xs
xsm
sm
md
lg

ยังงี้ก็ได้เหรอ !!?? “หนุ่ม (ใน) กะลา” ลอยตัวเหนือดรามาแบบแมนๆ ชิงตัดจบโลกใบที่สอง - ปล่อยให้ผู้หญิงฟ้องกันเอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



..... อยากเกิดเป็นคนหลายใจ รักใครทีละหลายคน                                                                                                           ไม่ต้องมาทุกข์ทน เสียคนแทบเป็นแทบตาย                                                                                                                 เกิดเป็นคนใจเดียว แล้วมันไม่มีความหมาย                                                                                                                 อยากเป็นคนหลายใจเหมือนเธอ.....

เนื้อเพลงท่อนหนึ่งจากเพลง “อยากเกิดเป็นคนหลายใจ” จากวง “กะลา” น่าจะเป็นเพลงที่เข้ากับข่าวเด่นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงกันสนั่นโลกโซเชียลตลอดสัปดาห์เต็มๆ ที่ผ่านมา

นั่นก็คือประเด็น “โลกใบที่สอง” ของ “หนุ่ม กะลา” หรือ “ณพสิน แสงสุวรรณ” ที่ทำให้สถานะทางครอบครัวกำลังมีปัญหา ถึงขนาดภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย “จูน - เพ็ญชุลี หนูแก้ว” เตรียมทำเรื่องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้หญิงที่ “ตกเป็นข่าว” เป็นจำนวน 10 ล้านบาท

คดียังไม่จบง่ายๆ แน่ แม้ว่าฝั่งของ หนุ่ม กะลา จะออกมาประกาศชัดเจนแล้วว่า พร้อมจะตัดความสัมพันธ์กับฝั่งทีมาทีหลัง


เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นสุภาพบุรุษที่สุดในโลกของนักร้องซอฟท์ร็อกคนนี้ได้อย่างชัดเจน

คือสร้างโลกใบที่สองมาได้ตั้ง 2-3 ปี ถึงขนาดพากันไปไหนมาไหนพร้อมหน้าครอบครัวได้อย่างไม่สะทกสะท้าน ไม่เกรงคำครหาใดๆ และไม่ให้เกียรติภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายเลยด้วยซ้ำ


แต่พอเรื่องมันกลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ ก็ออกมาประกาศตัดขาดอีกฝ่ายเอาดื้อๆ ปล่อยให้ผู้หญิงสองคน ฟาดฟันกันเอง ฟ้องร้องกันเอง

คนหนึ่งถือใบทะเบียนสมรส และมีสถานะเป็นแม่ของลูก
ส่วนอีกคนมาทีหลัง แต่อาจจะจ่ายหนัก และอยากได้รับการยอมรับ อยากมีตัวตน อยากแสดงตัวว่าเป็นที่หนึ่ง

สุดท้ายผู้ชายก็ลอยตัวเหนือดรามาทั้งหลายทั้งปวงตามเคย !!!???


ฝั่งภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย อาจจะไม่เจ็บปวดเท่านี้ หากไม่ใช่เพราะว่าครอบครัวของฝ่ายชายก็รู้เห็นเป็นใจ และรับรู้เรื่องโลกใบที่สองนี้มาตลอด

แถมยังมีการออกมาโพสต์แซะสะใภ้ของบ้านในทำนองว่า


.... ทนมานานแล้ว ออกไปสักทีเถอะ

คือเข้าใจแหละว่าอยากจะซัพพอร์ตคนในคอบครัว ต่อให้ฝั่งของ จูน ทำหน้าที่เมีย และสะใภ้ของครอบครัวได้ขาดตกบกพร่องขนาดไหน ? แต่นั่นก็ไม่ใช่วิถีของผู้นำครอบครัวที่ดีจะใช้เป็นเหตุผลในการมีโลกอีกใบ

เช่นเดียวกับบรรดาเพื่อนพ้องฝั่งของ หนุ่ม กะลา ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงสนับสนุนข้างผู้ชายแบบเต็มที่ โดยอ้างว่า


.....ถ้าเกิดเมียให้อาหารกับผัวเต็มที่ ผัวคงไม่ออกไปกินอาหารนอกบ้าน


เท่ากับว่าทำบาปด้วยการนอกใจภรรยาไม่พอ ยังจะโยนความผิดให้ฝ่ายหญิงไปอีก


หรือต่อให้เป็นความบกพร่องของฝ่ายหญิง ที่ทำให้กินไม่อิ่มจริงๆ บางทีมันก็ต้องมีการปรับจูน และทำความเข้าใจกันได้ เพื่อหาจุดที่ลงตัวด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะนำมาเป็นข้ออ้างในการนอกใจอยู่ดี

ในส่วนของผู้หญิงอีกคน ซึ่งก็รู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าเขามีภรรยาที่จดทะเบียนกันอย่างถูกต้อง แถมยังมีลูกด้วยกันอีกต่างหาก แค่การพาตัวเองเข้าไปก้าวล่วงในชีวิตคู่ของเขาก็ไม่สมควรแล้ว โดยเฉพาะมีข่าวบางกระแสบอกว่า ฝ่ายหญิงเอง ก็มีสามีและลูกอยู่แล้วด้วย

เรื่องนี้ไม่ต้องมองว่าใครเริ่มก่อน !!??

เพราะเริ่มก่อน เริ่มหลังไม่สำคัญ ตราบเท่าที่ถ้าอีกฝ่ายยึดมั่นที่จะไม่ทำผิด ไม่ยอมสานสัมพันธ์ต่อ ฝ่ายที่เริ่มก่อนก็คงทำอะไรต่อไม่ได้

ถึงบอกไงว่า สุดท้ายผู้ชายจะมาลอยตัวหน้าตาเฉยก็ไม่ถูก เพราะถือว่าเป็นความผิดร่วมกัน ไม่ใช่จะมาโยนระเบิดให้ผู้หญิงถูกฟ้องอยู่ฝ่ายเดียว

จากตอนแรกที่พยายามปิดบังใบหน้าค่าตาของฝ่ายหญิงที่เป็นโลกใบที่สอง แต่หนักๆ เข้า ก็มีการขุดคุ้ยประวัติและโปรไฟล์กันอย่างเอิกเกริก นัยว่าฐานะการเงินนั้น อยู่ในระดับที่เรียกว่าเศรษฐีเลยทีเดียว หน้าตาเป็นบวก ฐานะเป็นบวก แต่ติดตรงทัศนคติในการใช้ชีวิตเป็นลบ


แต่ไม่อยากจะปักธงว่าเป็นการเปย์เพื่อรั้งผู้ชายไว้ให้อยู่กับตัว เพราะตัว หนุ่ม กะลา เอง ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมาหลายปีดีดัก มีทั้งงานเพลง งานโชว์ตัวอยู่ไม่ได้ขาด (แต่หลังจากนี้ ก็ไม่แน่ใจว่าจะยังคงมีงานจ้างใดๆ ให้ไปแสดงอีกหรือไม่ ? อย่างไร ?) สถานะทางการเงินก็ไม่น่าจะยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

และนอกจากบทบาทของการเป็นศิลปินแล้ว เขาก็ยังมีชื่อปรากฏอยู่ในฐานะหนึ่งในกรรมการของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทองบริบูรณ์365 ซึ่งประกอบกิจการให้บริการติดต่อประสานงานนักร้อง นักแสดง นายแบบดำเนินกิจการมาแล้วรวม 8 ปี 6 เดือน โดยมีทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 1 ล้านบาท โดยลงหุ้นเป็นเงินสด 5 แสนบาท ส่วน จูน ภรรยา ลงทุนเป็นเงินสด 4.8 แสนบาทและยังมีหุ้นส่วนอีก2 คน ที่ลงหุ้นเป็นเงินสดคนละ1 หมื่นบาท

และเมื่อไล่เรียงผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปี ก็พบว่า...

ปี 2561 กำไรสุทธิ 2,183,468 บาท 
ปี 2562 กำไรสุทธิ 2,606,951 บาท 
ปี 2563 กำไรสุทธิ 1,228,375 บาท 
ปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 1,637,784 บาท 
ปี 2565 กำไรสุทธิ 2,014,269 บาท

เพราะฉะนั้นเรื่องเงิน - อาจจะ - ไม่ใช่ปัจจัยหลักในการสร้างโลกใบใหม่มาซ้อนทับโลกใบเก่า

แต่จะเป็นด้วยสาเหตุอันใดนั้น เจ้าตัวน่าจะรู้คำตอบดีที่สุด !!!???

ผู้จัดการ 360 องศาสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 24 มิถุนายน – 1 กรกฏาคม 2566



กำลังโหลดความคิดเห็น