xs
xsm
sm
md
lg

“กระติก” โต้ใช้บัตร “แตงโม” รูดปื๊ดหลังตกเรือ ฟาดแรงคุณแม๊ หลังๆ มีแต่เรื่องเงิน! ยื่นขอสิทธิ 50% จากกรมธรรม์ 1 ล้าน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย. 66) นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อแจ้งความ 1 ในแก๊งสปีดโบ๊ต อ้างมีการนำบัตรเครดิตของแตงโมไปรูดซื้อของ หลังลูกสาวตกเรือแล้ว พร้อมเตรียมร้องศาลรื้อคดีใหม่เป็นฆาตกรรม

ล่าสุดวันที่ 17 มิ.ย. 66  “กระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์” ได้ออกมาเผยถึงกรณีดังกล่าว โดยเผยว่าจากเนื้อข่าวที่คุณแม่ให้สัมภาษณ์ ก็เข้าใจได้ว่าหมายถึงตน ซึ่งหลังจากได้เห็นสเตทเมนท์บัญชีของแตงโมที่คุณแม่นำมาแจ้งความ มีการตัดเงินจากบัตรเดบิตวันที่ 24 ก.พ. 2565 เวลา 23.55 น. ซึ่งตอนนั้นทุกคนยังอยู่บนเรือวนหาแตงโมอยู่ และบนเรือก็ไม่มีเครื่องรูดบัตร ตนออกจากที่เกิดเหตุตอนประมาณตี 3 ส่วนตอนที่ลงจากเรือไปเข้าห้องน้ำ ก็ไปขอเข้าที่บ้านชาวบ้าน ไม่มีเครื่องรูดบัตรอยู่แล้ว ส่วนรายการตัดเงินจากบัตรเดบิตอีก 2 วันหลังจากนั้นที่คุณแม่สงสัย ตนก็ไม่ทราบ แต่ยืนยันได้ว่าไม่ใช่ตน และที่ผ่านมาตนไม่เคยใช้หรือแตะต้องบัตรเครดิต บัตรเดบิต ของแตงโมเลย มีแต่รับเงินส่วนแบ่งในฐานะผู้จัดการส่วนตัว ซึ่งแตงโมจะโอนให้เอง พร้อมติงคุณแม่ อยากให้สืบหาที่มาที่ไปก่อนแจ้งความ หรือให้ข่าว เพราะทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ และจะเป็นประโยชน์กว่าการออกมาพูดชี้นำสังคมให้คนอื่นเสียหาย เพราะจะทำให้คุณแม่เดือดร้อนเองด้วย

นอกจากนี้กระติกเผยว่าที่ผ่านมาตนยอมมาตลอด ทั้งที่ได้รับความเสียหายจากการให้ข่าวจากคุณแม่ ที่ผ่านมาให้อภัยไม่อยากมีเรื่อง เพราะแค่คดีหลักก็วุ่นวายมากพอแล้ว แต่ตอนนี้ผ่านมาเกิน 1 ปี คุณแม่ก็ยังไม่จบ และหลังๆ ก็มีแต่เรื่องเงิน ตนเลยไม่เข้าใจว่าคุณแม่ต้องการอะไร อีกทั้งเรื่องที่คุณแม่สงสัย หากตนทำจริง ตร.ก็ต้องตรวจสอบเจอก่อนคุณแม่แน่นอน โดยเฉพาะเรื่องบัญชีต่างๆ ตำรวจไม่ได้มองข้ามประเด็นการทำให้เสียชีวิตเพราะผลประโยชน์ และถ้าคุณแม่อยากจะมองว่าคดีนี้เป็นคดีฆาตกรรม คุณแม่จะละเว้นไม่ได้ จะมาบอกว่าให้อภัยลูกชาย 2 คน ว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุ แต่กับคนที่เหลือ บอกว่าเป็นฆาตกรรมมันทำไม่ได้ เพราะเป็นเหตุการณ์เดียวกัน

ส่วนเรื่องกรมธรรม์ประกันชีวิต 1 ล้านบาท คุณแม่ก็เป็นคนเอาไปฝากตำรวจไว้เอง และตำรวจก็เรียกตนเข้าไปรับ ซึ่งตนก็ทำตามหน้าที่ เก็บเงินใส่บัญชีไว้เป็นค่าเล่าเรียนของลูก ยืนยันว่าทำตามกฎหมาย ตามกระบวนการทุกอย่าง ส่วนที่คุณแม่จะยื่นขอสิทธิในกรมธรรม์ 50% ในฐานะมารดา ก็ขอให้ปรึกษานักกฎหมายดูว่าทำได้ไหม ในเมื่อแตงโมระบุผู้รับผลประโยชน์ในกรมธรรม์ไว้ชัดเจนอยู่แล้ว



กำลังโหลดความคิดเห็น