“ปุ้ย ปิยาภรณ์” ไม่หวั่นไหวนางงามหายหน้า ถึง 5 คน ตั้งแต่วันแรกเปิดกองประกวด “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023” ลั่นเป็นปกติแบบนี้ทุกปี ถ้าใจไม่พร้อมให้ไปตั้งแต่ตอนนี้เลย มองแล้วปีนี้ม้ามืดอาจจะแซงหน้าตัวเต็ง ปีนี้หานางงามพร้อมใช้ได้ทันที
เปิดฉากการประกวด “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023” (Miss Universe Thailand 2023)แล้ว ก็มีดรามาตั้งแต่วันแรก กับกรณีที่อยู่ๆุ ผู้เข้าประกวดก็หายหน้าไปเฉยๆ ถึง 5 คน ทำเอาหัวเรือใหญ่อย่าง “แม่ปุ้ย”หรือ “ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” กรรมการผู้จัดการบริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด (TPN Global) ผู้ถือลิขสิทธิ์เวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ออกโรงเคลียร์ชัดเจนว่าเป็นเรื่องปกติของกองประกวดนางงาม
“วันนี้ก็ถือว่าเป็นวันเปิดรายการของ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 คนที่อยู่ ณ ตอนนี้พร้อมมาก ใจมาก ตั้งแต่เมื่อวานที่รายงานตัวแล้ว ปุ้ยคิดว่าปีนี้จะมีความแปลกแตกต่างมาก เพราะน้องๆ ทุกคนที่เข้ามารายงานตัวเหมือนกับพกของมาเต็มที่ ตอนนี้ยอดผู้เข้าประกวดนิ่งอยู่ที่ 55 คน จากที่สมัครทั้งหมด 64 คน แต่ว่าจริงๆ จะเข้ามา 60 คน แต่หายไป 5 คน ที่หายไปปุ้ยเองก็คิดว่าเป็นธรรมดานะ มีปลด 1-2 คน นอกนั้นก็ขอสละสิทธิ์ เราก็มีคุยกับบางคนว่าสละสิทธิ์ทำไม ไม่นับคนที่เทนะ เขาก็บอกว่าเอาจริงเขาคิดว่าเขาไม่พร้อม พอไม่พร้อมเข้ามาสู่กองใหญ่แล้ว รู้เลยว่ามันจะทำให้ทุกอย่างสรวนไปหมดเลย มันก็จะไม่ดีกับตัวเขาและเพื่อนร่วมงาน
เรื่องการเทของนางงามไม่ส่งผลต่อกอง สมัยที่เราทำคัดเองไม่ได้มีระบบจังหวัด ก็มีความวุ่นวายเยอะมาก เพียงแต่เราไม่ได้นำเสนอออกไปเพราะมันอยู่หลังบ้าน บางคนจะรายงานตัวอยู่แล้วเทบ้าง หายบ้างก็มีทุกปี แต่ถามว่ามีผลกับกองไหม ไม่มีเลย แต่มีผลต่อ CD (City Directors) เราก็ไม่รู้ว่าความนอกความในเป็นยังไง เป็นเรื่องของ City Directors แต่ละจังหวัดแล้วก็ตัวนางงามเอง”
บอกทุกกอง ถ้าใจไม่พร้อมให้ไปตั้งแต่ตอนนี้เลย
“ตอนนี้เปิดกองแล้ว ถ้าเขาไม่ไหวเขาก็คงไป แล้วเราแนะนำนะว่าถ้าไม่ไหวให้กลับไปค่ะ เพราะการที่คุณจะอยู่โชว์เรา เราทำโชว์ด้วยใจมาก งบประมาณในการทำโชว์ อะไรทุกอย่างคุณจะมาออกๆ เข้าๆ ไม่ได้ ใจคุณต้องพร้อม ถ้าใจไม่พร้อมเสร็จจาก First Gate The Universe รีบไปเลย (ขีดเส้นตายไหม?) บอกแล้วค่ะว่า ถ้าเสร็จรอบนี้ใจมันไม่มา ขุนยังไงใจก็ไม่ฟู เรายอมแพ้ รีบไปเลยค่ะ
นี่่จังหวัดเชียงรายก็หายไปเลย เราก็กลัวอย่างเดียวว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า อย่างเมื่อเช้ามีคนนึงติดลิฟต์ ลิฟต์ค้างครึ่งชั่วโมง น้องพยายามสื่อสารว่าลิฟต์ค้างที่คอนโดแต่เขาก็มา แต่บางคนเมื่อวานรายงานตัวทำกิจกรรมเรียบร้อยวันนี้หายไป เราก็ไม่รู้ว่าน้องไม่สบายหรือว่าอะไร ก็ยังไม่ทราบเลย ก็วันนี้ถ้าคนที่ไม่ได้มา First Gate ก็คงไม่มีประโยชน์แล้ว เราก็ถือว่าไม่มีสิทธิ์ในการประกวดแล้ว เพราะมันจะไม่ยุติธรรมกับเพื่อนๆ ที่เข้าซ้อม เขาเต็มที่ เขาพร้อมที่จะมามอบสุขให้แฟนๆ พร้อมที่จะมาเข้าสู่การประกวด”
มองเป็นเรื่องธรรมดามีปัญหามาตั้งแต่วันแรกที่เปิดกอง
“ปุ้ยมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามากนะ เป็นคนที่มองอะไรจะมองหามุมดีของมัน เราทำปีแรกมีเวลา 3 เดือนในการประกาศ เราได้ City Directors ตอนนี้ออนโชว์มาถึงประมาณ 55 คน ภูมิใจแล้ว และที่สำคัญถึงแม้จะเป็นปีแรกแต่จังหวัดเยอะมาก เขาตั้งใจจัดกันเพื่อที่จะเปิดตัวเองในอีกมุมมองนึง โดยการใช้นางงามหรือมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เป็นซอฟต์พาวเวอร์ให้กับจังหวัดพวกเขา และบางจังหวัดเราก็อึ้งเลย เขาทุ่มเท ทุ่มใจมาก มองในแง่ดีแล้วมันดีมากๆ เลยค่ะ
คิดว่าปัญหามันอุดรอยรั่วไม่ได้ เราต้องใช้วิธีแก้ไขปัญหาไปในแต่ละวัน เพราะเราไม่มีสิทธิ์ที่จะบอกว่าอุดรอยรั่วไม่ได้ เพราะเราไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะมีกรณีอะไรเกิดขึ้นอีก อันดับแรกก็จะเรียกมาคุยว่าเกิดอะไรขึ้น มีอะไรที่กองใหญ่จะเข้าไปช่วยได้ไหม มีการพูดคุยกันยังไง เหมือนเราก็ต้องไปเป็นผู้ปกครองใหญ่ คอยเป็นตัวกลางว่ามีอะไรขัดข้อง ปรับจูนได้ไหม คนที่มาหาจังหวัดไม่ได้ เรามี City Directors ที่เขาพร้อมซัปพอร์ตแอดติจูดตรงกัน โครงการตรงกัน ทัศนคติตรงกัน ก็ทำให้เขามารู้จักกัน อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราก็ทำ”
ปีนี้สิ่งที่เราตามหาในตัวนางงามคือความพร้อมใช้ พร้อมปฎิบัติภารกิจทันทีที่ได้รับตำแหน่ง
“ปีนี้ต้องเป็นนางงามที่ต้องพร้อมใช้จริงๆ ในเวลา 40 กว่าวัน ถ้าใครคิดว่าตัวเองพร้อม สามารถทำได้เต็มที่ขอให้ทำเลย หน้าที่ของนางงามเราบรีฟมาแล้ว เราไม่ได้ต้องการนางงามที่สวย เพอร์เฟกต์หมด เราต้องการความเรียล เราต้องการความผลักดันในแต่ละจังหวัดที่คุณเป็นตัวแทน สร้างอะไรดีๆ ให้กับสังคม อย่างโจทย์แรกที่เราให้คุณคือให้หาสิ่งที่ห่วยแตก อะไรที่ควรต้องปรับปรุงในจังหวัดของเราบ้าง พูดมันออกมา ส่งเสียงมันออกมา ฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เขาจะได้รู้ ในวันนี้ที่คุณมีแสง คุณมีเสียงแล้ว ทำประโยชน์ให้กับจังหวัดของคุณ เป็นตัวแทน เป็นเสียงให้กับประชาชนของคุณ”
บอกปีนี้ม้ามืดอาจจะแซงหน้าตัวเต็ง
“เรากลับมองว่าเขารอด ทำยังไงเขาก็รอด ทุกวันนี้เวลาคุยเวลาไลน์ให้กำลังใจเราจะไปให้เด็กๆ ที่บางคนตั้งใจข้ามน้ำข้ามทะเลมา ยังเดินเป็นลูกกวางน้อยอยู่เลย พวกนี้เราเอ็นดูเขา อยากจะช่วยเขา (โดนทุกปีว่าล็อกมง?) ถ้าทุกคนคิดว่าล็อกมันก็คือล็อก ถ้าคุณมองอย่างใจเป็นธรรมว่ามันจะล็อกยังไง มันก็ล็อกไม่ได้ เพราะว่ามีสปอนเซอร์เราแต่ละท่านแรงมากนะคะ เขาจ่ายเงินให้เราหลักล้าน อยู่ดีๆ มาล็อกมง เราจะสั่งกรรมการได้ไหมว่าของล็อกเบอร์นั้นเบอร์นี้ มันไม่มีความลับในโลกนี้ในยุคที่โซเชียลเป็นแบบนี้ วิธีการที่ดีที่สุดคือทำในสิ่งที่มันควรจะเป็น จบ
ปีนี้รู้ตัวว่าจะมีดรามาเยอะ เพราะเรามองเห็นศักยภาพของตัวที่เรียกว่าม้านอกสายตา เชื่อปุ้ยเถอะ เดี๋ยวพอเข้ากองไปเรื่อยๆ บอกได้เลยว่าเราจะเห็นจริงๆ ปุ้ยเห็นมาครบทุกคนแล้ว โอ้โห เดี๋ยวจะได้เห็นว่าเขามีศักยภาพยังไง ดรามาจะมาหนักตรงนี้แหละ ถ้าอยู่ๆ พวกนี้ปาดพรวดเข้ามา มีแน่นอนค่ะ”
ทำใจสบายๆ พร้อมรับมือดรามาปีนี้ เลือกมองแง่บวกมากกว่าคิดลบ
“ทำใจให้สบาย จะบอกทุกคนบางทีให้มองดรามาในมุมที่ดีว่ามันก็เป็นเรื่องที่ดีนะ แสดงว่าเขาให้ความสนใจเรา มองเรา มันก็เลยเป็นดรามา คนที่เกลียดเราเขาก็มองเรา คนที่รักเราเขาก็ยิ่งมองเราใหญ่ หายใจเขาก็ผิด หายใจออกก็ผิด ถามว่าปุ้ยคิดกับเรื่องนี้ยังไง เราไม่ต้องสนความถูกผิดค่ะตราบใดที่เรายังหายใจเข้า หายใจออกได้ แปลว่าเรายังไม่ตายค่ะ”