“เอ้ ชุติมา” เปลี่ยนใจไม่ฟ้อง “ฟร้อง” กับคุณแม่ ลั่นไม่ยุ่งอีก หลังจากนี้ปล่อยผ่าน ขอโทษก็ไม่ต้องการ หากไม่ออกมาจากหัวใจ รับเป็นแฟนคนแรกที่จบแบบนี้ แต่ยังห่วงอยากให้มีอนาคตที่ดี แนะต้องยืนให้ได้ด้วยตัวเอง ไม่มีใครซัปพอร์ตได้ตลอดชีวิต
หลังจากเปิดศึกกันจนกลายเป็นประเด็นใหญ่โต กรณีที่ “เอ้ ชุติมา นัยนา” เลิกรากับ “ฟร้อง ศุภกิจ ประสงค์” แฟนคราวลูก ก่อนถูกฝ่ายชายออกมาร้องสื่อ อ้างถูกเอ้ ชุติมา นำรถไปซ่อนแล้วไม่ส่งค่างวดต่อ จนกำลังจะถูกไฟแนนซ์ฟ้อง ขณะที่บ้านที่เอ้ ชุติมาซื้อแต่เป็นชื่อของตน ก็ต้องปล่อยให้แบงก์ยึดไปแล้ว กลายเป็นดรามาหนัก ถึงขั้นต้องออกมาปะฉะดะกันผ่านรายการโหนกระแส และหลังจากนั้น เอ้ เผยว่าเตรียมฟ้องอีกฝ่ายหวังให้บทเรียน
แต่ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เจอตัวเอ้ ชุติมา เจ้าตัวก็เผยว่าตอนนี้เปลี่ยนใจไม่ฟ้องแล้ว แต่จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีก เป็นแฟนคนแรกที่จบแบบนี้ และก็ยังหวังให้ฟร้องมีอนาคตที่ดี
“ได้คุยกับครอบครัวแล้วค่ะ ก็ปล่อยเขาไป เขาอยากได้อะไรก็เอาไปให้หมด ตอนนี้เอ้ไม่ฟ้องเขา แต่ถ้าเกิดทางบ้านเขาย้อนกลับมาฟ้องเราเรื่องรถ เรื่องบ้านที่เราให้ไปแล้ว และเขายังต้องจ่ายส่วนต่างอีกไม่กี่หมื่น เขาทำให้ไม่ได้ จ่ายไม่ได้ แล้วเขาฟ้องเรา อันนั้นเอ้จะฟ้องกลับทันทีค่ะ”
อยากด่าให้ด่าไป
“คุณพ่อคุณแม่บอกให้จบไปด้วยดี บอกว่าถ้าบ้านนั้นเขายังเป็นคนแบบนี้อยู่ เขาก็ไม่อยากให้ลูกโดนบ้านนั้นมาว่า เพราะที่บ้านเราก็ข้าราชการหมด อดีตนายพลหมด เขาฟังแม่เขา (อดีตแฟน) มาด่าเราออกรายการ ที่บ้านเราก็ไม่ชอบแบบนี้ แต่เราไม่เถียงเขาสักคำนึง เพราะว่าที่บ้านสอนมาดีว่าห้ามเถียงผู้ใหญ่ ต่อให้เขาอายุน้อยกว่าเรา แต่เขาก็คืออดีตแม่แฟนเรา ปกติก็ไม่เคยเถียงผู้ใหญ่อยู่แล้ว ก็ปล่อยให้เขาด่าไป อยากด่าอะไรก็ให้ด่าไป”
ไม่ได้สงสาร แต่ห่วงอนาคตฟร้อง
“ไม่ได้สงสารอะไรมากหรอกค่ะ แต่เป็นห่วงอนาคตน้องแค่นั้นเอง อยากให้น้องมีอนาคต”
ไม่เคยขอโทษ หลังเจอหน้ากันผ่านรายการ แต่ปล่อยไป
“เขาไม่เคยเลย เอาจริงๆ เขาไม่เคยขอโทษเราเลย หลังจากจบรายการวันนั้นจนถึงวันนี้ แต่ได้ข่าวว่าเขาก็ทะเลาะกับคนชื่อ…(ทำท่า) ทะเลาะกันเละเทะเลย เพราะน้องเขาไม่ยอมเปิดเผยชื่อ เพราะเพื่อนเราสนิทกับเขา เพื่อนก็มาเล่าให้ฟังว่าทะเลาะกันเรื่องไม่เปิดเผยชื่อนี่แหละ ถามว่าตัดหางปล่อยวัดเลยไหม ปล่อยเลยค่ะ อะไรที่น้องมีความสุขและคิดว่าดีก็ปล่อยเขาไป”
ขอคืนดีก็ไม่เอาแล้ว ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากให้แม่ฟร้องมาอาละวาดอีก
“ไม่มีค่ะ ไม่เอาแล้ว เป็นคนที่ถ้าเลิกแล้วนิสัยเหมือนผู้ชาย เลิกแล้วคือเลิกเลย แต่ถามว่าห่วงไหม ห่วง แต่ในเมื่อเขามีคนดีหรืออะไรก็แล้วแต่ดูแลแล้ว ซัปพอร์ตเขาแล้ว เขาแฮปปี้ มีความสุข เราก็มีความสุขด้วย หลังจากนี้ถ้าอยากคุยก็ไม่คุยค่ะ คือเจอก็คุยได้ เจอก็สวัสดีครับแค่นั้นพอแล้ว แต่อย่ามายุ่งกันอีกเลย เราไม่อยากให้แม่เขามาอาละวาดเราอีก พอเถอะ ในส่วนแม่เขาพอแล้วค่ะ จบแล้ว แม่เขาเป็นดาวติ๊กต๊อกไปแล้ว (ยิ้ม)”
ไม่ต้องขอโทษถ้าไม่ใช่ความรู้สึกจากหัวใจ แฟนคนแรกที่จบแบบนี้
“ขอโทษแต่ปาก แต่ข้างในไม่ได้ขอโทษ ก็ไม่ต้องขอโทษดีกว่า ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า เพราะเราถือว่าเราให้น้องมากที่สุดแล้ว เราเลี้ยงดูเขามา เราส่งเสียเขาเรียน เราเหมือนแม่คนที่สองของเขา ในเมื่อเราให้ทุกอย่างแล้ว ถ้าเรายังไม่ดีพอหรืออะไรก็ตาม ก็ไม่เป็นไร จบกันแบบนี้แหละค่ะ เป็นแฟนคนแรกที่จบแบบนี้นะ ปกติแล้วแฟนเก่าทุกคนในวันเกิดเอ้มาเกือบหมดเลย แฟนเก่าที่เป็นทอมเป็นอะไรมากันหมด
ถามว่าคนนี้เป็นคนแรกที่จบไม่สวยไหม ก็เชิงไม่สวย แต่ก็ไม่ได้ไม่สวยแบบน่าเกลียดนะ แต่ก็ไม่สวยแหละ (ยิ้ม) เพราะปกติคนอื่นจบแล้วก็ยังเป็นเพื่อนกัน เจอกันคุยกัน ไปกินข้าวกัน ขนาดว่าแฟนเก่าเอ้มีแฟนใหม่แล้ว เราก็ไปกินกับเขาได้ เราก็สนิทกับแฟนใหม่เขาด้วย ก็เป็นเรื่องปกติ เรานิสัยเหมือนผู้ชาย แต่คนนี้ไม่ได้ เพราะแม่เขาประกาศแล้วว่าไม่ให้ลูกเขามายุ่งเกี่ยว”
คิดได้กลับมาก็ไม่เอา เตือนให้ยืนด้วยลำแข้ง ไม่มีใครซัปพอร์ตได้ตลอดชีวิต
“ไม่เอาแล้ว จบเถอะ ก็เป็นพี่น้องกันไป ขอให้น้องเขามีอนาคตที่ดี แต่จะบอกว่าความหล่อของคนเรามันไม่ได้คงทนตลอดไป แต่ความดีหรือเรียนหนังสือให้มันจบ มีอนาคต หาอนาคตตัวเองดีกว่า ถึงมีคนมาซัปพอร์ต เขาก็ไม่ได้มาซัปพอร์ตเราตลอดชีวิตนะ คุณต้องหัดยืนด้วยตัวเองนะ วันนึงที่คุณเป็นผู้ชายที่เข้มแข็งมากๆ เป็นผู้ชายจริงๆ ให้ผู้หญิงมาเลี้ยงทั้งหมดเขาก็ไม่ชอบนะ ก็ต้องมีจุดยืนของตัวเอง เราเองเป็นผู้หญิง ถ้าให้ผู้ชายมาเลี้ยงทั้งชีวิต เราก็ไม่ชอบ เราก็ต้องมีจุดยืนที่เราจะทำงานด้วยตัวเอง รู้สึกภูมิใจในตัวเองบ้าง ก็เป็นห่วงน้อง ขอให้น้องมีความสุขมากๆ และมีสิ่งดีๆ ในชีวิต”