“แม่วรรณ” ลั่น “เอ้ ชุติมา” พูดกลับคำทุกอย่าง เข้าใจดีตนพูดอะไรไปก็ไม่มีใครเชื่อเพราะไม่ได้เป็นนักแสดงมีชื่อเสียงเหมือนอีกฝ่าย รู้ตัวกระแสจะตีกลับครอบครัวตนหลังบอกว่าเลิกกันเพราะ เอ้ ชุติมา ไม่มีเงิน แต่มันคือเรื่องจริง แถม เอ้ ยังคอยยืมเงินตนเรื่อยๆ ทีละ 5 หมื่น มาตลอด 6 ปี
หลังจากไปออกรายการโหนกระแส “แม่วรรณ”แม่ของ “ฟร้อง ศุภกิจ ประสงค์” อดีตแฟนเด็กของ “เอ้ ชุติมา นัยนา”ก็ถูกกระแสสังคมโจมตีอย่างหนัก ที่ใช้คำรุนแรงต่อว่า เอ้ ชุติมา ในรายการ รวมไปถึง ประเด็นที่ แม่วรรณ ตอบคำถามแทนลูกถึงสาเหตุที่ เอ้ และ ฟร้อง เลิกกัน เพราะเอ้ไม่มีเงินแล้ว ซึ่ง แม่วรรณ ได้ตอบคำถามถึงเรื่องนี้ว่า….
แม่วรรณ : “ก็ได้พูดทุกอย่างไปหมดแล้ว เราพูดทุกอย่างไปหมดแล้ว ส่วนจากนี้จะเป็นยังไงต่อค่อยว่ากันอีกที เราพูดความจริงทุกอย่าง เรารู้ว่าเขาเป็นนักแสดง ยังไงประชาชนต้องเชื่อเขาอยู่แล้ว เราเข้าใจ เราทำได้แค่นี้ ความจริงคือความจริง กฎแห่งกรรมมีจริงค่ะ (ตอนนี้ประเด็นเปลี่ยนเป็นเรื่องการพนัน?) เขาจะทำยังไงก็แล้วแต่เขา จะทำยังไงก็ให้ทำ เราก็ไม่อยากจะมองหน้าเขาแล้ว คือเราไม่อยากมองมานานแล้วค่ะ
มันพูดไม่ถูกกับพฤติกรรมที่เขาทำตอนนี้ ที่เขากลับคำพูดทุกอย่าง บ้านเขาจะเอา จะผ่อนเอง ตอนนี้เขากลับแล้ว เขาบอกว่าเขาซื้อเงินสดที่ว่ารถซื้อสด แล้วลูกชายเราเอาไปรีไฟแนนซ์มันไม่ใช่แล้ว เขากลับคำแล้วมันเสียความรู้สึก”
เล่า ที่ “เอ้ ชุติมา” ส่งเสียงเลี้ยงดูลูกให้ เป็นข้อตกลงก่อนจะเอาลูกชายไปอยู่ด้วย แถมขอยืมเงิน 5หมื่นทุกครั้งที่โทร.หา
แม่ : “อันนั้นคือข้อตกลงที่เขาไปขอลูกเราที่บ้าน เขาจะเลี้ยงดูเองนะ ไม่ต้องห่วงนะ แล้วก็ไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ คล้ายๆ เขาจะคบกัน เป็นแฟนคบกัน แต่เราก็บอกเขาแล้วว่าลูกรับได้ก็โอเค ลูกรักใครเราก็รัก เขาจะเอาน้องไปทำงาน ได้มีเงินเก็บ แต่ทุกวันนี้ไม่เคยเลย โทร.มาบอกว่าจะมีงานแล้วนะ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ แล้วลงท้ายยืมเงิน 5 หมื่นได้ไหม ทุกครั้ง 6 ปีมา
รู้ตัวตอนนี้กระแสอาจจะตีกลับมาที่ครอบครัวตนหลังบอกว่าเลิกกันเพราะ “เอ้ ชุติมา” ไม่มีเงิน
แม่วรรณ : “ใช่ พี่เอ้เขาไม่มีเงินจริงๆ (แม่ทราบได้ยังไง?) เพราะเรารู้ปัญหา เขายืมเงินเราอยู่ แล้วปัญหาลูกเราก็บอกว่าพี่เอ้ไม่มีงาน เงินหมุนไม่ทัน”
ฟร้อง : “วันที่เลิกกันก็ออกจากบ้านไปเลย แม่ผมก็พยายามติดต่อโทร.หาว่าเพราะอะไร เขาไม่ยอมรับสาย ไม่อะไรเลย ได้แต่คุยกันในแชต มันก็ไม่โอเค พี่เอ้หนีปัญหาของเขาแหละ บอกตรงๆ มือที่สามไม่มี ปัญหาก่อนเลิกหนึ่งวัน คือผมมีปากเสียงกับพี่เอ้ เรื่องเอาลูกบุญธรรมกับเพื่อนมาที่บ้าน เหมือนพูดว่าผมเอาผู้หญิงที่มหาวิทยาลัยขึ้นรถ แต่ไม่ใช่ ผมก็เลยอธิบายว่าไม่ใช่ ผมก็เลยตัดสินใจบอกพี่เอ้เลยว่าผมไม่ชอบลูกบุญธรรมของเขานะ ผมเลยให้เลือกระหว่างลูกบุญธรรมกับผม ถ้าลูกบุญธรรมอยู่ที่บ้านผมจะไม่อยู่ ก็มีปากเสียงกันครับ (จุดแตกหัก?) ใช่ครับ (ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องเงิน เรื่องเขาหมดตัว?) ครับ”
“ฟร้อง ศุภกิจ” ยังข้องใจ ทำไม “เอ้ ชุติมา” ไม่ยอมคืนรถตั้งแต่แรก
ฟร้อง : “ผมยังสงสัยว่าทำไมไม่ยอมคืนรถให้ ตามจริงคือรถตกลงกันว่าพี่เอ้จะเป็นคนผ่อน แต่อยู่ดีๆ มาบอกว่าบ้าน ต้องการหาบ้านใหม่ ต้องการหาคนซื้อ แต่ผมตามเพื่อนพี่เอ้ทุกคนเลย ตามไม่รู้จะตามยังไงแล้ว ผมก็อยากได้รถคืนเพราะพี่เอ้ไม่ยอมผ่อน ค้าง 4 งวด ผมกลัวรถหายก็ไปแจ้งความ ร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอดว่าผมอยากได้รถคืนมา จะได้จบปัญหา (คดีที่โดนตอนนี้?) เรื่องบ้าน แล้วก็เรื่องรถที่กำลังจะโดน (ฟ้องล้มละลาย?) อาจจะมีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ต้องไปรึกษาทนาย
ตอนนี้ก็แค่อยากให้รับผิดชอบที่เอาไปยังผ่อนค้าง 3-4 งวด จะเอารถมาคืนโดยบอกว่าค้างไม่ได้ นั่นแหละครับ หลังจากนี้ขอไปปรึกษาทนายและคุณพ่อคุณแม่ ปัญหาหลักคือค้างค่างวดอยู่ ประมาณ 4 งวด ก็งวดละประมาณ 20,000 บาท ที่จะต้องจ่ายที่พี่เอ้ไม่ยอมผ่อน (ยังอยากได้รถไหม?) ผมตกลงกับพี่เอ้ตั้งแต่แรกตอนที่เลิกนะว่าฟร้องไม่เอาหรอกรถน่ะ บ้านไม่เอาหรอกเพราะว่าฟร้องก็มี รถของที่บ้านอยู่ที่กาญจนบุรี ตอนแรกอยากให้พี่เอ้มีรถ มีบ้าน พอเลิกไปพี่เอ้ก็มีทรัพย์สินใช่ไหม ฟร้องก็บอกแม่ว่าพอถึงเลิกกันไปพี่เอ้ก็จะมีทรัพย์สินของตัวเอง มีบ้าน มีรถ แต่พออันนี้มันกลับกันเลย ก็แล้วแต่คนจะเชื่อเพราะว่าผมก็เป็นเด็กซื่อๆ เด็กต่างจังหวัดหลงคารม”
ยันไม่เล่นการพนันออนไลน์ ที่เห็นในรายการคือตนโดนโกง
ฟร้อง : “เรื่องพนันออนไลน์ที่ผมโดนโกงไป ผมไม่ได้เล่น ผมโดนโกงจริงๆ มีคนทักเฟซบุ๊กมาว่าสนใจร่วมลงทุนไหม แล้วให้ผมไปสมัคร ก็ตามที่เห็นครับผมโดนโกง เหมือนให้ผมโอนไปเรื่อยๆ แต่ถอนไม่ได้ ผมก็แจ้งความจับทุกอย่างแล้ว แต่คืออัยการไม่สั่งฟ้อง(เหตุผลที่ยอมลงทุน?) ผมไม่ได้เล่น ผมโดนโกงจริงๆ ผมลงทุนไป มีปัญหาหลายๆ เรื่อง พี่เอ้ต้องใช้เงินเยอะด้วย เดือนนึงจ่ายเป็นแสนนะ ทั้งบ้าน ทั้งรถ ทั้งบัตรเครดิต ฯลฯ
(เงินที่เอาไปลงทุนใช่เงินที่รีไฟแนนซ์ไหม? )ไม่ใช่ครับ เงินที่ลงทุนที่โกงไปนานแล้ว ก่อนที่ผมจะเอารถไปรีไฟแนนซ์ เพราะผมก็ปรึกษาพี่เอ้นะ เขาก็อยู่นะที่ธนาคารมาเซ็นสัญญาที่บ้าน ผมก็ปรึกษาพี่เอ้ว่าเอารถไปรีไฟแนนซ์ไหม เอามาหมุนเพราะเดือนนึงจ่ายเป็นแสน ช่วงนั้นเป็นช่วงโควิด งานก็น้อย พี่เอ้ก็งานน้อย รายได้ก็น้อย ผมกลัวหมุนไม่ทันก็เป็นห่วง เลยบอกพี่เอ้เดี่ยวมารีไฟแนนซ์กันนะ จะได้มีเงินหมุนจ่ายค่าบ้าน ค่ารถ ค่าโน่นนี่นั่น แต่คือที่เห็นพี่เอ้กลับคำหมดเลย”
แล้วแต่สังคมจะมอง หลังออกรายการแล้วถูกมองว่า พอ “เอ้ ชุติมา” มีเงินเราก็ยังอยู่กับเขา พอเขาไม่มีเงินแล้วก็ไม่อยู่
ฟร้อง : “ผมอยู่บ้านตลอด ผมไม่ได้ทิ้ง แต่คือพี่เอ้ทิ้งผม ผมงงมาก เพราะตอนแรกก็บอกพี่เอ้ว่าสร้างครอบครัวด้วยกันนะ ซื้อบ้าน ซื้อรถ อยู่ด้วยกัน แต่ไปๆ มาๆ มันไม่ใช่ไง ผมก็งงอยู่ดีๆ หนีผมไปกับลูกบุญธรรมเขา (กลัวคนมองภาพเราเปลี่ยนไปไหมหลังจากนี้?) ก็คงตามสังคมที่มอง ผมก็น้อยใจที่พี่เอ้บอกว่าทำไมถึงทำแบบนี้ น้อยใจทุกอย่าง ผมรักและกู้เงินให้ ยอมเป็นหนี้”