กำลังจะได้เป็นคุณตาแล้ว สำหรับนักร้องรุ่นใหญ่ยุค 90 “ใหญ่ ฝันดี จรรยาธนากร” ที่วันนี้ควงลูกสาว “จินนี่ จุฑาภัค” ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ มาพูดคุยเปิดใจในรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ถึงบทบาทใหม่ในฐานะคุณตา
วันนี้มาในฐานะคุณตา?
ใหญ่ : “มันก็หวิวๆ นิดนึงนะ อยู่ดีๆ เปลี่ยนสถานะจากพ่อ เป็นตาแล้ว”
จินนี่ท้องกี่เดือนแล้ว?
จินนี่ : “6-7 เดือนแล้วค่ะ”
ใหญ่ : “ก็ไม่ค่อยตื่นเต้นอะไรมาก ทุกทีเป็นคนกล้าหาญชาญชัย แต่นี่นั่งแบบเหมือนตอนที่แม่เขามีเขา แล้วเราก็ลุ้น จะครบ 32 ไหม ก็เห่อกันทั้งบ้าน มันก็ห่างหายจากตัวน้อย ถ้าเทียบตอนนี้เขา 26 ย่าง 27 ก็ 20 กว่าปีเลย แล้วผมกับแฟนเป็นคนชอบเด็ก แล้วพอเป็นข่าวดี เรารู้สึกอีกแป๊บนึง เราจะเป็นกงกง เป็นอาม่า เป็นตา เป็นยาย แล้วจะมีหลานตัวน้อยที่จะมาวิ่งเล่น ตัวผมเชื่อในวัฏจักร ทุกคนต้องมีความเป็นไปตามวัยของเขา แล้วเราก็คิดอยู่เสมอเมื่อลูกสาวของเราโตขึ้นไป วันนึงเขาก็ต้องมีอะไรแบบนี้ ลูกชายของเราก็ต้องมีลูกสะใภ้ไหมในอนาคต แต่ตัวแม่เขาจะเป็นอีกแบบนึง เพราะว่ารักใกล้ชิด เขาจะอยู่กับเขาแบบนี้”
แพ้ท้องมากไหม?
จินนี่ : “ไม่เลยค่ะ ทานได้ปกติทุกอย่าง”
คุณตาแอบเตรียมของให้หลาน?
ใหญ่ : “ผมเป็นคนไม่ชอบที่จะมาสั่งของออนไลน์เยอะแยะ นอกจากของที่เราชอบ ของแต่งรถนิดๆ หน่อยๆ แต่พอมาดูของหลาน โอ้ยยย เตรียมไว้ แอบไว้ เอาอย่างนี้ผมเป็นสายเปย์ ถ้าลูกกับหลานอยากได้อะไรผมก็เต็มที่”
โมเมนต์แรกที่รู้ว่าตัวเองท้อง เป็นยังไง?
จินนี่ : “ตอนนั้นหนูอยู่กับแฟน ตอนนั้นรู้สึกว่าเราจะปรึกษาใครก่อนดี มีพี่คนหนึ่งที่เราสนิท โทร.หาเขาบอกว่าตอนนี้มีน้องมานะ เราควรจะเริ่มยังไงก่อนดี ด้วยความที่แบบว่า เราเองก็แบบมันเหมือนมาไม่ทันตั้งตัว แต่มันเป็นเรื่องที่ดีนะก็เลยปรึกษาก่อนว่าทางไหนจะทำให้ทุกอย่างมันสมูทที่สุด แล้วเป็นการคุยที่โทร.หาคนนั้น รับสายคนนี้ เขาเหมือนชี้แนวให้ว่าให้ทางแฟนหนูคุยกับครอบครัวของเขาก่อน บอกกล่าวพ่อ แม่ เขาก่อน หลังจากที่เขาคุยกับครอบครัวเขาเสร็จ”
ใหญ่ : “ตอนนั้นนั่งดูคุยแซ่บshow แต่ผมเอ๊ะมาตั้งหลายครั้งแล้วในเรื่องของความฝัน เขาเดินมาคุยโน่นคุยนี่ เดินรอบตัวเราในใจคิด 2 อย่าง มาขอเงิน หรือต้องมีอะไรแน่นอน จินนั่ง บอกป๊ามา มือผมกำหมัดแน่นเลยนะ เราก็นั่งฟัง มีอะไรพูดกับป๊าตรงๆ ยิ้มก่อนทีนึงแล้วมีน้ำตาหยดมา เราด้วยสัญชาตญาณความเป็นพ่อ พูดกับป๊ามาตรงๆ เขาก็พูดว่าหนูมีน้องได้ 6 สัปดาห์ เราก็บอกโอเค แต่ถ้าอะไรยังไง เราใช้ชีวิตอยู่กับความเป็นจริง อะไรก็ได้ที่มีความสุขแล้วคุยกันตรงๆ เดี๋ยวไปบอกแม่นะ เดี๋ยวป๊าพาขึ้นไป พอบอกไปเขาเงียบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แปลกมาก”
จินนี่ : “ไม่ขึ้นมาโวยวาย เขาก็ฟังให้หนูพูดจนจบ แล้วไม่ได้มีอารมณ์อะไรขึ้นมาเลย นิ่งๆ”
ใหญ่ : “เขาก็ฟังๆ พอสุดท้ายผ่านระยะเวลามานานพอสมควรแล้ว เขาบอกว่าตอนนั้นเขานึกได้อย่างเดียว ถ้าตัวใหญ่เป็นผู้นำในครอบครัว ถ้าใหญ่แข็งแรง เข้มแข็ง แล้วก็เดินต่อไปด้วยกันทั้งครอบครัว ทุกอย่างไม่มีปัญหา แล้วคอยดูแลซึ่งกันและกัน ผมเพิ่งเข้าใจคำว่า รักคือการให้ มันไม่ใช่รักคือการอดทนและการเสียสละ ผมยึดหลักนี้ รักคือการให้ รักแบบจริงใจ มันก็เลยนำพาทางที่เรารู้สึกมันจะตีบมันจะตัน มันเปลี่ยนแปลงไปหมดเลย”
ตอนนั้นคุณตา คุณยาย อยากได้หลานไหม?
ใหญ่ : “ตัวผมเป็นคนรักเด็ก ทั้งคู่อยู่แล้ว แต่ว่ามันจะมีในจุดน้อยๆ ที่ความเป็นแม่ของเขาน่าจะมีนิดๆ หน่อยๆ มันไม่ได้เป็นการโกรธ เกลียดอะไรทั้งสิ้น แต่มันมีแค่ว่า ของของฉันทำไมไปเร็วเกิน แอบมีหวง แต่พอเขาเข้าใจ ผมนั่งคุยกับแฟนทุกวัน แต่เขาไม่ได้เสียใจ หรือโกรธเกลียดอะไรทั้งสิ้นนะ แต่ด้วยความนอยด์ทุกครั้งเขาจะคิดถึงลูก แม้ลูกอยู่ด้วยกัน แต่เขารู้สึกว่ามันเปลี่ยนสถานะไป
จินนี่ : “กลัวว่าวันนึงเขาจะถูกแย่งความรักไปหรือเปล่า กลัวหนูไม่ค่อยเจอเขา เราก็พยายามบอกเขาว่าทุกอย่างเหมือนเดิม เราแค่บวกหนึ่งเข้ามาเฉยๆ หนูก็ยังกลับบ้าน ยังอยู่บ้าน ไม่ได้คิดว่าเรามีครอบครัวแล้วจะหายไปเลย เราสามารถเจอกันได้ทุกวัน แม่ก็โอเค เขาค่อยๆ ปรับตัว ค่อยๆ ชินขึ้น ตอนแรกเหมือนเขายังไม่เห็นภาพ”
ตอนแรกใหญ่บอกว่ามีเซ้นส์ก่อนที่ลูกจะมาเดินวนรอบโต๊ะ?
ใหญ่ : “มันมีความรู้สึกอยู่แล้ว ด้วยสัญชาตญาณความเป็นพ่อ เป็นแม่ ผมบอกแฟนก่อนจะรู้เรื่องของเขา แต่รู้ว่าเขามีแฟน คบกันมานานพอสมควรแล้ว ผมเป็นคนที่ว่าความรักไม่สามารถขีดจำกัดได้ว่าเป็นแบบไหน เขารักอะไร เราก็รักเขา ผมก็ฝันเห็นเด็กหน้าม้าตัวสูงหน่อย มายืนมองหน้าผมในห้องนอน ใครวะ แล้วเราก็ตื่น แล้วเราก็บอกแม่เขาว่าฉันฝันเห็นเด็กแก้มยุ้ยๆ มายืนยิ้มให้ฉัน 3 วันติดกันเลย แล้วพอวันที่ 4 เห็นผู้หญิงใส่ชุดขาว อายุเยอะ จูงเด็กมาบอกว่าเอามาให้ ผมเลยมั่นใจว่ามันต้องมีอะไรแน่ จนย้อนกลับไปที่เขาเดินรอบผม”
แล้วได้บอกลูกสาวไหม?
ใหญ่ : หลังจากนั้นผมก็เล่าให้แกฟัง คนในครอบครัวมีอะไรคุยกันหมด แต่ทุกคนก็ทายกันต้องเป็นผู้ชาย ผมก็ยิ้มเพราะเราเห็นแล้ว”
เห็นว่าไปท้าทายคนในครอบครัวด้วย?
ใหญ่ : “ใช่ แต่ไม่มีใครกล้าลงพนันกับผมเลย พอถึงเวลาเขาไปตรวจ น้องจินกลับมาบ้านไม่ต้องบอกป๊า แต่เรามั่นใจว่าอันนี้แน่นอน ถ้าเป็นเพศนี้จะมีของขวัญให้เยอะ”
จินนี่ : “น้องเพศหญิงค่ะ”
หลังจากที่น้องจินนี่มีน้อง มันทำให้ครอบครัวใส่ใจกันมากขึ้นกว่าเดิม?
ใหญ่ : “มันคือการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของทุกคนในบ้าน มันคือการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งที่ในใจของแต่ละคนในอดีตที่เคยติดค้างกันอยู่ว่าไม่แสดงออก มันทลายกำแพงตรงนั้นไปหมดเลย มันเข้าใจกันมากขึ้น หลานคนนี้สอนให้ผมกล้าพูดมากขึ้นในเรื่องของครอบครัว”
ใหญ่ลังเลที่จะประกาศ เพราะดูทุกอย่างลงล็อกหมดเลย?
ใหญ่ : “เราต้องยอมรับเราเป็นบุคคลสาธารณะ บางสิ่ง บางอย่างถ้าเราจะพูดไป มันต้องผ่านกระบวนการทางความคิดเยอะมาก หลายอย่าง แต่เรื่องของลูกเรา เราไม่ได้มีความคิดว่าจะปิดบัง เราคิดว่ามันเป็นเซฟโซน มันคือความสุข แต่ที่เรารู้สึกว่าลูกเราเนี่ยคนอื่นเขาจะต้องรู้ไหม เขาก็ไม่ใช่ดารา ทำไมต้องไปบอกคนอื่น โน่นนี่ แต่เรารู้สึกว่าเราก็บอกแล้วกัน เผื่อคนอื่นเขาถาม เพราะเราเป็นคนเปิดเผยอยู่แล้ว ก็โทร.หาเขาว่าอยู่ไหน เดี๋ยวไปรับ เขาก็กลับมา ถ่ายรูปเดี๋ยวป๊าจะลงในโซเชียลให้ทุกคนได้รู้ว่ายังไงดี ก็คิดในหัวเยอะมาก สุดท้ายกดลบ เหลือแค่ที่ลงในแคปชั่น”
คุณแม่มือใหม่อยากจะบอกอะไรกับคุณตา?
จินนี่ : “อยากขอบคุณป๊าสำหรับทุกๆ เรื่องที่คอยรับฟัง คอยซัปพอร์ตไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ไม่ว่าเรายังใหม่ เราอาจจะเรียบเรียงคำพูดได้ไม่ดี หรือบางทีนิสัยที่ติดจากความเป็นเด็กของเรา อาจจะทำให้เขาเผลอใจในเรื่องของคำพูดไปบ้าง ก็ขอโทษ และขอบคุณ เป็นคนที่เข้าใจหนูที่สุดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะเดินขึ้นมาหาหนูตลอด ไม่เป็นไรนะป๊าอยู่ตรงนี้เสมอเวลาหนูต้องการ”