“แก๊ปเปอร์ วรฤทธิ์” โดนสั่งห้ามแฉต่อ ไม่เฉลยพระเอกซีรีส์สายวายเรื่องเยอะคือใคร แต่พูดชื่อไปต้องอ๋อ บอกเจตนาแค่อยากให้เห็นพฤติกรรม เพราะมารยาทคือเรื่องสำคัญในวงการ ต้องให้เกียรติทุกคนที่ร่วมงาน คุณไม่ได้สูงส่งไปกว่าใคร รู้คนด่าหาแสง จะเกลียดก็เกลียดไป ท้าจุดธูปสาบานพูดเรื่องจริง
หลังผู้กำกับมากฝีมือ “แก๊ปเปอร์ วรฤทธิ์ นิลกลม” ได้ออกมาไลฟ์แฉพระเอกซีรีส์วายคนหนึ่ง ว่าลืมตัว ลืมตีน เรื่องเยอะจนผู้จัดและช่างแต่งหน้าบ่น ก็ทำเอานักสืบโซเซียลตามหากันให้ทั่ว ว่าเป็นพระเอกคนไหน ล่าสุดได้เจอหนุ่มแก๊ปเปอร์ ในงาน Y Moment Project Lineup 2023 เปิดผังโปรเจ็กต์คอนเทนต์ซีรีส์วาย เจ้าตัวก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ ว่าเจตนาที่ออกมาพูด เพราะอยากให้อีกฝ่ายเปลี่ยนพฤติกรรม
“การที่เราพูดไปวันนั้นมันเป็นประเด็นมาก เพราะช่างแต่งหน้าเขามาบอกเรา ว่าบางกองถึงขั้นหยุดถ่ายเพื่อมาดูเราไลฟ์เลย แล้วก็ถามใหญ่เลยว่ามีใครเอาไปพูดหรือเปล่า กลายเป็นเรื่องแตกฮือเลย จริงๆ วันนั้นสาเหตุที่ออกไปพูด คือเราทำธุรกิจกับเพื่อนในวงการเยอะ แล้วเด็กนักแสดงคนนี้ มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม คนอาจจะถามว่าแล้วเราไปเสืxกทำไม คือเราได้ยินปัญหาจากเพื่อน ว่าไอ้นี่ทำให้ธุรกิจเขามีปัญหา พี่คนนั้นที่รู้จักกับเราก็โดน คนนี้ที่มีพระคุณกับเราก็โดน คนรอบข้างเราโดนหมด แต่เขาเป็นคนที่ช่างมันเถอะๆ ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่มาเล่าให้ฟังแล้วก็อึดอัด
เราก็บอกว่ามึงไม่ต้องพูด เดี๋ยวกูพูดเอง เพราะความรู้สึกนี้เราเคยเจอกับตัวมาแล้ว นักแสดงคนนี้เรารู้จัก เราเคยทำงานกันมา วันที่คุณไม่มีอะไรเลย เราไม่ใช่เหรอที่เป็นคนซื้อตั๋วเครื่องบินให้ ที่ให้ข้าวบนเครื่องบินคุณ ที่จ่ายทุกอย่างให้ แล้ววันที่คุณแตกหักจากเราแล้ว โอเคขอให้ไปดีแล้วกัน แต่ก็ไม่คิดว่าพฤติกรรมแบบนี้จะเกิดขึ้น ซึ่งตอนที่ทำงานกับเรา ยังไม่มีนิสัยนี้ ตอนนั้นยังครับๆ แล้วมาเริ่มได้ยินจากคนข้าง ว่าไอ้เด็กคนนี้ต่อหน้าเป็นอย่างนี้ ลับหลังเป็นอย่างงี้นะ เราก็แบบจริงเหรอ พอไปสืบสาวราวเรื่อง ก็เจอเข้าจริงๆ เป็นอย่างที่เขาว่า
อย่างที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ไป ว่ามีถึงขั้นอดีตผู้จัดการส่วนตัว ออกมาแฉว่าเขาเคยติดคุกก็เพราะนักแสดงคนนี้ ผมยังมีหลักฐานแชตอยู่เลย ผมถามเขาว่าถ้าเป็นประเด็นใหญ่โต กล้าออกมาพูดไหม เขาบอกว่ากล้า ช่วยผมสักครั้งเถอะ ผมติดคุกอนาคตผมเสียจากเด็กคนหนึ่งที่ทุกคนเชื่อเขา แต่ไม่มีใครเชื่อผม ผมต้องเดินเข้าคุกเพราะช่วยเหลือคุณ แล้วคุณหักหลังผมอีก จนเขาต้องเข้าคุก แล้วถามว่าตอนนี้นักแสดงคนนี้ดังขนาดไหน อันนี้เราตอบไม่ได้ แต่มีผลงานต่อเนื่อง ถ้าเอ่ยชื่อก็รู้จัก แบบอ๋อ”
หลังไลฟ์แฉยังไม่ได้รับการติดต่อ แต่คิดว่าคงรู้ตัว
“ไม่ติดต่อ แต่ได้ข่าวมาว่า ตอนไปงานอะไรไม่รู้ ให้คนอื่นมาถามฝาก ว่าไปแฉเขาทำไม เราก็เลยถามว่าร้อนตัวเหรอ เอ่ยชื่อเหรอ ผมว่าเขารู้ตัว ถ้าบอกว่าไม่รู้เป็นไปไม่ได้ แต่วันนี้ก็ได้ยินอีกสักครั้งหนึ่งเนาะ ฝากบอกว่ามารยาทในวงการสำคัญ อย่างมองว่าเราเป็นคนพูดจาแรง ถ้าวันนี้คุณทำให้คนอื่นเดือนร้อน สิ่งที่คุณโดนมาคือกฎแห่งกรรมแล้ว ดังนั้นทำงานในวงการบันเทิงต้องมือไม้อ่อน ถ้อยทีถ้อยอาศัย เคารพนักข่าว ให้เกียรติพี่ๆ เขา ต่อให้มึงจะเหนื่อยแค่ไหน เขาจะสัมภาษณ์คุณก็ต้องทำ เพราะสื่อกับดาราเป็นของคู่กัน การทำงานกับตากล้อง ทีมงาน คนเก็บขยะ คนเก็บพร๊อบ มันคือคนทำงาน ดังนั้นคุณไม่ได้สูงส่งไปกว่าใคร ไม่ได้อยู่เหนือสิ่งเหล่านี้”
เจตนาที่ออกมาแฉ เพราะอยากให้เปลี่ยนพฤติกรรม
“ใช่ๆ ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องนี้นะ เพราะมีคนฝากมาแฉเรื่อยๆ เลย แต่เราบอกพักก่อน ถ้าไม่ไหวก็ไปโพสต์หรือไปบอกนักข่าวกันเองเลย เดี๋ยวเราจะกลายเป็นว่าแก๊ปเปอร์ตีกับใครอีกแล้ว มีปัญหากับคนนี้อีกแล้ว ภาพในวงการเราเป็นแบบนั้น แต่ทำไมคุณไม่คิดว่าพวกเราโดนอะไรมาบ้าง เราเจ็บแค่ไหน เราลงทุนเงินให้คุณมา แต่คุณเหยียบหน้าเราเป็นของเล่น มันเหมาะสมเหรอ ทำไมเราต้องเกรงใจ”
โดนถามหลังไมค์เยอะว่าแฉใคร
“โอ้ย ร้อยท้้งร้อยบอกเลยคนใกล้เคียงถามหมด สำนักข่าวที่สนิทกันยังถามเลย ผมก็เอาให้ดูเลย แต่ไม่บอกออกไมค์ เขาก็โอ้ว…เหรอ แล้วก็พูดว่ามันดังแล้วเหรอวะ แต่ถามว่านักข่าวรู้จักไหมก็รู้จัก (กี่พยางค์ 2 พยางค์ใช่ไหม?) ไม่รู้ (เลิ่กลั่ก)”
มีเรื่องแฉอีกแต่โดนสั่งห้าม เพื่อภาพลักษณ์นักธุรกิจ
“เดี๋ยวจะมีเรื่องแฉอีก บอกเลยว่าอลังการล้านแปด แต่ด้วยความที่ภาพลักษณ์พีอาร์ เราก็ถูกสั่งมาว่าแก๊ปเปอร์หยุดการแฉทั้งหมด เราต้องเป็นนักธุรกิจที่ต้องเดินหน้าแล้ว ถูกสั่งห้ามว่าเลิกแฉได้แล้ว หยุดได้แล้วนะ แต่เรื่องนี้มันก็คันปากตลอดเวลา”
บอกแล้วแต่ ถ้าคนกลัวเรื่องแฉเก่ง จนไม่อยากร่วมงนด้วย
“ถ้าคนร่วมงานเราไม่เข้าใจเรา ก็ไม่ต้องร่วม คนที่รู้จักเราจริง จะรู้ว่าเราเป็นคนยังไง ไม่งั้นผมไม่มีพาร์ตเนอร์มาจับมือแบบนี้ ถ้าเขารู้สึกกลัว แต่เราเป็นคนตรง เราซื่อสัตย์ เราจริงใจ วินวินกันทั้งสองฝ่าย บางทีเรายอมเสียโอกาสให้คุณได้บ้าง ยอมให้เป็นมันคือจบ ถ้าใครจะกลัวว่าแก๊ปเปอร์เป็นแบบนี้ แล้วไม่อยากทำงานด้วยเลย ก็แล้วแต่”
รู้โดนด่าหาแสง แต่ส่วนตัวไม่ต้องหาแสงก็หาเงินได้ ใครจะเกลียดก็เกลียดไป
“ปากจัด ไอ้ผู้กำกับอยากมีแสง ผมบอกเลยว่าแสงไม่ต้องหา ไม่ได้ตื่นเต้นแล้ว เป็นข่าวแบบนี้แล้วได้เงินจากมันเปล่า ไม่ได้เงิน เพราะสุดท้ายแล้วก็ต้องหาเงินลงทุนทำซีรีส์ต่อ แล้วผมจะไปหาแสงเพื่ออะไร ไม่ต้องหาแสงเราก็หาเงินได้ แต่สิ่งที่เราพูดออกไปแค่ย้ำเตือน เพราะเราอยู่ในวงการบันเทิงนี้มาแล้ว เมื่อคนอื่นพูดไม่ได้ เดี๋ยวพูดให้เอง จะเกลียดกูก็เกลียดไป คุณอาจจะชอบคนพูดจาเพราะ ผมจะให้คนร้อยคนพันคน มาเข้าใจที่เราเป็นเราแบบนี้เหรอ มันเป็นไปไม่ได้”
เปลี่ยนวิธีคิดใหม่ไม่ฟ้องแล้ว แต่จะแฉแบบเอ่ยชื่อฟาดหน้ากันไปเลย
“เอาจริงๆ หลังจากชนะคดีมาล่าสุด ก็ยังไม่ได้ตังค์ ดังนั้นการจะฟ้องผมต้องคิดใหม่แล้ว ต่อไปนี้จะเปลี่ยนใหม่แล้ว ว่าถ้าไม่ฟ้องก็แฉโดยเอ่ยชื่อไปเลย แล้วก็ฟาดหน้ากันไปเลย ว่าไม่พอใจ ถามว่ากลัวโดนฟ้องกลับไหม ก็เฉยๆ แฟนคลับบอกทำไมไม่แฉออกมาเลย จะบอกว่าไม่ต้องยุ เดี๋ยวถึงเวลาเราทำเอง เพราะถึงเวลาคุณไม่ได้มาจ่ายค่าทนาย ไม่ได้มาขึ้นศาลกับเรานี่”
ท้าให้หาตัวแทนมาดูแชต แล้วจุดธูปสาบานว่าพูดจริงไม่จริง
“เอางี้ ถ้ามันมีคนบอกว่าแฉเรื่องจริงไหม ไปเอานอมินีมาสักคนหนึ่ง หรือนักข่าวคนไหนก็ได้ จะเปิดแชตให้อ่านแล้วตอบเลยว่าจริงไม่จริง จุดธูปสาบานเลยว่าจริงไม่จริง วินวินเลย แต่จะมาให้หันจอดูเลยว่าอย่างนี้นะมันไม่ได้ไง”
อัปเดตดาราติดหนี้ 2 ล้าน ยังไม่ได้เงินคืน แต่เลิกคบไปแล้ว
“เลิกคบไปแล้ว ไม่ยุ่งแล้ว เงินก็ไม่ได้คืน (ไหนบอกว่าถ้าไม่ได้คืนจะแฉแบบเอ่ยชื่อ?) ตอนแรกที่บอกว่าจะแฉคือเรื่องจริงเลย เพราะคิดว่าคงต้องพูดแหละ แต่ที่บ้านก็พูดว่า ข่าวที่ออกมันหนักมาก แล้วผู้ใหญ่ที่เราทำธุรกิจด้วย เขาไม่ได้อยากมีประเด็นไปมากกว่านี้แล้ว เพราะธุรกิจเขามันคือองค์กร เขาไม่แลกกับความเสียหาย เขาบอกว่าหุบปากแล้วจบ แล้วเราก็ไปแบนอยู่หลังบ้าน ทุกคนก็เซอร์ไพรส์ไปแล้ว ว่าเหรอ แล้วก็บอกว่าเคยเจอเหมือนกัน เคยมาลงหุ้นลม เราก็อ้าว กูไม่ใช่คนแรกนี่หว่า เงินที่เสียไปก็ถือเป็นการซื้อใจคน เพราะว่าสุดท้ายของอยู่กับเรา เราก็ไปขายได้อีกทีหนึ่ง ต้องปล่อย”