“ปุ้ย ปิยาภรณ์” เปิดตัวมงกุฎสุดหรู MUT 2023 ใช้วัสดุหายาก และเพชรจริง รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้าน เห็นแววมงฯ หลายคน แต่ตัวเต็งอาจจะหลุดโผเพราะม้ามืด ยันไม่เคยทะเลาะ “ตี๋ แมทชิ่ง” หลังอีกฝ่ายให้สัมภาษณ์ถึง บอกมีอะไรต้องเคลียร์ต่อหน้า ไม่เคยพูดลับหลัง ไม่มีเรื่องต้องคุยกันนานแล้ว
ทำเอาแฟนนางงามตาลุกวาว หลังวันนี้ (9 ส.ค.) “ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” เปิดตัว “Light of Glory” แสงแห่งความงาม มงกุฎประจำตำแหน่งของ Miss Universe Thailand 2023 ที่ทำจากเพชรของแบรนด์จิวเวลรี่ระดับโลก MOUAWAD ทองคำขาว และ Yellow Beryl โดยแม่ปุ้ยเผยว่า มงกุฎของปีนี้หาวัสดุยากมาก และใช้เวลาทำนานถึง 7-8 เดือน กว่าจะออกมาสวยทรงพลังแบบนี้ได้ ซึ่งมูลค่าก็ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท
“มงกุฎสวยงามมาก Light of Glory เป็นพลังแห่งความรุ่งเรือง แสงสว่าง ออกแบบมาตั้ง 6 เดือนกว่าจะลงตัว วัสดุที่ใช้ความยากอยู่ตรงที่ว่ากว่าจะหาได้ เพราะที่เห็นตรงสีเหลืองๆ นั่นคือ Yellow Beryl เป็นตระกูลพลอยที่หายากอันดับต้นๆ ของโลก แล้วการจะหาสีมาให้มันแมตช์กันมันยากมาก ใช้เวลามา 7-8 เดือนมงกุฎปีนี้จะมีความทรงพลัง ซึ่งในการประกวดของปีนี้ ก็มีการแข่งขันที่สูงมาก และมันจะต้องยากลำบากขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยเป็นที่มาของมงกุฎที่ทรงพลังเรือนนี้ ตัวเรือนเป็นทองคำขาว แล้วก็มีไดมอนด์จริงๆ มูลค่าก็ไม่ต่ำกว่า 5 ล้าน เห็นแล้วขนลุก คือเพชร MOUAWAD จะมันจะขาวจั๊วะเลย ไม่ว่าจะกี่กะรัตเขาก็จะขาวจั๊วะ พอประกอบเป็นตัวเรือนมงกุฎขึ้นมาเนี่ย มันจะแรงมาก ก็ดูว่าใครจะเป็นผู้โชคดี ดูว่ามงกุฎจะเลือกใครนั่นแหละค่ะ”
เห็นแววคนมงฯ หลายคนมาก เพราะปีนี้มีแต่เก่งๆ รอไปลุ้นในรอบไฟนอลทีเดียว
“มันหลายคนมาก สลับกัน วันนี้เราก็มองว่าสงสัยคนนี้ อีกวันหนึ่งสงสัยคนนี้ มันมีความขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลา ท้ายที่สุดแล้ว วันที่จะตัดสินชะตากรรมเนี่ย ก็คือไฟนอลแน่นอน เพราะอย่างทุกปีเนี่ย ครึ่งทางในใจจะเห็นแล้ว ทั้งคะแนนหลังบ้าน เพอร์ฟอร์แมนซ์ แต่ปีนี้เนี่ยลำบากใจ ทุกคนดีหมด ปีนี้เราทำการบ้าน ปรึกษากองแม่ด้วยนะ ปรึกษากรรมการที่เคยเป็นมาหมดแล้ว ปีนี้เราจะดูแม้กระทั่งว่าคะแนนหลังบ้านเท่ากัน คะแนนทุกอย่างเท่านั้น แต่พอเข้า 3 คนปั๊บจะ set zero เลย นั่นหมายความว่าการเข้า 3 แสดงว่าคะแนนหลังบ้านคุณดี ถ้าไม่ดีเราไม่ให้เข้า ออกไปเลย เพื่อป้องกันความวุ่นวาย เพราะฉะนั้น 3 คนนี้ จะเป็นคนที่บ่งเลยว่า ใครก็ได้อย่าพลาด การตอบคำถาม เพอร์ฟอร์แมนซ์ แล้วก็ความมั่นใจในค่ำคืนนั้น ถ้าคุณมีแววตาลังเลแม้แต่นิดหนึ่ง สมมติตอบดีเท่ากันหมด เพอร์ฟอร์แมนซ์ดีเหมือนกันหมด แต่แววตาที่กรรมการได้เห็นทั้งหมด คือคุณไม่มั่นใจ คุณก็พลาด”
ปีนี้ดรามาเยอะ แต่ก็ผ่านมาเยอะ ดูออกหมด บางเรื่องก็เป็นแค่เรื่องตลกไร้สาระ
“ปีนี้ดรามามาเยอะมาก เอาใจไม่ถูก คนนี้ก็บอกว่าคนนี้ต้องได้ ด้อมนี้ก็บอกว่าด้อมนี้ต้องได้ แต่อย่างที่บอก TPN ก็พิสูจน์ให้เห็นในหลายยุคหลายสมัยแล้ว ว่าเราไม่ได้แคร์เรื่องกระแส ไปกว่าเนื้อแท้ของนางงามจริงๆ แต่ใครมาพูดอะไรเราฟังหมดเลย ถือเป็นข้อมูล จดโน้ตหมดเลยกันลืมแล้วสังเกตดูด้วยตาตัวเอง คนที่ฉลาดต้องรับฟังให้หมด แต่จะบอกให้ว่า พอรับฟังแล้วมันก็ขำ พอเรามาจับสายตาดู สิ่งที่เขาเล่ามาบางเรื่องเป็นเรื่องตลกไร้สาระ เป็นเรื่องของเสียงลือเสียงเล่าอ้าง ไม่ได้มีประเด็นเลยค่ะ เราหัวหงอกแล้ว เราผ่านการดรามา ผ่านคนโกหก ผ่านคนที่ลูกเล่นมาเยอะ เราดูออกหมด บางครั้งเราก็ซ้อนแผนนะ ให้คนที่ไม่ได้อยู่ในวงการเลย ซ้อนเข้าไป จะได้เห็นของจริงๆ ได้เรื่องราวจริงๆ ออกมา”
อาจมีเซอร์ไพรส์ตัวเต็งหลุดโผ และมีม้ามืดขึ้นมาแทนหลายคน
“ตอนนี้บอกไม่ได้เลย ท็อป 5 ยังบอกไม่ได้เลย เพราะเราเห็นแล้ว ที่รอบชุดว่ายน้ำที่ขอนแก่น รอบ Q&A มันเห็นหลายอย่างนะ ว่าคนที่โชนแสงเนี่ย มันมาจากไหนเนี่ย วันเดียว คืนเดียว เปลี่ยนบริบทชีวิตเลยก็มีหลายคน อันนี้ลุ้นสนุก กลัวเหมือนกันค่ะ มันน่าจะมีการพลิก ถามว่าจะมีช็อกแฟนนางงามไหม ตอนนี้มันเบียดกันมาก กรรมการที่ดูอยู่ยังบอกเลย ว่าปีนี้ลำบากใจ วันนี้มันยังไม่มีใครหลุดไปแบบสุดขั้ว แต่คิดว่ามีหลุดแน่นอน ส่วนม้ามืดก็มีค่ะ หลายคนมาก อยู่ดีๆ สวยขึ้นมา มีพลังขึ้นมา ก็หลายคนมาก”
หนึ่งคุณสมบัติ คือต้องดูนิสัยใจคอด้วย
“ใช่ แม่ปุ้ยว่าทุกคนเลือกแบบนั้น เพราะถ้านิสัยใจคอไม่ไหว เข้ากับใครไม่ได้ ทำงานก็ไม่ได้ เอาไปกองแม่ก็หนักใจ สมมติกองแม่เขาให้ท็อปให้มงฯ คุณ แล้วคุณจะทำงานกับเขายังไง เขาก็มาด่าเราสิ ว่าเลือกนางงามยังไงไม่มีคุณภาพ เพราะฉะนั้นมันไม่ต้องมองแค่กองของไทยแลนด์ มันต้องมองไปถึงกองยูนิเวิร์ส ว่าเขาต้องการอะไร คุยมีพลังที่เขาพูดถึงจริงหรือไม่”
ใกล้ถึงโค้งสุดท้ายยิ่งลุ้น
“มันลุ้นมาก ปีนี้มันลุ้นเหงื่อแตกเหงื่อแตนของจริง คอยติดตามชมนะคะ”
เปิดใจหลัง “ตี๋ แมทชิ่ง” หรือ สมชาย ชีวสุทธานนท์ อดีตประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีเอ็น 2018 ออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องการถอนตัวจาก TPN …ว่ายังไม่ได้อ่านสัมภาษณ์เต็ม แต่ไม่ชอบพูดลับหลัง มีอะไรต้องมาเคลียร์กันต่อหน้า
“ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ มีคนมาเล่า แต่ก็เล่าแล้วจับใจความไม่ได้ เขาว่าอะไรบ้างล่ะคะ คือในเรื่องความสัมพันธ์ ถ้าถามเราเราไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งอะไรทั้งสิ้น ก็มีคนมาเล่าหลายประเด็น ก็เลยบอกไปว่า จะไม่พูดถึงใครลับหลัง ต้องมาพูดกันต่อหน้า ถ้ามีอะไรไม่ดี ต้องมาพูดกันต่อหน้า เคลียร์กันเลย เพราะเราคิดว่าต้องเคลียร์ด้วยหลักฐานประจักษ์พยาน และเด็กๆ ที่ทำงานกับ TPN Global ทั้งทีม ไม่ว่าจะเป็นทีมโปรดักชั่น ทีมแสง สี เสียง ทีมไดเรกต์เตอร์ รวมถึงฟันเฟืองสำคัญเล็กๆ ทุกคนยังอยู่กับเราหมดเลย ซึ่งเขาก็น่าจะเป็นประจักษ์พยานได้ดี ว่าเราเป็นคนยังไง หรือว่าเรามีพฤติกรรมยังไงค่ะ”
“ณะ ณรงค์ เลิศกิตศิริ” บอกไม่รู้ว่า “ตี๋ แมทชิ่ง” จะมาเป็นที่ปรึกษาเวทีอื่นด้วยกัน ทั้งที่อีกฝ่ายเล่าว่าณะเป็นคนชวน
“พี่ณะก็เล่าว่าเขาไปเป็นที่ปรึกษา เพราะเขาพูดภาษาญี่ปุ่นได้ ซึ่งพี่ณะบอกว่าตอนนั้นยังไม่รู้เลย ว่าพี่ตี๋จะไป อันนี้พี่ณะพูดกับเราเอง ในไลน์ก็มีเป็นลายลักษณ์อักษรค่ะ”
แจงความสัมพันธ์กับ “ตี๋ แมทชิ่ง” ไม่ได้แน่นแฟ้น เพราะเพิ่งมารู้จักกันตอนปี 2018
“ความสัมพันธ์ไม่ได้แน่นแฟ้นค่ะ เพราะจริงๆ เรามารู้จักพี่ตี๋ ก่อนปี 2018 แล้วก็มีผู้ใหญ่ที่เป็นคนดูแล เป็นที่ปรึกษาของพวกเรา เป็นผู้แนะนำให้รู้จักแต่จริงๆ แล้วผู้ใหญ่ท่านนี้ก็ยังดูแล TPN อยู่ แล้วก็รักใคร่เมตตาเราดีค่ะ ประเด็นอื่นก็เลยไม่ทราบว่ามีประเด็นอะไรอีก”
ไม่มีอะไรติดค้างในใจกัน
“ไม่มีค่ะ มีคนมาถามเหมือนกัน แต่เราก็รู้ในส่วนตัวเราอย่างเดียว ว่าสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาระการรับผิดชอบ การจ่ายเงินทุกสิ่งทุกอัน ทุกวันนี้เราก็ทำงาน ก่อนหน้านี้ก็ทำงาน เอาเป็นว่าซัพพลายเออร์ก็จะรู้ดีค่ะลองไปถามทุกคนที่ทำงานให้เราได้ค่ะ”
ในส่วนของการประกวด MU 2018 และ MUT 2019 ทาง “ตี๋ แมทชิ่ง” บอกว่ายังรับผิดชอบร่วมกันอยู่
“ไม่น่าใช่ค่ะ เพราะหลักฐานที่จ่ายเงิน TPN Global เป็นคนจ่าย ก็อย่างที่บอกว่าไม่อยากจะพูดคนเดียว มันไม่เวิร์กหรอก ถึงได้บอกว่าต้องมาพูดกันต่อหน้าพร้อมหลักฐานลองไปสัมภาษณ์ซัพพลายเออร์ต่างๆ ดูค่ะ”
TPN วันนี้เหลือแค่ตัว P ก็คล่องตัวดี สบายใจ
“ก็ดีนะคะ ทำงานคล่องตัวดี แล้วก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ สบายใจดีนะคะ ซึ่งพี่ณะเอง ตอนเขาป่วยมากๆ เขาเป็นคนบอกเองว่าเขาไม่สบาย เราก็รู้แค่นั้น ส่วนอะไรที่ลึกกว่านั้นมันมีแน่นอน อย่างที่บอกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาพูด เพราะเรามีหลักฐาน อยากให้เกียรติกัน แต่ถามว่าถ้าจะพูดเนี่ย มันรังแต่จะก่อให้เกิดความเสียหาย เพราะเราไม่ได้พูดไปพูดมา และไม่เคยพูดก่อน แต่เมื่อไหร่ที่พร้อมจะพูด บอกมาเลย เคยเชิญมาคุยกันก็ไม่มา เพราะว่าเรามีหลักฐาน มีอะไรทุกอย่างค่ะ เราก็อยากกระจ่าง วันนี้มันก็กระจ่างแล้วล่ะค่ะ ทุกคนที่ทำงาน ก็ยังอยู่กับเราหมด”
เคยนัด “ณะ ณรงค์” มาคุย แต่กับ “ตี๋ แมทชิ่ง” ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องนานแล้ว
“พี่ณะก็นัดมาค่ะ แต่ว่าตอนหลังแกก็บอกว่าแกไม่สบาย บ้านหมุน แล้วก็ยังไม่ได้นัดมาอีกเลยค่ะ แต่กับพี่ตี๋ไม่ได้นัดค่ะ ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเรา คือเราก็ไม่ค่อยได้มีอะไรคุยกับพี่ตี๋นานแล้ว แต่ถามว่าจบกันด้วยดีไหม ก็ไม่ได้ทะเลาะเบาะแวงกัน เราคิดว่าการที่คนเรา จะออกมาพูดอะไรเพื่อเรียกกระแสเข้าตัวเองเนี่ย ต้องคิดให้ดี ว่าตอนที่มันตีกลับ มันจะพังไหม”
คนมองเวทีอื่น ชอบมาหาแสงกับ MUT
“ก็คิดแปลกใจอยู่นิดหนึ่ง เวลาที่เราจะมีอีเวนต์อะไรใหญ่ มันจะต้องมีคนมาโพสต์โน่นนี่ แล้วก็เงียบหายไป แต่ก็ไม่ค่อยมีนักข่าวมาถามเรื่องนี้นะคะ เพราะเราไม่สนใจ มีเพื่อนฝูงอ่านแล้วมาเล่า ก็ถามว่าเขาว่าอะไร แต่ก็ไปว่าเขาไม่ได้นะ เพราะคนเล่าก็บอกว่าอ่านแล้วก็ไม่รู้เรื่อง(หัวเราะ)”
ยืนยัน MUT ปีหน้า ก็ยังเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์อยู่
“ปีหน้าก็ต้องเดินหน้าจัดต่อ ปีนี้ก็ได้มีการวางแผนคุยแล้ว ว่าคอนเซ็ปต์ปีหน้าจะเอาอะไรดี ก็พูดอย่างนี้กันทุกปี เราก็ตอบเหมือนเดิมทุกปี ว่าเดี๋ยวไปรอปีหน้า เห็นทำก็คือทำ”