บทสรุปสายเปย์ “เอ้ – ชุติมา” ปิดตำนาน “ชาวนากับงูเห่า” !!???

จะเรียกว่าเป็น Talk of The Social หรือ Drama of The Week ก็ได้ทั้งนั้น

สำหรับประเด็นของ “เอ้-ชุติมา นัยนา” กับอดีตสามีเด็ก "ฟร้อง ศุภกิจ ประสงค์" ที่ร่วมกันสร้างตำนานรักต่างวัย และครองรักกันยาวนานถึง 6 ปี กระทั่งเมื่อปลายปีนี่เอง ที่ฝ่ายหญิงออกมาประกาศสถานะว่าเลิกรากันแล้ว เพราะทนพฤติกรรม “เที่ยวยันหว่าง” รวมทั้งมีผู้หญิงมาติดพันไมได้ขาดของฝ่ายชายไม่ไหว

ตอนแรกก็นึกว่าเรื่องจะจบลงตรงที่แยกย้ายต่างคนต่างไป แต่ที่ไหนได้ กลับกลายมาเป็นประเด็นร้อนชนิดที่ได้รับเชิญไปประจัญหน้ากันกลางรายการ “โหนกระแส” พร้อมทนายความของแต่ละฝั่ง รวมทั้งแขกรับเชิญกิตติมศักดิ์ อย่างแม่ของฝ่ายชาย ด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ และก็ทรัพย์สินที่ซื้อไว้ เพราะตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกันยันแก่เฒ่า

ทรัพย์สินที่เป็นเงินของฝ่ายหญิงล้วนๆ ทั้งดาวน์ ทั้งผ่อน ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังงาม หรือรถยนต์หรู ที่นับรวมมูลค่าแล้วก็เกือบ 10 ล้าน ผ่อนเหนาะๆ รวมกันประมาณเดือนละ 4 หมื่น

แต่ชื่อเจ้าของเป็นชื่อฝ่ายชาย

เพราะระหว่างที่ใช้ชีวิตรักร่วมกัน เอ้ ก็ปรนเปรอทรัพย์สินเงินทองให้ฝ่ายชายแบบไม่อั้นอยู่แล้ว ทั้งบ้าน ทั้งรถ ที่ใช้ชื่อฝ่ายชายเป็นเจ้าของ ก็เพราะรัก และอยากให้ฝ่ายชายภูมิใจในตัวเองที่มีสมบัติ คนอื่นจะได้ไม่มาดูถูกดูแคลน ยอมแม้กระทั่งเงินทุกบาททุกสตางค์ที่หามาได้ ก็โอนใส่บัญชีของแฟนเด็กจนหมด


เรื่องมันเกิดตรงที่พอรักสะบั้น ฝ่าย เอ้-ชุติมา ก็ยุติการผ่อนต่อทันที ซึ่งก็มองว่าเป็นเรื่องปกติวิสัยที่พึงกระทำอยู่แล้ว เมื่อเลิกกันแล้ว ทำไมยังจะต้องผ่อนต่อ

นั่นหมายถึงว่าภาระการชำระหนี้ก็ต้องไปอยู่ที่ฝ่ายชาย เพราะมีชื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สิน

จริงๆ ฟร้อง ไม่มีสิทธิ์มาเรียกร้องใดๆ ทั้งสิ้น แม้แต่การที่จะมาใช้วิธีกดดันให้ฝ่ายหญิงยังต้องผ่อนทรัพย์สินต่อ เมื่อตัวเองมีชื่อเป็นเจ้าของ ก็ต้องรับภาระต่อเอง เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว แต่ถ้ารู้ตัวเองว่าผ่อนต่อไม่ไหว ก็ประกาศขายไป แค่นั้นก็จบ ไม่เห็นน่าจะเป็นเรื่องเป็นราว หรืออ้างว่าการไม่ผ่อนต่อของ เอ้ ทำให้ตัวเองเสียเครดิต เพราะโดนไฟแนนซ์ทวงเงิน


สมมตินะ สมมติ

สมมติว่าทั้งบ้าน และรถ เอ้ ซื้อเป็นเงินสด และใส่ชื่ออดีตแฟนเด็กเป็นเจ้าของ พอเลิกรากัน เท่ากับว่า เอ้ นอกจากจะไม่เหลือใครแล้ว ยังจะไม่มีอะไรเหลือเลย เพราะดูทรงแล้ว ไม่มีทางที่ฝ่ายชายจะโอนสมบัติคืนกลับไปให้ มีแต่จะฮุบมาเป็นของตัวเอง
โชคดีแค่ไหนแล้ว ที่ซื้อเป็นเงินผ่อน ก็ยังเจ็บใจน้อยหน่อย แต่อาจจะได้ความสะใจมากขึ้น

เรื่องพีกสุดๆ ก็เห็นจะเป็นตรงที่แม่ของฝ่ายชาย

แม่ผู้ซึ่งชำนาญการใช้ช่องทางโซเซียล เพราะมีตำแหน่งเป็นถึงดาว TikTok หวังใจว่าจะใช้ช่องทางโซเชียลโจมตีอดีตลูกสะใภ้ แต่กลับต้องมาตกม้าตาย เพราะกระแสโซเชียลตีกลับ ด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียว ที่ออกมาแจงถึงสาเหตุที่ทั้งคู่เลิกรากัน

ก็เพราะฝ่ายหญิง – หมดตัว – แล้ว !!!!


อนาคตของดาว TikTok น่าจะถึงกาลอวสาน เพราะแว่วมาว่าตอนนี้ปิดบัญชีหนีทัวร์ลงไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับได้รัการอวยยศว่าเป็น “คุณแม๊” คนที่สอง ที่ได้ครองตำแหน่งต่อจากแม่ของอดีตดาราผู้ล่วงลับ “แตงโม – นิดา”

เอาจริงๆ ตั้งแต่สมัยที่ เอ้ ออกมาประกาศสถานะกับ ฟร้อง ว่าคบหาดูใจกันในฐานะแฟน เชื่อแน่ว่าคนรอบตัวคงไม่มีใครเห็นด้วยอยู่แล้ว ด้วยอายุอานามที่ต่างกันถึง 31 ปี แต่ เอ้ ก็สามารถฝ่าฟันเอาชนะคำสบประมาทมาได้ถึง 6 ปี ก่อนที่จะตัดจบทุกอย่าง โดยไม่รู้ว่าสุดท้ายจะโดนแว้งกัด จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตแบบนี้

เหมือนที่เจ้าตัวโพสต์ในช่องทางโซเชียลของตัวเอง ว่าเรื่องราวของ “ชาวนากับงูเห่า” นั้น มีอยู่จริง


เพราะรักคำเดียวแท้ๆ ที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งยอม ยอม ยอม และยอม ทุ่มเททั้งตัว ทั้งหัวใจ รวมกระทั่งทรัพย์สินเงินทอง เพื่อรั้งผู้ชายไว้ให้นานที่สุด หลายคนอาจจะมองว่าก็หน้ามืดตามัวไปรัก ไปหลง ไปทุ่มเทให้เขาเอง จะไปโทษใคร

คนที่ไม่มาอยู่ตรงจุดนี้อาจจะไม่เข้าใจ


สถานการณ์ของ เอ้ อาจจะเข้าทำนอง

 ....รู้ว่าเขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก .....

 เพราะอย่างน้อยที่สุด ในช่วงที่ได้อยู่ด้วยกัน ก็สามารถเติมเต็มให้ชีวิตมีความสุขได้ เพราะอย่าลืมว่า เอ้ เอง ก็ผ่านประสบการณ์ความรักอันเลวร้ายมานักต่อนักแล้ว พอมาเจอหนุ่มหน้าใสหัวใจฟรุ้งฟริ้ง ก็ไม่แปลกหรอกที่จะทำให้หัวจิตหัวใจกระชุ่มกระชวยขึ้นมา และก็วาดหวังว่าจะครองรักกันไปยาวๆ

แต่อย่างที่ว่าแหละ .....

ความรักที่เริ่มจากเงิน สุดท้ายก็จบลงที่เงิน !!!

ผู้จัดการ 360 องศาสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 8-14 กรกฏาคม 2566