ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใดสำหรับพฤติกรรมการโยนขว้างปาสิ่งของต่างๆ ขึ้นไปบนเวทีระหว่างที่นักร้องหรือศิลปินกำลังแสดงอยู่ ซึ่งมุมหนึ่งมันก็คือการให้ของขวัญที่แสดงถึงความเคารพยกย่อง คลั่งไคล้ หรือหยอกเอินต่อตัวศิลปิน
ส่วนของที่โยนขึ้นไปส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวก ดอกไม้ ผ้าเช็ดหน้า ตุ๊กตาตัวเล็กๆ กระดาษโน้ต ฯลฯ
อาจจะมีบ้างที่เป็นของแปลกอย่าง ชุดชั้นใน หรือ ค้างคาวที่มีแฟนเพลงโยนขึ้นไปให้ร็อกสตาร์ "ออซซี ออสบอร์น" (Ozzy Osbourne) ก่อนเจ้าตัวจะยกมากัดตามเสียงเชียร์กระทั่งกลายเป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องพูดถึงหากเอ่ยถึงนักร้องชื่อดังคนนี้
อย่างไรก็ตามพฤติกรรมเหล่านี้ดูเหมือนปัจจุบันจะกลายเป็นที่พูดถึงในเชิงลบที่หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ และของที่โยนขึ้นไปก็เริ่มที่จะแตกต่างและแปลกออกไป แต่ที่สำคัญก็คือจุดมุ่งหมายของการกระทำ...
เพื่อตัวเองหรือศิลปิน?
จากที่เสมือนเป็นการความเคารพต่อตัวศิลปินที่ชื่นชอบ กลายเป็นว่าทุกวันนี้การโยนของขึ้นเวทีโดยส่วนใหญ่นั้นหลายคนจะตั้งใจทำเพียงเพราะต้องการจะเรียกร้องความสนใจ บางคนต้องการสร้างคอนเทนต์เอาไปลงช่องทางออนไลน์ของตนเองเท่านั้น
ขณะที่ของที่ถูกโยนขึ้นไปนั้นก็นับวันจะแปลก ขึ้นเรื่อยๆ ทั้ง โทรศัพท์มือถือ น้ำ น้ำแข็ง เงิน อัฐิ อาหาร ฯลฯ โดยไม่สนว่าการทำเช่นนี้จะเป็นอันตรายและสร้างความไม่พอใจให้กับตัวศิลปินมากน้อยเพียงใด
ครั้งหนึ่งนักร้องคันทรีคนดังอย่าง "เคลซี บัลเลรินี" (Kelsea Ballerini) ต้องหยุดพักการแสดงชั่วคราวหลังมีแฟนเพลงขว้างกำไลข้อมือมาโดนหน้าเธออย่างจัง
เช่นเดียวกับแร็ปเปอร์ "เซ็กซี เรด" (Sexyy Red) ที่ตัดสินใจเลิกการแสดงไปเลยเมื่อแฟนเพลงไม่ยอมหยุดขว้างขวดน้ำขึ้นมาบนเวทีเสียที
หรือจะเป็นเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในรายของ "เบเบ เร็กซา" (Bebe Rexha) ที่ถูกแฟนเพลงคนหนึ่งขว้างโทรศัพท์มือถือใส่ระหว่างแสดงคอนเสิร์ตในนิวยอร์ก จนทำเอาศิลปินที่เคยเข้าชิงรางวัลแกรมมีรายนี้กลายเป็นแผลแตก เย็บ 3 เข็ม และมีรอยช้ำขนาดใหญ่ที่เบ้าตาด้านซ้าย
หลังคอนเสิร์ตจบลงนักร้องหญิงได้โพสตภาพลงอินสตาแกรมพร้อมข้อความระบุว่า "ฉันสบายดี" ขณะที่ในส่วนของแฟนเพลงชายวัย 27 ปีที่กระทำดังกล่าวได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไปในข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยมีพยานระบุว่าชายคนก่อเหตุได้พูดออกมาว่าเขาตั้งใจจะขว้างโทรศัพท์ใส่นักร้องหญิงเพียงเพราะรู้สึกว่า "มันน่าสนุกดี” ว่าจะโดนหรือไม่โดน
อย่างไรก็ตามในการสู้กันในชั้นศาล ทนายของเขาได้แก้ต่างว่าลูกความขว้างโทรศัพท์ขึ้นไป เพียงเพราะอยากให้เร็กซาเก็บมาถ่ายเซลฟี โดยอ้างถึงกระแสฮิตที่มีศิลปินใช้กล้องของแฟนบันทึกคลิปวิดีโอระหว่างแสดงจนหลายคลิปกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์
ดรามาเห็นด้วยไม่เห็นด้วย
แม้จะมีหลายคนออกมาตำหนิและประนามพฤติกรรมของแฟนเพลงในลักษณะนี้ แต่ก็ยังมีแฟนเพลงอีกจำนวนหนึ่งที่มองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ และที่ควรจะถูกพูดถึงมากกว่าก็คือปฏิกิริยาของตัวนักร้องหรือศิลปินในการเลือกใช้วิธีการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นต่างหาก
หลายคนพากันชื่นชม "ลิซ่า Blackpink" เมื่อเธอเลือกที่จะโยนตุ๊กตาหมีตัวใหญ่กลับเข้าไปในกลุ่มแฟนเพลงอย่างรวดเร็วหลังมีคนโยนมันขึ้นมาเพราะเธอกับสมาชิกของวงเองเคยมีประสบการณ์เกือบจะได้รับอันตรายจากการโยนของเหล่านี้มาแล้วหลายครั้ง
ย้อนไปเมื่อครั้ง "แฮร์รี สไตลส์" (Harry Styles) ยังคงเป็นหนึ่งในสมาชิกของวัน ไดเร็คชัน (One Direction) เขาเคยถูกขว้างด้วยผ้าอนามัย เคยลื่นล้มบนเวทีเพราะเหยียบลูกกีวีที่แฟนๆ โยนขึ้นไป แถมยังต้องใช้น้ำล้างตาเกือบการแสดงคอนเสิร์ตเพราะถูกแฟนเพลงปาลูกอมจำนวนมากใส่หน้า
แต่ก็มีหลายครั้งนักร้องดังก็ทำมันให้เป็นเรื่องตลก เช่น หยุดการแสดงแล้วพูดถึงนักเก็ตไก่ที่ถูกโยนขึ้นมาบนเวทีอยู่ร่วมนาทีจนคลิปนี้ถูกแชร์กระหน่ำในโลกออนไลน์
ยังมีช่วงต้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมาศิลปินหญิง "อะเดล" (Adele) ได้พูดบนเวทีระหว่างแสดงคอนเสิร์ตโดยระบุว่า..."สังเกตมั้ยว่าตอนนี้ผู้คนดูเหมือนจะลืมมารยาทในการดูคอนเสิร์ตไปหมดแล้ว พวกเขามักจะโยนอะไรไม่รู้ขึ้นมา พวกคุณเห็นมั้ย"
จากนั้นเธอก็บอกแบบขำๆ "ว่าลองปาของใส่ฉันสิ ฉันจะจัดการพวกเขาแน่" ก่อนที่เธอจะยิงปืนลมในมือส่งเสื้อยืดไปยังแฟนๆ ด้านล่าง
แต่ที่ตอบโต้ได้อย่างถึงพริกถึงขิงก็เห็นจะเป็นแร็พเปอร์ชื่อดัง "คาร์ดี บี" กับกรณีล่าสุดเมื่อเธอถูกคนดูสาดน้ำใส่ด้วยการขว้างไมค์ใส่อีกฝ่ายและเลิกเล่นคอนเสิร์ตทันที ซึ่งเรื่องนี้ก็มีทั้งคนที่มองว่าเธอทำถูกแล้วที่ตอบโต้ ขณะที่บางคนก็มองว่าศิลปินควรจะอดทนมากกว่านี้
ด้าน "เอริก สจวร์ต" (Eric Stuart) ผู้เชี่ยวชาญการดูแลฝูงชนได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่างยูโรนิวส์โดยระบุว่า... "เราต้องเจอเรื่องที่คนดูขว้างอะไรๆ ขึ้นไปบนเวทีอยู่เรื่อยๆ แต่มันไม่เคยเป็นปัญหาใหญ่โต"
"ตอนนี้คนพากันขว้างอะไรแข็งๆ อย่าง โทรศัพท์ขึ้นไป และพอศิลปินหยิบมันขึ้นมาถ่ายแล้วส่งกลับไป พวกเขาก็จะโยนมันขึ้นมาเรื่อยๆ และจะเป็นอันตรายได้"
นอกจากนี้เขายังยอมรับว่าพฤติกรรมการที่คนดูขว้างของไปบนเวทีโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ศิลปินมีให้เห็นบ่อยและนับวันจะมีความรุนแรงขึ้นจริงๆ โดยเฉพาะนับตั้งแต่ผ่านการระบาดของโควิด-19
"ผมได้คุยกับเพื่อนที่ทำงานของเราทั่วโลก ทั้งที่ ออสเตรเลีย, นิว ซีแลนด์, อเมริกา, แคนาดา, ไอร์แลนด์ ดูเหมือนทุกคนพูดเหมือนๆ กันหมดว่าพฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด คนดูมีความอดกลั้น อดทนน้อยลง และก้าวร้าวมากขึ้น โดยที่ถูกอ้างบ่อยๆ ก็คือเป็นสิทธิที่สามารถทำได้"