“มารี เบิร์นเนอร์” โสดแบบสวยๆ เพื่อรอคนที่ใช่ บอกครั้งนี้โสดนานสุด แต่เปิดใจตลอด ไม่เข็ดคบคนในวงการ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับจังหวะชีวิต ปัดโสดแล้วสวยขึ้น แค่มีเวลาแต่งตัว
โสดเต็มตัว “มารี เบิร์นเนอร์”ที่ถึงแม้จะกลับมาโสดอีกครั้ง แต่ก็ยังแฮปปี้มาก แถมล่าสุดยังนุ่งบิกินีอวดหุ่นแซบซี้ดให้แฟนๆ ได้อิจฉากันอีก วันนี้ (20 มิ.ย.) ได้เจอตัวในงาน “Kaniva 3rd Birthday Celebration” ก็เลยขออัปเดตถึงชีวิตช่วงนี้สักหน่อย ว่าหัวใจเป็นยังไงบ้าง เพราะดูมีความสุขมาก ผ่านการโพสต์ไอจี
“เรื่องชุดว่ายน้ำก็นานๆ ทีได้ไปทะเล ก็ต้องถ่ายซะหน่อย แล้วนานๆ ทีก็จะได้ไปกับเพื่อนที่เป็นสายทำคอนเทนต์ ก็มีถ่ายรูปบ้าง (คนแซวหุ่นแซบ?) ก็พยายามดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น อายุเยอะขึ้นก็ยิ่งรู้สึกว่าควรจะต้องพยายามมากขึ้นในการดูแลสุขภาพค่ะ”
โชคดีที่มีเพื่อนเยอะ ถึงจะโสดก็มีความสุข
“เอาจริงๆ เป็นคนโชคดีที่รอบตัวเพื่อนเยอะ เราก็เลยจะไม่เคยอยู่ว่าง จะอยู่กับเพื่อนตลอด ไม่กลุ่มนี้ก็กลุ่มนั้น แล้วอยู่ในวัยที่รู้สึกว่ามีโอกาสได้โฟกัสงาน โฟกัสชีวิตตัวเอง ได้หันมาสะท้อนว่าจริงๆ แล้วชีวิตนี้เราอยากจะทำอะไร อยากจะพัฒนาธุรกิจอะไรไหม เพราะฉะนั้นมันก็จะเป็นช่วงเวลาในชีวิต ที่รู้สึกว่าทุกอย่างมันเริ่มจะลงตัวเข้าที่ เหมือนเราผ่านช่วงวัยรุ่นมา พอวัยทำงานก็ได้ลองทำงานหลายๆ แบบ ได้เจอผู้คนหลายๆ กลุ่ม จนกระทั่งวันหนึ่งที่อายุเท่านี้ แล้วเริ่มรู้ว่าจริงๆ ชีวิตจะไปในทางไหนต่อ ทั้งเรื่องส่วนตัว ทั้งเรื่องงาน และกลุ่มเพื่อน เริ่มเห็นชัดว่าใครที่จะอยู่ในชีวิตเราไปยาวๆ”
ปัดโสดแล้วสวยขึ้น แค่มีเวลาว่างแต่งตัว
“ตอนไม่โสดไม่สวยเหรอ ไม่หรอก คิดว่าอาจจะเป็นด้วยความที่มีเวลาว่างแต่งตัวมากขึ้น หรือออกไปเจอผู้คนมากขึ้น ก็เลยอาจจะเห็นหน้าบ่อยขึ้นหรือเปล่า ตามรูป ตามโซเชียล”
ใช้ชีวิตเต็มที่ไม่วิ่งหาความรัก อยู่เฉยๆ เดี๋ยวก็เจอเอง แต่ครั้งนี้โสดนานที่สุดแล้ว
“ใช้ชีวิตเต็มที่ตลอดเป็นปกติ ปล่อยฟรีตลอดอยู่แล้ว ก็ปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามจังหวะเลย คือปกติเป็นคนไม่เคยวิ่งเข้าหา วิ่งไขว่คว้าหา อยู่เฉยๆ เดี๋ยวถ้าเกิดมันจะเจอใครที่ดี ถูกเวลา ถูกสถานที่ ก็ค่อยว่ากันไป แต่ครั้งนี้ก็น่าจะโสดนานสุดแล้ว ก็ดีเหมือนกัน ก็ดีอีกแบบ (ปกติโสดนานเท่าไหร่?) คือส่วนใหญ่มันก็จะแบบ โอเคมีคนเข้ามาคุยบ้าง แต่ครั้งนี้ด้วยความที่เราอยู่บ้านกับสัตว์เลี้ยงค่อนข้างเยอะ อยู่กับเพื่อนกลุ่มเดิมๆ แค่นี้ เลยไม่ได้ออกไปเจอผู้คนเยอะแยะมากมาย เหนื่อย ตอนเด็กๆ เราจะมีพลังออกไปทำความรู้จักกับคนโน่นคนนี้”
เปิดใจตลอด เพราะถ้าเข็ดกับความรักก็น่าเสียดาย
“เปิดรับผู้สมัครเหรอคะ ปกติค่ะ เป็นคนไม่ค่อยปิดใจอยู่แล้ว แต่คือค่อนข้างตามใจตัวเอง ตามฟีลลิ่ง ไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไรเยอะแยะมากมาย (ไม่เข็ดความรัก?) คิดว่าถ้าคนจะเข็ดกับความรัก มันก็น่าเสียดายเนอะ คือมันมีคนบนโลกตั้งเยอะตั้งแยะให้เรารู้จัก ไม่ว่าจะเป็นแบบเพื่อนก็ตาม การได้รู้จักคนใหม่ๆ ไม่ควรจะปิดกั้นตัวเองในทุกๆ แง่เลย”
กับความรักที่ผ่านมา นำมาเป็นบทเรียนเสมอ
“อยู่แล้ว คิดว่าทุกคนก็เป็นอยู่แล้ว (ตอนนี้มีใครเข้าตาหรือยัง?) ก็ยังไม่อะไรขนาดนั้น อยู่อย่างแฮปปี้ดีกว่า อยู่บ้านกับหมาแมว ได้ทำงานอะไรที่เราเคยอยากจะเริ่มต้นทำ ถามว่าเพื่อนๆ ชอบให้โสดหรือว่าเชียร์ให้มีแฟน คือคิดว่าเพื่อนๆ น่าจะรู้ว่ายัดเยียดใครให้ไม่ได้(หัวเราะ) เขาก็จะปล่อยให้เราเป็นเวย์ของเรา เราก็อาจจะเป็นคนธรรมชาติสุด จนเขาเดากันไม่ถูก ว่าจะชอบคนนี้ไหม ก็จะไม่ค่อยมีใครยุ่ง”
ไม่เข็ดคบคนในวงการ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับจังหวะของชีวิต
“ไม่ได้คิดว่าอาชีพ หรือว่าประวัติคน หรือกลุ่มเพื่อนคน มันมีผลกระทบว่าคนๆ นั้นจะเป็นยังไงในชีวิตจริง คิดว่าทุกๆ คนมันสามารถที่จะประทับใจต่อกันและกันได้ หรือสามารถเป็นคนที่ดีต่อกันและกันได้ มันก็ขึ้นอยู่กับจังหวะชีวิตของคนสองคนมาเจอกันมากกว่า ไม่ได้เกี่ยวกับอย่างอื่นค่ะ (รอลุ้นปีนี้จะมีไหม?) ก็รอดูค่ะ (ยิ้ม)”
พอมีโอกาสอยู่กับตัวเอง ก็ได้โฟกัสธุรกิจที่มั่นคงและเหมาะสมกับอายุ
“มีโอกาสได้โฟกัสธุรกิจที่นอกเหนือจากวงการบันเทิงมากขึ้น ซึ่งก็รู้สึกว่ามันเป็นจุดที่เหมาะสมกับเราแล้ว เพราะเราอยู่ตรงนี้มา 10 กว่าปีแล้ว มันถึงจุดที่จะทำอะไรที่มั่นคงในชีวิตและสมกับอายุเรา”