ทำเอาแฟนๆ กรี๊ดกันหนักมาก เมื่อหนุ่มฮอตจากแดนมังกร “หวัง อี้ป๋อ” บินลัดฟ้ามาไทย เพื่อร่วมโปรโมตภาพยนตร์ “สเต็ปกล้าท้าฝัน One and Only” ที่มีกำหนดฉายในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ แต่ก่อนที่จะไปเจอกับแฟนๆ ในช่วงเย็นของวันนี้ (8 ส.ค.) เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ทางผู้กำกับ “ต้าเผิง” และนักแสดงนำอย่าง “หวัง อี้ป๋อ” ก็ได้มาร่วมพูดคุยกับบรรดาสื่อมวลชน ในงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ ที่ห้องแกรนด์สินธร ชั้น 2 โรงแรมสินธรเคมปินสกี
โดยผู้กำกับ “ต้าเผิง” และ “หวัง อี้ป๋อ” ได้ขึ้นมากล่าวสวัสดีและทักทายสื่อมวลชน พร้อมเล่าถึงที่มาที่ไปของภาพยนตร์เรื่องนี้ ว่าเป็นหนังที่ต้องทุ่มเท และใส่ใจในรายละเอียดมากๆ ซึ่งในระหว่างการถ่ายทำ ก็มีความประทับใจเกิดขึ้นหลายอย่าง
ผู้กำกับ : “จริงๆ หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ทุ่มเทและใช้เวลาค่อนข้างสั้นกับการเป็นผู้กำกับ ใช้เวลาการทำตอนปี 2021 พอปี 2023 ก็สามารถดูได้แล้ว”
แรงบันดาลใจของหนังเรื่องนี้ เกิดจากการแข่งขันเอเชียนเกม
ผู้กำกับ : “มาจากการแข่งขันเอเชียนเกม เพราะมีกีฬาบีบอยหรือการเต้นเบรกแดนซ์เข้ามาในเอเชียนเกมด้วย และอยากให้มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทยกับจีนด้วย”
ตัวละคร “เฉินซั่ว” มีความใกล้เคียงกับชีวิต เพราะตามหาฝันเหมือนกัน
หวัง อี้ป๋อ : “จริงๆ เฉินซั่ว ตัวละครที่เล่น มีความใกล้เคียงกับชีวิตผมเพราะเราตามหาความฝันของตัวเองเหมือนกัน แต่ที่บ้านของผมเขาให้การสนับสนุนอย่างดี แต่ตัวเฉินซั่วในหนัง คือทำงานเสร็จแล้วต้องกลับมาเต้น ที่มีความแตกต่างนิดเดียวแต่เหมือนกันมาก”
เลือก “หวงป๋อ” และ “หวัง อี้ป๋อ” มาเล่น เพราะมีคาแรกเตอร์ที่จะสร้างกำลังใจให้ใครหลายๆ คน
ผู้กำกับ : “จริงๆ ก่อนผมจะเป็นนักแสดงที่ดังทั่วจีนได้ผมเป็นแดนเซอร์มาก่อน ด้านหวงป๋อถึงแม้จะเลยวัยรุ่นมาแล้ว แต่ถ้าวัยรุ่นเขาเป็นไอดอลในยุคสมัยนั้นเลย จริงๆ หนังเรื่องนี้มี 2 คาแรกเตอร์ หวงป๋อเป็นวัยทำงานที่หมดไฟตามล่าหาความฝัน ส่วนหวัง อี้ป๋อเป็นวัยรุ่นตามหาฝันของตัวเองเป็นหนังที่จะสร้างกำลังใจให้ใครหลายๆ คน”
ประทับใจในตัว “หวัง อี้ป๋อ” และชื่นชมในความสามารถมาก
ผู้กำกับ : “เขาเป็นคนที่อยู่ใกล้ไม่ได้ออร่าแรงเกิน พอมองนานๆ แล้วเขิน จริงๆ ทุกคนรู้ว่าเป็นเขาเป็นซุป’ตาร์ แต่บทนี้เขาตีแตกมาก ในบทเขาแสดงเป็น เฉินซั่ว คนธรรมดาๆ คนหนึ่งสู้ชีวิตจนกระทั่งสามารถก้าวสู่เวทีระดับโลก ผมชื่นชมความสามารถของหวัง อี้ป๋อมาก และอยากให้ทุกคนตั้งใจดู 20 นาทีสุดท้ายเป็นไฮไลต์และมีฉากอลังการมาก จะได้เห็นหวัง อี้ป๋อโชว์สเต็ปแดนซ์และอี้ป๋อก็ไม่ยอมให้ใช้สแตนอินเพราะเขาอยากเล่นเองแสดงเองทั้งหมด”
หวัง อี้ป๋อ : “สำหรับหนังเรื่องนี้ การถ่ายหนังเป็นสิ่งที่ผมรักและการเต้นด้วย ผมได้จดหมายเชิญให้มาเล่นหนังเรื่องนี้ที่เกี่ยวกับการเต้นเลยชอบมาก อยากทำให้ดีที่สุด ตอนเด็กๆ การเต้นบีบอยหรือเบรกแดนซ์ สังคมจะมองว่าไม่น่ารัก แต่ผมก็ได้เรียนรู้จากหนังเรื่องนี้ไปสื่อให้สังคมได้รู้ ได้เห็นอีกแง่มุม ว่ากว่าจะฝ่าฟันมันไม่ง่าย และถ่ายทอดการเต้นบีบอยสู่สายตาคน”
ผู้กำกับ : “หลายคนมองว่าเด็กที่การเต้นบีบอยหรือเบรกแดนซ์จะดูก้าวร้าวแต่จริงๆ เป็นการเต้นที่ไม่เหมือนใคร มีท่าใหม่ๆ พอหนังเรื่องนี้ออกมามีเด็กรุ่นใหม่สนใจการเต้นบีบอยมากขึ้น จริงๆ หลายมองว่าการเต้นบีบอยเป็นเด็กไม่ดี แต่ทุกวันนี้การเต้นบีบอยหรือเบรกแดนซ์เข้าสู่กีฬาโอลิมปิกแล้วเรียบร้อย ตัวผมก็เหมือนกันแต่ก่อนเริ่มจากการทำหนังสั้นในอินเทอร์เน็ตพอได้มากำกับภาพยนตร์ใหญ่คนก็ยัมมองว่าทำได้เหรอ จริงๆ พอเราตั้งใจก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคได้ อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องในหนังเรื่องนี้”
ความยากคือใช้เวลาถ่ายนาน และต้องใส่ใจทุกรายละเอียดมากๆ
ผู้กำกับ : “ช่วง 20 นาที เราเชิญแดนเซอร์นักเต้นตัวจริงตัวแทนของจังหวัดมาร่วมเต้นด้วย ใช้เวลาถ่ายนานมากๆ เพราะทุกรายละเอียดเราใส่ใจมากๆ”
ประทับใจฉากเวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ เพราะเป็นการรวมตัวของนักแสดง และเหล่านักเต้น
หวัง อี้ป๋อ : “ตอนถ่ายทำฉากเวิลด์แ แชมเปี้ยนชิพส์ เพราะได้ถ่ายหนัง แล้วก็ได้รวมตัวนักแสดงที่รู้จักและได้เจอนักเต้นหลายๆ คนได้มีการแลกเปลี่ยนอะไรต่างๆ ด้วยกัน รวมถึงมีท่าเต้นยากๆ หลายท่าแต่ผมก็ทุ่มเทฝึกซ้อมแต่ท่าเต้นบางท่าที่มีความอันตรายก็มีคนมาช่วย”
ผู้กำกับ : “ขอบคุณนักเต้นจากประเทศจีน ที่มีส่วนร่วมในหนังเรื่องนี้มากๆ”
หวัง อี้ป๋อ : “ถ้าคุณอยากรู้ 20 นาทีท้าย คุณต้องไปดูกันที่โรงภาพยนตร์”
ผู้กำกับ : “ผมรักเมืองไทยมาก และถ้ามีโอกาสอยากมาถ่ายหนังที่นี่และอย่าลืมว่าผมเป็นนักแสดง ผู้กำกับไทยท่านใดสนใจเรียกผมได้ นักแสดงผู้กำกับไทยคนไหนไปจีน ผมก็ต้อนรับมากๆ อยากให้ความสัมพันธ์นี้แน่นแฟ้นมากขึ้น ทั้งไทยและจีน ผมเชื่อว่าจะสร้างอีกปรากฎการณ์ที่ไทยอีก ผมรักเมืองไทย หวังว่าจะได้เจอกันอีก”
