xs
xsm
sm
md
lg

“บีม-ออย” เห็นแวว “พี่ธีร์-น้องพีร์” หัวหน้าแก๊ง ตัวใหญ่กว่าเพื่อนในห้อง มีเรื่องที่แซวลูกได้ตลอดชีวิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บีม-ออย” เผยประสบการณ์ส่ง “พี่ธีร์-น้องพีร์” ไปโรงเรียนวันแรก บอกได้ล้อ “น้องพีร์” ไปตลอดชีวิตแน่ ส่วน “พี่ธีร์” ก็ร้องไห้ตลอด พอวันที่สองยิ่งหนัก แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี น่าจะกลายเป็นหัวหน้าแก๊งเพื่อนๆ แน่ เพราะตัวใหญ่กว่าเพื่อนไปแล้ว

ได้เข้าโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อย สำหรับสองแฝดสุดฮอต “พี่ธีร์-น้องพีร์” ลูกชายของ “บีม กวี ตันจรารักษ์” กับ “ออย อฏิพรณ์” ซึ่งทั้งครอบครัวก็ได้มาเผยความรู้สึกนี้ในงานแถลงข่าวเปิดตัว DOS Family Ambassador ณ ลาน Fashion Hall ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน บอกว่างานนี้ได้ล้อลูกชายไปจนโตแน่นอน

ออย : “ตอนแรกตั้งใจเลยว่าฉันจะต้องอยู่จนลูกเลิกเรียน แต่ด้วยความที่อากาศร้อนอบอ้าว ทางเราก็คือสู้ไม่ไหว (หัวเราะ) ก็คิดว่าจะเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้น นั่งกินข้าวสักแป๊บนึง แล้วก็เกาะรั้วดูเผื่อว่าลูกจะแว๊บออกมาบ้าง แต่ตึกที่เขาเรียนจริงๆ เราก็เคยไปอยู่แล้วนะ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะไม่เห็นอะไรจริงๆ เพราะเขาไม่ให้เราเข้าไปเลย ถ้านั่งอยู่ข้างนอกเราก็จะมองแต่ตึก ก็เลยกลับบ้านดีกว่า และมีเอ็กซิเดนต์นิดหน่อยบนรถด้วย น้องพีร์ค่ะ แต่ต้องไปรอดูในช่องยูทิวบ์ของเรานะคะ (หัวเราะ)”

บีม : “จริงๆ วันแรกที่ไปมันเป็นวันที่เราคงจำไปตลอดชีวิต”

ออย : “มันจะเป็นวันที่เราจะพูดถึงน้องพีร์ คือแซวเขาได้ตลอดชีวิตเลย ต้องรอดูนะคะ ก็มีคนร้องไห้ค่ะ พอไปถึงเหมือนเขายังไม่รู้ เหมือนถูกหลอกไป กลางคืนเราก็บอกเขาว่าพรุ่งนี้จะไปโรงเรียนแล้วนะ หม่ามี๊จะปลุกแต่เช้านะ พอเช้าเราก็ไปอุ้มเขามาแต่งตัว ก็ให้ความร่วมมือดีมากเลย เพราะเรามีการคุยกันไว้แล้ว สองคนนี้ถ้าเรามีการเตรียมเขาล่วงหน้า เขาจะค่อนข้างโอเค พอไปถึงโรงเรียนก่อนเวลาประมาณครึ่งชม. เราก็สบายๆ และวันแรกคุณครูก็อนุญาตให้เราขึ้นไปส่งบนห้องได้ พอเขาไปถึงบนห้องของเล่นเยอะเลย มีเพื่อน พี่ธีร์ก็เข้าไปจับโน่นนี่เล่น ส่วนน้องพีร์ก็จะไปคัดเฉพาะเสือโคร่งเอามาวางบนโต๊ะ จนจังหวะที่ครูมาบอกว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องกลับบ้านแล้วค่ะ ก็ถ้าคุณครูไม่มาพูด ออยคิดว่าพ่อแม่ทุกคนก็ยังอยู่ตรงนั้น จนคุณครูเชิญไล่ออกไปก่อน ตอนนั้นนางก็ยังไม่รู้ตัวนะ”

บีม : “เพราะคุณครูมาบอกทีหลังว่าพอเราออกไปเขาก็ร้องไห้”

ออย : “แต่ออยบอกเขาว่าเดี๋ยวหม่ามี๊ลงไปรอข้างล่างนะลูก ไม่ได้บอกเขาว่ากลับบ้านก่อน เขาก็ยังไม่รู้ตัวนะ”

บีม : “พอตอนไปรับก็เดินร้องไห้มาเลย

ออย : “พี่ธีร์ร้องไห้ ตอนแรกไม่ร้องนะ แต่พอเห็นเราถึงร้อง”

บีม : “วันแรกก็จบไป แต่ผมว่าที่สำคัญคือวันที่สอง เพราะเขารู้ตัวแล้วว่าต้องเจออะไรบ้าง”

ออย : “แต่สิ่งที่เขาไม่ได้คาดการณ์เอาไว้อีกอย่างนึงก็คือเขาไม่ให้พ่อแม่ขึ้นไปส่งบนห้องแล้ว”

บีม : “ซึ่งอันนี้แค่หน้าตึกเลย เพิ่งเมื่อเช้านี้เอง พี่ธีร์เขาก็เดินเข้าไป สักพักนึงเขาหันกลับมาเห็นแม่ยังยืนอยู่ห้างตึกอยู่เลย เขาก็ร้องโวยวาย แต่คุณครูเร็วมากเข้ามารวบตัวเพราะเด็กกำลังจะวิ่งออกมา”

ออย : “เด็กทุกคนจะเป็นอย่างนี้ค่ะ ครูเขาก็จะรู้อยู่แล้วว่าประมาณไหน ส่วนน้องพีร์พอแตะบัตรเสร็จก็เดินไปเลย จริงๆ วันแรกอยากจะดึงดรามานะ แต่บรรยากาศมันไม่ได้เศร้า เราก็ทำไม่ได้ แต่เมื่อเช้าน่าสงสารจริงๆ เขาเห็นเราแล้วก็ดิ้นโวยวาย คุณครูก็อุ้มเข้าไป เราก็รู้สึกสงสาร

บีม : “ผมทนดูไม่ได้ ต้องเดินออกมาเลย”

ออย : “เพราะถ้าอยู่ไปก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้ เราก็ต้องปล่อยเขาไปเติบโต ถ้าเราคอยซัปพอร์ตเขาตลอด เขาก็จะไม่โตสักที แต่ออยก็บอกบีมว่าเราไปขอไปแอบดูเขาเคารพธงชาติได้ไหม แต่บีมเขากลัวลูกจะเห็น”

บีม : “ถ้าเห็นเขาก็จะยิ่งร้องไห้”

ออย : “แต่คุณครูเขาก็จะส่งวิดีโอมาให้ แล้วก็จะมีในไลน์กลุ่มใหญ่ และกลุ่มย่อยก็จะมีแค่เรากับคุณครู กลุ่มย่อยครูเขาก็จะส่งเฉพาะลูกเราที่ชัดๆ มาให้ แต่ในกลุ่มใหญ่ก็จะเป็นบรรยากาศโดยรวม”

บีม : “ซึ่งที่เห็นคลิปน้องพีร์ก็จะเต้นอยู่หน้าห้องเลย เป็นเหมือนคนนำ”

ออย : “เป็นผู้นำแอโรบิกหน้าห้อง ส่วนพี่ธีร์ก็ยืนงงๆ อยู่หลังห้อง (หัวเราะ) และด้วยความที่นางเข้าโรงเรียนตอน 3 ขวบกว่า ก็เลยจะดูเหมือนโตสุดในห้อง เพื่อนๆ คนอื่นก็จะตัวเล็กกว่าหน่อยนึง เห็นแววหัวหน้าแก๊งมาแล้ว”











กำลังโหลดความคิดเห็น