“โกสินทร์” เผยงานแนวเกษตรรุมเพียบ หลังมีรูปนั่งขายผักที่ตลาด บอกพ่อตารักเพราะขายหมดเร็วขึ้น บั้นปลายอยากทำสวน แต่ชีวิตสโลว์ไลฟ์ไม่ใช่เรื่องง่าย งานละครยังเป็นรายได้หลัก และช่วยเบิกทางในการขายของ ฟิตปั๋งเร่งปั๊มลูกภายในสิ้นปี หลังได้ทริกเด็ดจากปรมาจารย์ “มิค บรมวุฒิ”
ทำเอาหลายคนฮือฮากับความติดดิน หลังมีภาพของนักแสดงหนุ่ม “โกสินทร์ ราชกรม” ไปนั่งปูผ้าเป็นพ่อค้าขายผักในตลาด อยู่ที่จ.เชียงใหม่ ล่าสุดวันนี้ (24 ก.ค.) ได้เจอเจ้าตัว ในงานบวงสรวงละครเรื่อง “ลมเล่นไฟ” เจ้าตัวยันไม่ใช่คอนเทนต์
“เหตุการณ์จริงคือพ่อตาแม่ยาย เขาไปขายของที่ตลาดเวียนตามหมู่บ้าน แล้วเวลามีผักที่มันเหลือจากสวน ก็จะมาขาย เขาก็จะมาวางแผงข้างๆ หรือถ้าไกลก็จะไม่มีโต๊ะไป ก็จะปูข้างๆ แล้วก็ขาย แล้วผักที่ขายราคากำละ 5 บาท ไม่มี 10 เลยนะครับ บางคนอาจจะคิดว่าถ่ายละคร แต่คือเรื่องจริงนะครับ จะตั้งขายอยู่ที่ประมาณบ่ายสองถึงห้าโมงเย็น แต่บางคนเขาก็ไม่ได้คุ้นหน้านะครับ เพราะเขาลงมาจากบนดอย”
พอมีรูปออกไป งานแนวเกษตรก็ติดต่อมาเพียบ
“เริ่มต้นเลยคือหนึ่ง คนจะมาถามแล้ว สองพี่ๆ เพื่อนๆ ในวงการก็ถามบ้าง หยอกบ้าง ประชดบ้าง ทุกคนจะมาขำๆ แล้วก็มีงานเข้าบ้าง แต่จะเป็นงานแปลกๆ นะครับ คนอื่นอาจจะไปเดินแฟชั่น ไปโชว์ตัว ถ่ายโฆษณา แต่ของผมจะเป็นงานวิจัยแนวเกษตรโทร.เข้ามา ให้ไปช่วยงาน ซึ่งผมก็รับนะครับ (หัวเราะ) แล้วก็จะมีพวกอาหารเสริมที่ทำมาจากผักที่เราไม่รู้จัก เขาบอกว่าให้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์หน่อย เพราะเมืองไทยสมุนไพรเยอะ แต่มันจะมีผักบางตัวที่มันให้สรรพคุณดี แต่เรายังเข้าไม่ถึง ไม่เคยนำมาปรุงอาหาร ก็จะเป็นงานเข้าแบบนี้”
พ่อตารักทำขายของดี ขายหมดเร็วขึ้น
“พ่อตาก็รู้สึกว่าของที่ขายขายดีขึ้น ผักที่ขายหลังๆ ก็จะถูกจองหมดเร็วขึ้น เพราะหนึ่งคือเราขายถูก แล้วพอขายถูกบางเจ้าเขาก็จะมารับจากเราไปขายต่ออีกทีหนึ่ง ก็เป็นการเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว ชีวิตมาทางนี้แล้วก็รู้สึกสนุก ผมเคยเห็นพี่ชาคริต แย้มนาม เขาทำไร่ทำสวนแล้วมีความสุข คือก่อนหน้านี้ผมก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว เลยหลงรักอะไรแบบนี้จริงๆ ถามว่าอยากขยายอะไรอีกไหม ตอนนี้อยากลงอะโวคาโด เพราะช่วงระดับน้ำทะเลที่ดอยอ่างขางมันได้ด้วย ซึ่งโปรเจกต์นี้ก็เริ่มไปแล้วครับ แต่ว่าอายุมันยังไม่ได้ครับ ก็น่าจะมีถึง 10 ไร่ครับ”
บั้นปลายชีวิตอยากไปทำสวน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
“จริงๆ ผมชอบทำสวน ทำปศุสัตว์ ก็จะมีเลี้ยงไก่ อยากเลี้ยงควายสวยงามเหมือนคุณน้ำ(รพีภัทร เอกพันธ์กุล) อยากมีสวนทุเรียนเป็นของตัวเองเหมือนพี่ชาคริต แต่วิธีการทำ มันไม่ได้ง่ายเหมือนคนที่วาดฝันไว้ ว่าทุกอย่างเป็นวิถีพอเพียง อะไรที่บอกว่าเป็นสโลว์ไลฟ์ มันไม่ได้มีอะไรง่ายเลย การทำเกษตรคุณต้องตื่นตี 5 นะ ไม่ได้สโลว์ไลฟ์เลย ต้องอยู่กับสวนถึงเที่ยง มันต้องเกิดจากความรักจริงๆ มันเหนื่อยครับ ต้นทุนคือค่าแรงของเรา เราเอาตัวและแรงกายของเราลงไปดูแล ถ้าเกิดว่าเขาได้รับความใส่ใจทนุถนอม ผลิตผลของเราก็จะดีครับ”
งานในวงการยังเป็นรายได้หลัก และช่วยเบิกทางในการขายของมากขึ้น
“อย่างที่รู้ๆ กัน ในวงการไม่มีใครอยู่ยั้งยืนยง อาจจะมีบ้าง จริงอยู่ว่ารายได้มันดี แต่ทุกวันนี้มันแข่งขันกันสูง เราสั่งไม่ได้ว่าเดือนนี้ต้องมีละคร มันอยู่ที่ผู้ใหญ่หรือคนอื่น จะให้ความเมตตาตัวเราด้วย ถามว่าตอนนี้มีแค่อาชีพเดียวไม่รอดแล้วหรือเปล่า มันพูดไม่ได้ครับ เพราะรายได้หลักเลยก็มาจากการเล่นละคร สำหรับตัวผมเองก็ยังมีงานตลอด และก็ยังจะยึดงานตรงนี้ไว้อให้คุณผู้ชมเห็นหน้าเราตลอด เวลาจะทำอะไรมันจะมีโอกาสมากกว่าคนอื่น เวลาจะขายของ จะพรีเซ้นท์อะไรมันจะมีภาษีมากกว่าคนอื่นครับ”
แต่งงานมาเกือบปี กำลังเร่งทำลูกอยู่ ได้ “มิค บรมวุฒิ หิรัญยัษฐิติ” มาสอนทริกเด็ดให้
“ยังเลยครับ พยายามอยู่ ซ้าย 7 ขวา 5 ล่าง 2 โยกขึ้น 1 ออกกำลังกายก่อนมีกิจกรรมนะครับ อันนี้เรื่องจริง เป็นทริกที่ว่าอยากได้ลูกชายลูกสาวอะไรประมาณนี้ ผมเพิ่งได้รับความรู้ใหม่ คือคุณมิค บรมวุฒิ เขาเปิดโลกให้ผม ว่าต้องทำแบบนี้นะ ถ้าติดมาผมจะเอาพวงมาลัย 3 สีไปผูกทั้งพี่มิคและพี่เบนซ์ พรชิตา เลยครับ พี่มิคเป็นคนมาถ่ายทอดให้ผมเอง เขาถามว่าเมื่อไหร่มึงจะมีสักทีไอ้โก ผมก็จะต้องมีให้เร็วที่สุดครับ แล้วเขาสอนเลยนะ ประจำเดือนมาวันแรกต้องนับแบบนี้ๆ ผมจดเลยครับ ตัวอย่างเขามา 3 คนแล้ว มั่นใจในปรมาจารย์ผม”
ฝากไข่แล้ว ถ้าสิ้นปียังไม่สำเร็จ ก็คงพึ่งแพทย์
“ฝากไข่ครับ แล้วก็ตรวจความแข็งแรงของไข่ของผู้หญิงและอสุจิของผม ซึ่งแข็งแรงดีไม่หงิกไม่ง่อย ว่ายน้ำแข็งแรง ร้อยเมตร พันเมตรก็มาเลย ก็ถ้าลองวิธีธรรมชาติ จนพ้นปีนี้ไปแล้วยังไงไม่ได้ ก็คงต้องลงมือพึ่งแพทย์แล้วล่ะครับ”