“โบกี้ไลอ้อน” บ้านหมุน แต่ชีวิตตายไม่ได้ เพราะรับงานไปแล้ว ใช้เงินช้อปปิ้งหนักมากแถมซื้อของซ้ำๆ เผยมาตรการให้ทุกร้านเซ็นรับทราบ สามารถหยุดโชว์ได้ทันทีหากมีใครสูบบุหรี่ ไม่ได้อยากเรื่องมาก แต่ร่างกายเซนซิทีฟ จะพังกันหมด
งานชุกจนพักผ่อนน้อย ทำให้บางครั้งเกิดอาการบ้านหมุน สำหรับนักร้องชื่อดัง “โบกี้ไลอ้อน” หรือ “พิชญ์สินี วีระสุทธิมาศ” ล่าสุดเจ้าตัวเผยขำๆ บางทีก็คิดว่าจะตายไหม เพราะรับงานไปแล้วข้ามปี แต่ก็ยังตายไม่ได้ เพราะยังต้องทำงาน
“เรื่องบ้านหมุน นานมากเลย ก็ยังไม่มีเวลาเท่าไหร่ แต่มีปรึกษาคุณหมอ ก็ไม่ได้เป็นอะไร เหมือนพักผ่อนน้อย ทำงานเยอะค่ะ เหมือนกำลังจะเล่นโชว์ต่างจังหวัด กำลังจะไปอาบน้ำ ลุกขึ้นมาแล้วบ้านหมุน ล้มตรงพื้นแป๊บนึง ก็เอาไงต่อดี ประมาณชม.นึงก็หายค่ะ
วันนั้น คลื่นไส้ อาเจียน บ้านหมุน ปกติมีเมารถบ้าง แต่บ้านหมุนไม่เคยเป็น แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก หมอก็แนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ แต่ก็ทำไม่ได้ เรารับงานทุกวัน วันนึงหลายอย่างด้วย มันไม่ค่อยมีเวลาโฟกัสสุขภาพเท่าไหร่ แต่หลังๆ ช่วงนี้ก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ เพราะงานเรารับไปแล้ว ตอนนี้บ้านหมุนดีขึ้น แต่พอไม่ได้พักผ่อนก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็พยายามนอน ตรงไหนพักได้ก็ต้องพักค่ะ”
รับงานข้ามปี ไม่รู้จะเสียชีวิตตอนไหน แต่ตายไม่ได้ ต้องทำงาน
“ถามว่าจะรับงานให้น้อยลงไหม ทำไม่ได้ค่ะ รับงานไปแล้ว บางงานข้ามปี แต่ก็ไม่รู้จะเสียชีวิตตอนไหน รุนแรงเหลือเกิน หนูรู้สึกว่ามันน่ากลัวตรงที่อยู่ดีๆ มันก็เป็น เป็นแล้วมันทำอะไรไม่ได้เลย ก็กลัวว่าอนาคตจะเป็นอีกไหม แต่ตอนนี้พยายามทำอะไรก็ได้ให้บาลานซ์ตัวเอง ออกกำลังกายหรือนอนได้ก็จะนอนให้เยอะๆ แต่ไม่ได้มีเวลานอน
ถามว่ากลัวไปเลยไหม ก็ไม่น่าจะกลัวนะ น่าจะกลัวไม่ทันเพราะไม่มีเวลา ทุกครั้งที่หนูคิดว่าเอ๊ะ หนูตายดีไหม ไม่ได้ เราไม่มีเวลาตาย เราต้องทำงานไง นึกสภาพหนูตายปุ๊บ หนูตื่นขึ้นมา งานยังไม่เสร็จ หรือเราต้องถ่ายอันนี้ก่อน เราตายไม่ได้ หรือตอนรดน้ำศพ หนูก็จะตื่นขึ้นมาบอกว่าพี่คะ หนูนอนราบไม่ได้ หนูเป็นกรดไหลย้อน ประมาณนั้น พูดเล่น (หัวเราะ)”
ใช้เงินหนักมากไปกับการช้อปปิ้ง โอดเลิกไม่ได้ แต่มีขายที่นี่!
“หนูใช้เงินหนักมากๆ ค่ะ ไปกับการช้อปปิ้งเรื่อยๆ สมมติเครียดทีนึงก็ซื้อไปเรื่อยๆ บางทีก็ไม่ได้อยากได้ขนาดนั้น บางทีก็เออ ซื้อมาทำไม (หัวเราะ) อย่างเตารีดขนาดใหญ่ ซื้อมา 3 ชิ้นพร้อมกันในแบบเดียวกัน ซื้อโปรเจกเตอร์มา 2 ชิ้นในแบบเดียวกัน ตอนนี้วางอยู่ในบ้าน เราก็จะแบบว่าใครก็ได้เอาไปที แต่ไม่มีใครเอา เพราะทุกคนบ้านเต็มหมด เพราะของๆ หนูก็เยอะมากค่ะ มีคนห้ามแต่ก็ไม่มีใครห้ามได้ มันไม่ได้ช่วยบำบัดค่ะ มันไม่ช่วย แถมรกบ้านด้วย เป็นอุทาหรณ์ให้คนอื่นว่าเราอย่าซื้ออะไรในสิ่งที่ไม่จำเป็น เลิกได้เลิก เลิกไม่ได้ที่นี่มีขายค่ะ (หัวเราะ)
หนูชอบซื้อของซ้ำๆ กันบ้าง บางทีก็ไม่รู้ซื้อมาทำไม แต่ก็ซื้อมา บางทีลืมด้วย บางทีอยากได้อันนี้ตอนนี้ แต่อันนั้นยังไม่มา ส่งพัสดุอยู่ ก็จะแบบว่าส่งแมสฯ เลยได้ไหม”
ไม่ได้อยากเรื่องมาก แต่ต้องทำสัญญากับร้านที่จ้างงาน ห้ามมีคนสูบบุหรี่ขณะโชว์ เหตุเคยควันแพ้บุหรี่จนปอดอักเสบ
“ตอนนี้มีน้อยลง เป็นอย่างนั้นมาตลอดเวลาที่เป็นนักร้อง ทุกครั้งที่คนสูบบุหรี่ สูบพอต หรืออะไรก็ตามที่เป็นการเผาไหม้ หรือเป็นควัน แม้แต่การสโมคนี่แหละ หนูก็เป็นคนเซนซิทีฟมากๆ หนูก็ไม่กล้าเรื่องมาก ก็จะแบบว่าเขาจะสูบก็สิทธิ์ของเขา เขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขา สมมติเราเจอบุหรี่ไปวันนึง วันต่อมาถ้าป่วย จะป่วยเป็นระยะเวลาอย่างต่ำคือ 1 เดือน แปลว่าหนูต้องหยุดงาน 1 เดือน แปลว่างานในหนึ่งเดือนของหนูต้องเลื่อนหมด พอเลื่อนปุ๊บถ้าเกิดคนไม่รับผิดชอบ มาสูบในที่ไม่ควรสูบอีก มันก็เป็นเหมือนเดิม
โบว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องความรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่ว่าหนูแพ้หรือไม่แพ้ จริงๆ แล้วควรสูบในที่ที่เขาจัดไว้ให้ ซึ่งหนูเองเป็นคนเซนซิทีฟเรื่องนี้ แล้วดันเป็นคอเราอีก พอมันเข้าจมูก แพ้ถึงจมูก ถึงตา ก็ลงถึงคอจนได้ ก็กลายเป็นหนูต้องมีปัญหา ต้องยกเลิก แคนเซิลงานบ่อยๆ เพราะหนูมีปัญหาเกี่ยวกับเสียง ซึ่งมีผลมาจากควัน
ซึ่งปัจจุบันมีมาตรการของทีมค่อนข้างโอเคมากๆ ไม่ว่างานประเภทไหนก็ตาม จะให้เซ็นสัญญาไว้ก่อนเลยว่าห้ามสูบบุหรี่ระหว่างที่เราทำการแสดง ทุกงานที่เรารับ ต้องเซ็นรับทราบว่าถ้ามีควันใดๆ เกิดขึ้น มีสิทธิ์หยุดโชว์ได้เลย จริงๆ หนูไม่ได้อยากมีความเรื่องมาก แต่มันเป็นอนาคต ที่ไม่ใช่หนูคนเดียว ทีมงานด้วย หนูหยุดวันนึง ทุกคนก็พังกันหมด ซึ่งควันนั่นแหละ บุหรี่จากใครไม่รู้ที่มา มันอาจทำร้ายเราได้ ซึ่งมันอาจไม่ได้ทำร้ายแค่หนู มันอาจทำร้ายคนรอบข้างที่เขาไม่ได้สูบด้วย ที่เขาอาจไม่ได้รู้ตัวหรือเซนซิทีฟแบบหนู แต่หนูรู้ตัวเพราะหนูต้องใช้คออยู่แล้ว
แต่ว่านั่นแหละปัญหาก็ถูกแก้ด้วยการเซ็นสัญญาก่อนเลย ถ้าร้านไหนรับทราบก่อนนะว่าเป็นแบบนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็รับทราบว่าเราสามารถหยุดโชว์ได้ตลอด ที่ผ่านมาก็เคลียร์ได้ตลอด ต่อให้มีคนไม่น่ารัก เราก็พูดได้ตลอด ตอนแรกหนูก็กังวลนะว่าหนูจะดูเป็นนักร้องเรื่องมากไหม แต่ก็ไม่ได้แล้ว ถ้าจะทำอาชีพนี้ต่อด้วยการมีคนไม่เคารพ เราขอไม่เล่นตรงจุดนั้นแล้วกัน งานเราก็เคารพในอาชีพนิดนึง ส่วนไหนที่มันถูก ทำสัญญาไว้แล้วเราก็ควรต้องทำตาม ถ้าร้านไหนหรือที่ไหนไม่สะดวกจริงๆ เราก็เลือกได้ที่จะไม่รับดีกว่า แต่ถ้าอยากให้นิดนึง ให้เกียรติคนรอบข้าง
ช่วงปีก่อนๆ จะเห็นว่ามีช่วงที่โบลางานเยอะมากๆ ลาแล้วลาอีก ลาร้านนี้ซ้ำๆ ทุกอย่างเกิดจากควันหมดเลยค่ะ เกิดจากสิ่งที่ควบคุมไม่ได้จากทางเรา เราจะไปบอกเขาว่าหยุดสูบๆ กลายเป็นทุกคนก็โวยวายกันไปหมด เราก็ตัดไฟแต่ต้นลม สัญญามาเลยว่าคุณโอเคไหม ถ้าศิลปินคนนี้ไปคุณจะห้ามคนสูบได้ไหม หรือในจุดที่สูบก็จัดไว้ให้เป็นที่เหมาะสม
ทางร้านส่วนใหญ่มักเข้าใจ แต่ก็มีส่วนที่ไม่ได้เข้าใจขนาดนั้น อ้าว สูบนิดเดียวไกลกันจะทำไมอีก ซึ่งตรงนี้ทางเราก็ไม่ได้อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ทุกครั้งที่มีควันและมันเข้ามาหนูไอทันที ไอแล้วหยุดไม่ได้เลย ทำให้การโชว์จากที่เราเตรียมมา 100 กลายเป็นเหลือ 10 เปอร์เซ็นต์และเริ่มติดลบ และกลายเป็นว่าเราไอตลอดโชว์ อย่างนั้นก็ไม่คุ้มค่าจ้างของร้านหรือเปล่า ก็อยากให้ร้านรับได้ว่านักร้องคนนี้ก็มีแพ้ตรงนี้จริงๆ ตอนแรกเราเครียดเรื่องนี้ว่าจะดูเรื่องเยอะหรือเปล่า แต่เราก็แพ้จริง ลองดูดดู เดี๋ยวก็แพ้เลย ไอเลย แต่ก็มีเหตุการณ์ตลก ขึ้นโชว์ตอนที่มีคนผัดกะเพรา น้ำมันหอย หนูก็ขึ้นมา สวัสดีค่ะ แล้วก็ไอตลอดเลย ใครมาผัดกะเพราตรงนี้คะ แหม ไอไม่หยุดเลยค่ะ สวยมาก ไม่แพ้กะเพรา แต่มันไอ ตลก”
