กว่าที่ต้นฉบับชิ้นนี้จะได้รับการเผยแพร่ทางหน้าบันเทิงสื่อในเครือผู้จัดการ ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังยืนยันแน่ชัดว่าสุดท้ายการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะทะยานไปสู่จุดมุ่งหมายหรือไม่ แต่ผู้เขียนก็ปรารถนาอยากให้บรรดา ‘ด้อมส้ม’ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ คนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ ทุกเพศทุกวัยไปหาหนังเรื่อง Hotel Rwanda มาดูกันให้ได้ในสักครั้งของชีวิต
เหตุผลของผู้เขียนคือ อาจบางที เหตุการณ์ในอนาคตข้างหน้าซึ่งเชื่อว่าจะค่อยๆ ปะทุขึ้นอีกไม่ไกลนับจากนี้จะไม่เกิดขึ้นกับสังคมไทย ผืนแผ่นดินไทยที่เคยร่มเย็นเป็นสุข
แม้ย้อนทวนไปสักสิบกว่าปีมีหลายเหตุการณ์คล้ายคลึงกับเรื่องราวความจริงใน Hotel Rwanda อยู่บ้าง ทว่านั่นก็ห่างไกลกันหลายสิบหลายร้อยเปอร์เซ็นต์
แม้แต่ 6 ตุลามหาโหด ยังโหดหินทมิฬชาติไม่เท่า
อะไรที่ทำให้ผู้เขียนมองเค้าลางอย่างที่พร่ำมา สารภาพว่าบังเกิดขึ้นมาในความรู้สึกของตัวเองชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ภายหลัง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และคณะ ตระเวน ‘เดินสาย’ ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่เทเสียงสนับสนุนเขาไปทั่วประเทศ
ไม่ผิดอะไรเลยที่พิธาและคณะจะกระทำการแบบนั้น หากไม่มีวาระบางประการซ่อนเร้นอยู่ลึกๆ
เหนือยิ่งสิ่งใด ในมุมมองของผู้เขียน คิดเห็นว่าเหล่า ‘ด้อมส้ม’ ไม่เพียงแค่ศรัทธาในอุดมคติของพิธา หรือนโยบายของก้าวไกลอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่มันลุกลามไปถึงขั้นคลั่งใคล้หลงใหลไม่ต่างจาก ‘ซูเปอร์สตาร์’ คนหนึ่ง
ศรัทธากันในทางการเมืองอาจยังมีเหตุมีผล แต่คลั่งใคล้ในทิศทางดารา หรืออธิบายอีกแบบว่า เหมือน ‘ติ่งเกาหลี’ แบบนี้มันประเภท...ก็กูรักของกู! มึงห้ามแตะ
ไม่เชื่อลองดูภาพข่าวในช่วงตอนที่พิธาปรากฏตัวต่อสาธารณะ เขาไม่ใช่นักการเมือง แต่คือซูเปอร์สตาร์
แต่เป็นซูเปอร์สตาร์ที่บรรดา ‘ด้อมส้ม’ พร้อมจะสนับสนุน-ปกป้อง และ ‘ทำแทน’ ชนิดสุดลิ่มทิ่มประตูในหมากเกมการเมือง
เมื่อผนวกกับสังคมไทยในปัจจุบันซึ่งไม่ใช่นักเลือกตั้งเล่นการเมืองเท่านั้น สำคัญผุดๆ คือ ทุกวันนี้ชาวไทยต่าง ‘เล่นการเมือง’ ถ้วนหน้า ทั้งหน้าจอดิจิตอล ยิ่งกว่านั้นคือพร้อมจะลงถนน หรือซุ่มซ่อนอยู่ตามซอกตึก
แล้วเหนือยิ่งสิ่งใด มันไม่ได้มีแค่ฝ่ายด้อมส้ม มันยังมีประดาพวกรักลุง – เชียร์ลุงอีกด้วย
ฝ่ายหนึ่งไฟ ฝ่ายหนึ่งน้ำมัน แล้วอยู่ปะปนกันด้วย
ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ผู้เขียนอยากเสนอให้ ‘ผู้ว่าฯ ชัชชาติ’ จัดหาหนัง Hotel Rwanda มาฉายกลางแปลงแบบตอนที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ๆ และอยากให้สถานีโทรทัศน์ทุกช่อง เสียสละเวลาเพื่อฉายหนังเรื่องนี้ให้คนไทยได้มีโอกาสดูเพื่อเรียกสติของตัวเองก่อนที่เลือดจะนองท้องช้าง
อย่างไรก็ตาม ในอดีตผู้เขียนเคยนำเสนอ Hotel Rwanda ในคอลัมน์เล็กๆ เชยๆ นี้มาแล้ว กระนั้นก็อยากเขียนถึงอีก
ด้วยเจตนาเดียว
เราเป็นคนไทยด้วยกันครับ