xs
xsm
sm
md
lg

“บีม กวี” เชื่อ “บิ๊ก” รับรู้ความคิดถึง แปลกใจ “น้องพีร์” ถามถึงทั้งที่ไม่เคยสอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บีม กวี” เล่าโมเมนต์คอนเสิร์ตใหญ่ เหมือน D2B กลับมาแบบ 3 คนได้จริงๆ เชื่อไมค์หอนเพราะ “บิ๊ก” รับรู้ แต่ไม่อยากให้คิดเป็นเรื่องวิญญาณอย่างเดียว วอนเข้าใจไม่เคยดึงเขาไว้ มองให้เป็นเรื่องความคิดถึงดีกว่า แปลกใจ “น้องพีร์” ถามถึง อาจเพราะเคยได้ยินคนพูด ดีใจลูกๆ เอ็นจอยมาก พาไปเพราะคิดว่าอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย

เรียกว่าสนุกสมการรอคอยจริงๆ สำหรับคอนเสิร์ต D2B ETERNITY CONCEPT 22 ที่ “บีม กวี ตันจรารักษ์” และ “แดน วรเวช ดานุวงศ์” ใช้เทคโนโลยี Ai พาสมาชิกผู้ล่วงลับ อย่าง “บิ๊ก ปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ” กลับมาร่วมโชว์บนเวทีเดียวกันได้อีกครั้ง ซึ่งงานนี้ในบางช่วงบางตอนของคอนเสิร์ต ก็มีแฟนๆ อัดคลิปไว้ ว่าอยู่ดีๆ ไมค์ก็หอนขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ ทำเอาหลายคนมโนไปแล้ว ว่าเกิดขึ้นเพราะ “บิ๊ก” หรือเปล่า ประจวบกับ “น้องพีร์” ลูกชายของบีม ที่อยู่ดีๆ ก็ถามถึงอาบิ๊กขึ้นมาซะงั้น ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีคนสอน ล่าสุดวันนี้ (13 ส.ค.) ได้เจอหนุ่มบีม เจ้าตัวก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ ว่าส่วนตัวก็อยากเชื่อว่าเป็นบิ๊ก แต่ก็ไม่อยากให้คิดไปในแง่ผีสางหรือวิญญาณอย่างเดียว

“ฟีดแบ็กคอนเสิร์ตดีมากเลยครับ ก็ดีใจ ตอนเราเตรียมงาน เราก็คิดว่าซีนนี้น่าจะทำงานยังไง อยากให้คนดูดูแล้วรู้สึกถึงความรู้สึกแบบไหน ก็คิดไว้ทุกโชว์ที่เราเตรียมมา คอนเสิร์ตนี้มันเหมือนจุดตัดของเทคโนโลยี มันมี Ai เข้ามาในการทำเสียงต่างๆ ให้มันใกล้เคียงกับเสียงของบิ๊ก เรื่องภาพก็คือพัฒนาไปมาก สามารถทำให้เขาเข้าไปอยู่ในแคปซูลเล็ก ลอยขึ้นลงได้ ให้ความรู้สึกเหมือนเขามาอยู่ตรงนี้จริงๆ ซึ่งมันพิเศษมากๆ กับงานคอนเสิร์ต มันทำให้รู้สึกว่า D2B กลับมาแบบ 3 คนได้จริงๆ เราคุยกันอยู่ตลอดเวลา ว่าโชว์นี้อยากให้เป็นยังไง ดนตรีควรเฟดลงตรงไหน เพื่อให้ได้ยินเสียงเขาชัดๆ ภาพของเขาควรจะออกมาเป็นยังไง อยากบอกว่าผ่านการคิดมาแล้วทุกขั้นตอน”

หวัง “บิ๊ก” รับรู้ในความคิดถึง
“เป็นคำตอบที่ตอบยากมาก ผมรู้ว่าทุกคนรู้สึกยังไง ผมเองในฐานะที่เป็นเพื่อนเป็นพี่ของบิ๊ก ผมก็อยากให้เขารับรู้อยู่แล้ว แต่ส่วนว่ามันจะเกิดสิ่งนั้นขึ้นจริงๆ หรือเปล่า ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมก็ได้แต่ทำให้รู้ว่าความคิดถึงมันยังอยู่”

ส่วนตัวอยากเชื่อว่าไมค์หอนเพราะ “บิ๊ก” แต่ไม่อยากให้ทุกคนคิดงมงาย
“จริงๆ ตอนนั้นผมไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะผมกอดอยู่กับแดน เราขอบคุณกันและกัน ผมเลยไม่ได้สนในรอบข้างเท่าไหร่ พอมากลับมาฟังว่ามีไมค์หอน เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเพราะอะไร เพราะไมค์มันจะหอนได้ ต่อเมื่อมันอยู่ใกล้ๆ กัน ถามว่าเราเชื่อไหมเหรอ ผมอยากเชื่อครับ (ยิ้ม) เรารักน้องเรา เราก็อยากให้เขารับรู้แหละ แต่ที่จะพูดคือ…ตอนนั้นเราไม่ได้รู้สึกว่าเขารู้หรืออะไร เราเพิ่งมาเห็นตอนที่เห็นคนตัดลงติ๊กต็อก เราไม่ได้คิดจะให้ทุกคนรู้สึกแบบนั้น เดี๋ยวคนจะคิดว่าพวกเราดึงเขาไว้ตลอดเวลา คือมันไม่ใช่แบบนั้นเลย อยากให้ทุกคนเข้าใจในจุดนี้มากๆ แล้วผมก็ไม่อยากให้คิดถึงแต่เรื่องวิญญาณผีสางใดๆ เลย คิดว่ามันเป็นความคิดถึงดีกว่า”

ทุกคอนเสิร์ตของ D2B จะตั้งโต๊ะไว้ให้ “บิ๊ก” ทุกครั้ง เพื่อเป็นกำลังใจ
“เวลาคอนเสิร์ต D2B ทุกครั้งเราจะมีโต๊ะที่เป็นรูปเขาวางอยู่ แล้วก็มีของที่เขาชอบตามธรรมเนียม แล้วก็มีของซัปพอร์ต ที่แฟนคลับเราสามคนอยากส่งมาให้กำลังใจ เราก็เอาไปให้เขาดู ว่ามีคนยังรักเราอยู่ขนาดนี้เลยนะ แล้วเวลาเดินผ่านไปผ่านมา สมมติจะเดินไปขึ้นเวที เราก็จะเดินไปเคาะโต๊ะ ว่าพี่กับแดนจะไปแล้วนะ มันก็เป็นกำลังใจของเรามากกว่า”

แปลกใจ “น้องพีร์” ถามถึง “อาบิ๊ก” แต่คิดว่าคงเคยได้ยินคนพูดมาก่อน
“เอาตรงๆ คือผมไม่เคยสอนเลย แต่ผมคิดว่าเขาอาจจะเคยได้ยินสักคนพูด คือเด็กอะ อย่าไปคิดในแง่นั้นจนเกินไปเลย คือน้องพีร์เขาเป็นเด็กช่างถาม ช่างสงสัย บางทีเขาอาจจะเคยได้ยินแม่เขา หรือพี่เลี้ยงพูด ก็คือเหมือนได้รับคำตอบแล้ว แต่เขาก็อยากถามอีก เราก็แค่ตอบว่าอยู่ในที่ที่สวยงาม คือมันเป็นคำตอบที่น่าจะเป็นผู้ใหญ่คิดมาแล้วมากกว่า ซึ่งตอนที่เขาถาม เราก็รู้สึกแปลกใจเฉยๆ คือเวลาผมอ่านคอมเมนต์ ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ที่บอกว่าเราพยายามดึงเขาไว้ ไม่ให้เขาไป แต่เราไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลย สำหรับผมคิดว่าทุกครั้งที่มีคอนเสิร์ต หนึ่งเราก็ได้รำลึกถึงเพื่อนเราอีกคนหนึ่ง สองมันมีอะไรที่เราสามารถมอบกับบ้านบิ๊กได้ด้วย ทุกครั้งที่มีคอนเสิร์ต ก็จะมีรายได้เข้ามาให้บ้านของบิ๊กด้วย ซึ่งผมว่ามันก็ดี คิดว่าทุกคนคงเข้าใจ”

ลูกสาวลูกชายเอ็นจอยมากกับคอนเสิร์ต
“ผมว่าเขาชอบแหละ แม้แต่ลูกสาวผมยังชอบเลย ตั้งแต่กลับมานี่ถ้าเปิดเพลงของผม ลูกสาวผมก็จะเต้นโชว์ตลอดเวลาเลย ขึ้นรถน้องพีร์น้องธีร์ที่จะบอกว่าเปิดเพลงพ่อๆ หน่อย”

คนชมใส่ที่เซฟหูลูกๆ ในคอนเสิร์ต
“ก็เป็นเรื่องแรกที่คิดถึง จริงๆ ถ้าถามตรงๆ ก็ไม่น่าจะพาไปหรอก แต่ว่าในใจผมคิดนะ ว่ามันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายหรือเปล่า เราจะมีโอกาสแบบนี้อีกหรือเปล่า แล้วลูกสาวเราก็เพิ่งเกิด ถ้าไม่พามาตอนนี้ เขาอาจจะไม่ได้เห็นพ่อเขาในคอนเสิร์ตแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะจำไม่ได้ แต่มันก็มีรูปเขา ว่าเขาเคยไปคอนเสิร์ตพ่อเขาแล้วนะ เลยคิดว่าอะไรที่มันจะสามารถเซฟเขาได้มากที่สุด แล้วเขาก็อยู่แค่ช่วงเพลงที่เห็นนั่นแหละครับ หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปนอนในห้อง ซึ่งมันก็มิดชิดมาก ไม่ต้องเป็นห่วงเลย”

ขอบคุณแฟนคลับและทีมงานทุกคน ที่สนับสนุน D2B
“ก็ฝากขอบคุณมากๆ เลยนะครับ สำหรับแฟนคลับทุกคนที่มาให้กำลังใจเรา และทุกคนที่มีส่วนร่วมในคอนเสิร์ตครั้งนี้ คนคิดงานต่างๆ หรือทางอาร์เอสเอง ก็ขอบคุณมากๆ ที่จัดคอนเสิร์ตดีๆ แบบนี้ขึ้นมา ต้องพูดแบบนี้ครับว่า เขาลงทุนเยอะมากนะ เพื่อจะนำเรื่องราวของ D2B ให้มาสู่สายตาทุกคนได้ขนาดนี้ มันไฮเทค มันเหนือล้ำมากๆ เข้าลงทุนกับทุกส่วนจริงๆ”











กำลังโหลดความคิดเห็น