“ปั้นจั่น ปรมะ” แฮปปี้เจอสาวที่ทำให้อยากเป็นคนที่ดีขึ้น คบ “โจมิ” เกือบปี พบรักที่สนามกอล์ฟ เริ่มจากศูนย์ไปร้อย ไม่เพอร์เฟกต์ทั้งคู่ ปลื้มฝ่ายหญิงไม่ตัดสินตนจากเรื่องราวที่ผ่านมา หลุดคนดีๆ ไปก็คงไม่มีอีกแล้ว
เปิดตัวแฟนหมวย ประกาศไม่โสดอย่างเป็นทางการไปแล้ว สำหรับหนุ่ม “ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย” โดยเจ้าตัวเผยว่าพบรักสาว “โจมิ” สาวไทยเชื้อสายจีนที่สนามกอล์ฟ อีกฝ่ายไม่ได้ตัดสินตนจากเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีต พร้อมชมไม่ขาดปาก
“ก็ลงรูปคุณเขา ก็ไม่เชิงเปิดตัวนะ แต่เราลงเป็นปกติของคนคบหากัน ตอนนี้ไม่โสดแล้วครับ เรียกว่าคลั่งรักได้ไหม ไม่คลั่ง แต่เสมอต้นเสมอปลายแล้วกัน เหมือนทุกครั้งแหละ เราก็อยากให้มันดีนะ แต่ครั้งนี้ดูจะดีที่สุดแล้ว เพราะเราพร้อม หมดสภาพแล้ว (หัวเราะ) ถ้าหลุดคนดีๆ ไปอีกก็คงไม่มีแล้วแหละ ที่จริงตอนนี้ชีวิตมันเป็นปกติแล้ว เราซ้อมกีฬา ถ่ายละคร กลับบ้าน อยู่กับครอบครัว มีแค่นี้ ไม่ได้หวือหวาอะไรแล้ว มีไปเจอเพื่อนนิดหน่อย ล้างมือในอ่างทองคำแล้ว แต่ถ้าใครไปเจอนั่นไม่ใช่ตัวจริง ถามว่าถอดเขี้ยวเล็บแล้วใช่ไหม มันถอดแล้วแหละ แต่มนุษย์เนอะ มันอาจจะมีพลาดบ้างก็ได้ แต่ไม่พลาดดีที่สุด”
พบรักที่สนามกอล์ฟ บอกรักครั้งนี้มาจากความไม่เพอร์เฟกต์ของทั้งคู่
“ผมอยู่สนามกอล์ฟ เราเจอกันที่สนามกอล์ฟ เขาก็เดินผ่านไปผ่านมาแหละ ก็ได้เจอคุณโจมิเขา ตอนแรกก็เห็นผ่านๆ กัน ก็รู้จักกัน แต่ไม่ได้คุย ปกติจะเริ่มจากเราชอบมากๆ จาก 100 แล้วก็ค่อยๆ ลด มันด้วยความไม่เข้ากัน ด้วยองค์ประกอบหลายๆ อย่าง แต่ครั้งนี้มันเริ่มจากคนที่เคยเห็นกันมาก่อน และรู้จักกันจากคนรอบๆ และพอได้รู้จักกันก็เริ่มคุย แต่เขาเป็นคนน่ารักอยู่แล้ว เจอครั้งแรกเขาก็ดูน่ารัก ดูดี สวย พอเรารู้จักไปเรื่อยๆ มันก็ค่อยๆ เติม และเขามีน้ำใจกับผมมาก คอยดูแล ใส่ใจความรู้สึกมากๆ เราก็พยายามปรับตัวเข้าหากัน เพราะเราก็มาจากความไม่เพอร์เฟกต์ทั้งคู่ในเรื่องของความรู้สึก ทุกคนมันมีเรื่องราวที่ผ่านมา ผมเองก็อยากจะเป็นคนที่ดีขึ้นอยู่แล้ว เราก็มาคุยกันแบบเปิดอก แบบผู้ใหญ่ก่อน มีข้อเสียแบบนี้นะ ถ้าอะไรผิดพลาดไปก็ค่อยๆ เรียนรู้กันไปนะ แต่เราจะไม่ปล่อยมือกันนะ
ถามว่าเขามาช่วยฮีลใจกันหรือเปล่า ไม่เกี่ยว จริงๆ ผมคิดว่าผมอยู่ด้วยตัวเองได้ แต่เรื่องแบบนี้เวลามันมีเข้ามา เราก็ไม่ได้ปิดกั้น เราก็ให้โอกาสตัวเอง และพอมันตรงล็อกก็โอเค ผมว่าเดินด้วยกันมันดีกว่าเดินคนเดียวแน่นอนนะ มันมีคนที่คอยดูแลเทกแคร์ความรู้สึกเราทั้งคู่”
เผยเป็นความรักที่เริ่มจากศูนย์
“มันก็อาจจะเป็นแบบนั้นด้วย แต่ผมว่าทุกอย่างเราถามหาความเพอร์เฟกต์จากความรักไม่ได้หรอก แต่มันก็คือการเรียนรู้กันไปทุกๆ วัน และทำให้มันดีที่สุด แต่ถ้าวันนึงความรักมันลดลง พอมันไม่เท่ากัน มันปล่อยมือกัน ก็ต้องตามนั้น”
ไม่ตัดสินตนจากเรื่องราวที่ผ่านมา
“จริงๆ ความน่ารักของเขาก็คือเขาไม่ได้ตัดสินผมจากเรื่องราวที่มันผ่านมา และผมก็รู้สึกว่านี่มันค่อนข้างแฟร์นะ และเป็นการให้ผมพิสูจน์ตัวเอง จริงๆ เราไม่ได้พิสูจน์ฝ่ายเดียว มันต้องพิสูจน์กันและกัน คบกันเกือบจะปีแล้วนะ แต่เรารู้จักกันมานานกว่านั้น แต่ยังไม่ได้สนิท เหมือนเราเห็นหน้าค่าตากัน แล้วเราก็ไม่ได้มีใคร”
คำเชียร์ไม่มีผล เพราะโตแล้ว ไม่ใช่เด็กหรือวัยรุ่น
“ไม่มีเลยนะ เรารู้จักเพื่อนเขาบ้าง จริงๆ กลุ่มเพื่อนใกล้ๆ กัน แต่ปั้นไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัวนะครับ รู้สึกว่าพอเราโตแล้ว คำเชียร์มันไม่ได้มีผลกับเรา มันเป็นเรื่องของตัวเราแล้วว่าเราจะตัดสินใจยังไง เราจะพิจารณาเขาจากอะไร เขาจะพิจารณาเราจากอะไร มันก็ต้องดูกัน เพราะเราโตกันทั้งคู่แล้ว ไม่ใช่เด็กๆ หรือวัยรุ่น”
จริงจังและอยากแต่งงานทุกครั้ง
“ที่จริงก็จริงจังทุกครั้ง เดี๋ยวจะบอกว่าที่ผ่านมาไม่จริงจังไม่ได้ แต่มันมีอะไรที่เข้ากันไม่ได้ ก็ต้องแยกย้ายจากกันไป เรื่องราวที่ทะเลาะกันมันก็มี แต่ตอนนี้ยังจับมือไปด้วยกัน ฉันอยากแก้ไขเพื่อเป็นคนที่ดีขึ้นสำหรับเธอนะ เธออยากแก้ไขเพื่อเป็นคนที่ดีขึ้นสำหรับฉัน มันก็ไปต่อ แค่นั้นเลยครับ
ถามว่าพร้อมจับมือสร้างอนาคตหรือยัง อนาคตมันมีอยู่แล้ว เพราะปั้นก็อายุเข้าเลข 3 กว่าแล้วนะ เขาก็โตแล้ว เราก็มอง ต้องมีการวางแผนชีวิตไว้ แต่ถามว่ามันก้าวกระโดดไปถึงมีลูกไหม มันก็ยังพูดไม่ได้ เพราะตัวผมเองก็ยังมีสิ่งที่ต้องทำ มีความฝัน เพราะถ้ามีลูกปั๊บก็จบ ลูกอย่างเดียวเลย เพราะทุกคนก็เป็นแบบนั้น”
ตกม้าตาย พ่ายสาวหมวย ชมเขาสวย
“ผมน่าจะโตกว่าประมาณ 5-6 ปี ถามว่าเขาตรงไหนเราตรงไหน หลังๆ ผมก็พยายามไม่มีแนวนะ แต่สุดท้ายก็มาตายสาวหมวย (ยิ้ม) ก็น่ารัก แต่คนอื่นผมไม่รู้นะ แต่สำหรับผมคิดว่าสวย ส่วนใหญ่คนที่เราเคยคุยก็จะบอกว่าคบคนในวงการมันยาก เขาก็ไม่อยากคบคนในวงการหรอก แต่ของแบบนี้พอมันเดินเข้ามาก็ห้ามไม่ได้ พอเจอกันแล้วถูกใจ คุยกันรู้เรื่องก็ห้ามไม่ได้ แต่ผมว่าผมก็พยายามเป็นพี่ที่จะดีขึ้น นิ่งขึ้น เพราะเราอายุเยอะกว่าเขา ซึ่งเขาเป็นคนไทยเชื้อสายจีนนี่แหละครับ
ส่วนที่หลายคนแซวว่าภาพเหมือนพรีเวดดิ้ง คือไปงานแต่งเพื่อนเขา เขาก็แซวว่าเวลาเราเจอเขา เราไม่เคยแต่งดีๆ เลย ใส่หมวก กางเกงกอล์ฟ เสื้อยืด เราไม่ค่อยแต่งตัวเท่าไหร่เดี๋ยวนี้ถ้าไม่ออกงาน ถ้าจัดงานแต่งงานคงไม่แต่งที่สนามกอล์ฟหรอกครับ (หัวเราะ) เบื่อแล้ว เพราะเราอยู่กับกอล์ฟมาทั้งวี่ทั้งวันแล้ว แยกจากกอล์ฟบ้างก็ได้”
ฟุ้งเป็นรักที่เป็นเรื่องราวดีๆ
“ผมว่าเป็นเรื่องราวดีๆ นะ ที่มันทำให้ผมรู้สึกว่าการที่เราอยากจะดีจากตัวเอง แต่การมีคนข้างๆ และเขาคอยปรึกษาเทกแคร์ดูแลกัน คอยไว้ให้ระบาย บ่น ส่วนใหญ่ก็เรื่องง่ายๆ เรื่องรถติด เรื่องฝนตก อากาศร้อน เม้าธ์กัน คุยเรื่องชีวิตประจำวันแค่นี้ก็สนุกแล้ว”
