“หลัวเจิ้ง” เปิดใจถึงซีรีส์เรื่องใหม่ เป็นบทที่ท้าทายมาก เพราะต้นเรื่องและท้ายเรื่องแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง รับประกันว่ามีครบทุกรสชาติแน่นอน เผยถ้ามีโอกาสก็อยากที่จะมาเที่ยวเมืองไทย อยากมาพบแฟนๆ ชาวไทย พร้อมทั้งลิสต์ทุเรียนเอาไว้ในแคตตาล็อก มาเมืองไทยไม่พลาดแน่
ช่วงนี้เชื่อว่านอกจากซีรีส์ฝั่งเกาหลีที่ครองใจคนไทยได้อย่างเหนียวแน่นแล้ว ซีรีส์ทางฝั่งประเทศจีนก็มาแรงมากไม่แพ้กัน ถึงขนาดซูเปอร์สตาร์สาวอย่าง “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ยังออกมาบอกว่ากลับออกจากกำแพงเมืองจีนไม่ได้เลยทีเดียว เพราะหลงเสน่ห์พระเอกจีนไปเรียบร้อย แต่วันนี้พระเอกหนุ่มฮอตอีกคนอย่าง “หลัวเจิ้ง” (Luo Zheng)ได้ให้เกียรติสัมภาษณ์ข้ามประเทศกับทางทีมข่าวบันเทิง Manager online เพื่อโปรโมตซีรีส์เรื่องใหม่อย่าง จังหวะหัวใจกลายเป็นเธอ (Skip a Beat) ที่กำลังออกอากาศอยู่ทางช่อง IQIYI อยู่ในขณะนี้
กระแสซีรีส์ จังหวะหัวใจกลายเป็นเธอ (Skip a Beat) กำลังมาแรงในประเทศไทย คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?
“ดีใจมากๆ เลยครับที่ได้เห็นกระแสที่ดีขนาดนี้ในประเทศไทย ผมก็จะตั้งใจถ่ายซีรีส์เรื่องต่อๆ ไปอีก หวังว่าทุกคนจะสนับสนุนผมเยอะๆ นะครับ
เป็นการพลิกบทบาทที่ค่อนข้างเยอะเลยครับ เพราะซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างมีความแตกต่างของตัวละครในต้นเรื่องกับท้ายเรื่องค่อนข้างเยอะ ในคาแรกเตอร์ผมจะเป็นคนที่แสดงอารมณ์ไม่ค่อยเก่ง ดูเป็นคนเย็นชา แต่ท้ายๆ เรื่องพอเริ่มคลั่งรักก็จะกลายเป็นคนที่อ่อนโยน น่ารัก ก็เป็นการพลิกบทบาทครั้งใหญ่เลยครับ ฝากติดตามด้วยนะครับ”
สาเหตุที่มารับบท “กู้อี้”
“น่าจะเป็นเพราะตัวละครกู้อี้เป็นตัวละครที่ต้นเรื่องกับท้ายเรื่องมีความแตกต่างกันมาก ก็เลยคิดว่าเป็นชาเลนจ์ใหม่ๆ ที่ผมไม่เคยลอง ก็เลยอยากจะลองท้าทายตัวเองบ้างครับ”
ทำการบ้านหนัก
“ก็ต้องท่องบทให้ได้ทั้งหมดก่อนครับ ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวละครตัวนี้ และไปพูดคุยกับผู้กำกับและนักแสดงท่านอื่นๆ เพื่อจะได้เรียนรู้ในตัวละครให้มากขึ้นครับ”
ฉากที่ท้าทายหรือยากมากที่สุด
“ถ้ายากคงจะเป็นพวกฉากแอ็กชั่นครับ ถ่ายกันทั้งวันเลย ตั้งแต่เช้ายันเย็น พอถ่ายเสร็จก็เจ็บไปทั้งตัวเลยครับ (ยิ้ม) ก็เลยเป็นฉากที่ค่อนข้างจำแม่น และถ่ายทำยากด้วยครับ”
ฉากที่รู้สึกอินและประทับใจ
“ฉากที่ประทับใจที่สุดคงจะเป็นฉากที่ต้องสูญเสียลูกครับ ตอนที่อ่านบทผมยังรู้สึกว่าทำไมกู้อี้ถึงน่าสงสารได้ขนาดนี้ ก็ได้ไปพูดคุยกับผู้กำกับด้วยครับ ผู้กำกับก็ได้เล่าให้ฟังถึงเบื้องลึกเบื้องหลัง และความรู้สึกที่ควรจะมีของตัวละครในฉากนี้ และคนที่เล่นเป็นคุณแม่ของผมในเรื่องก็มาช่วยต่อบทให้ผมด้วย ตอนถ่ายก็เลยรู้สึกอินไปกับฉากนี้มากๆ ครับ”
ส่วนที่เหมือนหรือแตกต่างจาก “กู้อี้”
“จริงๆ แล้วบทกู้อี้กับตัวผมค่อนข้างแตกต่างกันมากเลยครับ ไม่ค่อยมีจุดที่เหมือนกันเลย แต่ถ้าจุดที่เหมือนกันก็คงเป็นที่ตัวผมและกู้อี้เป็นคนที่แสดงความรู้สึกไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ครับ”
หากในชีวิตจริงจะต้องมีความรักลับๆ แบบในซีรีส์
“ผมจะไม่ทำแบบกู้อี้แน่นอนครับ เพราะผมคิดว่าถ้าเป็นเรื่องความรัก มีอะไรก็ควรจะพูดคุยกัน และผมก็ค่อนข้างจะระมัดระวังในเรื่องของความรักด้วยครับ”
ร่วมงานกับนางเอกสาว “เหอรุ่ยเสียน” ครั้งแรก
“เป็นการร่วมงานกันครั้งแรกเลยครับ แต่เป็นการทำงานที่ง่ายมาก เพราะเรามาจากเมืองเดียวกันครับ ก็เลยรู้สึกว่าพอได้มาทำงานด้วยกันแล้วก็มีความสุข มีสั่งอาหารมากินด้วยกัน ต่อบทด้วยกัน
สิ่งที่แฟนๆ จะได้เห็นบทบาทที่แตกต่างไปจากซีรีส์เรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมาของผม ก็จะเป็นเรื่องที่ต้นเรื่องกับท้ายเรื่องมันมีความแตกต่างกันมาก ต้นเรื่องจะเย็นชา ท้ายเรื่องจะน่ารักอ่อนโยน ก็อยากให้แฟนๆ ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้กันครับ”
ซีรีส์แนวที่ยังไม่เคยเล่น และอยากเล่น
“ผมอยากจะลองเล่นเป็นตัวร้ายที่มีปม มีเรื่องราว คือดูเป็นคนธรรมดา แต่มีเรื่องราวในชีวิตเยอะๆ ครับ
ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่มีความครบรสในเรื่องของอารมณ์มากๆ เลยครับ มีหวาน มีขม มีทุกอารมณ์เลยครับ สิ่งที่คุณคิดอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณจะได้เห็นในซีรีส์เรื่องนี้ก็ได้นะครับ”
อยากมาเที่ยวประเทศไทย
“ถ้ามีโอกาสก็อยากจะมาประเทศไทย และมาเจอแฟนๆ ทุกคนครับ
สวัสดีครับ ผมชื่อ หลัวเจิ้ง นะครับ ตอนนี้ซีรีส์ของผมที่กำลังออนแอร์อยู่ก็คือเรื่อง Skip a Beat นะครับ หวังว่าทุกคนจะชอบซีรีส์เรื่องนี้ และสนับสนุนผมนะครับ ถ้ามีโอกาสก็อยากที่จะมาประเทศไทย เพื่อที่จะได้เจอทุกคน และผมก็จดผลไม้ที่ขึ้นชื่อของไทยอย่างทุเรียนเอาไว้ในแคตตาล็อกเรียบร้อยแล้ว ถ้าได้มาที่ไทย ผมไม่พลาดแน่ครับ”
