“ชมพู่ อารยา” เผยบังเอิญเจอ “อั้ม พัชราภา” ในห้าง อีกฝ่ายอยากเจอลูกๆ ตนเลยโทร.ตามให้มาเจอ เข้าใจว่าคนคงตื่นเต้น เพราะเป็นภาพหาชมยาก เจอกันตั้งแต่ตอนซิ่งๆ จนตอนนี้เป็นแม่ลูกสามไปแล้ว บอกตอนนี้เจอใครก็ถามหาแต่ลูกๆ กันหมด บอกไม่คาดหวังของขวัญวันแม่จากลูกๆ แต่ความรู้สึกของความเป็นแม่ทุกวันนี้เหนื่อย แต่แฮปปี้มาก
เรียกว่าเป็นโมเมนต์ที่น่ารักและประทับใจคนที่ได้เห็นสุดๆ ซึ่งเป็นคลิประหว่างที่ซุป'ตาร์สาว “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ“ บังเอิญไปเจอลูกๆ ทั้งสามของคุณแม่ “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ในร้านอาหารที่ห้างแห่งหนึ่ง ซึ่งในฐานะที่เคยเป็นนางเอกสังกัดช่องเดียวกันมาก่อน ภาพนี้เลยเป็นภาพที่โดนใจแฟนๆ เอามากๆ ล่าสุดฝั่ง แม่ชม ก็ได้มาเผยถึงโมเมนต์นี้ในงานแถลงข่าวรายได้ภาพยนตร์เรื่อง ลอง ลีฟ เลิฟว์! Long Live Love! ทะยานสู่ 100 ล้าน ณ ร้าน Beer Belly อยู่ในพื้นที่ 72 Courtyard ทองหล่อ (สุขุมวิท 55) บอกว่าตอนนั้นตนกำลังช้อปปิ้งอยู่ เลยไม่ได้อยู่ในคลิปนั้นด้วย แต่เป็นคนโทร.ตามลูกๆ ให้มาเจออั้มเอง
“ก็เป็นจังหวะที่เราไม่ได้อยู่ในคลิป แต่ก็อยู่กันแถวๆ นั้นแหละค่ะ จริงๆ ชมเจอคุณอั้มก่อน แล้วแกก็ถามว่าลูกอยู่ไหน เราก็เลยโทร.ตาม สักพักเขาก็มาแถวนั้น ห้างมันก็เล็กนิดเดียวเนอะ เดินวนๆ มันก็เจอกันอยู่ดี เขาไม่ได้รีวิวอะไรให้ฟังนะ เพราะตอนที่เขาเล่นด้วยกันเราก็ไปใช้เงินอยู่ (หัวเราะ) ก็เป็นจังหวะที่แยกกันกับลูกพอดี ลูกๆ มาบอกอะไรไหมเหรอ ไม่หรอก เพราะเขาก็เหมือนเจอคนรู้จักทุกวัน
เดี่ยวนี้ไปไหนคนก็ถามถึงแต่ลูก ไม่ค่อยถามถึงเรา (หัวเราะ) ถามว่าเป็นครั้งแรกไหมที่คุณอั้มได้เจอหลานๆ ใช่ เขาไม่เคยเจอกันเลยค่ะ คือถ้าเป็นคนรุ่นเราก็คิดว่าเป็นภาพที่หาชมยาก เพราะเห็นกันมาตั้งแต่ซิ่งๆ พอตัดภาพมาอีกทีก็ลูกสามแล้ว (หัวเราะ)”
บอกวันแม่ที่จะถึงเตรียมบินไปต่างประเทศกัน คงได้ฉลองกันที่นั่น
“ไม่ได้วางแผนอะไรเลยค่ะ ไม่มีอะไร ช่วงนี้ก็ปิดเทอม วันแม่ก็ยังปิดเทอมอยู่ ก็หากิจกรรมทำให้มันหมดไปวันๆ ค่ะ แต่ช่วงวันแม่น่าจะอยู่ต่างประเทศกันพอดีด้วย มีทั้งคุณย่า คุณยาย ก็คงเฉลิมฉลองกันแถวๆ โน้นไป คราวนี้ไปออสเตรเลียค่ะ ไป 9-10 วัน นี่ยังไม่ได้เริ่มแพ็กกระเป๋าเลย
การเป็นแม่ลูกสามมันก็จะอึนๆ เวิ่นๆ นิดนึง ก็เหนื่อย แต่มันก็เป็นเวอร์ชั่นที่เรารู้สึกชอบตัวเองที่สุดนะตอนนี้ในความเป็นแม่ และในความที่เขาบอกว่าลูกคือของขวัญ ก็คือจริงค่ะ ต้องลองมีค่ะถึงจะเข้าใจ แต่ชีวิตมันก็จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้วนะ ชีวิตจะไม่ใช่ของเราอีกต่อไป ก็มีความลงตัว แต่ก็จะปล้ำๆ กันไปในแต่ละวันก็มีค่ะ ถามว่าเริ่มลงตัวหรือยัง ตอนนี้ก็คิดว่าดีขึ้น”
บอกตัวตึงที่สุดคือ “สายฟ้า” ทำให้ต้องแปลงร่างบ้างในบางครั้ง
“ใน 3 คนนี้คนไหนรับมือหนักสุดเหรอ ก็น่าจะเป็นพี่สายกับพี่พา เพราะว่ากำลังซนมากๆ ค่ะ และความเป็นเด็กผู้ชายด้วย ฮอร์โมน ก็คืออยู่เฉยๆ ไม่ได้ เขาก็จะเป็นคนที่ไม่ได้ชอบพูดอะไรซ้ำๆ แต่พอมาเป็นแม่มันก็พูดทีเดียวไม่ได้ บางทีประโยคเดียวพูดซ้ำ 4-5 รอบ เราก็ต้องข่มใจไม่ให้แปลงร่าง แต่ก็ต้องมีแปลงร่างบ้าง คือไม่ได้แปลงเพราะฟีลขาดนะ แต่บางทีเขาหลุดกันมาก พูดด้วยน้ำเสียงปกติแล้วเอาไม่อยู่ ก็ต้องมีบ้าง
คือถ้าซนมากๆ ก็เอาไม่อยู่เหมือนกัน เพราะมันแสบ มันไม่ใช่คนเดียวด้วย ก็จะแหย่กัน คนนึงหยุด แล้วก็ชวนอีกคน วัยกำลังท้าทาย แต่คิดว่ามันก็เป็นธรรมชาติของเด็กผู้ชาย และวัยเขาด้วย แต่ก็ยังติดแม่มากค่ะ โดยเฉพาะคุณสายฟ้า แต่ก็จี๊ดนะ เป็นตัวตึง แต่ในขณะเดียวกันก็ติด ดุทุกวันค่ะ ไม่มีวันไหนที่ไม่ดุ ไม่เอ็ด มีทุกวัน อย่างที่บอกว่าเด็กผู้ชาย ลูกเราก็ไม่ใช่เด็กที่เรียบร้อยขนาดนั้น ถ้าไม่ปรามเลยก็จะยิ่งไปกันใหญ่ เราก็อยากให้เขาน่ารักในสายตาคนอื่น ก็ต้องมีบ้างค่ะ”
เผยฝั่งคุณพ่อจะเป็นสายเอ็นเตอร์เทนลูกๆ
“ส่วนมากถ้าหน้าที่ดุก็จะเป็นเรา พ่อก็จะเล่น เวลาเขาอยู่กับพ่อเขาก็จะสั่งของเล่นให้ เล่นแบบผู้ชายกัน เพราะฉะนั้นเขาก็จะแฮปปี้เวลาอยู่กับพ่อ เพราะพ่อจะไม่จู้จี้เรื่องให้ไปอาบน้ำ ให้ไปใส่ชุดนอน หรือจะออกจากบ้านให้เตรียมตัวอะไรแบบนี้ คือเราจะเป็นเรื่องวินัยในแต่ละวันที่ต้องทำ แต่พอมาอยู่ในโหมดของพ่อเขาก็จะสนุกกัน ไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่มีลิมิต จะนอนแล้วก็ยังเล่นกัน ยังพากันไปดูอะไร ยังรบ ยังยิงกันอยู่เลย จะเข้านอนอยู่แล้ว เราก็พูดปากเปียกปากแฉะ เชื่อว่าเป็นทุกบ้านแหละ แต่บางทีก็เห็นว่าเขาทำงานมา ก็อยากมีเวลากับลูก เราก็นับ 1-100 นับ 1-1000 ไป ดูนาฬิกาแล้วบางทีก็ต้องมีสะกิดกันบ้าง แต่ชมว่าหลายๆ บ้านน่าจะเป็นอย่างนี้”