หากเอ่ยชื่อ “พัชรี แซ่พุ้น” นาทีนี้ในวงการตลาดทุนไทยคงไม่มีใครไม่รู้จัก หรือไม่เคยได้ยินชื่อเป็นแน่แท้ เพราะด้วยดีกรีความเก่งบวกด้วยความ สามารถของผู้บริหารการขายที่คร่ำหวอดมาอย่างยาวนาน ว่าที่ ด๊อกเตอร์ คณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี การันตีด้วยรางวัลท็อปเซลส์ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค และยังได้รับ ความไว้วางใจจากองค์กรใหญ่ๆ ระดับประเทศให้นั่งต่ำแหน่งที่ปรึกษา อาทิเช่น ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมสเปเชียลโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ที่ ปรึกษาประธานคณะกรรมการการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ปรึกษานายก สมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร ฯลฯ
“พัชรี” เริ่มงานขายจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทย โดยการ ขายผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่มี ต่อมาได้ย้ายไปทำงานที่ธนาคารยูโอบี ซึ่งทุก องค์กรที่ร่วมงานด้วยสามารถทำยอดขายติดอันดับ Top 10 และได้รับ รางวัลการันตีความเก่งมาตลอด จึงเป็นโอกาสที่ทำให้เป็นที่รู้จักและในปี 2016 สามารถคว้ารางวัลยอดขายเบี้ยประกันภัย OL สูงสุดอันดับ 1 จาก งาน Bancassurance Award 2016 จัดโดยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และ Top Preferred Banking Team Head 2016 ถัดมาในปี 2017 ได้รับ รางวัล Regional CEO’s Challenge จัดโดย CIMB Group ที่ลังกาวี ประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลใหญ่ Principal International Asia Sales 2017 และ 2018 ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน ที่กรุงไทเปและ นครโฮจิมินห์ตามลำดับ
ล่าสุด “พัชรี” ก้าวสู่ตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการสายงานกลยุทธ์ องค์กรของ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ถูกวางตัวให้เป็นหัวหอกสำคัญ ในการวางกลยุทธ์และขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายสูงสุดโดยเฉพาะ บริษัทในเครืออย่าง บล. พาย ซึ่ง พัชรี ได้วางเป้าหมายที่จะนำ บล.พาย
ก้าวสู่การเป็นผู้นำบริษัทหลักทรัพย์แห่งเดียวที่มีความแข็งแกร่งด้าน Wealth อย่างครบวงจร โดยที่มาของแนวคิดดังกล่าวหลังจากที่ได้เข้ามา ทำงานในสถาบันการเงินและมองเห็นโอกาส ประกอบกับประเทศไทยยังมี ประชากรที่มีเงินจำนวนมากและมุ่งเน้นไปที่การทำงาน โดยไม่ได้สนใจ หรือมองหาเครื่องมือ ผลิตภัณฑ์ที่จะบริหารจัดการเงินของตนเอง จึงต้องมี ใครสักคนหรือทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเข้ามาบริหารจัดการ เงิน ตลอดจนช่วยมองหาช่องทางการลงทุนให้กับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ โดย เฉพาะกลุ่มนักธุรกิจ กลุ่มคนมีเงิน คนรวยแล้วก็รวยอีก ดังนั้นจึงเป็นที่มา ของแนวคิดที่ว่าเราสามารถเข้าไปช่วยดูแลการลงทุนให้กับคนเหล่านี้ได้
“คู่แข่งของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร สถาบันทางการเงิน บริษัทหลัก ทรัพย์ จริงๆ แล้วลักษณะการแข่งขันจะไม่ค่อยแตกต่างกัน ส่วนสิ่งที่แตก ต่างกันคือคนที่แนะนำเรื่องของการลงทุน ความรู้และความสามารถเป็นสิ่ง ที่แตกต่างกัน เรื่องบริการแทบจะเหมือนกันแต่ว่าต้องไปดูว่าคนที่ให้ บริการนั้นคือใครแล้วบริการได้ถูกใจลูกค้าแค่ไหน สิ่งพวกนี้คือสิ่งที่ต้องไป สะท้อนและต่อสู้กันในตลาด จึงมองว่านี้คือโอกาสและ Wealth น่าสนใจ ถ้าเทียบกับคู่แข่งและธุรกิจอื่นๆ นอกจากนี้การบริหารจัดการให้เงินลงทุน ของลูกค้ามีการงอกเงย เติบโต มีความมั่งคั่ง เป็นที่ท้าทายความสามารถ ของเราในการดูแลกลุ่มลูกค้า Wealth จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างทีม ขึ้นมาดูแลลูกค้า Wealth” พัชรี กล่าว
ขณะเดียวกันจากประสบการณ์การทำงานที่อยู่ในวงการนี้เกือบ 20 ปี จะรู้ได้เลยว่าแต่ละที่มีจุดเด่น ข้อด้อย ข้อเสียอย่างไร ในบางครั้งสถานที่ ทำงานบางแห่งหรือผู้แนะนำการลงทุนที่อื่น อย่างสถาบันการเงินด้วยเป็น องค์กรที่ใหญ่มากๆ ถ้าเป็นธนาคารก็จะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนได้ยาก ส่วน บล.พายที่มองเห็นว่าเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ เนื่องจากผู้บริหารองค์กร เป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ที่ทันสมัยกว้างไกลและให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่ม Wealth การที่จะรังสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับลูกค้า Wealth เป็นสิ่งที่ผู้บริหาร ให้การสนับสนุน เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนที่ดี นอกจากนี้บล.พายยัง
มีแนวความคิดที่จะผลักดันให้ทีม Wealth ขยายตัวเป็นทีมงานที่มี ศักยภาพขนาดใหญ่และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งจะเป็นหลักทรัพย์ที่แรกที่ เดียวที่มีในเรื่องของ Wealth โดยจะมีการเปิดตัวทีมงานที่ดูแลด้าน Wealth อย่างเป็นทางการอีกครั้งเร็วๆ นี้
พัชรี เล่าให้ฟังต่อไปว่าเป้าหมายการดูแลด้าน Wealth ในระยะเวลา 3-5 ปีข้างหน้า จะเริ่มจากการปูพรมวาง Position เป็น Wealth อันดับต้นๆ และเป็นหลักทรัพย์แห่งแรกที่จะมีบริการด้าน Wealth ซึ่งให้ความสำคัญ กับ 1.เรื่องของระบบในการทำงาน ปัจจุบันระบบดังกล่าวพร้อมแล้ว 2.ทีม งานที่ครบพร้อมให้บริการเช่นกัน 3.ผลิตภัณฑ์ ที่มีความหลากหลายมาก ขึ้น 4.ภาพของการดำเนินงานในปีแรกของ Wealth เตรียมวางแผนไว้หมด เรียบร้อยแล้วและวางเป้าหมายที่จะให้ Wealth ถือครองสัดส่วนในตลาด ให้ได้ภายใน 3-5 ปี โดยจะทำให้ประสบความสำเร็จในระยะเวลาดัง กล่าวให้ทุกคนได้รู้จัก Wealth ในเครือของคันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
อย่างไรก็ตามสำหรับภาพรวมและอุตสาหกรรมของการให้บริการ ด้าน Wealth ประเมินว่าเป็นธุรกิจที่มีอนาคตมาก เนื่องจากหากสังเกตจะ พบว่าสถาบันการเงินมีการปิดตัวลงในส่วนของสาขา เปลี่ยนไปเปิดให้ บริการตาม 7-ELEVEN หรือตู้ ATM ทุกอย่างปิดตัวลงไปเรื่อยๆ และหัน มาสนใจกลุ่มลูกค้าที่มีเงิน ลูกค้าที่จะต้องวางแผนทางการเงิน ดูแลลูกค้า กลุ่มนี้ ซึ่งเรียกว่าต่อให้คุณจะมีเทคโนโลยีหรือระบบที่ดีที่สุดเท่าไหร่ก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วมนุษย์ก็ต้องการพูดคุยกับคน ต้องการการวางแผน ต้องการคำอธิบาย ต้องการการติดต่อสื่อสารที่ดี ฉะนั้นเรื่องของ Wealth จึงเป็นทิศทางที่ทุกที่หันมาสนใจและโฟกัส โดยตามห้างสรรพสินค้าจะตั้ง ศูนย์ Wealth พยายามดูแลลูกค้ากลุ่มดังกล่าว เพราะเป็นลูกค้าที่มี Potential คุ้มค่าแก่การเสียเวลา
นอกเหนือจากที่ บล. พาย จะเติบโตไปในธุรกิจ Wealth ยังมีเป้า หมายสำคัญที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา Application ที่ตอบสนองทุกความต้องการและเพิ่มความสะดวกสบายใน
การลงทุนทุกผลิตภัณฑ์ด้านการเงินทั่วโลก ซึ่งจะเป็นบริษัทหลักทรัพย์ เดียวที่นำทุกการลงทุนเข้ามาอยู่ในมือคุณตอบโจทย์การลงทุนเพื่อทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือมืออาชีพ
“ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับการลงทุนให้คุณคิดถึง บล.พาย เพราะเรามีทุกบริการที่คุณต้องการไม่ว่าจะเป็น การออกหุ้นกู้ การ ขยายกิจการที่เป็นพอร์ตหุ้น TFEX กองทุน ในเรื่องของการลงทุนทุกอย่าง รวมทั้ง Structured รวมทั้งการเตรียมตัวนำหุ้นไอพีโอเข้าตลาดหลักทรัพย์ ครบวงจรทุกฟังก์ชั่นของการลงทุน เราจะเปลี่ยนประสบการณ์การลงทุนทั่ว โลกของคุณให้ง่ายด้วยเทคโนโลยี และทีมงานมืออาชีพ ” พัชรี กล่าวทิ้ง ท้าย