“เป้ย ปานวาด” โล่ง น้องปาลิน” ผ่าตัดสำเร็จ พักรักษาตัวที่บ้าน ทึ่ง “น้องโปรด” ลูกชาย ช่วยดูแลน้องอย่างดี ขอไม่ตอบ “หนิง-กระแต” โผล่เมนต์ ไม่อยากให้เป็นประเด็นต่อ
กรณี “น้องปาลิน” ลูกสาวของ “เป้ย ปานวาด บุญยรัตกลิน” ต้องเข้ารับการผ่าตัด หลังตรวจพบว่าเป็นต่อมอะดีนอยด์ และต่อมทอนซิลโตขนาด 90% ทำให้มีช่องทางเดินหายใจเพียง 10% เท่านั้น ซึ่งผลการผ่าตัดเป็นไปในทิศทางที่ดี จนตอนนี้น้องปาลินออกจากรพ.รักษาตัวอยู่บ้านเรียบร้อยแล้ว งานนี้แม่เป้ยเปิดใจถึงกับโล่ง และทึ่ง “น้องโปรด” ลูกชาย ช่วยแบ่งเบาภาระ ดูแลน้องอย่างดี
“ตอนนี้อยู่ในช่วงระหว่างพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านค่ะ พยายามไม่ให้โดนเชื้อโรคให้มากที่สุดค่ะ เพราะแผลยังปิดไม่สนิทค่ะ วินาทีที่ลูกต้องผ่าตัด คือด้วยความที่เราก็พยายามบิวต์ และพูดในเชิงบวก ไม่ได้สร้างความกังวลใจให้กับเขาเลย ขณะที่เข้าห้องผ่าตัดก็เลยค่อนข้างเป็นไปได้ด้วยดี ไม่ได้มีความกังวลอะไร เราก็บอกเขาไปว่าเราจะอยู่กับเขาตลอดเวลา ทั้งที่ความจริงในห้องผ่าตัด เราเข้าไม่ได้หรอก แต่เราก็ขออนุญาตคุณหมอและพยาบาล ว่าก่อนที่น้องจะตื่นเนี่ย เราขอเข้าไปสัก 5-10 นาทีก่อนได้ไหม เราขอจริงๆ เพราะตอนพี่โปรด เขาตื่นก่อนแล้วเขาไม่เจอเป้ย แล้วเขาก็ร้องและค่อนข้างจะกลัว เป้ยเลยไม่อยากให้ความทรงจำนี้ไปอยู่กับปาลิน เหมือนเขาจดจำว่าคุณแม่อยู่กับเขาตลอดเวลา เขาเลยไม่กลัวอะไรเลยสักอย่าง เขาเลยแฮปปี้มีความสุข แล้วก็ร้องเพลง พยาบาลก็น่ารักมากๆ เปิดเพลงเอลซ่าให้เขาฟัง
พี่โปรดก็อยู่กับน้องตลอดเวลา อันนี้เป็นความโชคดีมากๆ ของมากที่สุดเลยค่ะ โดยปกติโปรดจะเป็นคนอบอุ่นอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เป็นอะไรที่บ่งบอกได้ชัด ว่าเขาค่อนข้างจะรักน้องมากๆ อบอุ่นมาก เขารู้ว่าเป้ยกังวล เขาเลยพยายามทำทุกวิถีทาง ที่จะทำให้เป้ยกังวลน้อยลงหน่อย ก็ช่วยแบ่งเบาภาระ ถ้าน้องไม่ยอมทานยาเขาไปหลอกล่อน้อง น้องจะงอแงมากๆ ช่วงกลางคืน เขาก็จะมาปลอบน้อง อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ซึ่งน้องรักพี่โปรดมากๆ อยู่แล้ว เชื่อฟังพี่ชายมากกว่าแม่มากๆ พี่ชายพูดอะไรเขาก็จะยอมทุกอย่าง ก็เลยค่อนข้างจะเป็นไปได้ด้วยดีค่ะ
โล่งได้ปลดปล่อยความกังวลด้วยข้อความ
“ถามว่าก่อนหน้านี้เรากังวลตอนนี้โล่งหรือยังมันได้ปลดปล่อยตั้งแต่วันที่เราได้พิมพ์ข้อความ คือช่วงก่อนหน้านี้ในช่วงพาร์ตอายุขนาดนี้พอมันมีอะไรเข้ามาเราจะมีความรู้สึกว่าเป็นคนเก็บๆ ตลอดเวลา จนเราพยายามพูดกับสามีแล้ว (หัวเราะ) พูดกับคนอื่นพูดกับผู้ใหญ่คนอื่นว่าเรารู้สึกกังวลกลัวทุกๆ คนก็พยายามปลอบใจ ไม่เป็นไรสบายมาก แต่คนเป็นแม่เนอะนิดนึงก็คูณสิบ พอได้โพสต์ออกไปมันก็มีกำลังใจเยอะแยะเข้ามามากมาย และคำแนะนำต่างๆ นานามันก็ทำให้ความรู้สึกอิ่มฟูและรู้สึกเข้มแข็งมากขึ้นมันก็ดีขึ้น อีกอย่างที่เคยสัมภาษณ์ไปลูกต้องการที่พักพิงก็คือเรา เพราะฉะนั้นถ้าเราอ่อนแอหรือเขาเห็นว่าเราร้องไห้เขาก็จะเริ่มกังวลฉะนั้นเราต้องพยายามรีบเข้มแข็งให้มากที่สุด ก็ผ่านมาได้ด้วยดี ขอบคุณทุกๆ คน ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามา
ตอนนี้น้องอยู่ในช่วงเก็บตัวค่ะ รักษาตัว คิดว่าไม่น่ามีอะไรแล้ว หลังจากนี้ประมาณ 2-3 อาทิตย์ก็อย่าเพิ่งไปเจอเชื้อโรคอะไรถ้าเกิดแผลยังไม่ปิดแล้วติดเชื้อมาจากที่อื่นอีกจะงานเข้าก็อยู่บ้านไปก่อนงดทำกิจกรรมทุกๆ อย่างไปก่อน ซึ่งแผลใหญ่มาก สรุปว่าใหญ่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ จากที่เคยสัมภาษณ์ไปคือ 90 เปอร์เซ็นต์ใช่ปะ ตอนแรกหมอบอกว่าชั่วโมง 1 ก็เสร็จ ปรากฎไปๆ มาๆ คือ 2 ชั่วโมง ก้อนใหญ่มาก คือปกติต่อมมันจะยื่นออกมา หมอบอกว่าต่อมนี้มันฉลาดมากมันอยู่หลบในอีกมันก็เลยจริงทำให้การทำงานของคุณหมอขั้นตอนมันยากขึ้นแล้วเอาต่อมมาให้ดู ใหญ่มากจริงๆ จนเราเห็นมะเขือเปราะในขนมจีนแล้วเราไม่กล้ากิน (หัวเราะ) มันคล้ายกันมาก ซึ่งแผลอยู่ข้างในค่ะเขาใช้วิธีส่องกล้องแล้วคุณหมอก็จะมีรูปมาให้ดูแล้วก็มีผลชิ้นเนื้อให้ดูมันเป็นแบบนี้ๆ”
บิวต์หลังจากนี้จะแข็งแรง กินได้ทุกอย่าง
“คือเราก็ยังบิวต์ว่าต่อไปนี้จะแข็งแรงมากขึ้น จากที่เก่งอยู่แล้ว ลูกจะได้กินทุกอย่าง เพราะด้วยความที่ต่อมอะดีนอยด์มันโตแล้วมันไปกลั้นเวลากลืนอะไรก็ค่อนข้างลำบากทีนี้ก็ไม่มีแล้ว โอ้โห จะกินอะไรแม่ว่าเต็มที่ไปเลย หลังจากนี้ก็จะต้องติดตามอาการ เดี๋ยววีกหน้าก็มีไปพบคุณหมออีกครั้งหนึ่งว่ายังไงบ้าง ก็ขอให้โอเค ตอนนี้น้องอยู่แต่บ้านค่ะ ไม่ได้พาไปไหนเลยค่ะ เวลามีใครเข้าบ้านปุ๊บขอใส่มาสก์นะคะ”
ขอไม่ตอบ "หนิง ปณิตา - กระแต ศุภักษร" เข้ามาเมนต์ ไม่อยากให้เป็นประเด็นอีก
“ขออนุญาตไม่พูดดีกว่า คือเป้ยไม่อยากให้การสัมภาษณ์ของเป้ยเป็นประเด็นอะไรอีก (ยิ้ม) ขออนุญาตนะคะ”