xs
xsm
sm
md
lg

“ณเดชน์” คลั่งรักไม่ไหว หลังขอวิวาห์ ไม่อยากห่างจาก “ญาญ่า” บอกเราถูกสร้างมาคู่กัน (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ณเดชน์” เล่าโมเมนต์ขอ “ญาญ่า” แต่งงาน ความรู้สึกไม่เหมือนกับที่ตนเคยแสดงละครเลย ทริปนี้ที่อิตาลีเป็นทริปที่สมควรแก่เวลาขอแต่งงาน เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ในเชิงความหมายมอบหัวใจที่บริสุทธิ์ให้แก่กัน ส่วนแหวนเพชรเป็นเพชรชนิดพิเศษนำเข้าจากฮ่องกง งานแต่งงานยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ ปีนี้ขอโฟกัสที่งานแต่งงาน “คิม-หมาก” ก่อน




เป็นโมเมนต์ที่หลายคนตั้งตารอคอย และเมื่อได้เห็น “ณเดชน์ คูกิมิยะ”คุกเข่าขอ “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์”แต่งงานที่ประเทศอิตาลี ทำเอาแฟนๆ ที่ตั้งตารอคอยต่างพากันชื่นใจไปตามๆ กัน เมื่อถามถึงโมเมนต์ที่ในวันนั้น ณเดชน์ ก็เล่าให้ฟังว่า…

“วู้ โล่งเลย เตรียมการนานพอสมควร เตรียมทุกอย่างทั้งสถานที่ ทั้งกับบริษัททัวร์ที่เราให้เขาเป็นคนจัดการวางแผนการท่องเที่ยวให้ แล้วที่สำคัญก็คือเพื่อนๆ ที่ไป จริงๆ จะขนไปเยอะกว่านี้แต่ว่าหลายๆ คนอาจจะติดงานเพื่อนๆ มหาวิทยาลัยของญาญ่าด้วย แต่ว่าทุกอย่างก็ออกมาด้วยความสุขราบรื่น ดีใจมาก จริงๆ ผมเก็บความลับไม่ค่อยเก่งอยู่แล้ว จะมีอาการที่ล้นๆ เกินๆ เกิดขึ้นในวันนั้น เขาก็คงไม่ได้คิดว่ามีอะไร แต่ว่าผมก็จะมีอาการนิดนึง

เป็นทริปที่สมควรแก่เวลาขอแต่งงาน เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ในเชิงความหมายมอบหัวใจที่บริสุทธิ์ให้แก่กัน
“ทริปนี้ผมว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะจริงๆ เราก็มีเวลาได้พักผ่อน ได้เที่ยวค่อนข้างเยอะ แล้วอีกอย่างที่อิตาลีเป็นสถานที่ที่หนึ่งที่รู้สึกว่ามันโรแมนติก และมันก็เหมาะที่เราจะมอบโอกาสนี้ให้กับเขา เขาเหมาะสมกับสถานที่แบบนั้น เราก็อยากให้เขาอยู่ตรงนั้น อยากจะให้โมเมนต์บรรยากาศแบบนั้นมันอยู่ตรงนั้น

Bagni Regina Giovanna เป็นสถานที่เดิมในประวัติศาสตร์เป็นอ่างอาบน้ำของราชินี Giovanna นั่นเอง ผมก็รู้สึกว่าการได้ไปขอเขาตรงนั้นเหมือนเราจะเป็นอ่างน้ำที่โอบอุ้มเขา นี่คือความหมายของสถานที่ ในความคิดของเรา แต่ว่าจริงๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม จะอยู่ไทยหรือในร้านอาหารก็ตาม ถ้าคนมันรักกันจริงๆ รู้สึกว่ามันใช่คนนี้ ผมว่าก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะขอ เรียกว่ามอบหัวใจที่บริสุทธิ์ให้แก่กัน

เล่าโมเมนต์ขอแต่งงานจริงให้ความรู้สึกแตกต่างจากการแสดง ที่ตนเคยคุกเข่าขอนางเอกแต่งงาน
“ผมพูดอะไรผมไม่รู้เรื่องเลย ผมเตรียมทุกอย่างไปหมดเลย เตรียมว่าผมจะพูดแบบนี้ เรามีโอกาสได้ไปสถานที่ต่างๆ ที่เที่ยวในอิตาลีแล้วมันมีความหมายดีๆ เกิดขึ้น ผมก็แพลนในหัวแล้วว่าผมจะพูดหนึ่งสองสามสี่ แล้วก็จะคุกเข่า หยิบแหวนออกมา แต่พอถึงเวลาจริงๆ พูดอะไรก็ไม่รู้ เลยบอกว่า เนี่ย คุยกับที่บ้านแล้วนะ อะไรที่เป็นคำพรรณนาที่สวยงามหายหมด แต่ผมก็รู้สึกดีใจที่เราก็พูดอะไรบางอย่างที่มันไม่ใช่ละคร มันคือชีวิตจริงๆ ความรู้สึกแบบนี้มันไม่เหมือนในละครที่เราพูดว่า ฉันรักเธอ ขอแต่งงานแล้วคุกเข่า ไม่มีอะไรเหมือนเลย มันเป็นความตื่นเต้น ประหม่า ดีใจอะไรก็ไม่รู้ที่เราเข้าใจพี่หมาก (ปริญ สุภารัตน์) ด้วยเหมือนกันว่าทำไมตอนที่เขาขอกับคิมแล้วเขาถึงสวมผิดมือ

โมเมนต์วันนั้นไม่มีร้องไห้ กรี๊ดกร๊าดกันอย่างเดียว โดยเฉพาะว่าที่คู่หมั้นของผม เขากรี๊ดกร๊าดมีความสุข ผมก็มีความสุขมากๆ ผมไม่ได้ร้องไห้ คือมันตื้นตัน มันดีใจครับแต่ว่าก็ไม่ได้มีน้ำตา (แล้วประโยคที่เราเตรียมจะพูดกับเขาตั้งแต่แรก?) อันนี้ขอเก็บไว้เป็นความลับดีกว่า ส่วนที่เขาบอกว่ามีคำว่าแทรกซึม อ๋อ ประโยคที่ผมพูดกับเขาตอนนั้น ผมบอกว่า ผมอยากจะแทรกซอนเข้าไปอยู่ในชีวิตคุณ ความหมายของผมก็คือ เราควรจะประสานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่ว่าผมตื่นเต้นมากจนผมพูดอะไรไม่รู้ หลังจากที่หายตื่นเต้น ไปกินข้าวกัน ผมมีโอกาสได้บอกเขาอีกรอบนึงในคำพูดที่ผมเตรียมไว้แต่ไม่ได้พูด ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี หัวใจไม่ได้เต้นแรง ก็ได้พูดแล้วครับ”

เชื่อผู้หญิงมีเซ้นส์ทุกคนในวันสำคัญ
“ผมว่าเขาน่าจะรู้ ผมว่าผู้หญิงมีเซ้นส์ พอดีเราลงไปว่ายน้ำกันในอ่างอาบน้ำ แล้วขึ้นมาเปลี่ยนชุด พอขึ้นมาข้างบน เขาก็กำลังเปลี่ยนชุดแต่งหน้า เขาหันมา 3 วิ แป๊บเดียวผมใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว ผมก็บอก ที่รักเร็วๆ เปลี่ยนชุดๆ เพราะว่ามันจะใกล้เวลาที่ผมจะต้องนัดเพื่อนๆ มาตรงนี้ พระอาทิตย์จะต้องตก แสงจะต้องเป็นแบบนี้ผมก็หวังว่าจะไม่มีฝนตกวันนั้น แล้วผมก็ล่ก เขาก็คงคิดว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ แบบนี้ ผมก็ดูล่กๆ ตั้งแต่เช้าด้วย น้องก็คงจะจับได้”

เขาก็แต่งสวยรอทุกวัน เขาสวยทุกวันอยู่แล้วครับ สวยทุกวัน ไม่ไปอิตาลีก็สวยครับ เขาทำเล็บไปด้วย แล้วผมก็ทำเล็บไปด้วยเหมือนกัน”

เล่าที่มาและความพิเศษของแหวนหมั้น เพชรชนิดพิเศษคัดสรรมาจากประเทศฮ่องกง
“ผมเป็นคนที่ชอบเครื่องประดับอยู่แล้ว ก็จะมีดีไซน์อะไรที่ผมชอบและคิดว่าเขาจะชอบ ก็ปรึกษาร้านในความเป็นแหวนที่ผู้หญิงจะใส่แล้วสวย ผมว่าก็เหมาะสมกับเขา เป็นแหวนที่สวยจริงๆ ตัวเม็ดผมซื้อไว้นานแล้ว เพราะรู้สึกว่ามันมีช่วงนึงที่เรารู้สึกเราพร้อมแล้ว แล้วก็พอด้วยงานด้วยอะไรเรารู้สึกว่ายังไม่ใช่เวลาของมัน จนมาถึงวันที่ 1 มิถุนายนถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ผมได้ขอน้อง”

เพชร ตัวเม็ดจากฮ่องกงแต่ตัวเรือนขึ้นที่ไทย ตอนนั้นผมพยายามหาเพชรชนิดนี้มันเป็นเพชรชนิดพิเศษก็คงไม่ได้พิเศษไปกว่าเพชรคนอื่นๆ แต่ว่าเราแค่อินทรูกับเรื่องของจิวเวลรี่เฉยๆ เราเลยอยากหาอะไรที่มันพิเศษกับคนพิเศษของเราเท่านั้นเอง ถามว่าแล้วมีความพิเศษยังไง ก็ไม่เป็นเพชรธรรมดาแล้วกันครับ เดี๋ยวแฟนผมไปเดินที่ไหนแล้วโดนขโมยโดนกระชาก (หัวเราะ) ไม่ใช่ 12 กะรัตนะครับ ไม่ไหวๆ

งานแต่งงานยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ ปีนี้ขอโฟกัสที่งานแต่งงาน “คิม-หมาก” ก่อน
“จริงๆ พอกลับมาก็กลับมาทำงาน ถามว่ามีคิดๆ ไว้ก็ยังไม่มีเวลามานั่งคุยจริงๆ จังๆ แต่ถามว่า.. คงยังไม่ใช่เร็วๆ นี้เพราะว่างานแต่ละคนก็ไปใช้ชีวิตอยู่ยุโรปกลับมาก็ทำงานต่อ ต่างคนต่างทำงานกันหนักมากเลย เมื่อไหร่เดี๋ยวจะได้บอก

ไม่ได้ซีเรียสเรื่องระยะเวลาแต่ถือว่าเราก็ได้คุยกับที่บ้านทั้งคุณพ่อคุณแม่เขาแล้วก็ทุกคนไม่ได้เร่งรัดหรืออะไรเลยเข้าใจแล้วก็ให้เราทั้ง 2 คนเป็นคนตัดสินใจเพราะมันเป็นอนาคตของเราสองคนไม่ใช่ปีนี้แน่ๆ ฤกษ์เดี๋ยวเราต้องดูอีกที ว่าจะเป็นปีไหนก่อน แล้วค่อยมาหาฤกษ์วันกันอีกทีนึงยังไม่รู้เลยว่าจะจัดอะไรที่ไหน จะจัดแบบไหนด้วย ตอนนี้ผมโฟกัสลูกพี่ผม พี่หมาก”

หลังจากขอแต่งงาน หมั้นกันแล้ว ความรู้สึกแตกต่างไปจากเมื่อก่อนที่เป็นแฟนกัน
“เปลี่ยนครับ ผมรู้สึกว่าเราผูกมัดกันมากขึ้นครับ เรารู้สึกว่าเราคิดถึงเขามากขึ้นแล้วก็เรารู้สึกว่าไม่อยากห่างกันอะไรแบบนี้ ยิ่งตอนกลับมาแรกๆ โอ้ยแบบว่า ต่างคนต้องกลับมาทำงานแบบโอ้โห แต่เราก็ เข้าใจความรู้สึกของคนที่หมั้นกันแต่งงานกัน

เรารู้สึกว่าเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้นแล้วต่อไปเราต้องจับมือเดินไปพร้อมพร้อมกัน เวลาจะตัดสินอะไร เวลาจะคิดอะไร คงต้องคุยกันต้องแชร์กันมากขึ้น เพราะว่าแต่ก่อนเป็นเหมือนกับคนละคน แต่พอเราต้องมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้วก็เป็นการเดินไปด้วยกันอันนี้ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่เรารู้สึกว่า เราพร้อมที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน”

ตอบทำไมต้องเป็นคนนี้ที่เป็นคู่ชีวิต
“ ผมว่าเรามีความคล้ายกันเยอะ แล้วก็เรามีช่วงเวลาที่เราให้ตัวเองแล้วก็มีช่วงเวลาที่เราโหยหากัน ถ้าพูดภาษาสวยงามก็เหมือนกับว่าเราถูกสร้างมาให้เราอยู่ด้วยกันได้ คู่กันอะไรแบบนี้

ยังไม่ได้หาเรือนหอเลย
“บ้านที่เพิ่งเสร็จเพิ่งขึ้นบ้านใหม่อันนี้ไม่ใช่เรือนหอ แต่ว่าเป็นบ้านที่ผมสร้างอยู่ เป็นบ้านของผมอยู่เองแล้วก็เป็นบ้านที่ให้คุณพ่อคุณแม่ แล้วก็ญาติมาจากขอนแก่นอยู่ เพราะว่าบ้านเก่าก็คือเป็นบ้านที่เล็กมากเมื่อเทียบกับอะไรหลายๆ อย่างเรื่องของใช้ที่เยอะขึ้นประมาณนี้ครับ ส่วนเรือนหอ ยังไม่ได้ดูเป็นจริงเป็นจังว่าจะเลือกโลเคชั่นไหนจะอยู่ที่ไหน ก็เอาสะดวกตอนนี้ก่อน”

มีความสุขได้เรียกพ่อตาเต็มปาก หลังไปร่วมทริปตกปลากับพ่อ “ญาญ่า” สองคนที่นอร์เวย์
“จริงๆ ก็เป็นโอกาสที่ดีที่ได้มีโอกาสไปอยู่กับเขาเพราะว่าปกติเวลาไปนอร์เวย์เวลาเจอคุณพ่อก็จะอยู่กันแบบครอบครัว ปกติก็จะอยู่กับคุณแม่อะไรไป แต่พอเราได้ไปอยู่กับผู้ชายที่อยู่ด้วยกันสองคน กินข้าวเช้าด้วยกันออกไปไหนมาไหนด้วยกันมีเวลาที่ผู้ชายสองคนได้คุยคนหนึ่งเป็นพ่อคนหนึ่งเป็นคนที่กำลังจะเข้ามาอยู่ในครอบครัวของเขา ผมว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่เรามีอะไรจะได้คุยกันเปิดใจกัน แม้กระทั่งการที่เขาได้สอนเราในหลายๆ อย่าง ทั้งใช้ชีวิตคู่อะไร มันก็เป็นโมเมนต์ที่ดีมากๆผมรู้สึกว่าผมมีความสุขมากที่ได้มีโอกาสออกทริปกับเขา คือเรียกว่าก็ได้คุยกันเปิดอกเลยครับ

คือเราไม่ได้รับฝากอะไรกัน ไม่ได้มีการมอบหมายว่าต้องทำอะไรๆ แค่เราเหมือนคุยกันสัพเพเหระ มองตากันเราก็รู้สึกแล้วว่าความหมายของเขา เขาต้องการอะไรอะไรแบบนี้ (โดนแซวเรียกว่าพ่อตาเต็มปาก?) ผมก็รู้สึกมีความสุขนะ กับการเรียกว่าพ่อตา”















กำลังโหลดความคิดเห็น