xs
xsm
sm
md
lg

“หมิว สิริลภัส” คนเดิมในเวอร์ชั่นใหม่ ตั้งใจเป็น ส.ส. ที่เปลี่ยนแปลงประเทศ เอาข้อผิดพลาดมาถอดบทเรียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“หมิว สิริลภัส” รับยังคิดถึงงานแสดง แต่ขอเดินหน้าเต็มที่ตรงนี้ก่อน ยังต้องศึกษาอีกเยอะกับอาชีพใหม่ การเป็นส.ส.ท้าทายและสำคัญกับชีวิตมาก ตอนนี้เป็นคนเดิมในเวอร์ชั่นใหม่ ความผิดพลาดได้รับการแก้ไขหมดแล้ว ถอดบทเรียนมาสร้างความเปลี่ยนแปลงและผลักดันโยบาย ไม่อายและยอมรับข้อด้อยของตัวเอง อยากให้คนจำจดในฐานะที่ต่อสู้เพื่อประเทศ

ขยันลงพื้นที่หาเสียงซื้อใจประชาชน จนได้รับตำแหน่ง ส.ส. เขต 14 บางกะปิ พรรคก้าวไกล มาครอบครองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ “หมิว สิริลภัส กองตระการ”ที่กำลังเดินหน้าอย่างเต็มที่ ในการทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชน แม้ยังมีคนที่มองเรื่องความเหมาะสม จากข่าวต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นตอนเป็นนักแสดงอยู่ก็ตาม

“ก็ยังทำงานค่ะ ทำงาน ทำงาน และทำงาน ตอนนี้ทำงานเต็มตัวเลย คือเอาจริงๆ แทบจะไม่มีวันหยุดเลย หมิวลงพื้นที่ด้วย แล้วก็เตรียมตัวเข้าสภาด้วย เพราะมันมีอะไรที่ต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมอีกเยอะเลยเพราะนี่คืออาชีพใหม่ของเรา”

ยังคิดถึงอาชีพนักแสดงอยู่ แต่ขอทำหน้าที่ตรงนี้ให้เต็มที่ก่อน ก้าวเข้ามาเป็นตัวแทนของประชาชนแล้ว
“หมิวอยากทำขาที่เราก้าวเข้าไปให้มันดีก่อน ตอนเป็นนักแสดง เราก็เป็นนักแสดงแบบเต็มที่เลย ตอนนี้เราก้าวเข้ามาเป็นตัวแทนของประชาชนแล้ว เราก็อยากทำงานให้เต็มที่ตรงนี้เหมือนกัน แต่ถามว่าถ้ามันมีโอกาส หรือมีเวลาว่างที่ไม่ได้เบียดบังเวลาราชการ ก็คิดถึงค่ะ ยังคิดถึงการเล่นละคร ยังคิดถึงการทำพิธีกรอยู่เหมือนเดิม เพราะนั่นคืออาชีพที่เรารักเหมือนกัน”

การเป็นส.ส.มันท้าทายมาก และยังเป็นหมุนหมายสำคัญในชีวิต
“ท้าทายมากค่ะ เพราะว่า ณ ปัจจุบันนี้ เราเป็นผู้แทนราษฎร์ เราเข้ามาเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศให้มันดีขึ้น ซึ่งมันเป็นหมุดหมายสำคัญในชีวิตหมิวมากๆ เลย ว่าชีวิตนี้หมิวจะใช้ไปเพื่ออะไร เราจะตื่นมาหายใจ และใช่พลังงานไปกับอะไร ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ แล้วก็เป็นภารกิจในใจหมิว ที่เราอยากจะเปลี่ยนประเทศไทยให้มันดีขึ้น แล้วอีกหนึ่งถือว่าเป็นอาชีพใหม่ มันก็ยังมีข้อมูล ยังมีข้อมูลที่เราต้องศึกษาอีกเยอะเลย ตอนนี้อยู่ในช่วงระหว่างทำการบ้านค่ะ”

เป็นหมิวคนเดิมในเวอร์ชั่นใหม่ ที่มีวุฒิภาวะมากขึ้น
“หมิวว่าหมิวก็เป็นคนเดิมนี่แหละ แต่เป็นคนเดิมที่เป็นเวอร์ชั่นใหม่ ที่มีวุฒิภาวะมากขึ้น สมัยก่อนก็คืออย่างที่เห็นเนาะ เราก็ไม่ค่อยยอม แต่ว่าทุกวันนี้เราต้องคิดให้เยอะขึ้น เพราะสิ่งที่เราพูดหรือสิ่งที่เราทำ บางทีมันไม่ใช่การกระทำของเราคนเดียว มันคือมูฟของคนที่เราเลือกเรามา เวลาจะทำอะไรหรือจะพูดอะไร ก็ต้องคิดมากขึ้น แต่ทุกวันนี้ก็ยังสู้ สู้บนพื้นฐานของความถูกต้อง สู้บนพื้นฐานของคนที่มีวุฒิภาวะมากขึ้น แต่เราก็ไม่ได้ก้มหัวให้กับความไม่ถูกต้อง ถ้าใครมาล้ำเส้นเราเกินไป เราก็ไม่ยอมเหมือนเดิม”

ข่าวต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้น ไม่เคยพูดโกหก กล้าออกมายอมรับและขอโทษ เพื่อจะได้ถอดบทเรียน
“หมิวเชื่อว่าทุกก้าวของชีวิตคนเรามีก้าวพลาด แล้วหมิวขอเป็นตัวอย่าง ที่เราออกมาแสดงความเข้มแข็ง ในการที่เรากล้าออกมาทำ และเรากล้าออกมายอมรับ หมิวไม่เคยโกหก กับข่าวที่หมิวให้ไปเลยสักครั้งเดียว ไปเช็กดูได้ อันไหนที่ทำตัวไม่เหมาะสมเราก็ขอโทษ อันไหนที่เรารู้สึกว่า มันจะสามารถเป็นการถอดบทเรียน หรือเป็นการให้กำลังใจคนอื่นๆ อย่างเช่นหมิวออกมาบอกว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า เคยติดสุรา เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง สิ่งเหล่านี้มันคือการก้าวผ่านความกลัวของตัวเองด้วย หมิวเชื่อว่าหลายๆ คนไม่กล้าแสดงตัว แต่หมิวอยากเป็นคนแรกที่ก้าวออกมา เพราะหมิวเป็นคนที่อยู่ในแสง หมิวอยากก้าวออกมาให้คนรู้ ว่าคนที่เป็นแบบนี้อยู่ เขาไม่ได้อยู่คนเดียว แล้วอยากรณรงค์เรื่องของการเข้าถึงการรักษา ตอนนี้ในฐานะที่เป็นส.ส. หมิวเข้าไปผลักดันเรื่องนี้เหมือนกัน การเข้าถึงการรักษาสุขภาพจิต ให้เท่ากับสุขภาพกาย ก็จะเป็นภารกิจหลักเลยในการเป็นส.ส. ที่เข้าไปผลักดันค่ะ”

ทุกก้าวที่เคยผิดพลาดได้รับการแก้ไขแล้ว
ทุกก้าวของเราได้รับการแก้ไขแล้ว หมิวเชื่อว่าทุกครั้งที่มันมีเรื่องเกิดขึ้น หมิวบอกตัวเองเสมอ ว่าสิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดี เรื่องที่ดีก็เก็บไว้เป็นพลังให้เราเดินต่อ อันไหนที่มันไม่ดี เราก็ถอดบทเรียนออกมา แล้วก็ไม่ทำมันอีก”

กล้าที่จะก้าวออกมาพูด แม้มีเรื่องที่คนจะวิจารณ์ได้ เพราะอยากให้ทุกคนยอมรับในข้อด้อยของตัวเอง
“เรื่องความเซ็กซี่ก็ต้องแยกกันว่านั้นคืองาน เอาง่ายๆ เลยนะ ถ้าคุณไม่เต็มที่กับงาน คุณจะยึดอาชีพนั้นเป็นอาชีพไว้ทำไม ในเมื่อเรายึดแล้วว่าอาชีพนักแสดง พิธีกร นางแบบ นั่นคืองานของเรา ทุกงานที่หมิวทำ ไม่ว่ามันจะออกมาแบบไหน หมิวตั้งใจทำและทุ่มเทเต็มที่ที่สุด ถามทีมงาน ถามคนที่เคยร่วมงานได้

ส่วนก้าวที่ออกมามูฟเรื่องของการเป็นโรคซึมเศร้า การที่เคยเป็นแอลกอฮอล์ลิซึ่มก็เหมือนกัน เราอยากออกมาเพื่อแสดงตัว ว่าเราเป็นหนึ่งในคนที่เป็นนะ แล้วเราก้าวเข้าสู่กระบวนการรักษานะ แล้วเรายอมรับในข้อด้อยของตัวเอง เราอยากให้ทุกคนที่เคยคิดว่า ดาราชีวิตดีขนาดนี้ ไม่น่ามีเรื่องเครียดอะไร ใช้ชีวิตสวยๆ ไปวันๆ หมิวเชื่อเลยว่าทุกๆ คนคือคนเหมือนกัน เป็นมนุษย์มีความรู้สึก มีการจัดการกับปัญหาได้ไม่เหมือนกัน 

เพราะฉะนั้นหมิวอยากเป็นหนึ่งในตัวอย่าง ที่อยากจะทำให้คนได้เปลี่ยนมายด์เซ็ตใหม่ ว่าสุขภาพใจมันไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าอาย การที่เราเคยเป็นแอลกอฮอล์ลิซึ่ม ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าอาย เพราะเราก้าวผ่านและเรารักษามันหายแล้ว และเรากล้าที่จะออกมาพูด หมิวเป็นคนหนึ่ง ที่อยากให้มีคนอื่นมาแชร์ประสบการณ์กัน ซึ่งจะเป็นเรื่องดีมากเลย เพราะหมิวจะได้เก็บข้อมูลพวกนี้ เข้าไปผลักดันต่อไป ให้มันเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นได้จริงๆ”

นำสิ่งที่เคยเจอกับตัวเอง มาเปลี่ยนแปลงและผลักดัน
“มันเป็นภารกิจในใจ นอกจากเราจะเปลี่ยนประเทศแล้ว สิ่งเล็กๆ เลยมันคือจิตใจ มันเป็นจุดที่เล็กที่สุดเลยนะ แต่มันคือจุดที่ยิ่งใหญ่มาก ลองคิดดูว่าถ้าวันนี้สุขภาพจิตคุณแย่ คุณก็ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ถ้าคุณทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทุกอย่างมันก็จะพังไปหมดเลย ไม่ว่าคุณจะทำงานในอาชีพอะไรก็ตาม นี่คือจุดแรกที่เป็นจุดเล็กๆ และเป็นจุดส่วนบุคคล ถ้าเราแก้ได้อมันจะส่งผลที่ยิ่งใหญ่มาก”

ตอบชัดไม่ว่าอาชีพไหน ทุกคนคือมนุษย์คนหนึ่ง หลังคนสงสัยดาราชีวิตดี ทำไมถึงเป็นซึมเศร้าและติดสุรา
“ก็บอกแล้วไงคะ ไม่ว่าอาชีพไหนทุกคนเป็นมนุษย์คนหนึ่งค่ะ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร จะยิ่งใหญ่หรือเป็นอะไรก็แล้วแต่ ทุกคนคือมนุษย์คนหนึ่ง หมิวมองคนเป็นคน ไม่ได้คนว่าคือใคร ทุกคนคือมนุษย์คนหนึ่ง เวลาเรามีความเครียด ทุกคนมีการจัดการความเครียดไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการที่เรากล้าออกมาแบบนี้ คำวิพากษ์วิจารณ์ไม่เป็นไรค่ะ หมิวมองในแง่ที่ว่า หมิวอยากจะแชร์ ว่าคนที่เป็นอยู่อะ คุณไม่ได้อยู่คนเดียวแค่นั้นเอง”

อยากให้คนจำในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ที่ต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ
“ไม่ว่าจะในฐานะไหนนะ หมิวเคยพูดไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นดารา หรือเป็นส.ส. ขอให้จำไว้ว่าหมิวเป็นประชาชนคนหนึ่ง ที่อยากต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง อยากเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ให้ดีขึ้น หมิวอยากสร้างประเทศให้ลูกๆ หลานๆ ที่หมิวมีอยู่ เขาเติบโตมาในประเทศไทยที่เป็นประเทศพัฒนา”

กิจวัตรประจำวันของการเป็นส.ส. คือลงพื้นที่ และรับทราบปัญหาจากช่องทางต่างๆ
“ลงพื้นที่ค่ะ รับทราบปัญหา ลงพื้นที่เชิงรุก รับทราบปัญหาจากช่องทางต่างๆ เตรียมตัวเรื่องของกลไกสภา เตรียมประเด็นที่เราอยากจะผลักดัน ถามว่าเครียดไหม เราก็มีความกดดันในตัวเอง ตอนเป็นดาราก็เครียด ตอนทำพิธีกรก็เครียด เพราะเราอยากให้งานมันออกมาดีที่สุด ตอนนี้ก็เครียดเช่นเดียวกัน แต่ก็จะพยายามผ่อนปรนตัวเองมากขึ้น

โพสต์พลีชีพน้ำหนักขึ้น 12 กิโล เพราะเอฟเฟกต์ จากการใช้สเตียรอยด์
“อันนี้ก็เป็นอีกอันหนึ่งเหมือนกัน เพราะตอนที่หมิวป่วย หลายๆ คนไม่รู้ว่าหมิวป่วย ก็จะมีคอมเมนต์มา ว่าไม่เหลือคราบดาราแล้วเหรอ ไม่ตรงปก ทำไมปล่อยตัวเองขนาดนี้ แต่ถ้าเกิดใครทราบว่าตอนนั้นหมิวป่วย หมิวแพ้ยารุนแรง แล้วต้องรักษาด้วยการทานสเตียรอยด์ ซึ่งมันทำให้มีเอฟเฟกต์หลายอยากมาก ลองไปเสิร์จดู หนึ่งในนั้นคือการทำให้น้ำหนักเพิ่ม ดีดจาก 60 ขึ้นมา 72 ภายในไม่กี่เดือน แล้วหมิวก็ต้องเดินหาเสียงอยู่อย่างนั้น ด้วยสภาพร่างกายที่อาจจะไม่พร้อม เพราะหนึ่งมันโดนทำลายด้วยสเตียรอยด์ไปหมดแล้ว สองน้ำหนักที่เพิ่มเติมแล้วโดนทัก แต่เรามองว่าปลายทางของเราคืออะไร ณ วันนั้นปลายทางของเรา คือเราอยากจะเป็นคนที่มาเป็นตัวแทนประชาชนให้ได้”

ตอนเดินหาเสียงมีวูบบ้าง แถมโดนทักเรื่องหุ่นว่ามีลูกแล้ว แต่ไม่เสียเซลฟ์เพราะเป้าหมายสำคัญกว่า
“มี มันไม่ได้วูบทิ้งตัวไปเลยนะ แต่เดินแล้วต้องขอหยุดหายใจก่อน แล้วคนทักเรื่องหุ่นก็มีค่ะ ถามว่าอันนี้มีลูกเหรอ หมิวก็บอกว่าไม่ใช่แม่ ช่วงนี้หนูอ้วน หนูกินเก่ง แต่ก็ไม่เสียเซลฟ์ค่ะ อย่างที่บอกว่าปลายทางคือเราต้องก้าวเข้าไปเป็นตัวแทนประชาชนให้ได้ หนูมองแค่นั้นเลย แต่ว่าตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้วค่ะ น้ำหนักลดลงมา 12 กิโลแล้ว ก็พยายามจะลดต่อไป ตอนเป็นนักแสดงอยู่ที่ 53- 54 ตอนนี้ก็เหลืออีกประมาณ 7 กิโล ก็พยายามลดไปเรื่อยๆ เพราะตอนนี้โชคดีที่ได้ลงพื้นที่ เดินตลอด แล้วเวลาทำงานเราก็มีสติในการกิน”













กำลังโหลดความคิดเห็น