช้ชีวิตร่วมกัน ก็ค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้มีเป้าว่าอีก 3-5 ปีต้องทำอะไร

พอเปิดตัวแล้วถามว่าใช้ชีวิตง่ายขึ้นไหม สุดท้ายแล้วผมมองว่าชีวิตคนเราต้องบาลานซ์นะ ความคาดหวังของผู้คนกับความคาดหวังของตัวเองด้วย ในมุมของผมมองว่าต้องพยายามบาลานซ์ให้ทุกคนสบายใจที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แหละ เราก็ไม่รู้นะว่าสิ่งที่เราทำมันดีหรือไม่ดี มันก็อาจจะเป็นมาตรฐานที่เราพอใจและเชื่อว่าทุกคนรอบตัวเราน่าจะพอใจมากที่สุดในรูปแบบนี้ แต่อนาคตจะมีการพัฒนาอะไรยังไงก็อาจจะต้องปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ”

บอกอาจต้องเลิกธุรกิจร้านเกมของที่บ้าน เพราะซบเซาลงทุกที
“คือที่บ้านผมเปิดร้านเกม และมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว เป็นสิบๆ ปีแล้ว ซึ่งธุรกิจร้านเกมมันก็ซบเซาลงในช่วงนี้ และคุณพ่อคุณแม่ผมก็อายุมากขึ้น ผมเองก็ทำบ้านใหม่ อยากให้มาอยู่ด้วยกัน ทุกวันนี้ธุรกิจมันก็ซบเซาแหละ ให้พูดตรงๆ ว่ารายได้ แค่จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าพนักงาน บางเดือนพนักงานได้เงินเดือนเยอะกว่าพ่อแม่ผมอีก เพราะว่ามันน้อยมากจริงๆ ครับ แต่ตอนนี้ที่แม่ผมยังเปิดอยู่เพราะว่าเหงาครับ อยากคุยกับข้างบ้าน ก็เลยเปิดเพื่อที่จะได้คุยกับข้างบ้าน เอาสังคม

ตอนนี้ก็คุยกันว่าอาจจะปล่อยไปอีกสักพักนึง ถ้าเกิดไม่ไหวก็คงไม่รั้งไว้ และอาจจะย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน เพราะเจอสภาวะนี้มาประมาณ 2-3 ปีได้แล้วตั้งแต่โควิด และยิ่งช่วงหลังๆ ก็น้อยลงไปเรื่อยๆ ตอนแรกก็คิดว่าหลังโควิดมาจะดีขึ้นไหม แต่วัฒนธรรมมันก็เปลี่ยนไปด้วยแหละ ทุกวันนี้คนมาร้านเกม เปิดคอมบ์ ฟังเพลง แต่เปิดโทรศัพท์เล่นเกม แล้วมาทำไม (หัวเราะ) แต่ยุคสมัยมันเปลี่ยนครับ บางวันรายได้ไม่ถึงพัน ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าลูกน้องต่อวันก็ไม่พอนะ ทุกๆ เดือนเราส่งกลับไปให้ที่บ้าน เขาก็อยู่ด้วยเงินเรานี่แหละ คุณพ่อคุณแม่ก็น่าจะย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านครับ ตอนนี้กำลังคุยกันอยู่ว่าจะสะดวกมาช่วงไหน แต่เขายังติดบ้าน ติดสังคมที่เก่า แต่ที่คุยกันก็น่าจะย้ายมาเร็วๆ นี้”













กำลังโหลดความคิดเห็น