“ส้มเช้ง สามช่า” ตอกคนด่าติดศัลยกรรม บอกเงินกู หน้ากู ทำงานหนักมาทั้งชีวิต อยากให้รางวัลตัวเอง ตื่นมาสวยแล้วมีกำลังใจ หมอเกาหลีเสกหน้าให้ จ่ายไป 1.3 ล้าน เล่าไม่ถูกโฉลกกับหมอไทย 10 อย่าง พลาด 10 ครั้ง เคยแก้นมไป 4 รอบ ตอนนี้หยุดศัลยกรรมแล้ว เพราะไม่เหลืออะไรให้ทำอีก มีแค่ฉีดโบท็อก ฉีดฟีลเลอร์
เรียกว่าสวยวันคืน สำหรับตลกดัง “ส้มเช้ง สามช่า” หรือ บุญญาวัลย์ พงษ์สุวรรณที่ไม่ว่าเจอกันเมื่อไหร่ ก็เหมือนเป็นดาราหน้าใหม่ตลอด แถมยังดูสดชื่นและมั่นใจสุดๆ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับ ว่าเคล็ดลับความสวยคือการทำศัลยกรรม จนบางครั้งก็โดนแซะ หาว่าทำจนเสพติดไปแล้ว ล่าสุดวันนี้ (26 มิ.ย.) ได้เจอเจ้าตัวในงานบวงสรวง ละครเรื่อง มือปราบมหาอุตม์ ก็เลยขอแอบแซวสักหน่อย เพราะรอบนี้ก็ดูหน้าเด็กลงอีกแล้ว
“บ้านเราอากาศแปรเปลี่ยนร้อนมากร้อนน้อย หน้าเราเป็นแบบนี้ พอไปเกาหลีปุ๊บกระทบความเย็น มันก็เลยเป็นไปได้ที่จะแปรรูป หน้าเหมือนดินน้ำมัน (หัวเราะ) แล้วที่ทำเนี่ยจะบอกว่าเราไม่ได้ติดศัลยกรรม แต่เราติดใจ (หัวเราะ) จริงๆ เรามีปัญหา แก้มเราแตกตั้งแต่ 3 ขวบ พอเราอายุมากขึ้น มันก็เริ่มตกลงมาตลอด มันทำให้ปากตกลงมาก คนที่ไม่รู้ก็จะบอกว่าศัลยกรรมแล้วปากเบี้ยว เปล่ากูตกเก้าอี้ตั้งแต่ 3 ขวบ ทีนี้พออายุมันได้ พอ 50-60 มันก็เริ่มหย่อนคล้อย เราจะสู้แรงโน้มถ่วงได้ยังไง เราก็ต้องเอามีดหมอมาช่วย”
ยอมรับว่าทำ ไม่เคยโกหก บอกเงินกู หน้ากู อยากให้รางวัลตัวเอง
“ยอมรับ เราว่ามันโกหกไม่ได้ ไม่สตอดีว่าเนอะ (หัวเราะ) จริงๆ ถ้าพูดกันแบบบ้านๆ นะ เงินกู หน้ากู กูทำงานเหนื่อยมาทั้งชีวิต กูตื่นมาก็อยากมองหน้าสวยๆ มันเป็นกำลังใจให้ตัวเรา ให้รางวัลกับตัวเอง ทำงานมากี่ 30-40 ปีแล้ว เอางี้ดีกว่าถ้าคลอดออกมาแล้วทำงานได้ ก็คงทำงานมาตั้งแต่เกิดแล้ว เพราะเป็นคนชอบทำงาน”
ไม่มีคนแซะแล้ว มีแต่คนชมว่าดูสดชื่นขึ้น
“ไม่มีๆ ส่วนมากเจอคนชม ดูแล้วสดชื่น ถ้าในวัยเดียวกันอาจจะมีอารมณ์แบบ มึงอย่ามาใกล้กู มึงจะเด้ง จะใสไปไหนอารมณ์แบบนี้”
ตอนนี้พอใจแล้ว แต่หมอบอกยังพอใจได้อีก
“จริงๆ ระยะเวลาของมันก็มีค่ะ แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นมันอยู่ที่ความพอใจ เราพอใจมาตั้งแต่ที่เราไปทำที่เกาหลี แต่ความพอใจของเรา คุณหมอว่ายังพอใจได้มากกว่านี้ เพราะเรามีนวัตกรรมตัวใหม่ (หัวเราะ)”
บอกไม่ถูกโฉลกกับหมอไทยเท่าไหร่ ทำ 10 อย่าง พลาด 10 อย่าง เคยทำนมแล้วต้องแก้ 4 แล้ว
“คือถ้าพูดแบบไม่โลกสวยนะ เราอาจจะทำศัลยกรรมที่ประเทศไทยแล้วไม่ถูกโฉลก ทำ 10 อย่างต้องใช้คำว่าพลาดทั้ง 10 อย่าง อันนี้คือเรื่องจริง ตอนนี้เล่าแล้วจะฮามาก แต่ตอนนั้นไม่ฮาเลยตอนนั้นทำนม บอกหมอคะอยากทำหน้าอก อยากได้เล็กๆ เพราะเราโครงสร้างใหญ่ เขาบอกว่าคุณส้มทำเล็กไม่ได้ ต้องทำใหญ่ เราก็บอกว่าอยากได้เล็กๆ สรุปแล้วหมอก็ทำให้ใหญ่ ขัดใจหนึ่งแล้ว แต่ขัดใจสองคือบอกไม่ต้องนวดเลย แต่ไปมาๆ นมแข็งค่ะ จับนมเหมือนจับหัวเข่า เป็นข้างขวาแล้วไปหาหมอ หมอบอกไม่เป็นไรขึ้นเตียงเลย แล้วเขาก็จับๆ ใช้มือกระแทกนมเรา แล้วนมมากระแทกคางแตก แล้วก็ดาวเต็มท้องฟ้ารู้เลยว่าเลือดซ่านอยู่ในตัว แล้วหมอแบรนด์ดังด้วย เสร็จแล้วไม่พอฉีดยาชา แต่ไม่ชาหรอกเจ็บ แล้วก็สายยาวเจาะดูดเลือด นอนอยู่ประมาณ 3 ชั่วโมง
หลังจากนั้นข้างนี้ดีขึ้น แต่ข้างนี้มาอีกแล้ว คราวนี้ไม่แข็งเปล่า ดันขึ้นๆ เดินมาพี่เท่งถามนึกว่าอุ้มเด็กมา (หัวเราะ) มันไม่เท่ากัน ก็ไปหาหมออีก บอกเอาออกค่ะ แต่เขาบอกไม่ได้มันไม่สวย มันต้องมีเวลาพักฟื้น คุณจะทำงานไม่ได้ เอางี้แล้วกันเดี๋ยวหมอทำให้ เราก็บอกไม่นะคะ มึงจะมาต่อยหน้ากูด้วยนมไม่ได้ (หัวเราะ) สรุปก็วางยาสลบแล้วก็ทำ เขาบอกว่าที่มันดันขึ้นมา เพราะซิลิโคนมันดันขึ้นฉะนั้นเขาจะเซาะด้านล่าง แล้วก็ขยับนมลงมา หมอพูดทุกอย่างเรื่องเล็กหมด 3 เดือนผ่านไป ที่เขาบอกว่าเซาะให้มันต่ำลง สรุปแล้วนมตกลงไปเลย สูงข้างต่ำข้าง เจอมาหมดแล้ว”
ดีที่ทำฟรี ไม่เสียเงิน แค่ให้ใช้รูปโปรโมต
“มีพี่ผู้ใหญ่เขาแนะนำไป แล้วเขาก็ขอภาพเรา สมัยก่อนเป็น 10 ปีแล้ว ก็ขอภาพว่าคุณส้มมาทำที่นี่นะ เราไม่ได้เสียตังค์ คุณหมอเขาก็น่ารัก เราเห็นเจตนาว่าดีหมดเลย แต่นั้นแหละ ถึงบอกว่าเราไม่ถูกโฉลก แค่นมเนี่ยแก้ 4 รอบ”
ที่กล้ากลับไปทำอีกครั้ง เพราะมันไม่ทำไม่ได้แล้ว
“มันไม่ทำไม่ได้แล้ว เพราะมีลูก 2 คนแล้ว พอเอาซิลิโคนออกหัวนมมันเขี่ยสะดือ มันก็ต้องตัด ต้องเปลี่ยน ต้องกระชับ ก็ต้องรอทุกอย่างเซ็ตเข้าที่ แล้วก็หาหมอดีๆ เก่งๆ ที่ไทยไม่ใช่หมอเก่งๆ ไม่มีนะ ตอนนั้นเราอาจจะไม่ไปเจอหมอเก่งๆ ล่าสุดเราก็ได้หมอดีที่ไทย ก็ทำที่ไทย แก้แล้ว สวยงามแล้ว ตอนนี้ถ้ามีผัวก็นมชี้หน้าผัวแล้ว”
การทำศัลยกรรมนอกจากมีเงินแล้ว ต้องมีโชคด้วย
“ถูก อันนี้สำคัญ เดินเข้ามา 2 คน หมอเดียวกันทำทุกอย่างเหมือนกัน แต่อีกคนออกมาแล้วไม่สวย แต่อีกคนเหมือนนางฟ้าเดินได้”
ไปบ่อยๆ จนเสาะหาเจอ ว่าหมอคนนี้ โรงพยาบาลนี้เก่งแบบไหน
“เราก็เหมือนเสาะหาจนเจอ ถ้าย้อนไปคือเวิร์คพอยท์ทำรายการ ก็มีโอกาสไปกับผู้บริหาร เลยได้โรงพยาบาลนี้มา พอเราไปบ่อยๆ เราก็โตขึ้น ก็หาหลายๆ โรงพยาบาล จะรู้ว่าหมอคนนี้ โรงพยาบาลนี้เก่งอะไร ชอบจมูกทรงนี้ แต่ไปหาหมอที่ทำอีกทรง คุณไม่มีทางได้ ฉะนั้นเราจะบอกลูกค้าว่าถ้าต้องการแบบนี้ต้องไปโรงพยาบาลนี้และหมอคนนี้เท่านั้น เดี๋ยวจองคิวให้”
ไม่อยากบูลลี่หรือบลัฟ เคสคลินิกไทยทำศัลยกรรมแล้วเสียชีวิต แต่ก่อนทำต้องดูหลายอย่าง อย่าเชื่อรีวิวอย่างเดียว
“ใช่ เราไม่อยากบูลลี่และไม่อยากบลัฟ เพราะเรามาทำเป็นเอเจนซี่อย่างนี้ด้วย แต่การทำศัลยกรรมหนึ่งโชค สองถ้าคนมูเขาจะดูแม้กระทั่งเวลาที่หมอจะลงปลายมีด สามที่สำคัญที่สุดอย่าดูที่รีวิว ถ้าเขาบอกว่าคนนี้สวย ขอนัดเจอคนนั้น คุยมากกว่าหนึ่งคน คุยกับหมอ ดูเอกสารหมอว่าเป็นหมอประจำจริงไหม ย้อนกลับไปดูรีวิวว่าคนที่เขาทำเป็นยังไง เสาะหาให้ได้เพราะเงินกว่าจะหามาได้มันยากเย็น แล้วต้องมาเจ็บตัว มาเสียตังค์ บางคนถึงกับเสียชีวิต”
เหตุการณ์นี้ไม่กระทบกับธุรกิจ เพราะกว่าจะดีลที่โรงพยาบาลนี้ ใช้เวลามา 8 ปี
“ไม่กระทบ โรงพยาบาลเกาหลีที่เราดีลมา ใช้เวลา 8 ปีนะ ต้องบอกว่าประสบการณ์ของหมอเกาหลี เราปลื้มใจหลายอย่างเลย มีเคสหนึ่งทำจมูก 650,000 บาท เป็นเคสที่แพงที่สุด แต่ทำที่เมืองไทยมาแล้ว 8 ครั้ง และเป็นหมอแบรนด์ดังๆ ในไทยด้วย ปกติทำจมูกไม่เกินชั่วโมงครึ่ง แต่ลูกค้าคนนี้ทำ 6 ชั่วโมง แต่ออกมาคือสวยเลย มันคือเคสแก้”
ส่วนตัวตอนนี้หยุดทำศัลยกรรมแล้ว มีแค่ฉีดผิด เลเซอร์ปกติ ที่บอดว่าทำแล้วเสพคิดคือไม่มีจริง
“เราจบแล้วค่ะตอนนี้ ถ้าหมอจบ (หัวเราะ) ที่เขาบอกว่าทำแล้วหยุดไม่ได้ คือไม่จริง ทำก็เสียตังค์ เสียเวลาด้วย ตอนนี้ในวัยนี้อาจจะเป็นฉีดผิว เลเซอร์ แต่ถ้าศัลยกรรมมันไม่มีตรงไหนให้ทำแล้ว”
การจะหยุดศัลยกรรม ต้องหยุดที่ตัวเอง
“ใช่ เราว่าต้องแบบเป็นนั้น แต่ถ้าผิวทำตลอดได้ ไม่มีใครไม่ทำหรอก โบท็อก ฟีลเลอร์ มันเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่ศัลยกรรม”
ศัลยกรรมที่แพงที่สุดคือหน้า รวมทุกอย่างแล้วอยู่ที่ 1.3 ล้านบาท
“บนหน้าเราเนี่ย รวมกันเบ็ดเสร็จเลยอยู่ที่ 1.3 ล้านบาท ดึงหน้า 3 แสน จมูก 2.8 แสน ฉีดไขมันแสนกว่า หลายอย่าง แต่ที่เกาหลีหมดเลย หน้านี้เกาหลีให้มา เวลาลูกค้าดีลมาเราจะถามเลยว่าต้องการเป็นธิดาชาวบ้านไหม จะอยู่ที่ 5 แสน แต่ถ้ามิสแกรนด์ก็ 8 แสนขึ้น ถ้าเป็นยูนิเวิร์สก็ล้านอัปค่ะ อาจจะ 2-3 ล้านแล้วแต่”
ทุกวันนี้ส่องกระจกแล้วภูมิใจ ใครก็บอกว่าหน้าเด็กสดชื่น แต่ไม่มีเด็กมาจีบเพราะไม่ชอบ
“หนึ่งเราส่องกระจกภูมิใจกับตัวเอง สองคนในครอบครัว บอกว่าดูเด็กมาก สดชื่นมาก (หน้าเด็กแล้วเด็กมาจีบไหม?) ไม่ค่ะ ไม่ ไม่ปฏิเสธ (หัวเราะ) ไม่หรอก ไม่ชอบ เดี๋ยวนี้เข้าวัดอย่างเดียว สโลแกนเราคือกลางคืนกินเหล้า ตอนเช้าเข้าวัดค่ะ”
