“ริชชี่ อรเณศ” โต้เลิกเงียบ “ก็อต อิทธิพันธ์” ยันทุกอย่างยังปกติ ชอบหาคำตอบถ้าไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน อนาคตจะมีปัญหาไหม เผยคบ 4 ปี ทุกวันนี้ยังปรับอยู่ เปลี่ยนแปลงและโตไปด้วยกัน ยังเป็นคนเดียวที่ไว้ใจ ก่อนเล่าเป็นคนรักความสะอาดมาก ถึงขั้นทำให้ฝ่ายชายและคนรอบตัวเครียด รับเศร้าไม่เคยรู้มาก่อน
เป็นอีกคู่ที่โดนจับตาว่าเป็นคู่รักเลิกเงียบ สำหรับคู่ของ “ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส” และ “ก็อต อิทธิพัทธ์ ฐานิตย์” ถึงขั้นต้องโพสต์รูปคู่สยบข่าวลือ ล่าสุดเจอตัวสาวริชชี่ในงานเฉลิมฉลองครบรอบ 12 ปีสุดยิ่งใหญ่ของแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ “เทีย บาย ธารา” เจ้าตัวเผยว่าความสัมพันธ์ยังปกติเหมือนเดิม เผยเรื่องที่มีปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเวลาและรักความสะอาด แต่ถึงตอนนี้ต่างคนต่างปรับ
“จริงๆ ถ้าแฟนๆ ติดตาม ก็จะเห็นว่าหนูปกติมากๆ เลย แต่ว่ารูปไม่ค่อยได้ลงอยู่แล้วค่ะ ความสัมพันธ์เราก็ยังเหมือนเดิม ปกติค่ะ (หัวเราะ) ยังไม่มีอะไรค่ะ รูปคู่ส่วนใหญ่ที่ลง ก็จะเป็นรูปงาน แต่ไลฟ์สไตล์ปกติ เวลาเราไปทำกิจกรรมอะไร มันไม่ได้มีคนถ่ายให้ เราก็ผลัดกันถ่าย เลยไม่ค่อยมีภาพคู่เท่าไหร่ค่ะ
ถามว่าที่ผ่านมางอนหรือมีปัญหากันไหม เมื่อก่อนเราจะคิดว่าไม่ปกติ เพราะเราไม่เคยมีแฟน คิดว่าถ้ามีเรื่องอะไรที่รู้สึกขัดใจนิดหน่อย เราก็จะรู้สึกว่าอันนี้มันไม่โอเคหรือเปล่า เขาก็จะค่อยๆ อธิบายว่ามันเป็นเรื่องปกตินะ คนเป็นแฟนกันมันก็จะมีไม่เข้าใจบ้าง เราก็ปรับกัน มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ก็ต้องปรับไปเรื่อยๆ ไม่ได้ซีเรียส เพราะเราชอบถามเขาว่าถ้ามันหนึ่งอัน สองอันไม่เหมือนกัน มันโอเคไหม เขาก็บอกว่าโอ้ย ปกติ เราก็โอเค (หัวเราะ)”
ชอบหาคำตอบถ้าไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน อนาคตจะมีปัญหาไหม
“หนูไม่ได้งอน แต่บางทีหนูจะชอบหาคำตอบ ว่าถ้าไลฟ์สไตล์เราไม่เหมือนกัน อนาคตจะมีปัญหาไหม เขาก็จะคอยอธิบายว่ามันไม่ได้มีอะไร มันปรับกันได้ คือพอเราคบกันนานขึ้น หนูก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเล็กจริงๆ ถ้าเทียบกับเรื่องคนอื่น
ส่วนใหญ่ที่มีปัญหากันจะเป็นเรื่องเวลา เพราะเมื่อก่อนหนูจะซีเรียสเรื่องเวลามาก นัดต้องเป๊ะๆ แต่เราก็ปรับ พยายามคิดว่ามันก็สบายๆ ทำได้บ้าง บางทีไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้น คือหนูเป็นนักกีฬา ชอบจัดตารางชีวิต ว่าเวลานี้ถึงเวลานี้ เราจะต้องทำอะไร ถ้ามันคลาดเคลื่อนเราจะเริ่มซีเรียสแล้ว ซึ่งเขาก็บอกว่าไม่เคยรู้เลย ว่ามีคนใช้ชีวิตแบบนี้อยู่ด้วย ให้เราใช้ชีวิตชิลๆ บ้าง อย่าไปเครียดขนาดนั้น”
คบ 4 ปี ทุกวันนี้ยังปรับอยู่ เปลี่ยนแปลงและโตไปด้วยกัน
“ประมาณ 4 ปีแล้วค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังมีปรับกันบ้าง แต่ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา เราก็รู้จักเขาเยอะมากๆ แล้ว ก็อาจจะเป็นเรื่องอนาคต ที่วันหนึ่งเราโตขึ้น มันอาจจะมีอะไรต้องปรับอีก แต่ทุกวันนี้มันโอเคแล้วค่ะ เขาก็ดูแลดีเหมือนเดิม ตั้งแต่แรกเราก็ปรับกันมาเยอะมากๆ หลายๆ อย่างที่ตอนเป็นเพื่อนเรารู้ว่าเขาไม่ได้เป็นแบบนี้ เขาก็ปรับมาจนเรารู้สึกว่าเขาน่ารักมากๆ ที่เปลี่ยนแปลงและโตไปด้วยกัน หนูก็ปรับด้วย”
เรื่องทะเลาะหนักสุดคือเรื่องความสะอาด ขนาดแม่ตัวเองยังเครียด
“ความสะอาดเลย คือหนูเป็นคนสะอาดมากๆ แต่จริงๆ ไม่ใช่แค่ก็อตนะคะ ครอบครัวหนูคุณแม่ก็บอกว่าเราสะอาดมาก จนบางทีแม่ก็เครียดเลย เขาก็บอกเบาๆ ลงหน่อย ไม่งั้นทุกคนจะอึดอัด อย่างเช่น สมมุติว่าบางทีใครกินตก เราก็จะนั่งจ้องรอให้เขาเก็บ (หัวเราะ) ไม่ชอบให้มีอะไรสกปรก เหมือนหนูอยู่คนเดียวมาตลอด บางทีคุณแม่มาเยี่ยม น้องชายมากรุงเทพฯ เขาก็จะมีอะไรเปื้อน เราก็จะคอยตามเดินเก็บตลอดเวลา ทุกคนก็จะรู้สึกกดดัน
ทุกอย่างในบ้านคือเป็นระเบียบ หนูแพ้ฝุ่นด้วย แล้วก็จะคอยดูดฝุ่นเช็ดเก็บตลอด ชอบเคลียร์ของออกตลอด ใครเอาอะไรมาวางถ้าไม่ใช้ เราเอาไปทิ้งเลยนะ”
บอกตอนนี้เบาลงแล้ว รับเศร้าเป็นสิ่งที่ไม่เคยรู้เลย
“แรกๆ เขาก็ซีเรียส มีช่วงหนึ่งเขาใช้วิธีแบบ…งั้นรอข้างนอก ไม่เข้าห้องเลย แต่ตอนหลังเขาก็บอกไม่ซีเรียส เขาปรับได้ แต่ตอนนี้หนูรู้สึกว่าเบาลงแล้ว (หัวเราะ) คือเราก็รู้สึกว่าไม่เป็นไร ถ้าทุกอย่างมันสกปรก เราทิ้งไว้แป๊บหนึ่งแล้วเดี๋ยวเราค่อยเก็บที่เดียว คนที่เขาอยู่ด้วยจะได้ไม่เครียด เหมือนเราก็ปลงขึ้น เหมือนมีช่วงที่เราคุยกันจริงๆ ว่าแบบนี้ทุกคนเครียด เราก็เศร้าที่ไม่รู้เลย ว่าสิ่งที่เราเก็บตลอดมันทำให้คนอื่นเครียด เราไม่อยากทำให้คนอื่นเครียด ก็รอก่อน หรือบางทีก็ไม่อยู่ตรงนั้น รอให้เต็มที่เลยแล้วค่อยเก็บ (หัวเราะ) ปัญหาก็เล็กๆ น้อยๆ”
เป็นคนเดียวที่ไว้ใจ
“ถามว่ามองอนาคตร่วมกันไหม ก็รู้สึกว่าหนูไม่ได้มีเพื่อน ไม่ได้มีใครเลย นอกจากก็อตที่สนิทที่สุดแล้ว ก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนเดียวที่เราไว้ใจ”
พูดเล่นถ้าสักเพิ่มต้องแต่งงานด้วย ยังไม่พร้อม ต้องดูไปเรื่อยๆ
“หนูพูดเล่นค่ะ แต่ว่าแม่ก็ได้ดูแม่ก็บอกพูดไปเรื่อย แม่โดนเพื่อนล้อเต็มเลยเหมือนเราพูดเรื่องอะไรแบบนี้ หนูก็แซวเขาเล่นๆ ตอนเขาลบเขาบอกว่าเรื่องงาน เลยคิดว่าถ้าทำงานอยู่ก็อย่าเพิ่งสักเลย ถ้าแต่งงานแล้วค่อยว่ากัน เรื่องแต่งงานไม่มีคุยกันเลยค่ะ เพราะว่าหนูรู้สึกว่าอายุโตแล้วก็จริง แต่หนูว่าความเป็นหนูไม่ได้โตขนาดนั้น แล้วหนูเพิ่งมีแฟนด้วย ก็มีอะไรหลายอย่างที่อาจจะต้องเรียนรู้ หลายอย่างหนูก็เพิ่งรู้ว่าการมีแฟนต้องเป็นยังไง รู้สึกยังไง คิดยังไง คิดว่าอาจต้องใช้เวลาอีกเยอะๆ อยู่ ตอนนี้ยังไม่พร้อม ก็ทำงานด้วย ดูกันไปเรื่อยๆ”