xs
xsm
sm
md
lg

“เอวา - เนท” คู่รักในตำนานยูทูบเบอร์-ลูกคุณหนู ไม่เหมาะสมกันจริงหรือ?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยูทูบเบอร์ฝรั่งชื่อดัง My Mate nate หรือ “เนท นาธาน” ที่วันนี้ควงแฟนสาวคนสวย “เอวา ปวรวรรณ” ทายาทเจ้าของธุรกิจยาหมื่นล้าน ออกสื่อครั้งแรก พร้อมเคลียร์ดรามาทุกประเด็น ทั้งคู่ไม่เหมาะสม หรือว่าคบกันเพราะเงิน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne 31 

เนทเป็นยูทูบเบอร์อันดับต้นๆ ของประเทศเลย ตอนนี้ยอดติดตามเท่าไหร่แล้ว?
เนท : “ในยูทูบ 13.4 ล้าน แล้วของน้องใกล้จะถึง 2 ล้านด้วย”

อะไรเป็นจุดเด่นของเราที่ทำให้คนติดตาม 10 กว่าล้านคน?
เนท : “น่าจะเป็นตัวตนของเราเลย เพราะว่าใครก็ถ่ายคลิปได้ แต่ผมว่าสิ่งที่ทำให้เราต่างกัน หนึ่งเป็นฝรั่งไม่ใช่ลูกครึ่ง มาที่นี่ผมก็มีมุมมองที่โตมาจากอเมริกา มันอาจจะไม่เหมือนกัน ผมเปิดช่องต้นปี 2015 ประมาณ 8 ปีครับ

เรียกว่ายูทูบเป็นอาชีพหลักของเราได้ไหม?
เนท : “ครับ 100% เลย ตอนเริ่มคิดว่าเป็นงานอดิเรกไม่ได้คิดว่าเป็นอาชีพ แต่พอทำไปเรื่อยๆ สังคมมันเปลี่ยนไปคนดูทีวีน้อยลง ดูออนไลน์มากขึ้นก็เลยกลายเป็นอาชีพ ก่อนจะเป็นยูทูบเบอร์ผมเป็นช่างภาพบริษัทท่องเที่ยวในประเทศไทย เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ แล้วเป็นจิตอาสา ผมอยู่ประเทศไทยมา 11 ปีแล้ว”

พอเนทเขามีปัญหา ดรามาโน่นนี่นั่น เอวาให้กำลังใจเขายังไง?
เอวา : “ก็บอกเขาว่าเรามาโฟกัสคนที่รักเราดีกว่า ไม่ว่าเราจะเป็นคนดีแค่ไหน ถ้าเราอยู่ในโลกออนไลน์มันจะมีคนไม่ชอบเราอยู่แล้ว อยากให้มองสิ่งดีๆ มากกว่า”

ทุกครั้งที่เราทำคอนเทนต์ต่างๆ มีปรึกษาน้องเอวาไหม?
เนท : “ตอนนี้ทีมงานมีเกือบ 30 คน แล้วก็ปรึกษาทีมครีเอทีฟ นักแสดง คุยกับน้องเอวา บางครั้งก็ปรึกษาแม่ของน้องแบบผู้ใหญ่หลายคน ชีวิตมันยุ่งบางครั้งเราก็ลืมปรึกษาบ้าง”

ตอนประกาศเป็นแฟนกันกลางรายการสดรายการหนึ่ง วันนั้นเป็นยังไงบ้าง?
เอวา : “ไม่คิดว่าพี่เนทจะขอเป็นแฟนตรงนั้น มันก็มีลูกโป่งตกลงมา มันก็โดนสปอยนิดนึงเพราะแม่พี่เนทมาด้วย แล้วคุณแม่บอกว่าเขามีเซอร์ไพรส์ทำไมมีลูกโป่งข้างบน เราก็มองขึ้นไปไม่คิดว่าวันนี้จะมีอะไรแบบนี้”

เนท : “วันนั้นที่พ่อกับแม่มาเพราะผมขึ้นชกมวย”

เห็นว่าถ้าชกชนะจะยอมรับเป็นแฟนอันนี้จริงหรือเปล่า?
เนท : “เราไม่ได้คุยกันแบบนั้น ในคลิปเอวาจะให้คำถ้าทาย ถ้าทำได้เขาจะให้ 100,000 แต้ม ถ้าครบ 1,000,000 ค่อยเป็นแฟนกัน แต่พอชกชนะก็ลองขอ”

เอวา : “อันนี้เราไม่ได้คุยว่าเป็นแฟน แต่เหมือนพี่เนทลองขอดูไหนๆ ก็ชนะแล้ว”

ความรู้สึกเอวาตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง?
เอวา : “ตื่นเต้นมากเลย ดูคลิปนี้บ่อยๆ เพราะเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่มีความสุข และหลังจากนั้นพี่เนทก็จะเปิดข้างหลัง จำได้ว่าร้องไห้หนักมาก มันเป็นโมเมนต์ต่างๆ ที่เขารวมเอาไว้ ก็ร้องไห้ดีใจ”

ชั่วโมงนั้นเราไม่รู้สัญญาณเลยว่าเขาจะเซอร์ไพรส์เราขนาดนี้?
เอวา : “ไม่รู้ว่าเขาจะเซอร์ไพรส์ด้วยลูกโป่งหรือขอเป็นแฟน แค่คิดว่าชกมวยจบต้องขึ้นไปบนเวที เพราะพี่เนทบอกว่าอยากถ่ายรูปด้วย อยากถ่ายรูปกับทุกคน ไม่ได้คิดว่ามีวีดิโอนี้ หรือมีลูกโป่ง”

จุดเริ่มต้นของความรัก?
เนท : “ผมกับลูกน้องก็ถ่ายคลิปไปเรื่อยๆ แล้วน้องเอวาเขาเพิ่งเริ่มทำยูทิวบ์ไม่นาน แล้วเขาก็มาติดต่อยูทูบเบอร์ที่มีช่องใหญ่มาถ่ายคลิปรวมกัน ผมอยู่ในรถตู้กับทีมงาน ผมเลยถามว่าคนนี้ติดต่อมา ที่บ้านผมไม่มีทีวี ผมไม่ได้ดูละคร ซีรีส์รายการต่างๆ ที่น้องเขาแสดง แต่พอเขาทักมาก็น่าจะสนุก ก็เลยถ่ายคลิปลงกัน เขาก็น่ารัก สวยครับ”

ท่าทางเราดูเหมือนเป็นผู้ชายเจ้าชู้เบาๆ ด้วยไหม?
เนท : “ไม่มีครับ ไม่มีแม้แต่นิดเดียวเลย ผมไม่เที่ยว ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่อะไรเลย สิ่งที่ประทับใจที่สุดตั้งแต่เริ่มคุย ตั้งแต่รู้จักก็คือตัวตนของน้องเลย พอรู้เป้าหมายชีวิต ความฝัน วิธีคิด แล้วมุมมองในชีวิตทุกสิ่ง ทุกอย่างเป็นสิ่งที่สวยมากเลยครับ ทุกคนสวย แต่ในอนาคตทุกคนแก่อยู่แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ที่จิตใจ จิตใจน้องสวยที่สุด”

ความรักที่ผ่านมา เอวาเคยเจอผู้ชายหลอกเรื่องเงิน?
เอวา : “ใช่ค่ะ จนเรารู้สึกไม่อยากคบกับใคร ต้องบอกก่อนเขาเหมือนเป็นแฟนคนแรก แล้วก็ตอนนั้นอายุ 18 เอง เด็กมาก แล้วเรามองว่าไม่มีใครที่จะเลวร้ายไปทั้งหมด เราไม่คิดว่าเขาจะเอาเงินเรา แต่ตอนนั้นมีอีเมลส่งเข้ามาว่าคุณได้ติดตามเกมนี้หรือเปล่า เหมือนมันกดส่งมาทุกเดือน แล้วอยู่ดีๆ ธนาคารก็โทร.มาว่าเจ้าของบัตรเครดิตนี้ได้เล่นเกมนี้หรือเปล่า จ่ายทุกเดือนเลย เดือนละพันกว่า แล้วไม่ใช่แค่เรื่องเงิน เขานอกใจด้วย มันมีหลายเรื่องมากๆ แล้วเป็นรักครั้งแรกด้วย เราก็ส่งไลน์ไปถามเขาว่าได้ทำจริงไหม เพราะเขาอยู่ญี่ปุ่น หนูอยู่ไทย เขาก็บอกไม่ได้ทำๆ แต่ความตลกคือเขาถ่ายหน้าจอโทรศัพท์แล้วส่งอีเมลให้ดู เราก็เห็นว่ามีชื่อเกมนั้นอยู่ในอีเมลเขา หนูก็เลยวงกลับไป นี่ไงมันมีชื่อเกมนี้อยู่”

เลิกเลยไหม?
เอวา : “เลิกค่ะ แต่จริงๆ ไม่ได้เลิกเพราะเรื่องเงิน แต่เลิกเพราะเจ้าชู้ เขานอกใจบ่อยมากๆ เราให้โอกาส 7 ครั้ง แล้วเขาก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง ยังนอกใจอยู่จับได้ทั้งในเฟซบุ๊ก ข้อความ เห็นรูปหอมแก้ม เห็นอะไรแบบนี้เห็นหมดเลย”

แล้วพอเนทมาชอบเรา เริ่มจีบ เรากลัวไหม รู้สึกว่าเขาเจ้าชู้ไหม?
เอวา : “กับพี่เนทต่างมากๆ เลยค่ะ ตั้งแต่เราเจอกันครั้งแรกที่ภูเก็ต พูดจริงๆ มันคืองาน เราถ่ายคลิปช่อง เหมือนคลิปเดตแบบปลอมๆ เหมือนคอนเทนต์ แต่รอบที่ 2 ที่ถ่ายซ่อนแอบช่องพี่เนท แล้วรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้จริงใจมาก แล้วเราคุยกันทุกอย่างมันโฟลหมดเลย รู้สึกว่าอะไรหลายอย่างมันเข้ากันมาก เหมือนไม่ค่อยปรับอะไร มันเป็นธรรมชาติเลย

แสดงว่าความรู้สึกที่เราเคยเตอมา เราลืมไปหมดเลย เมื่อเราอยู่ใกล้ชิดเขา?
เอวา : “เขาทำให้รู้สึกจริงๆ ว่าผู้ชายที่ดียังมีอยู่จริง”

ก่อนที่จะคบกันตัวเนทเองก็มีดรามามาที่ผ่านมาค่อนข้างเยอะ ตอนนั้นเรารับกับสถานการณ์ยังไง?
เนท : “มันเกิดขึ้นไปแล้วแก้ไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือเรียนรู้จากเหตุการณ์นั้น แล้วก้าวต่อไป”

แต่ตอนประกาศคบกันก็มีดรามาไม่เหมาะสมกัน คนนึงเป็นยูทูบเบอร์ แต่น้องเอวาเป็นทายาทเศรษฐี?
เนท : “มีความเห็นอย่างนั้น แต่ไม่เป็นไร ตั้งแต่เราเจอกันครั้งแรกทุกอย่างมันจริงใจ ที่บอกไปตอนแรกไม่รู้เขาคือใครไม่รู้อะไรเลย พอเราคุยกัน พอเราจีบกัน อย่างที่บอกรักน้องที่ตัวตนไม่เกี่ยวกับฐานะ ไม่เกี่ยวโปรไฟล์ไม่เกี่ยวอะไรเลยแล้วพอมันไปเรื่อยๆ มันต้องพิสูจน์ เครื่องมือพิสูจน์ที่ดีที่สุดในโลกคือเวลา”

แล้วเอวาเองมีคนกระซิบเรื่องของเขาให้เราฟังไหม?
เอวา : “ถ้าพูดจริงๆ มีค่ะ มีเยอะ เพื่อนคุณแม่บางคนยังเตือนเลย แต่ว่าตอนจบเขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างนั้น ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด แล้วพี่เนทก็พิสูจน์ตัวเองมาเรื่อยๆ ว่าเขารักเราจริง”

เห็นคอมเมนต์แบบนี้รู้สึกยังไงบ้าง?
เอวา : “เอาจริงๆ รู้สึกเสียใจ มันมีเยอะมาก มีคอมเมนต์ที่แบบว่าไม่ชอบเอวาแล้วดีกว่า เพราะคบกับพี่เนทก็มี หรือบางคนบอกว่า นี่เอวา นี่เป็นเอวัง แต่ตอนจบก็มองว่าเราอยู่กับเขา เราอยู่กับคนที่เรารัก เพราะคนที่คอมเมนต์เราไม่ได้ใช้ชีวิตกับเขา  อีกอย่างแฟนคลับเราทุกคนเรามองเห็นเป็นครอบครัวหมด ก็มีบางคนที่หายไปเยอะเหมือนกัน แต่เรารู้สึกว่าท้ายที่สุดแล้ว เราต้องเลือกคนที่เราใช้ชีวิตด้วย แล้วเราก็ขอบคุณทุกคนไม่ว่าจะอยู่ช่วงเวลามากน้อยแค่ไหนก็ขอบคุณเขาที่ช่วงเวลานึงเขาได้ติดตามเรา”

ตัวเนทเองพิสูจน์ตัวเองยังไงบ้าง?
เนท : “คือเวลาครับ ตั้งแต่เริ่มอยู่ด้วยกันให้เขาเห็นว่านิสัยเราเป็นยังไง ต้องเป็นตัวของต้วเอง เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเป็นแบบไหน”

เวลาเจอคอมเมนต์เจออะไร ทำไมรู้สึกว่าทำไมทุกคนต้องมาตัดสินความรักเรา?
เอวา : “จริงๆ ก็เสียใจเหมือนกันที่คนบอกว่าเราไม่เหมาะสมกัน ตั้งแต่เข้าวงการมา เรารู้สึกอยากเป็นพลังบวกให้ทุกคน แล้วก็เนทก็เป็นคนดีมากๆ แต่หลายคนไม่เห็นพี่เนทจากมุมที่เราเห็น หรือหลายคนจะเห็นแค่ผิวเผินจากข่าวโดยที่ไม่รู้ตัวตนจริงๆ ของเขา ก็มีเสียใจบ้าง แต่ความรู้สึกทุกอย่างมันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ในวันนึงเรารู้สึกโกรธรู้สึกมีความสุข เดี๋ยวก็รู้สึกหิว ความสุขมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ก็เลยรู้สึกว่าทุกอย่างไม่มีอะไรอยู่จีรังตลอดไป ถ้าเรามีความทุกข์ อีก 10 นาที เราดูหนังที่ชอบ เดี๋ยวก็หายแล้ว แล้วโฟกัสสิ่งที่ดีมากกว่า”

แล้วมีสถานการณ์ไหนไหมที่ทางเนทเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไม่ได้คบเราเพราะเงิน?
เอวา : “ตั้งแต่วันแรก พี่เนทเขาดูแลหนูดี ถ้าให้พูดจริงๆ แฟนในอดีตของเราไม่มีใครซัปพอร์ตเราเรื่องเงินได้เลย ดูหนังเราก็ต้องจ่ายเงิน กินข้าวเราก็ต้องเลี้ยง แต่เราก็มองว่าไม่เป็นไร เพราะเรามีเยอะกว่าเขา พี่เนทคือผู้ชายคนแรกที่จ่ายค่าอาหารให้ ซื้อของให้โดยที่บางทีเราไม่ได้ขอ มันก็พิสูจน์แล้วว่าไม่มีอะไรเกี่ยวกับเงินเลยในเรื่องของความสัมพันธ์ของเรา มันคือความรัก ความจริงใจ และเราสบายใจเป็นตัวของตัวเองเมื่ออยู่ด้วยกัน”

ลำบากใจไหมที่เราพยายามจะสื่อสารให้เห็นว่าเขาไม่ได้มาหลอกฉันนะ?
เอวา : “ช่วงแรกๆ มีบ้างค่ะ แต่ช่วงหลังๆ ไม่มีแล้วค่ะ คุณแม่ก็ได้ดูคลิป แฟนคลับหลายๆ คนได้เห็นว่าพี่เนทไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด เขาดูแลเราดีมาก เขาจริงใจ แล้วไม่ใช่แค่เราที่เขารัก รักทีมงาน ครอบครัว เขาเป็นคนที่จริงใจและให้ใจกับคนมากๆ ค่ะ อยากให้เชื่อใจ เพราะว่าเราคือคนที่คบ นี่คือชีวิตของเรา เรามั่นใจว่าความดีที่เราทำจะพาให้เจอคนที่ดีและสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต”

คุณพ่อ คุณแม่ ครอบครัวโอเคแล้ว?
เอวา : “โอเคค่ะ อาๆ ก็รัก คุณพ่อ คุณแม่ก็รักพี่เนท พี่น้องเราก็รักพี่เนทด้วย”

ตอนนี้คบกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว มีอะไรที่เหมือนกันและแตกต่างกันบ้าง?
เนท : “เยอะ ที่เหมือนกันคือเราชอบอะไรคล้ายๆ กัน”

เอวา : “ที่ต่างกันก็จะมีวัฒนธรรม จำได้ที่ไปที่บ้าน ก็จะมีบางทีที่พี่เนทไม่ได้ยกมือไหว้ทุกครั้ง ครอบครัวเราก็จะบอกว่าพี่เนทต้องยกมือไหว้นะ หรือต้องพูดครับมากขึ้น หรือบางทีการที่อยู่ใกล้ผู้ใหญ่ต้องโน้มตัวลง พอเดินผ่านอะไรอย่างนี้”

เนท : “เพราะที่อเมริกา ผมคุยกับเพื่อนพ่อก็เหมือนอายุเท่ากัน”

แล้วการเลี้ยงดู?
เนท : “ต่างกันมากเลย เพราะผมโตมาในครอบครัวที่พ่อ แม่ แยกทางกัน ผมโตกับพี่น้องกับแม่อย่างเดียว แล้วพอผมอายุ 18 ผมก็ออกจากบ้านไปผจญภัยโลกของผมเลย มันต่างกันที่เอวาก็อยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่เกิดเลย”

แล้วก็เป็นคุณหนูด้วย?
เอวา : “จริงๆ คำว่าคุณหนูมันมีทั้งดีและไม่ดี ดีก็อาจจะน่ารักดี แต่ไม่ดีคือดูเหมือนทำอะไรไม่เป็นเลย ถ้าถามว่าเป็นอย่างนั้นไหม ในอดีตก็เป็นอย่างนั้นทำอะไรไม่เป็น แต่ตอนนี้รู้สึกเติบโตขึ้น ทำอะไรเยอะขึ้น หลายคนอาจจะมองว่ามันอาจจะดูติ๊งต๊อง อย่างเราไม่เคยปั่นจักรยาน เราปั่นจักรยานครั้งแรกในชีวิตเป็นเพราะพี่เนท คนจะมองว่าดูติ๊งต๊องมากเลย แต่มันก็คือชีวิตของเราแล้วเรารู้สคกว่าไม่อยากให้คนตัดสินชีวิตใครคนใดคนหนึ่ง เพราะพี่น้องเราก็ไม่มีใครปั่นจักรยานเป็น”

เห็นว่าทั้งสองคนทำงานด้วยกันตลอด 24 ชม.เลยไหม?
เอวา : “งานเราเยอะมาก พี่เนทลงอาทิตย์ละ 2 คลิป เราก็ลงอาทิตย์ละ 2 คลิป”

มีทะเลาะกันบ้างไหม?
เนท : “ต้องมีเป็นธรรมชาติ นิดๆ หน่อยๆ ส่วนมากจะเป็นวิธีนำเสนอคลิปนี้ จะนำเสนออะไรบ้าง มันไม่ได้ทะเลาะร้ายแรงแบบด่า”

เอวา : “มันเหมือนการปรึกษากันมากกว่า”

อยู่ด้วยกัน 24 ชม. มีเบื่อกันบ้างไหม?
เอวา : “หลายคนก็บอกว่ามันเป็นโปรโมชั่นหรือเปล่า แต่มันผ่าน 6 เดือนแล้ว มันไม่ใช่โปรโมชั่นแล้ว แต่ก็ต้องรอดูว่าอีก 2 ปีพี่เนทจะเปลี่ยนไหม แต่ตอนนี้เราไม่รู้สึกเบื่อเขา เรารู้สึกเหงาด้วย ไปเจอพี่เนท ไปเจอทีมงานทุกคนรู้สึกว่าเป็นครอบครัวที่ 2 แล้ว เล่นสนุกด้วยกัน ทำกิจกรรมใหม่ๆ ก็ไม่รู้สึก”

เราสองคนมีปัญหาเรื่องการนอนจริงหรือเปล่า?
เนท : “จริง เอวาจะนอนที่บ้านกับครอบครัว แล้วผมก็นอนที่ของตัวเอง ผมจะนอนเร็ว 3 ทุ่มไม่เกิน 4 ทุ่ม เพราะผมจะตื่นเช้า ตี 5 ไปออกกำลังกาย น้องเขาอยากให้เรานอนเวลาเดียวกัน”

เอวา : “นอนเที่ยงคืน ตี 1 ซึ่งดึกมาก ซึ่งไม่ดีเลย แล้วเราอยากให้พี่เนทอยู่ด้วย”

คู่นี้เขาคลั่งรักกันมาก ถึงขั้นยกสวนสนุกมาเลยเหรอ?
เนท : “ใช่ มีทั้งคอนเทนต์และชีวิตจริงด้วย ตอนที่น้องครบ 1 ล้านซับ เรายกบ้านลม เอาเกมงานวัดมา เค้ก เช่าสนามฟุตบอลใหญ่มาให้เขาเล่นกับทีมงาน”

เอวา : “เราโตแล้วจะไปเล่นแบบนี้ก็ไม่ได้กลัวไปทับเด็ก เคยบอกพี่เนทว่าอยากมีประสบการณ์แบบนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะทำให้”

เนท : “เราก็เอาอันนี้มาจัดเป็นเซอร์ไพรส์ให้เขา วาเลนไทน์เราทำงานที่โกดัง มันใหญ่เลย ประมาณ 800 ตารางเมตรเราเอาลูกโป่งมาให้เต็ม แล้วยกร้านโอมากาเสะมาให้”

วันนั้นเล่นอยู่กี่ชั่วโมง?
เอวา : “4-5 ชั่วโมงเลยค่ะ และอีกอย่างเราเป็นเหมือนการโปรโมตธุรกิจให้คนอื่นด้วย เพราะว่าจริงๆ ราคาไม่ได้แพงขนาดนั้น บางทีเราได้ส่วนลด เหมือนเขาก็สปอนเซอร์ให้ด้วย”

เห็นว่าซื้อตุ๊กตาให้ตัวละเป็นแสนโดนคนด่าเลย?
เอวา : “อันนี้เป็นอันเดียวที่ไม่ได้เป็นคอนเทนต์จริงๆ ไม่ได้เป็นสปอนด้วย ก็อยากได้จริงๆ “

ความพิเศษอยู่ตรงไหน?
เนท : “มันดูเหมือนเด็กจริงๆ เลยครับ”

เอวา : “อยากให้มองว่าเป็นศิลปะมากกว่า กว่าจะทำเสร็จ 6 เดือนเลย ราคานี้มันมีกลุ่มคนที่เล่นต่างประเทศค่อนข้างเยอะ ในอนาคตเราสามารถขายต่อได้ด้วย”

ทำไมต้องเซอร์ไพรส์เขาด้วยตุ๊กตา?
เนท : “มันเป็นวันเกิดของน้อง แล้วจะครบ 1 ปีที่เราอยู่ด้วยกัน เห็นเขาตั้งใจทำงาน เห็นเขาทุ่มเทกับทุกอย่าง เลยอยากจะมีเซอร์ไพรส์ให้เขาเป็นพิเศษ แล้วอันนี้เขาขอด้วย แล้วเขาเคยมีอีกอันหนึ่งมาก่อน แต่มันไม่ได้ดีเท่าตัวนี้เลยติดต่อศิลปินที่อยู่สิงคโปร์ขอพิเศษเลย”

หรือลึกๆ อยากมีลูก?
เนท : “แน่นอนอยู่แล้วครับ”

เอวา : “แต่ไม่ได้เป็นลูกเทพ หรือไม่ได้เสกอะไร เป็นแค่ตุ๊กตา ในอดีตเรามีขายต่อก็ได้กำไรด้วยค่ะ”

ทั้งคู่มีความเชื่อเรื่องพญานาค?
เนท : “มันเกิดจากน้องเอวา พ่อกับแม่ชวนผมไปที่ถ้ำนาคา ไม่ต้องเชื่อลองไปพิสูจน์เอง ขึ้นไปถ้ำนาคาแล้วขอพร พอลงไปไม่กี่วันสิ่งที่ขอเป็นจริงได้ไปทำคอนเทนต์ที่นั่นเรียบร้อย  เพราะขอแล้ว ต้องกลับไปแก้บน”

มีแพลนจะแต่งงานกันหรือยัง?
เนท : “มันอยู่ที่ครอบครัวน้องเลยครับ แน่นอนผมพร้อมแล้ว เมื่อไหร่ที่เขาอนุญาต ที่เขารู้สึกว่าเนทพิสูจน์ตัวเองพอแล้วขอแน่นอนครับ”

เอวามองว่าอีกกี่ปี?
เอวา : “สัก 2-3 ปี ก็อย่างที่บอกก็ขึ้นอยู่กับคุณแม่กว่าแม่จะเลี้ยงเราให้มีทุกวันนี้ได้ก็ต้องให้คุณแม่เป็นคนอนุญาต”

แล้วเรื่องเปลี่ยนศาสนา เห็นว่ามีโอกาสเปลี่ยนสูงมาก?
เนท : “ไม่ถึงขั้นเปลี่ยนศาสนา แต่ว่าตั้งแต่อยู่ประเทศไทยไม่ได้มีโอกาสศึกษาแบบละเอียด แต่พอเจอพ่อของน้อง เขาสามารถตอบทุกคำถาม ข้อสงสัยทุกอย่าง พ่อเขาชวนไปบวชที่อินเดีย อยากไปมากเลยครับ เพื่อศึกษา ทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี อยากเรียนเพิ่มเติม”





















กำลังโหลดความคิดเห็น