“อลิศ คริสตัน” เตรียมหวนคืนคอนเสิร์ตเวทีใหญ่ในรอบ 20 ปี พร้อมที่จะกลับมาเล่นละครในรอบกว่า 30 ปี บอกอยากที่จะทำงานในวงการอีกครั้ง แต่ที่ทิ้งหายไปเพราะเป็นรุ่นผลัดเปลี่ยน และตนก็ติสต์จัด เบื่อผู้คน เบื่อสังคม พอไปอยู่ต่างจังหวัด ได้ช่วยหมาแมว ใช้ชีวิตสโลไลฟ์ก็มีความสุขดี พร้อมเผยอยากจะเปิดร้านสักคิ้ว ต่อขนตา ตอนนี้กำลังเรียนและศึกษาอยู่
เชื่อว่าแฟนๆ ในยุค 90 คงจะรู้จักชื่อของอดีตนักแสดง-นางแบบ-นักร้องสาวเท่ “อลิศ คริสตัน” เป็นอย่างดี เพราะเรียกว่าเป็นอึกหนึ่งคนที่โด่งดังมากในยุคนั้น ก่อนทึ่จะตัดสินใจออกจากวงการไปหลายสิบปี ล่าสุดเจ้าตัวได้เตรียมกลับมาขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงกันแล้ว กับคอนเสิร์ต THE TIME MACHINE CONCERT ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1-2 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นการรวมตัวของศิลปินยุค 90 ที่หลายๆ คนคิดถึง ซึ่ง อลิศ ได้เผยว่า ตื่นเต้นมากที่ได้กลับมาขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่อีกครั้งในรอบ 20 ปีเต็มเลยทีเดียว
“ครั้งนี้เป็นการกลับมาอย่างจริงจัง ได้ร้องเพลงของเราเอง ก็ถือว่า 20 ปีได้ โคตรตื่นเต้นเลย (ยิ้ม) และเราได้มาร่วมกับศิลปินที่เราไม่เคยทำงานด้วย แต่เป็นศิลปินที่เราก็รู้จักกันอยู่แล้วแหละ แต่เราไม่เคยทำงานด้วยกัน และเราก็ชอบงานของเขา เราก็ร้องเพลงเขาได้ แต่ยังไม่เคยได้ร่วมงานด้วยกัน ส่วนละครล่าสุดก่อนที่จะออกไปจากวงการ ก็มีเรื่องนางโชว์ของพี่ไก่ (วรายุฑ มิลินทจินดา) ก็เกือบ 30 ปีแล้วนะ เป็นเรื่องสุดท้ายก่อนจะออกจากวงการไปค่ะ
แต่ที่ออกจากวงการตอนนั้นมันก็ไม่ค่อยมีงานแล้วแหละ เหมือนมันผลัดเปลี่ยนรุ่น และเราเองก็อยากจะใช้ชีวิตชิลๆ ทางบ้านก็ให้ไปดูที่แถวต่างจังหวัด ก็เลยย้ายตัวเองไป ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะอยู่ได้นะ แต่ก็อยู่ได้ แฮปปี้ ชีวิตเปลี่ยนไปมากๆ ค่ะ จากแสงสีกลายไปอยู่แบบธรรมชาติ คนน้อย ไม่คบคนเยอะ (หัวเราะ) ก็ปรับตัวค่ะ แต่เป็นความต้องการของตัวเอง คือเราเบื่อสังคมช่วงนั้น อาจจะสติแตกก็ได้ เบื่อคน เบื่ออะไรหลายๆ อย่าง อยากจะไปปลีกวิเวกอยู่แบบสบายๆ และอยากจะวางรากฐานของตัวเองเวลาที่เราแก่ เราก็จะไปอยู่ที่ต่างจังหวัด”
บอกใช้ชีวิตช่วยหมาแมวจร ได้อยู่สวนอยู่ไร่ มีความสุขมาก
“จากนั้นก็ไปอยู่วงการหมาแมว (หัวเราะ) ช่วยพวกหมาแมวจร เริ่มจากเราก็ใช้รถของเราเองไปรับหมาที่โดนรถชนบ้าง ป่วยบ้าง เราไม่ได้เป็นคนรับเคสเอง เพราะเราไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น แต่เราช่วยเขาทางด้านขนส่ง เพราะรถรับเคสสมัยนั้นไม่ค่อยมี และราคาก็แพง เราก็ไปทำตรงนี้ให้เขา และบริการฟรี ค่าน้ำมันออกเอง แล้วก็ไปส่งที่โรงพยาบาล แต่หลังๆ ก็คือรับหมามาเลี้ยง ก็เลยไปไหนไม่ค่อยได้ และเราเองก็ย้ายไปอยู่ที่ปราจีนบุรีด้วยตั้ง 10 ปีแล้ว ก็ไปอยู่สวน อยู่ไร่
ก็ดูหาซื้อที่ไว้ ก็ได้มา 10 ไร่ ตอนนั้นราคาถูกมาก ก็ยังดีที่คิดได้เร็ว เพราะถ้าเรามาซื้อตอนนี้ไร่ละ 5 แสน แต่ตอนนั้นไร่ละ 1 แสน ก็แฮปปี้ ตอนนั้นเราก็คิดว่าถึงเวลาแล้วแหละ ก็คงต้องเกษียณตัวเองหรือเปล่า เพราะวงการนี้เราไม่สามารถจะเล่นละครหรือร้องเพลงได้จนเราแก่ มันก็ต้องเปลี่ยนยุคเปลี่ยนสมัยไป เราก็ต้องปรับตัวเอง และคิดว่าวัยเกษียณเราอยากใช้ชีวิตแบบนี้ มันก็มีความสุขนะ ใช้ชีวิตเรียบง่าย เราต้องการแบบนี้อยู่แล้ว
แต่จริงๆ ก็ไม่ได้ทำอะไรหรอก ไร่สวนก็ไม่ได้ทำ (หัวเราะ) อย่างมะม่วงเขาก็มีปลูกอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่เราซื้อมา ก็ยังซื้อของกินปกติ ไม่ได้มาปลูกผักอะไรเยอะแยะหรอก ไม่ได้ทำเพื่อประกอบอาชีพ เราก็แค่ไปอยู่แบบสโลว์ไลฟ์แค่นั้นเอง และเราเป็นคนชอบกางเต็นท์ ไปเที่ยวแคมป์ปิ้งกับเพื่อน ใช้ชีวิตแบบนี้มากกว่า”
บอกอยากเปิดร้านสักคิ้ว ต่อขนตา ตอนนี้อยู่ในช่วงกำลังเรียนวิธีการสักคิ้วอยู่
“ตอนนี้ถ้าเป็นอาชีพจริงๆ กำลังมองอยู่ค่ะ เป็นเกี่ยวกับการดูแลตัวเองให้มันดูดี คือกำลังจะไปเรียนสักปากด้วยค่ะ แล้วก็จะเรียนต่อขนตา ก็คงจะมาแนวนี้ค่ะ ที่สนใจคิดว่าวัยรุ่นสมัยนี้ก็คงต้องดูแลตัวเอง และอีกอย่างไม่ว่าทอม ผู้ชาย ผู้หญิงหรืออะไรก็สักปากได้หมด เพราะบางคนสักปากก็เพราะว่าปากดำ เพราะสูบบุหรี่เยอะ เราก็สักให้ดูเป็นสีธรรมชาติ เพราะว่าแนวมันมา และมันก็ง่ายสำหรับเราที่จะทำงานได้โดยเราไม่ไปฟิกซ์ตัวเองมาก ก็คิดว่าจะมาแนวนี้ กำลังเริ่มต้นเรียน และกำลังจะหาที่เปิดร้าน อีกอย่างแฟนเราเขาก็ชอบแนวนี้ด้วย ยังไม่รู้ว่าจะเปิดเมื่อไหร่นะ ตอนนี้ก็ไปเรื่อยๆ ก่อน และจะไปเรียนพวกต่อขนตา สักปากที่เวียดนามด้วย เพราะที่นั่นเขาเก่งมาก ตอนนี้ก็ไปๆ มาๆ กรุงเทพฯ ต่างจังหวัดค่ะ ถ้ามีงานก็เข้ามา อีกอย่างแฟนก็ทำงานที่กรุงเทพฯด้วย”
เผยอยากกลับมารับงานละคร และจะไลฟ์สดร้องเพลงให้แฟนๆ ได้ฟังกันบ่อยขึ้น
“ที่ผ่านมาก็มีได้เล่นเฟซบุ๊ก เล่นติ๊กต๊อกบ้าง ก็เลยได้คุยกับแฟนๆ ที่ยังคงติดตามเราบ้าง ก็ไม่ถึงว่าจะหายกันไปเลย ไม่เจอกันไปเลย ก็ยังได้ติดต่อกันบ้างค่ะ แต่งานในวงการคงต้องดูกันต่อไปค่ะ ถ้ามีละครก็อยากจะเล่นนะ สัก 1-2 เรื่อง หรือได้มาร้องเพลงสักนิดหน่อยก็โอเคแล้ว ก่อนที่เราจะแก่ไปกว่านี้ (หัวเราะ) ที่ผ่านมาเพราะเราก็ไม่ค่อยได้ไปเจอใครด้วย ก็เลยไม่ค่อยได้มีผู้จัดติดต่อมา เหมือนขาดการติดต่อกันไป แต่ตอนนี้พร้อมรับละครนะคะ (ยิ้ม)
ส่วนเพลงก็คงไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากเราจะทำเอง ก็อาจจะมีไปร้องเพลงที่นั่นที่นี่นิดหน่อย แต่ถ้าจะทำเพลงเองก็คงไม่ได้ทำแล้ว จริงๆ ก็ทำโปรแกรมเพลงเองเป็นนะ ทำได้ แต่คิดว่าคงไม่แล้วล่ะ ถ้าทำก็คงทำสนุกๆ ไม่ได้คิดว่าจะทำเพื่อเป็นเงินเป็นทองอะไร ถ้าทำก็สนุกๆ มากกว่า นานๆ ทีก็ไลฟ์สดในติ๊กต๊อกบ้าง นี่ก็ไม่ได้เล่นมา 2 ปีแล้ว แต่เดี๋ยวจะกลับไปเล่นแล้วค่ะ จะไปไลฟ์สดร้องเพลงในนั้น”
