“กัน นภัทร” ขอตอบแบบไม่ตอแหx ไม่มีคนดูแลหัวใจ โอดเหงา โสดนาน 3 ปี ไม่กล้าจีบใคร แต่มั่นใจถ้ามีแฟนจะดูแลอย่างดี ลั่นอยากแต่งงานอยากมีลูกเป็นเพื่อน คนที่คบหลังจากนี้จะขอเป็นคนสุดท้าย ไม่คบเล่นๆ เข้าใจความเป็นลูกชายที่แม่หวงหนัก มีคนรักไม่ได้หมายถึงจะทิ้งแม่
โสดมานานถึง 3 ปี ตอนนี้ “กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ” เผยอยากมีแฟน อยากแต่งงาน อยากมีครอบครัว อยากมีลูก พร้อมยันหลังจากนี้คบใครจะขอเป็นคนสุดท้าย
“ไม่มีเลยครับ จริงๆ เลยครับ อันนี้ไม่ได้ตอแหลหรือโกหกนะ อันนี้พูดจริงๆ เลย ไม่ใช่ไม่มีเวลา ไม่ได้อ้างเรื่องเวลา แต่ว่าเราไม่ได้อยากไปจีบใคร เราเกรงใจเขาครับ คนเข้ามาก็มีครับ พอคุยปุ๊บ แล้วไม่ใช่ เราก็จะบอกเขาเลย คุยให้เข้าใจกันว่าเป็นเพื่อนกันดีกว่า แล้วก็จะไม่ค่อยติดต่อกันแหละ”
โสดนาน 3 ปี มีเหงา
“ครั้งนี้โสดนานมาก น่าจะประมาณ 3 ปีได้แล้ว มันมีเหงานะ ก็เริ่มชินแล้วช่วงหลังๆ นี้แหละ คือแรกๆ ไม่ชินเลย แล้วจะรู้สึกแย่มากตอนที่ต้องไปดูหนังและกินข้าวกับเพื่อนๆ ของเราในแก๊งที่เขามีแฟนแล้ว เพื่อนผมในแก๊งสวนกุหลาบมีประมาณ 4-5 คน แล้วทุกคนมีคู่หมดแล้ว ผมกลายเป็นคนเดียวที่เป็นตัวคี่อยู่คนเดียวไม่มีคู่กับเขา (เพื่อนๆ ไม่แนะนำสาวให้เหรอ?) มันรู้ว่าเลือกให้ไป ผมก็ไม่เอาอยู่ดี เพราะว่าผมก็จะติสต์ๆ ศิลปิน จะเลือกในสิ่งที่เราชอบเรารักคือเลือกด้วยตัวเองดีกว่า”
เกรงใจที่จะเข้าหาใคร เพราะภาพลักษณ์หนุ่มเจ้าชู้ อายุ 32 แล้ว เลือกใครจะเป็นคนสุดท้าย อยากมีลูกเป็นเพื่อน
“นั่นแหละๆ คือสิ่งที่เราเกรงใจเขา ด้วยภาพลักษณ์ของเรา ด้วยข่าวที่ออกไปทั้งหลาย คนที่ไม่เข้าใจเราจริงๆ อาจจะมองอย่างนั้นได้ แต่ก็อยากให้เปิดใจครับว่าจริงๆ แล้ว ถ้าเกิดเรามีใคร รักเขาคนเดียวแน่นอน ตอนนี้ผม 32 แล้ว ถ้าเราจะเลือกใคร ก็คงเป็นคนสุดท้ายของเราแล้ว ตอนนี้เราอยากแต่งงานมีลูกแล้ว เราคงไม่ได้คบเล่นๆ หรือคบสะเปะสะปะ ก็จริงจังเลย
เพื่อนวัยเดียวกันเขาแต่งงานกันเกือบหมดแล้วครับ เหลือผม(หัวเราะ) ซึ่งผมเป็นคนที่วาดฝันมาตั้งแต่วัยรุ่น ตั้งแต่ 20 กว่าแล้วว่าจะแต่งงานช่วง 30 ต้นๆ ไม่เกินนี้ เพราะเราอยากมีลูกเป็นเพื่อน เพราะว่าเราโตมากับการมีคุณพ่อเตะตะกร้อกันที่หน้าบ้าน สอนเล่นฟุตบอล ทักษะกีฬาเราดีมาก เราก็อยากเล่นกับลูกแบบนี้ อยากมีลูกเป็นเพื่อน”
ขอคนที่รับได้ ยันอาจดูเจ้าชู้ กะล่อน แต่เป็นคนที่รักครอบครัว ดูแลได้ดีแน่นอน
“เป็นคนที่รับเราได้ เข้าใจเราจริงๆ ในวงการมันจะมีบทบาทหรือภาพลักษณ์ที่คนเชื่อว่าเราเป็นแบบนั้น แต่ว่าอยากให้มาสัมผัสผมจริงๆ ผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตปกติ อาจจะมีต้องใช้เสน่ห์ในการทำงานบ้าง ผู้เข้าแข่งขันสวยๆ พี่เกลือ (กิตติ เชี่ยววงศ์กุล) แซวกันตาหวานอีกแล้ว มันเป็นอย่างนี้ไง แต่เราไม่ได้จะไปจีบเขา มันเป็นบทบาทหน้าที่ในวงการ มันก็เป็นภาพลักษณ์ที่คนเชื่อว่าเราเป็นแบบนั้น อาจจะดูเจ้าชู้ กะล่อน แต่ว่าจริงๆ ชีวิตจริง ถ้าเราได้รู้จักกัน ผมก็เป็นคนหนึ่งที่รักครอบครัว ใช้ชีวิตเรียบง่าย อาจจะมีกินแพงๆ บ้าง เดือนละครั้ง พาไปกินของดีๆ บ้าง แต่ว่าผมดูแลคนได้ดีแน่นอน
ถามว่าขายตัวเองเลย ก็ขายแล้ว ขายเลย ใครจะมาต่อคิว ภาพลักษณ์ไม่ดีขนาดนี้ ใครจะมาต่อ แต่ผมดูแลคุณได้แน่นอน เพราะฉะนั้นใครที่อยากสนใจ ผมจะไม่กล้าเข้าไปคุย ผมก็เกรงใจเขา ไม่กล้าไดเรกต์ กลัวจะเป็นข่าว(หัวเราะ) ถ้าอยากศึกษาก็ส่งมาคุยกันได้ ทักกันได้”
ไม่ถึงขนาดมูขอความรัก
“ไม่ขนาดนั้นครับ ส่วนใหญ่จะขอเรื่องงานมากกว่า เรื่องความรักอยากให้มาเองธรรมชาติครับ เดี๋ยวมาเขาผลักมาให้แล้วไม่ใช่คู่เราจริงๆ เสียเวลากับเขาอีก เขาก็มาเสียเวลากับเราอีก ไม่เจอก็ทำงานไป มีหลาน ซึ่งผมว่าพอเราอยู่คนเดียวมันก็มีมุมที่ดี คล่องตัว อยากทำโน่นทำนี่ อยากไปทำอะไรก็ไม่ต้องรออีกคนหนึ่งมาคอยคิดตัดสินใจร่วมกัน ก็ไปกับเราเองได้ ก็แค่มันขาดคนที่จะซัปพอร์ต ถามว่าข้อเสียมีไหม มันก็มี เพราะผมเป็นคนที่ขี้เหงา ชอบมีครอบครัวใหญ่ เวลาที่อยู่สุพรรณฯ ก็จะนัดรวมญาติกัน นาน ๆ ทีมากินข้าวด้วยกัน คือผมรู้สึกว่าถ้าเราแก่ไป เราอยู่คนเดียวไม่ได้แน่ๆ เราต้องมีลูกหลาน เราต้องมีคนดูแล
ตอนนี้โสดครับ ทำงาน ไม่มีคนคุยแล้วครับ โอกาสจะเจอใคร มันคงไม่ยากหรอกแต่ว่ามันอยู่ที่หลายอย่าง เราเองก็มีประสบการณ์ในความรักมาค่อนข้างเยอะ ค่อนข้างรอบคอบ ไม่ได้อยากทำให้เขาต้องมาเสียเวลากับเรา เวลาคบกับใครควรจะครึ่งๆ ซึ่งกันและกัน คือเราทุ่มสุดตัวเหมือนกัน เขาก็ควรจะทุ่มสุดตัวเหมือนกัน ถ้าเกิดว่าเราทุ่มแล้วไม่เหมาะกับเขา เขาไม่เหมาะกับเรา ก็ไม่อยากให้ทุ่มเสียเปล่า ก็ต้องหาคนที่ใช่จริงๆ แล้วค่อยทุ่ม”
เข้าใจแม่ทุกคนหวงลูกชาย น้อยใจลูกมีแฟน มีคนรักไม่ได้หมายถึงจะทิ้งแม่
“ผมว่าพ่อแม่ทุกคนน่าจะหวงลูกอยู่แล้ว โดยเฉพาะคนที่เป็นแม่ แต่ว่าเวลาที่เราเหงา เวลาที่เราโสด เขาจะพูดเสมอว่าเมื่อไหร่จะมี คนนี้ไหม แต่เอาเข้าจริงๆ พอเรามีจริงๆ เข้าใจอารมณ์น้อยใจคนที่เป็นแม่ทุกคนที่มีลูกชาย แต่ว่าพอเราโตขึ้นมาเราจะรู้ว่าถ้าวันหนึ่งมันต้องมีจริงๆ เราต้องบริหารยังไง ต้องจัดการยังไงกับความสัมพันธ์นี้ การที่เราเลือกคนที่เรารัก ไม่ได้หมายความว่าเราจะทิ้งแม่ มันไม่มีทางตัดขาดอยู่แล้ว ยังไงเราก็ต้องอยู่ด้วยกัน ทำยังไงให้มันอยู่ด้วยความสุขในแต่ละบทบาทหน้าที่ของตัวเอง
เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เราอาจจะมองตรงนี้ไม่ขาด แต่ว่ามันก็เป็นประสบการณ์ให้เราได้เรียนรู้ว่า มันสามารถอยู่ด้วยกันได้ แล้วมันคือชีวิตของคนๆ หนึ่งที่มันต้องเติบโตไปมีครอบครัว แต่ว่าคนๆ นี้ไม่เคยไม่รักพ่อแม่เลย รักพ่อแม่เสมอ แล้วตอบแทนทุกสิ่งทุกอย่างให้เสมอ ถ้าวันหนึ่งมันจะเจอคนที่เขาอาจจะไม่ถูกกับพ่อแม่เรา แต่ว่าถ้าเราเลือก เราก็คงเลือกคนที่เขารักพ่อแม่เราด้วยแหละ ดีที่สุด แต่ผมมั่นใจว่าพ่อแม่เขารักผมแน่นอน เพราะว่าผมเป็นคนที่เข้ากับผู้ใหญ่ได้ดี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้นะทุกความสัมพันธ์ที่ผ่านมา มั่นใจเรื่องว่าพ่อแม่เขาจะต้องรักเราด้วยความที่เรามีแฟนคลับที่เป็นวัยโตๆ วัยสูงอายุ เขาจะเอ็นดูเราเสมอ เราจะมีวิธีการเข้าหาผู้ใหญ่ได้ดีครับ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ห่วงแต่เรื่องที่ความเป็นแม่เรา แม่ผู้ชายกับลูกสะใภ้จะห่วงเรื่องนี้มากกว่ามีทุกบ้านจริงๆ”
ถนัดร้องเพลงลูกทุ่ง
“เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ถนัดมาก เพราะผมเติบโตมากับเพลงลูกทุ่ง ร้องเพลงลูกทุ่งมาตั้งแต่ 7 ขวบ ไปประกวดได้รางวัลยุวชนดีเด่นแห่งประเทศไทย พอโตขึ้นมาอยู่กรุงเทพฯ ก็จะผูกพันกับเพลงป๊อปแหละ เพื่อนๆ จะฟังแต่เพลงพี่อ๊อฟ ปองศักดิ์, พี่ตูน บอดี้สแลม ไอดอลเด็กสวนกุหลาบ พี่ป๊อด โมเดิร์นด็อก จนกระทั่งเรามาทำงานจริงเป็นเดอะสตาร์ ได้ร้องเพลงป๊อป และมีละครแนวลูกกรุง ได้เป็นคณะกรรมการคอมเมนต์เตเตอร์ คือผมผ่านมาทุกแนวเพลงแล้ว จนกระทั่งวันหนึ่งต้องย้อนกลับไปตอนแรกคือเพลงลูกทุ่ง
ถามว่าถนัดไหม มันคงจะไม่ได้เป็นลูกทุ่งจ๋าเหมือนสมัยเด็กๆ หรือเป็นลูกทุ่งจ๋าเหมือนศิลปินลูกทุ่งที่เขาร้องกันเก่งๆ แต่เราก็พยายามเรียนรู้ และสอบถามจากเพื่อนๆ นักแสดงด้วยกัน อย่างแม่นกน้อย อุไรพร เขาก็แนะนำเราว่าประโยคนี้เอื้อนแบบนี้หน่อยดีกว่า ต้องขอบคุณคุณแม่นกน้อย และพ่อเอกชัยด้วยที่ว่างๆ ก็จะสอนผมร้องเพลงลูกทุ่ง จริงๆ เราก็พอร้องได้ แต่เราก็อยากได้วิชาเพิ่ม”
เคาะสนิมกลับมาเล่นละครต้องร้องลูกทุ่ง
“ใช่ครับ ได้เคาะสนิมด้วย เรื่องนี้เป็นละครที่ทำให้เราได้มีเพลงใหม่ด้วย คือเป็นเพลงที่ต้องขอบคุณพี่ชายของเรา พี่ก้อง ห้วยไร่ หลังจากที่ได้ทำงานกับพี่โน้ส อุดมมา ในหมู่ 2 ก็เกริ่นๆ กับแกว่าตอนนี้ผมถ่ายละครอยู่ มีเพลงประกอบละครที่ตอนนี้ยังแต่งไม่ได้เลย ด้วยความที่แกรัก ปกติแกจะไม่ค่อยแต่งเพลงให้ใครบ่อย เขาก็แต่งให้ผมเลย พอพูดไปปุ๊บ อีกวันแกส่งมาอัดกีต้าร์มาให้ฟังท่อนฮุก ผมเล่าเรื่องย่อสั้นๆ แกก็แต่งมาให้เลย แล้วผมน้ำตาซึมเลย พี่ โคตรดี เอาเลย แต่งให้จบ แล้วให้แกทำให้เสร็จสรรพ จนกระทั่งดนตรีเสร็จไปอัดห้องอัดด้วยกัน แกก็ไปคุมร้องด้วย ออกมาเป็นเพลงที่ประกอบละคร ไมค์ม่วนป่วนรัก รอฟังได้เลย เป็นแนวลูกทุ่งอินดี้ เพราะมาก ผมชอบมากครับ มีเพลงแนวลูกทุ่งอินดี้เป็นของตัวเอง รอปล่อยก่อนละครออนแอร์นิดนึง
ร้องลูกทุ่งอินดี้ก็ยากเหมือนกันครับ แต่ว่าด้วยความที่เรามีพื้นฐานการร้องเพลงลูกทุ่งอยู่แล้ว พอมาเจอกับพี่ก้อง มันเพราะแล้ว ด้วยสไตล์เพลงเมโลดี้ทำนองเพลง ถ้าคนได้ฟังจะคิดว่านี่เพลงพี่ก้องแน่ๆ มันเหมือนเป็นลายเซ็นของเขา แต่มันเป็นเสียงของเรา จะได้ฟังเป็นแนวสไตล์ กัน-ก้อง ในเพลงนี้(หัวเราะ)”
ติดตาม “ก้อง ห้วยไร่” เรื่อยๆ แต่เกรงใจไม่กล้าแจมด้วย
“ผมติดตามอยู่เรื่อยๆ นะ เขาจะเป็นสไตล์โหดๆ (จะมีไปแจมกับเขา?) ผมเกรงใจเขา ให้เขามีดูโอ้ที่เหมาะสมกับเขาดีกว่า คุณเบิ้ล ปทุมราช ถ้ามีโอกาสก็อยากไปนะ สายเอ็นเตอร์เทน ปากคอเราะร้ายนิดนึง แต่ว่าจิตใจดี ผมทันเขาอยู่นะ ผมได้อยู่ ผมไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ แต่อาจจะไม่รุนแรงเท่าเขา(หัวเราะ) เพราะว่ามีความเกรงใจ กลัวอยู่ แต่พี่ก้องเขาร่ำรวยมาก แล้วเขาก็ทำบุญเยอะ แล้วเขาก็จิตใจดี เพราะฉะนั้นเขาพูดอะไรไปถึงแม้จะเป็นคำหยาบบ้างอะไรบ้าง ผมเชื่อว่าลึกๆ เขาอยากเอ็นเตอร์เทนให้คนมีความสุข แล้วคนดูสนุก ผมเชื่อว่าคนที่ไปดูงานพี่ก้อง เขาก็อยากได้อะไรแบบนี้ ไปให้พี่ก้องยืนเรียบร้อย มันก็ไม่ใช่ เขาเป็นสายเอ็นเตอร์เทน”