อ่านข่าวว่าวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา จะมีการแสดงคอนเสิร์ต ‘รักใหญ่กว่าโลกทั้งใบ’ ที่ได้วงดนตรีสองวงมาแจมกัน คือ ‘นั่งเล่น’ กับ ‘ไหมไทย’ ผู้เขียนยับยั้งชั่งใจตัวเองไม่ได้ จึงพร่ำบอกกับตัวเองซ้ำๆ ต้องดู ต้องดู
วง ‘นั่งเล่น’ เพิ่งเคยเห็น – เคยฟัง ผ่านทางโลกออนไลน์ ไม่น่าจะถึง 7 ปี แต่แค่ครั้งแรกที่พบเจอก็ติดตามเป็นแฟนคลับมาตั้งแต่บัดนั้น
ส่วนวง’ไหมไทย’ ฟังมานาน ไม่ถึงก็หย่อน 3 ทศวรรษเล็กน้อย
ว่ากันตามจริง ทั้งสองวงคงมีคนรุ่นใหม่รู้จักหรือชื่นชอบน้อยมาก ทว่าหากบีบวงเข้ามาในกลุ่มผู้สูงวัย แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘นักฟังเพลงตัวจริง’ ทั้งไหมไทยและนั่งเล่น เป็น ‘ตัวพ่อ’ ที่ชาวไทยสมควรโค้งคารวะให้ในศาสตร์ดนตรี
กล่าวสำหรับไหมไทย แน่ไม่แน่ก็ถึงขนาดทำให้ ‘คอลูกทุ่ง – เพื่อชีวิต’ อย่างผู้เขียนในช่วงวัยเริ่มทำงาน ติดตามผลงานของวงนี้ อาจเรียกได้ว่าฟังท่อนแรกของทางดนตรี บอกกับตัวเองทันทีว่านี่วงไหมไทย
หรือพูดให้ชัดถ้อยชัดความมากกว่านั้น คือนี่แหละทางดนตรีของ อาจารย์ดนู ฮันตระกูล
มีไม่มากหรอกครับในประเทศเราสำหรับผู้ที่จะมี ‘ลายเซ็นต์’ บ่งบอกตัวตน – ฝีมือ เป็นตัวของตัวเองชนิดต้องจดจำในโลกของดนตรี
เมื่อทั้งนั่งเล่นกับไหมไทยมาโชว์ด้วยกัน วันนั้นหอใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรม จึงกลายเป็นแหล่งรวมรุ่น ‘เก๋ากึ๊ก’ ที่ล้วนฉายออร่าอร้าอร่ามทั้งฝั่งศิลปินบนเวทีและผู้ชมล่างเวที
ภาษายุคนี้ก็ต้องว่า ‘ชุดใหญ่ ไฟกะพริบ’ อย่างนั้นจริงๆ
เป็นคอนเสิร์ตที่ถึงกึ๋นขนาดไหน อธิบายง่ายๆ ว่า ได้ยินเสียงคนวัยเฉลี่ย 60 กรี๊ดถี่ๆ ตลอดช่วงเวลาการแสดงเกือบ 3 ชั่วโมงเต็ม
ทรงอย่างป๋า!!!
แถมศิลปินรับเชิญที่มาร่วมโชว์ ล้วน ‘ยืน1’ ในการร้องเพลงทั้งสิ้น
ไม่บอกหรอกว่ามีใครบ้าง ปรารถนาจะรู้ต้องไปเสาะหากันเอง
อ้อ! ขณะนั่งดู – นั่งฟัง คุยกับตัวเองหลายครั้ง พร้องตั้งคำถามกับสายลมจอย.... “ทำไมอาจารย์ดนูยังไม่ได้เป็นศิลปินแห่งชาติ?