“อาเล็ก” เล่าโมเมนต์หวาน หอบน้ำแร่เซอร์ไพรส์วันเกิด “โบว์” ตอนเที่ยงคืน เฉลยของขวัญจริงๆ คือดินเนอร์และสร้อยข้อมือออกแบบเอง ยอมรับถ้าคนมองคลั่งรัก แต่ทำเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เข้าใจคนคอมเมนต์โบว์อ้วนขึ้น แต่ส่วนตัวไม่เคยทักแบบนั้นเพราะยังไงก็สวย รับมีส่วนผิดเพราะชอบชวนกิน รู้แม่โบว์บ่นอยากอุ้มหลาน ไม่ได้มองข้ามแต่ให้เป็นไปตามขั้นตอน ตอนนี้ขอทำงานก่อน อนาคตที่วางไว้ยังไม่ใกล้ขนาดนั้น
เพราะอยากเป็นคนแรกที่อวยพรวันเกิด หนุ่มคลั่งรัก อย่าง “อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ”ก็เลยขับรถไปเซอร์ไพรส์หวานใจ “โบว์ เมลดา สุศรี”ถึงบ้านตั้งแต่เที่ยงคืนพร้อมกับน้ำแร่ 1 แพ็ก ตามที่สาวโบว์เคยบอก ว่าขอของขวัญง่ายๆ แค่น้ำแร่ก็พอ ล่าสุดวันนี้ (11 มิ.ย.) ได้เจอหนุ่มอาเล็ก ในงานบวงสรวงละครเรื่อง ไชน่าทาวน์ ชาช่า (เจาะเวลาอั้งยี่) เจ้าตัวก็ได้เล่าถึงโมเมนต์วันนั้นให้ฟัง ว่าวางแผนเซอร์ไพรส์อย่างไรบ้าง
“คือด้วยความที่ปีนี้ เวลาเจอกันน้อยมาก คือเราเตรียมของขวัญ เตรียมดินเนอร์ไว้แล้ว แต่ว่าเราเป็นคนชอบเซอร์ไพรส์ไง แล้วก็รู้สึกว่าอยากมีอะไรมากกว่าดินเนอร์ เลยไปเซอร์ไพรส์ตอนเที่ยงคืน แล้วน้องเขาเคยพูดตั้งแต่รู้จักกันแรกๆ ว่าวันเกิดพี่ไม่ต้องซื้ออะไรแพงๆ ให้หนูหรอก ซื้อแค่น้ำแร่ก็พอ หนูชอบกินน้ำแร่ จังหวะที่เขาเห็นน้ำแร่ก็ตกใจ แต่จริงๆ เขาก็ตกใจตั้งแต่เรามาแล้วแหละ ก็นั่นแหละน้องก็ขอบคุณครับ เขาชอบกินจริงๆ คือเราก็มองว่ามันเป็นการเซอร์ไพรส์ที่ตลกและน่ารักดี แล้วมันก็เป็นของที่น้องชอบด้วย ไปตอนเที่ยงคืนเพราะอยากเป็นคนแรกด้วย เพราะวันตรงวันเกิดน้องเขาถ่ายละครทั้งวัน เราก็เลยไปเที่ยงคืนเลย คือน้องก็ยังไม่หลับด้วย เพราะปกติต้องกู๊ดไนท์กันก่อน เราก็รีบขับรถไป ไม่โป๊ะด้วย เพราะไม่ได้บอกใครเลย”
ของขวัญที่ไม่ใช่น้ำแร่ คือสร้อยข้อมือออกแบบเอง
“ของขวัญจริงๆ ก็เป็นสร้อยข้อมือน่ารักๆ ครับ คือด้วยความที่ผมมีเพื่อนทำร้านจิวเวลรี่ ที่สามารถออกแบบอะไรเองได้ มันก็เลยมีโอกาสที่จะทำของขวัญ เพราะเราเป็นคนให้ของขวัญอะไรที่มันเป็นสิ่งที่มีคุณค่าหน่อย เพราะของทั่วไปเราให้กันได้เรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่พอเป็นโอกาสพิเศษ เราก็อยากให้อะไรที่มันเป็นความทรงจำ มีคุณค่า มีความหมายหน่อย ก็เลยทำเป็นสร้อยข้อมือจี้รูปโบว์ แล้วตรงตะะขอเป็นตัว B ไม่ได้ใส่เป็น BL ก็ธรรมดาสำหรับคนสำคัญ เราก็อยากให้อะไรดีๆ มีความหมาย แล้วน้องชอบจิวเวลรี่ ชอบอัญมณี เราก็เลยให้อะไรพวกนี้ดีกว่า และมันมีคุณค่าทางใจและทางเงินด้วย”
ยอมรับถ้าคนมองว่าคลั่งรัก แต่ส่วนตัวมองเป็นเรื่องปกติที่ทำอยู่แล้ว
“ผมรู้สึกปกติ แต่มันก็ต้องให้คนอื่นบอกแหละเรื่องแบบนี้ เพราะตัวเราเองมองตัวเองไม่ได้ ถ้าหลายๆ คนมองว่าเป็นแบบนั้น ก็อาจจะเป็นแบบนั้น แต่สำหรับตัวเรามันคือสิ่งปกติที่เราทำอยู่แล้ว ไม่รู้ความรักเพิ่มขึ้นไหม เพราะของพวกนั้นมันวัดยาก แต่สิ่งที่มันเพิ่มขึ้นแน่ๆ คือความผูกพันมากกว่า ความผูกพันมันมาตามระยะเวลา ด้วยความที่เราสองคนเป็นกำลังใจให้กันได้ดีมากด้วย เพราะทำงานหนักทั้งคู่ช่วงนี้ แล้วการที่มีคนที่เขาเข้าใจจริงๆ ว่างานอีกฝ่ายหนัก แล้วคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ไม่ต้องทำอะไรให้เป็นพิเศษ มันก็สามารถฮีลใจเราได้ เหนื่อยกายแต่ใจไม่เหนื่อยก็แฮปปี้มาก น้องเหมือนเอาความสดใสมาฮีลเรา ส่วนเราเอาเรื่องแนวความคิดไปฮีลเขา”
เวลาอยู่ด้วยกันก็มีความโบะบ๊ะ แต่ไม่เท่าเวลาสัมภาษณ์กับสื่อ
“ก็โบะบ๊ะ แต่เราไม่ได้ขนาดนั้น แต่แรกๆ ก็แบบนี้เลย ที่น้องบอกว่าตีกันบ่อยๆ เพราะเราไม่รู้ ว่าอันไหนพูดจริง อันไหนพูดเล่น ทุกวันนี้เริ่มตามมุกทันแล้ว (น้องบอกนอกจากได้แฟนที่ดีแล้ว เหมือนได้เพื่อนสาวไปไหนตัว?) ชอบอะไรคล้ายๆ กัน ผมก็ได้จริตจากเขามาอะแหละ คือเล็กเป็นคนขี้เล่นอยู่แล้ว แต่ไม่ได้เล่นแนวนี้ แต่พอได้คลุกคลี คนมันอยู่ด้วยกันบ่อยๆ มันก็จะมีอะไรที่คล้ายๆ กันออกมา ดึงศักยภาพในตัวคุณออกมา ศัพท์เขาเยอะแต่ผมเข้าใจหมดนะ เพราะเสพโซเชียลเยอะ”
เข้าใจคอมเมนต์ทัก “โบว์” อ้วนขึ้น แต่ส่วนตัวมองว่ายังไงก็สวย ห่วงเรื่องสุขภาพมากกว่า
“คือผมก็ไม่เคยทักน้องว่าอ้วนขึ้น ไม่ว่าเราจะรู้สึกหรือไม่รู้สึก สำหรับผมมองว่าการทักอะไรแบบนี้ มันไม่ผิดหรอก แต่ความที่โลกโซเชียลเรามีแต่คนสอนไง คอมเมนต์บางทีอาจจะหวังดีจริงๆ ซึ่งเล็กก็ไม่ได้อยากจะว่าคนที่มาคอมเมนต์อะไรแบบนั้น ยุคสมัยนี้อย่าไปมองตรงนั้น หลายคนหวังดีแหละ เห็นน้องต้องเข้ากล้อง เดี๋ยวจะดูอวบ กลัวน้องไม่สวย ก็เข้าใจได้ เล็กคิดว่ามันอยู่ที่คนรับฟังมากกว่า อยู่ที่ความคิดของแต่ละคน อย่างตัวน้องถ้าน้องเข้าใจได้ว่าเขาเป็นห่วง น้องก็น่าจะเข้าใจได้ แต่ส่วนตัวเราเรามองว่ายังไงเขาก็สวยอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เราเป็นห่วงคือเรื่องสุขภาพมากกว่า อ้วนขึ้น ผอมลง มันเป็นเรื่องเล็กน้อย เราแค่อยากให้น้องสุขภาพดี ออกกำลังกายไม่ใช่ให้ผอม แต่เพื่อให้สุขภาพดี เราจะได้อยู่ด้วยกันไปนานๆ”
รับมีส่วนผิด เพราะเป็นคนชอบกิน
“แต่ส่วนหนึ่งก็ความผิดผมแหละ เพราะว่าผมเป็นคนชอบกิน แล้วการที่คนเป็นแฟนกัน ได้ไปใช้เวลากินข้าวด้วยกัน มันก็คืออีกหนึ่งความสุขของพวกเราทั้งคู่ ก็เลยมีชวนกินบ้าง แต่หลังๆ ก็น้อยแล้ว เพราะเราเจอกันน้อย ถามว่าน้อยเครียดไหม ก็แอบเครียด เพราะบางครั้งน้องก็รู้ตัว ว่าดูน้ำหนักขึ้น คือเขารู้ตัวและมีวินัยมากอยู่แล้ว เราก็ต้องมีพาไปออกกำลังกายบ้างครับ”
รู้แม่โบว์บ่นอยากอุ้มหลาน แต่ไม่รู้พูดจริงไหม
“ข้ามขั้นมาก (หัวเราะ) คือแม่กับโบว์อะเหมือนกัน คือเขาเป็นคนตลกทั้งคู่ บางทีเขาก็จะพูดแนวติดตลก ถามว่าคิดจริงไหมอันนี้เราไม่รู้ แต่เราเป็นคนซีเรียสหน่อย ก็บอกเลยว่ามันต้องใช้เวลาอีกสักพักแหละ ให้มันเป็นไปตามขั้นตอน ให้น้องและเราได้ทำงานเต็มที่ก่อน คือแม่เขาก็จะพูดขำๆ สไตล์เขาแหละ แต่เราก็ไม่ได้มองข้ามสิ่งที่แม่พูดนะ คือเราอายุเท่านี้แล้ว เราก็มีคิดถึงอนาคตอยู่แล้วแหละ แต่อนาคตที่มองไว้ มันยังไม่ได้ใกล้ขนาดนั้น”