“มิ้น มิณฑิตา” เผยรัก “ซิลวี่” 3 ปีขมเป็นบางเวลา หวานกรุบกริบน้อยลง หยุมหัวกัน แต่อยู่ไม่ได้ถ้าขาดเธอ บอกเลิกปั๊บ คืนดีปุ๊บ กฎหมายไม่พร้อม ไม่ต้องแต่ง นอกจากรวยเหลือๆ ค่อยจัดงานวิวาห์
เป็นคู่รัก LGBT อีกคู่ ที่คบหาดูใจกันมาเกือบจะ 3 ปีแล้ว สำหรับ “มิ้น มิณฑิตา วัฒนกุล”กับ “ซิลวี่ ภาวิดา มอริจจิ” โดยล่าสุดมิ้นก็เผยถึงความรักว่า ตอนนี้หวานกรุบกริบน้อยลง กำลังเติมความหวานอยู่ แต่มองว่าหวานบ้าง ขมบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ต่างฝ่ายต่างเคยบอกเลิกกัน แต่ก็อยู่ไม่ได้ถ้าขาดเธอ!
“ก็หวานกำลังดี กรุบกริบๆ ก็จะ 3 ปีแล้ว มันก็อาจจะมีช่วงที่กรุบกริบน้อยลง แต่ก็ยังพยายามสร้างความกรุบกริบกันอยู่ ระหว่างทางมันก็ต้องขมบ้างไม่อย่างนั้นมันก็ไม่มีรสชาติ เหมือนกาแฟแหละ ถามว่าขมแล้วอร่อยไหม อร่อยตอนที่มันขมเราก็เติมน้ำตาลเข้าไป คือเราก็ต้องฟาดขมที่สุดก่อนค่ะ ทะเลาะกันก็ต้องทะเลาะให้สุด เราอย่าหยุดแล้วทำเป็นหวานไปเรื่อยๆ ก็ต้องทะเลาะให้สุดจะได้ข้ามผ่านช่วงความขมไปได้”
ปัดเอะอะเลิก ไม่ได้บอกเลิกอยู่ฝ่ายเดียว ศีลเสมอกัน งงเลิกทำไมให้เหนื่อย
“มันเป็นข่าวลือ เราเท่าเทียมกันในจุดนี้แล้ว ต้องให้เขาได้ทำบ้าง ตอนนี้เราเริ่มคิดแล้วว่าก็บอกไปเลย วันไหนอยากบอกเลิกก็บอก เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องคืนดีกัน เหมือนกินกาแฟขมๆ แล้วล้างปาก กินน้ำหวานตบไปก็หายแล้ว ก็ขอแก้ข่าวลือว่ามิ้นไม่ใช่คนที่บอกเลิกอยู่คนเดียวนะคะ ศีลเสมอค่ะ ที่ผ่านมาทะเลาะปุ๊บไม่ได้เดินหายไปเลย แล้วแต่เคส ถามว่ากี่นาทีกลับมาคืนดีดีกว่า(หัวเราะ) งงมาก เลิกทำไม ทำให้เหนื่อยกันทำไม ก็เป็นสีสันของชีวิต ก็ขมจริง หยุมจริง แต่สุดท้ายมันก็ต้องอยู่ มันอยู่ไม่ได้หรอกถ้าขาดเธอ บอกเลิกปั๊บ ก็คืนดีปุ๊บ เหมือนจะพูดเล่น แต่ไม่ได้พูดเล่น จริงจังแล้วนะ ก็จะแบบเธอพูดทำไม ไม่ต้องพูดแล้ว
ถามว่าใครบอกเลิกใครก่อน ก็แล้วแต่เคส แต่มิ้นว่าน่าจะเป็นมิ้นแหละ เอาเถอะ เลิกกันไปเลยไหมไปซะ ถามว่าขาดเขาไม่ได้ไหม ก็อย่าเพิ่งไปขนาดนั้น มันจะเฝือไป มันเกินไปเหมือนกันนะคำนี้ พรีเวดค่อยถามแล้วกัน”
ไม่ใช่ทุกคนจะรับตนได้
“มันเป็นฟีลลิ่งที่โอเค เราไปต่อ สิ่งที่เราสร้างกันมาพัฒนาความสัมพันธ์กันมามันไม่ธรรมดา บางวันมันอาจจะไม่ง่ายเลย แต่ก็ยังอยู่ในจุดที่หันไปมองแล้วก็รู้ว่า…มันไม่ใช่ทุกคนนะที่จะรับความเป็นเราได้แบบนี้ ต่างคนต่างต้องรับกันได้อยู่”
กฎหมายไม่พร้อม ไม่จำเป็นต้องแต่ง ไว้รวยเหลือๆ แล้วค่อยจัดงานวิวาห์
“ยังไม่ได้คุยกันเรื่องงานแต่ง ทั้งคู่ไม่เคยคิดเรื่องงานแต่ง ด้วยเราเป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่มีความฝันเรื่องงานแต่งงาน พอไม่มีความฝันเรื่องงานแต่ง กฎหมายก็ยังไม่พร้อม เราเลยไม่รู้สึกว่ามันจำเป็นต้องแต่งทุกวันนี้เขาก็รู้กันแล้วว่าเป็นแฟนกัน มันก็ชัดเจนแล้วถ้าจะไม่มีงานแต่งงาน ไว้รวยเหลือๆ จะจัดงานใหญ่ๆ ต้องรวยเหลือมากๆ นะ ถามว่าคิดไว้ไหม ใครจะคุกเข่าขอแต่งงาน ยังไม่ใกล้เลยยังไม่ได้คิด ค่อยมาตอบอีกรอบใกล้ๆ”