“พิม พิมประภา” กลับมายิ้มกว้าง หลังผ่านมรสุมครอบครัว ขึ้นแท่นลูกรัก “เอส-ฉอด” ป้อนละครถี่ๆ

“พิม พิมประภา” ขึ้นแท่นลูกรัก “เอส-ฉอด” มีงานป้อนให้ตลอด จนเหมือนเป็นโลโก้ CHANGE2561 เผยชีวิตหลังผ่านมรสุมลูกใหญ่ ค่อยๆ ดีขึ้นตามกาลเวลา มีครอบครัวคอยช่วยฮีลกันและกัน โอดยากมากกว่าจะผ่านมา2ได้ ยกเป็นเรื่องหนักสุดในชีวิต โชคดีสามพี่น้องจับมือกันแน่นมาก เลยกลับมายิ้มได้กว้างขึ้นแล้ว

หลังเจอมรสุมครอบครัวลูกใหญ่ จนทำให้มีน้ำตา ล่าสุดสาว “พิม พิมประภา ตั้งประภาพร” ก็กลับมาตั้งหลักได้แล้ว โดยวันนี้ (10 ส.ค.) ในพิธีบวงสรวงซีรีส์ “One Night Stand คืนเปลี่ยนชีวิต” เจ้าตัวก็ได้ออกมาอัปเดตชีวิตช่วงนี้ให้ฟัง ว่าค่อยๆ ดีขึ้นตามกาลเวลา เพราะมีครอบครัวคอยฮีลและส่งพลังบวกให้กัน

“ตอนนี้งานแน่นๆ เลย ก็ต้องขอบคุณโอกาสจากผู้ใหญ่ค่ะ ขอบคุณทางพี่ฉอด (สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา) พี่เอส (วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย) ค่ะ ที่ให้ละครต่อเนื่องมากๆ เลย ถามว่ารับเยอะมีเบลอๆ ไหม ก็ไม่มีค่ะ จริงๆ แล้วก็ยังโชคดี ที่ละครทุกเรื่องไม่ได้ถ่ายชนกัน คือถ่ายเรื่องหนึ่ง แล้วก็ต่ออีกเรื่องหนึ่ง มันก็ยังมีช่วงให้พอได้พักอยู่บ้าง จริงๆ มากที่สุดของพิม คือพร้อมกัน 2 เรื่องนะ ก็คือยังโอเคอยู่ค่ะ ยังไม่หนักมาก”

งานละครเยอะจริง แต่ก็พยายามรับบทที่แตกต่าง
“แต่จริงๆ ก็พยายามที่จะรับบทที่แตกต่างมากขึ้นด้วย ก็อาจจะไม่ได้ถี่เหมือนตอนช่วงต้นปีแล้ว ตอนนั้นคือจริงๆ มันไม่ได้ตั้งใจให้ออนแอร์พร้อมกันขนาดนั้น แต่ว่าเหมือนไปติดช่วงโควิดด้วย อะไรด้วย มันก็เลยมาออนแอร์กระจุกอยู่ในช่วงเดียวกันหมดเลย”

คนมองเป็นลูกรัก “พี่ฉอด” คิดอะไรไม่ออกบอก “พิม”
“กราบขอบพระคุณค่ะ (หัวเราะ) ไม่รู้จะพูดอะไร ขอบคุณอย่างเดียว ทั้งพี่เอส พี่ฉอด เป็นสองคนแรกที่ให้โอกาสพิม ตั้งแต่พิมออกฟรีแลนซ์มา (หน้าเราเป็นโลโก้ CHANGE2561 ไปแล้ว?) ค่ะ ก็ต้องขอบคุณมากๆ เลย แล้วก็จะทำให้เต็มที่ อย่างที่ทำเต็มที่เสมอมาค่ะ ตอนนี้ก็ถ่าย One Night Stand อยู่เรื่องเดียว แล้วก็เดี๋ยวเป็นต้นปีหน้าอีกทีหนึ่งเลยค่ะ”

ชีวิตหลังผ่านมรสุมลูกใหญ่ ค่อยๆ ดีขึ้นตามกาลเวลา
“ก็ตามกาลเวลาค่ะ ค่อยๆ ดีขึ้น แข็งแรงขึ้น แล้วก็ได้กำลังใจที่มันดีมากๆ ด้วย จริงๆ ด้วยความที่พิมไม่ได้อยู่ลำพัง มันยังมีคนในครอบครัวที่อยู่ข้างๆ เราอยู่ เราเข้าใจกัน พิมก็ถือว่าเราก็ช่วยๆ กันฮีลไป ให้พลังบวกกัน พูดกันแต่เรื่องดีๆ (ปัญหามันคลี่คลายหรือยัง?) ก็ให้มันเป็นเรื่องที่พิมคุยกับที่บ้านดีกว่าค่ะ ถือว่าตอนนี้ทุกอย่างโอเคค่ะ”

แฮปปี้ทำงานได้เต็มที่ ไม่มีทุกข์ในใจ
“ค่ะ ใช่ ก็ถือว่าตามกาลเวลาค่ะ ทุกอย่างก็ให้เวลาเป็นตัวช่วย เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้น”

กว่าจะผ่านมาได้มันยาก เป็นเรื่องที่หนักสุดในชีวิต
“ยากค่ะ คือพิมเชื่อว่าเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่ไม่ได้ง่ายสำหรับใครอยู่แล้ว สำหรับพิมก็เป็นเรื่องที่หนักมากเหมือนกัน น่าจะหนักที่สุดในชีวิตแล้วเหมือนกันค่ะ ก็พยายามมองว่าทุกๆ ปัญหามันต้องมีทางออก ถ้าเราผ่านมาได้ เราก็จะแข็งแรงขึ้นแหละ ถามว่าตอนนั้นบอกกับตัวเองยังไงบ้าง ก็ไม่ได้บอกอะไรกับตัวเองนะคะ ก็แค่พยายามที่จะมีความสุข แล้วก็มอบความสุขให้กับคนรอบข้างให้ได้มากที่สุดค่ะ”

กลับมายิ้มได้กว้างขึ้นแล้ว เพราะกำลังใจจากทุกคน
“ใช่ค่ะ คือบางสถานการณ์ ต่อให้เรายิ้มไม่ออก เราก็ต้องยิ้ม แต่ว่า ณ วันนี้ ถามว่าเรายิ้มได้กว้างขึ้นไหม เรายิ้มได้กว้างขึ้น เราสามารถที่จะเผชิญกับหลายๆ อย่างได้มากขึ้นค่ะ กำลังใจดีมากๆ จากทั้งคนรอบข้าง คนในครอบครัว แล้วก็แฟนคลับด้วย”

โชคดีที่สามพี่น้องจับมือกันแน่นมาก เลยผ่านทุกอย่างได้
“พิมโชคดีที่เราพี่น้องสามคน จับมือกันแน่นมาก เราจับมือกันเลย ว่าเราจะดูแลให้ดีที่สุด เราจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด พิมไม่ได้รู้สึกหนักมาก เพราะเรารู้สึกโชคดีมากที่เรามีน้องอีกสองคน แล้วเขาก็เป็นทีมเวิร์กมากๆ กับเรา ทุกคนให้พลังบวกกันมากๆ ไม่ว่างานอะไรก็ไปซัปพอร์ตกัน”

ขอบคุณแฟนๆ ยังซัปพอร์ตเหนียวแน่น
“ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะ ที่ให้ความเข้าใจ และให้กำลังใจมาเยอะมากๆ เลยค่ะ”

ปลื้มใจน้องสาว “พลอย พลอยไพลิน ตั้งประภาพร” ประสบความสำเร็จมาก มีหนังต่อเนื่อง
“ใช่ค่ะ อยากพูดเรื่องนี้มาก ปลื้มมาก ดีใจค่ะ ทุกครั้งที่เห็นน้องประสบความสำเร็จ ก็จะรู้สึกเห่อน้องทุกครั้ง ที่เวลาเห็นน้องมีไมค์รุมสัมภาษณ์ มีแฟนคลับเยอะๆ เมื่อวานมีโอกาสได้ไปดูภาพยนตร์ของน้องด้วย ก็รู้สึกดีใจ ประทับใจ ที่น้องเราโตในเรื่องการแสดงอีกขั้นแล้ว พิมก็บอกเขานะ ส่งข้อความไป ว่าแกมั่นใจได้เลย ว่าแกเป็นนักแสดงคุณภาพอีกคนหนึ่ง”

ก่อนหน้านี้ “พลอย” ไม่มีความไม่มั่นใจในการแสดง เลยอยากพิสูจน์ว่าไม่ได้เป็นแค่ยูทูบเบอร์
“ใช่ค่ะ ด้วยความที่เขามีความเชื่อมาตลอด ว่าตัวเขาเป็นยูทูบเบอร์ เขาอยากที่จะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น ว่าเขาเป็นนักแสดงที่ดีได้เหมือนกัน พิมก็เลยบอกว่าเฮ้ย ไม่ต้องกังวลและไม่ต้องสงสัยอีกแล้ว แกเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่งในวงการเลย”

พาคุณพ่อไปให้กำลังใจน้อง ทำภูมิใจจนน้ำตาคลอ
“ใช่ค่ะ ปะป๊าน้ำตาคลอเลยตอนอยู่ในโรงหนัง เราก็ถามว่าหนังซึ้งเหรอ ป๊าบอกว่าเปล่า ป๊าภูมิใจ”