“ก้อย อรัชพร” เคลียร์ชัดไม่ได้กั๊ก “นิกกี้” ปรี๊ด! โดนรุมด่าในไอจีหมา

“ก้อย อรัชพร” ปัดเอาหมามากั๊ก “นิกกี้” บอกคิดไว้แล้วต้องมีเรื่องทำนองนี้ออกมา ตัดสินใจเลี้ยงต่อเพราะตกลงกันแล้ว เข้าใจไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจในความสัมพันธ์แบบนี้ แต่ที่ปรี๊ดเพราะไปรุมด่าในไอจีหมา ทั้งที่มันบริสุทธิ์และเป็นพลังบวก

แม้จะเลิกรากันไปแล้ว แต่สาว “ก้อย อรัชพร โภคินภากร” และหนุ่ม “นิกกี้ ณฉัตร จันทพันธ์” ก็ยังคงติดต่อกันอยู่ เพราะแบ่งกันเลี้ยงดู “ไนล่า” น้องหมาที่เปรียบเสมือนลูกชายคนหนึ่ง แต่งานนี้ก็ไม่วายมีดรามา หาว่าก้อยเห็นแก่ตัว เอาหมามากั๊กนิกกี้ไว้ ทั้งที่ควรจะคืนไปได้แล้ว ล่าสุดวันนี้ (28 มิ.ย.) ได้เจอสาวก้อย ในงาน “NocNoc Fair” เจ้าตัวก็ได้ชี้แจงถึงเรื่องนี้อีกครั้ง หลังออกมาฟาดไปแล้วรอบหนึ่ง ทางยูทิวบ์ GoyNattyDream Channel

“จริงๆ มันเป็นเรื่องที่ก้อยคุยกับพี่นิกกี้ชัดเจน ตั้งแต่วันที่เราตัดสินใจแยกกันไปใช้ชีวิตของตัวเอง คิดว่าไม่ได้ดรามาอะไร ก้อยคิดว่ามันเป็นเรื่องปัจเจกมาก บางคนอาจจะมองว่าความสัมพันธ์ยื้อ แต่ก้อยกับพี่นิกกี้ได้คุยกันชัดเจนมากๆ แล้วว่านี่คือทางร่วมและการตัดสินใจร่วมกัน อย่างที่บอกคือก้อยไม่ได้เลี้ยงน้องหมาตัวหนึ่งแบบหมา ก้อยเลี้ยงเขาแบบลูกและเราทั้งคู่ต่างมีความสุขที่ให้เขาได้อยู่กับเราทั้งคู่ ถึงแม้ผ่านวันที่ดรามามา ก็ยังได้คุยกันว่า เราก็เดินต่อทางนี้แหละ เพราะนี่คือเส้นทางที่เราทั้งคู่ตัดสินใจแล้ว”

ทำใจไว้แล้ว ต้องมีเรื่องทำนองนี้ออกมา
“ใช่ๆ เราเลือกสิ่งที่เรารักเป็นที่ตั้ง นั่นคือ ไนล่า อาจจะมีคนที่ไม่ได้เข้าใจในความสัมพันธ์ของเรา ซึ่งนั่นก็ไม่เป็นไร พอเกิดดรามาเรามาคุยกัน มันก็ยังเป็นในรูปแบบเดิม มันคือสิ่งที่เราตัดสินใจกันถึงความรักที่เรามีต่อน้อง มันก็เลยไม่ได้มีอะไรที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไป แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันไม่ใช่ทุกคน ที่จะสามารถเข้าใจในความสัมพันธ์แบบนี้ แต่ละคนก็มีแนวทางที่ไม่เหมือนกัน ก็เข้าใจได้ค่ะ”

เลือกที่จะออกมาพูดเพราะทัวร์ไปลงไอจีหมา ที่ตรงนั้นคือพลังบวกของตัวเอง ไม่อยากให้มายุ่ง
“ตอนนั้นที่หนูเลือกที่จะพูดออกไป เพราะปกติคอมเมนต์ด้านลบมันมีมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่ทีนี้มันจะมีไอจีของน้องหมา ซึ่งสำหรับหนูมันเป็นไอจีบริสุทธิ์ น้องหมาก็วิ่งเล่นทุกวัน ก็จะมีคนเข้ามารุมใส่ลบๆ แต่ก็คือรุมด่าหนูแหละส่วนใหญ่ แต่มาลงในช่องไอจีนี้ คือพลังลบในชีวิตมันมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่เรารู้สึกว่าพื้นที่นี้มันเป็นพลังบวกของเรา มันเหมือนไปโดนเส้นเรา จริงๆ พลังงานลบเข้ามาในชีวิตหนูมันไม่น้อยอยู่แล้ว แต่ ณ เส้นนั้นมันคือพลังบวกของหนู เราก็เลยเอาซะเลย เป็นแค่โมเมนต์เดียว แค่พอผ่านโมเมนต์นั้นมันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ หนูคือคนที่เข้าใจได้ว่าหนูทำสิ่งนี้เพื่ออะไร ทำไปทำไม ถ้าคนที่เรารู้จัก เรารัก เราเคยคุยสิ่งนี้ไปแล้วมันก็ตามนั้น”

หนียังไงก็ไม่พ้นกับคอมเมนต์ด้านลบ
“ทุกคนแหละ ไม่ใช่แค่ก้อย ไม่ใช่แค่คนที่อยู่ในวงการ ทุกคนไม่สามารถทำให้ใครเข้าใจเราได้เสมออยู่แล้ว ตอนนั้นมันองค์ประธานไง มันคือความน่ารักแต่ก็มีมาแบบแน่นๆ แน่นเดียวไม่พอ แน่นไม่หยุด เราก็เลยคิดในหัวว่าหรือเขาต้องการ การสื่อสารบางอย่างจากเรา ก็เลยสื่อสารบางอย่างกลับไป แต่เราสื่อสารสิ่งนั้นไปก็ไม่ได้ช่วยอยู่ดี เราไม่สามารถทำให้เขาเข้าใจได้ ก็โนพ้อยท์อยู่ดี แต่ก็อาจจะทำให้บางคนเข้าใจมากขึ้น”

มองข้ามดรามากันทั้งคู่ เพราะเจอมาไม่น้อย
“โห เราเจอกันมาไม่น้อย ทั้งหนู ทั้งพี่นิกกี้ ยิ่งผ่านมาเราก็ยิ่งได้รู้ว่าพื้นที่ไหนคือพื้นที่ที่เรารัก พื้นที่ไหนที่เราหวังดีต่อกัน เราคิดดี คิดทุกอย่างบวก แล้วเราเลือกแล้วว่ามันคือการตัดสินใจของเรามันก็แค่นั้นเอง”